ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0197 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0199 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0198 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมเวทอหังการ

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 198 : โทเทมมังกร

ฉินหลงส่ายศีรษะ “เรื่องนี้พ่อไม่มั่นใจนัก ราชาปีศาจเจินเหรินบอกว่า สัตว์ร้ายเหล่านั้นข้ามผ่านแม่น้ำและใกล้มาถึงในเร็ววัน เมืองอื่นก็ตึงเครียดตั้งแนวป้องกันตลอดทั้งคืนกันแล้ว”

ฉินหยุนเป็นกังวลต่อเชี่ยวเสวียนฉินที่อยู่ในเทือกเขาเมฆมังกร เขาเร่งรีบกล่าวคำ “เสด็จพ่อ ข้าต้องไปเทือกเขาเมฆมังกร ป้าเชี่ยวยังอยู่ที่นั่น!”

“ข้าไปด้วย!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยก็เป็นห่วงป้าของนางไม่น้อยกว่าใคร

ฉินหลงเอ่ยคำ “พ่อไปกับลูกด้วยแล้วกัน! แบบนี้จะได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น!”

เมื่อตัดสินใจกันเรียบร้อย พวกเขาจึงออกจากพระราชวังหลวง มุ่งหน้าสู่เทือกเขาเมฆมังกรโดยทันที

เชี่ยวเสวียนฉินให้แผนที่สถานที่กบดานของนางเอาไว้แก่ฉินหยุน

หลังจากฉินหลงรับชมแผนที่และจดจำตำแหน่งเอาไว้ เขาจึงพาฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเดินทางผ่านอากาศมุ่งสู่เทือกเขาเมฆมังกร

เชี่ยวเสวียนฉินหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำบนยอดภูเขา ซึ่งก็ไม่นับว่าอยู่ส่วนลึกของเทือกเขาเมฆมังกรสักเท่าใดนัก

พอฉินหยุนและคณะมาถึงพื้นที่ พวกเขาพบว่าฝูงสัตว์ร้ายยังไม่คล้ายมาถึง เรื่องนี้ค่อยทำพวกเขาโล่งใจได้

อย่างรวดเร็ว พวกเขาจึงพบเชี่ยวเสวียนฉิน

เมื่อเชี่ยวเสวียนฉินได้เห็นเชี่ยวเย่ว์เหม่ย นางอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาออกด้วยความยินดี นางเป็นกังวลมาตลอดว่าฉินหยุนจะไม่อาจช่วยเหลือเชี่ยวเย่ว์เหม่ยได้สำเร็จ

ทีละน้อย นางค่อยทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างงานพิธี

นางยินดียิ่งที่ได้ทราบว่าเชี่ยวเย่ว์หลานหนีพ้นจากเงื้อมมือของเชี่ยวหยางหลง ทั้งยังกล่าวขอบคุณต่อฉินหยุนไม่ขาดปาก

เชี่ยวเสวียนฉินมีเรื่องอื้อฉาวเรื่องการใช้ผงเขย่าวิญญาณ ทว่าฉินหยุนไม่ได้คิดเรื่องนี้แต่อย่างใด เขานำเชี่ยวเสวียนฉินกลับสู่ตำหนักจารึกเทวะของนครหลวงเทียนฉิน จัดแจงให้นางได้เก็บตัวฝึกฝนอยู่ที่นี่

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยก็อยู่ด้วย เพราะเหตุนี้ในภายหน้าฉินหยุนจึงต้องแวะเวียนมาละเล่นกับนางบ่อยครั้ง

หลังกลับจากเทือกเขาเมฆมังกร ฉินหยุนใช้เวลาไปสามวันก่อนเตรียมตัวกลับสถาบันยุทธ์ชิงเสวียน

ด้วยเชี่ยวเสวียนฉินคอยจับตาดูเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ทั้งยังอยู่ในตำหนักจารึกเทวะ เรื่องนี้ไม่น่ากังวลอะไรนัก

กลางค่ำคืน ฉินหยุนและฉินหลงยืนอยู่บนหอคอยสูงของพระราชวังหลวงเทียนฉิน พวกเขากำลังชื่นชมดวงดาวบนท้องฟ้า

ฉินหลงถอดหน้ากากซึ่งปกคลุมครึ่งใบหน้าออกขณะหันมองฉินหยุน เขายิ้มกล่าว “เสี่ยวหยุน ลูกคงเดาได้แล้วว่าเหตุใดพ่อถึงสวมหน้ากากใช่หรือไม่?”

ฉินหยุนได้เห็นรอยสักที่แก้มขวาของฉินหลงแล้ว เขาพยักหน้าโดยทันที “เป็นมรดกโทเทมมังกร!”

“ถูกต้อง พ่อได้รับมันจากหอกราชามังกร! และนี่ยังมีวิญญาณโทเทมอยู่” ฉินหลงตอบ

“วิเศษนัก! ไม่เหมือนของข้าที่เป็นโทเทมมรณะ” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

ฉินหลงเอ่ยคำ “เสี่ยวหยุน! โทเทมของลูกเป็นสิ่งพิเศษยิ่ง มันไม่ใช่โทเทมทั่วไป ดังนั้นแล้วจะตายหรือมีชีวิตล้วนไม่สำคัญ! พ่อได้รับโทเทมมังกรมาหลายปีแล้ว แต่พ่อยังไม่อาจเข้าใจวิชายุทธ์ที่อยู่ภายในของมันได้ด้วยซ้ำ! แต่กลับเป็นลูกที่สามารถรู้และเข้าใจวิชายุทธ์ราชสีห์สวรรค์จากโทเทมราชสีห์สวรรค์ หมายความว่าโทเทมราชสีห์สวรรค์ของลูกต้องไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน”

ฉินหยุนเองก็รู้สึกได้ด้วยตัวเอง ย้อนกลับไปตอนนั้น เขาได้พบผู้สืบเชื้อสายของราชสีห์สวรรค์ หากโทเทมนี้ตายแล้วจริง ราชสีห์อัคคีทองคำคงบอกต่อเขาไปแล้ว

ฉินหลงเอ่ยคำต่อ “โลกภายใต้เก้าตะวัน คือโลกที่งดงามและลึกลับ วิชายุทธ์ที่มนุษย์เชี่ยวชาญก็แค่ส่วนหนึ่งเล็กจ้อยของโลกใบนี้”

“เสด็จพ่อ เรื่องนี้ข้าทราบดี!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ

“ลูกไม่ต้องกังวลเรื่องวิญญาณยุทธ์แต่อย่างใดอีก! แม้ตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามมีตัวตนใหญ่โตต่อพวกเรา ทว่าพวกมันก็เป็นเพียงแมลงตัวเล็กจ้อยในแดนยุทธ์อ้างว้าง ไม่เช่นนั้น พวกมันคงไม่มาที่นี่เสมือนสุนัขหนีตาย สิ่งที่พวกมันกล่าวล้วนมีเรื่องเท็จปะปน” ฉินหลงกล่าวให้กำลังใจฉินหยุนเพื่อขจัดความกังวลเรื่องโทเทมราชสีห์

“ตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามแท้จริงอ่อนแอนักในแดนยุทธ์อ้างว้าง!” ฉินหยุนกล่าวประหลาดใจ

ฉินหลงมองไปยังหมู่ดาวบนท้องฟ้าและค่อยเอ่ยคำ “แดนยุทธ์อ้างว้างทั้งโบราณและกว้างใหญ่ มันเต็มไปด้วยแคว้นยุทธ์มากมาย! ราชอาณาจักรยุทธ์อื่นล้วนอยู่ที่นั่น กล่าวกันว่าพวกเขาเหล่านั้นล้วนเป็นราชันยุทธ์ที่ทรงพลังอำนาจ! พละกำลังของยุทธจักรถือว่าน่าสะพรึง”

“ในแดนยุทธ์อ้างว้าง มีสำนักระดับวิญญาณดังเช่นตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามอยู่มากมาย พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้มีราชันยุทธ์ปกครอง มีก็แต่กองกำลังยอดฝีมือขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณคอยคุ้มกัน ดังนั้นแล้ว พวกเขาจึงเป็นสำนักระดับวิญญาณ หากมียอดฝีมือขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ ก็จะเป็นสำนักระดับลึกล้ำ เหนือยิ่งไปกว่านั้นก็คือขอบเขตราชันยุทธ์ สถาบันบันที่พวกเขาปกครองจะถือเป็นสำนักราชัน”

“ในบางสำนัก พวกเขาไม่มีวันได้ก้าวขึ้นเป็นสำนักราชัน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพัฒนาสำนักอยู่ตลอดเวลา กระทั่งสำนักระดับราชันยุทธ์จะทรงพลัง แต่กระนั้นในเงามืด ก็ยังมีสำนักราชันโบราณที่น่ากลัวยิ่งกว่าในยุทธจักรอันกว้างใหญ่ดำรงอยู่”

ฉินหยุนรับฟังอย่างตั้งใจถึงเรื่องราวของแดนยุทธ์อ้างว้าง เขาให้ความสนใจขณะเทียบเปรียบ กล่าวได้ว่าตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามแทบไม่นับเป็นอะไร!

“พยายามเข้า วันหนึ่งพวกเราจะได้ไปยังแดนยุทธ์อ้างว้าง” ฉินหลงเผยรอยยิ้มอบอบอุ่นกล่าวคำ “ไปเถอะ พ่อจะไปส่งลูกที่สถาบันยุทธ์ชิงเสวียน”

สถาบันยุทธ์ชิงเสวียนอยู่ใกล้เทือกเขาเมฆมังกร ดังนั้นการป้องกันจึงแข็งแกร่ง กระทั่งว่ามีการบุกโจมตีจากฝูงสัตว์ร้าย ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลถึง

ฉินหลงใช้เวลาเกือบวันในการพาฉินหยุนบินมาส่งที่ทะเลสาบหมื่นดารา

กลางค่ำคืน ขณะฉินหยุนลอยบนฟ้า เขาได้เห็นทะเลสาบสะท้อนราวกระจกถึงท้องฟ้าซึ่งมีหมู่ดาวจำนวนนับไม่ถ้วน มันเป็นสิ่งงดงามเกินใดเทียบเปรียบ

พอมาถึงทางเข้าสถาบันยุทธ์ชิงเสวียน ฉินหยุนจึงบอกล่ำลาต่อฉินหลง เขานำเหรียญตราตัวตนออกมาแสดงก่อนจะกลับเข้าสถาบันยุทธ์ชิงเสวียนไป

เมื่อเข้ามาแล้ว เขาจึงเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังป่าต้นไม้สมบัติ ขณะทะยานกายขึ้นต้นไม้และกลับเข้าถ้ำต้นไม้ของตนเอง

ขณะฉินหยุนเพิ่งเข้าไปได้ไม่นาน ตู้ก่วยก็มาถึงพร้อมยิ้มรับ

“ในที่สุดเจ้าก็กลับมา เจ้าหนู เจ้านั้นช่างซุกซนยิ่งนัก” ตู้ก่วยยิ้มขณะกล่าวคำ “ตอนแรกที่ข้าได้ยินว่าเจ้าถูกส่งเข้าแดนต้องห้ามเทียนชี่ ข้าแทบคิดถึงทุกวิธีการเพื่อช่วยเหลือเจ้า ใครกันจะคิดว่าอุกกาบาตจะร่วงหล่นลงมาเสียอย่างนั้น?”

“เป็นข้านึกว่าเจ้าตายไปแล้ว ทำข้าเศร้าอยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว”

ฉินหยุนยิ้มรับ “อาจารย์ เป็นข้าทำท่านกังวลแล้วขอรับ!”

“ที่ข้ากังวลที่สุดคือเด็กสาวผู้นั้น เสี่ยวเม่ยเหลียน นางแวะเวียนมาหาข้าบ่อยครั้ง ร้องขอให้ข้าช่วยเหลือเจ้า เฮ้อ...” ตู้ก่วยถอนหายใจ

“นางสบายดีไหมขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

ตู้ก่วยหัวเราะ “เด็กสาวคนนั้นยินดีนักตอนทราบว่าเจ้ายังมีชีวิตรอด ความโศกทั้งหมดล้วนลืมหาย! นางมาที่นี่ทุกเช้าเพื่อมาดูว่าเจ้ากลับมาหรือยัง พรุ่งนี้เช้าเจ้าน่าจะได้พบนาง”

ตู้ก่วยสนทนากับฉินหยุนไปพักหนึ่งค่อยกลับไปพักผ่อน

ฉินหยุนกลับห้องตนเองขณะหลับตาลง เขากำลังฝึกฝนวิถีหัวใจตะวันดาราเพื่อรวบรวมพลังของดวงดาว ทำให้ผลึกดวงดาวภายในจิตใจแข็งแกร่งมากขึ้น พลังจิตของเขาตอนนี้แข็งแกร่งพอแล้ว ดังนั้นการทำหลายเรื่องจึงง่ายดาย

เขาสงสัยว่า เหตุผลที่ทำให้ตัวเขาเชี่ยวชาญผังวิญญาณและวิชายุทธ์อย่างรวดเร็ว มันอาจเป็นเพราะพลังจิตที่พิเศษของตนเอง

ท้องฟ้าสว่างไสวรวดเร็ว ฉินหยุนตื่นขึ้นชำระกายตนเอง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดสีน้ำเงินสะอาดใหม่เดินออกจากห้อง เขาได้เห็นชี่เม่ยเหลียนกำลังนั่งรออยู่ในโถงแล้ว

นางวันนี้สวมใส่ชุดสีขาว เส้นผมยาวถักเปียเอาไว้จนถึงหน้าอก นางเมื่อเห็นฉินหยุนจึงเผยอาการตื่นเต้นยินดียิ่ง

“เสี่ยวเม่ยเหลียน นี่ปีนขึ้นมาเองเลยหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถามยิ้มยินดี

“พี่หยุน!” เมื่อชี่เม่ยเหลียนได้เห็นฉินหยุนอย่างมีชีวิต นางอดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนออกกระโดดเข้ามากอด ด้วยเสียงหัวเราะดัง นางตอบ “ตอนนี้ข้าบินได้แล้ว!”

ชี่เม่ยเหลียนได้ทราบเรื่องของฉินหยุนผ่านทางเมิ่งเฟยหลิง ในตอนนี้ ทั่วทั้งสถาบันยุทธ์ชิงเสวียนล้วนกล่าวถึงเรื่องราวนี้กันทั้งสิ้น

“เป็นความผิดข้าเอง ทำให้เจ้าต้องทุกข์เพียงนี้!” ฉินหยุนสัมผัสใบหน้างดงามของนางขณะกล่าวด้วยความเจ็บปวด

“ไม่เป็นไร! พี่หยุนยังมีชีวิต แค่นั้นข้าก็ยินดียิ่งแล้ว ทั้งท่านยังช่วยสอนบทเรียนให้สารเลวชี่อวี้ผู้นั้น” รอยยิ้มหวานยังคงประดับใบหน้าของชี่เม่ยเหลียน เพียงเท่านี้ก็แสดงอย่างชัดเจนแล้วว่านางเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเพียงใด

นางถูกรังแกโดยตลอดตั้งแต่ยังเด็ก และก็เป็นคนที่อดทนเรื่องราวเอาไว้โดยตลอด นางไม่เคยก่อเรื่องชั่วร้ายอันใดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และนางยังคงรักษาชีวิตชีวาและความสัตย์ซื่อเช่นนี้ไว้ นับว่าเป็นสิ่งหายากในโลกประการหนึ่งแล้ว

เมื่อฉินหยุนได้เห็นรอยยิ้มหวานออกจากก้นบึ้งหัวใจของนาง เขาตกใจ เขาไม่คิดเลยว่าแม้ชี่เม่ยเหลียนอ่อนโยนเพียงใด นางจะยังมีพลังใจกล้าแกร่งได้เพียงนี้

“เสี่ยวเม่ยเหลียน พี่ชายคนนี้ร่ำรวยนัก เจ้าคิดอยากได้อะไรหรือไม่? ข้าจะมอบมันให้แก่เจ้า!” ฉินหยุนยิ้ม

“ไว้ข้าคิดออกแล้วค่อยบอกท่าน!” ชี่เม่ยเหลียนเพียงได้เห็นฉินหยุนอีกครั้งก็พึงพอใจมากแล้ว

ฉินหยุนและนางเดินไปที่ปากทางเข้าถ้ำต้นไม้ ขณะรับชมความสวยงามของสถาบันยุทธ์ชิงเสวียน

“พี่หยุน พี่เย่ว์หลานมีความรู้สึกต่อท่านลึกล้ำไม่น้อย ครั้งท่านยังเด็ก ท่านได้ช่วยเหลือพี่เย่ว์หลานและยังช่วยเหลือข้า จากใจของพวกเรา ท่านไม่ต่างอะไรกับวีรบุรุษผู้หนึ่ง!”

ฉินหยุนยิ้มกล่าว “เสี่ยวเม่ยเหลียน ข้าอย่างไรก็ยังคงปกป้องเจ้านับแต่นี้ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าต้องถูกรังแกอีก! พี่สาวมหาอุปราชยังบอกต่อเย่ว์หลานและข้าให้ช่วยดูแลเจ้าเป็นอย่างดีเช่นกัน”

ใบหน้างดงามของชี่เม่ยเหลียนเผยความสุขขณะยิ้มหวาน “ข้าทราบดีว่าหากยังคงแข็งแกร่งขึ้น และยังมีชีวิตรอด วันหนึ่ง ข้าจะได้พบกับความสุข”

ถึงตอนนี้เอง ตู้ก่วยพลันบินขึ้นมา

ฉินหยุนและชี่เม่ยเหลียนเร่งรีบเดินกลับเข้าไปสนทนาในโถงเมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของตู้ก่วย

เมื่อตู้ก่วยเข้ามาแล้ว เขาจึงเผยน้ำเสียงเคร่งเครียด “เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”

ฉินหยุนนึกขึ้นได้จึงเร่งรีบเอ่ยถาม “เป็นสัตว์ปีศาจและฝูงสัตว์ร้ายหรือขอรับ?”

ตู้ก่วยพยักหน้ารับ “เป็นพวกมัน! นี่ถือว่าเร็วกว่าที่พวกเราคาดคิดไว้มาก ข้าสงสัยนักว่าเมืองใหญ่จะตั้งรับทันหรือไม่!”

ชี่เม่ยเหลียนกล่าว “ข้าเองก็ได้ยินจากอาจารย์ถึงเรื่องนี้! พี่หยุน ข้าขอตัวกลับก่อน ข้าต้องแข็งแกร่งขึ้นโดยเร็ว!”

ฉินหยุนพยักหน้ารับขณะลูบศีรษะนางก่อนไปส่งที่ปากทางเข้าถ้ำต้นไม้ เขารับชมนางบินลงไปก่อนจะเดินเท้าออกจากป่าสมบัติ

“อาจารย์ พวกเราอยู่ใกล้เทือกเขาเมฆมังกรมาก หากพวกเราโดนฝูงสัตว์ร้ายล้อมเอาไว้ พวกเราจะป้องกันไว้ได้หรือขอรับ?” ฉินหยุนเคยพบสัตว์ปีศาจที่ถูกราชาวิญญาณควบคุมมาก่อน พวกมันแข็งแกร่งยิ่ง

ตู้ก่วยกล่าวคำ “ทะเลสาบหมื่นดาราจะเป็นเครื่องคุ้มกัน! ทะเลสาบหมื่นดารามีความลึกมหาศาล ก้นบึ้งแทบไม่อาจมองเห็นได้ ทั้งน้ำยังเย็นเยือก แม้สัตว์ปีศาจสามารถข้ามผ่านแม่น้ำเมฆมังกร ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกมันจะมาถึงที่นี่! ในตอนนี้คงมีแต่พวกสัตว์บินได้ที่จะสร้างความน่ารำคาญ”

ฝูงสัตว์ร้ายข้ามผ่านแม่น้ำที่ใหญ่โตมาได้ ไม่เช่นนั้นตู้ก่วยคงไม่เป็นกังวลเพียงนี้

“หากวันนั้นมาถึงและพวกเราต้องจากไป จะไม่อันตรายจนเกินไปหรือขอรับ?” สถาบันยุทธ์ชิงเสวียนและนครหลวงเทียนฉินอยู่ห่างไกลกันค่อนข้างมาก

ตู้ก่วยพยักหน้ารับ “มันก็จะเป็นเช่นนั้น! ในเทือกเขาเมฆมังกรตอนนี้มีสัตว์ร้ายและวิญญาณสัตว์ร้ายจำนวนนับล้านตัว พวกมันต่างกระจายกันไปตามแต่ละประเทศน้อยใหญ่ด้วยจำนวนที่เหนือกว่ามนุษย์มากนัก”

ฉินหยุนสั่นกลัวยามนึกถึงสัตว์ร้ายนานาชนิดที่ปิดล้อมเมืองใหญ่เอาไว้

เขาเอ่ยถาม “สัตว์ร้ายพวกนี้มาจากที่ใดกันขอรับ? ด้วยจำนวนมหาศาลขนาดนี้ พวกมันล้วนแปรสภาพมาจากสัตว์ปีศาจทั่วไป? เรื่องนี้ยากจะเชื่อนัก! หรือมีอะไรเกี่ยวข้องกับหลุมฝังเซียน?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด