ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0192 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0194 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0193 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมเวทอหังการ

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 193 : พลังแห่งราชสีห์สวรรค์

ทุกผู้คนต่างจับจ้องดาบอสนีบาตในมือของฉินเจิ้งเฟิง!

ทันทีเมื่อดาบจ้วงแทงออก ฉินหยุนพลันอ้าปากและปล่อยเสียงคำรามร้อง

“โฮก!”

คลื่นเสียงจากการคำรามราวกับคลื่นยักษ์กลางมหาสมุทร มันแตกกระจายสายอสนีบาตของปราณดาบที่ฉินเจิ้งเฟิงรวบรวมไว้

ฉินเจิ้งเฟิงเองก็โดนบังคับให้ต้องถอยกลับไปหลายสิบเมตรเพราะเสียงคำราม แก้วหูถึงกับเจ็บปวดจนไม่อาจได้ยินเสียงอื่นใดได้อีก ราวกับเขาเป็นคนหูหนวก เป็นผลให้เขาเกิดความกลัวสะท้านในใจยิ่ง!

ที่น่ากลัวที่สุดคือ คลื่นเสียงยังคงสะท้อนภายในกาย เป็นผลให้เขาไม่อาจควบแน่นพลังภายในได้!

ที่ฉินหยุนใช้งานเมื่อครู่ เป็นวิชายุทธ์ที่เขาได้เรียนรู้จากโทเทมราชสีห์สวรรค์ เสียงคำรามราชสีห์สวรรค์!

ขณะผู้คนแตกตื่นเพราะเสียงคำรามร้องอย่างกราดเกรี้ยวของสัตว์ร้ายโบราณ พวกเขามองแขนซ้ายของฉินหยุนที่ปะทุออกด้วยเปลวเพลิง แขนเสื้อล้วนกลายเป็นเถ้าถ่าน เผยออกซึ่งแขนซึ่งกำลังปะทุ

โทเทมอันดุร้ายของราชสีห์สวรรค์ปรากฏอยู่ที่แขนซ้ายดังกล่าว กระทั่งว่าอยู่ห่างออกมา พวกเขายังล้วนรับรู้ได้ถึงออร่าคุกคาม

แขนซ้ายของฉินหยุนสั่นไหวขณะปรากฏขึ้นเป็นภาพกรงเล็บราชสีห์ เพียงมองก็ทราบว่ามันแหลมคมยิ่ง นี่คือวิชายุทธ์ที่สองซึ่งเขาได้เรียนรู้จากโทเทมราชสีห์สวรรค์ กรงเล็บราชสีห์สวรรค์!

เมื่อเชี่ยวหยางหลงเห็นฉินหยุนเผยกระบวนท่านี้ เขาอดไม่ได้ที่จะนึกย้อนถึงเย่ว์ข่าย ย้อนกลับไปตอนนั้น ฉินหยุนก็ใช้กระบวนท่านี้ทำร้ายเย่ว์ข่ายในการประเมินผลของสถาบันซานเสวียน

มันเป็นวิชายุทธ์ที่ชวนสะพรึงยิ่ง!

หยางฉีเย่ว์ครั้งนี้ได้เห็นมันอีกครั้งในระยะใกล้ กระทั่งนางยังอดไม่ได้ที่จะเผยความแตกตื่นออกทางสีหน้า!

และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉินเจิ้งเฟิงได้เห็นสีหน้าแตกตื่นของบรรดายอดฝีมือมากมายเพียงนี้

ฉินหยุนก้าวทะยานมุ่งตรงพร้อมกวัดแกว่งกรงเล็บราชสีห์สวรรค์ขณะปลดปล่อยวิชาวายุสังหารหกกระบวนท่า

ความคมกล้าและน่าสะพรึงของกรงเล็บตัดผ่านอากาศ เกิดเสียงร้องโหยหวนของสายลมดังจับใจผู้คนจนหวาดกลัว กรงเล็บนี้เผยพลังอำนาจชวนสะพรึงขนาดที่ว่ามันอาจตัดทุกสิ่งอย่างได้

วูบ!

กรงเล็บปะทะเข้าที่พื้น ทิ้งรอยขีดข่วนฝังลึกเอาไว้ แม้ฉินเจิ้งเฟิงหลบหลีกได้ เส้นผมของเขาก็โดนตัดไปบางส่วน

ที่น่ากลัวที่สุดของกรงเล็บนี้ก็คือความคมกล้าของมันขณะปะทะเข้ากับอาวุธวิญญาณระดับสูง มันส่งเสียงร้องปะทะออกราวกับกำลังคิดบดขยี้!

วิชาวายุสังหารหกกระบวนท่าถูกใช้งานต่อเนื่อง มันทั้งบ้าคลั่ง ดุดัน และรุนแรง!

ฉินเจิ้งเฟิงสามารถหลบได้ก็ใช่ แต่ร่างกายหลายแห่งก็ต้องเกิดบาดแผลขึ้น!

วิชายุทธ์ที่ชวนพรั่นพรึงนี้ทำผู้คนแตกตื่น ราวกับนี่คือราชสีห์กำลังโจมตีออกด้วยความดุดัน มันระเบิดออกซึ่งออร่าของสัตว์ร้ายโบราณที่ครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่!

เมื่อฉินเจิ้งเฟิงได้เห็นฉินหยุนหอบ เขาค่อยทราบว่ากระบวนท่านี้เป็นภาระอย่างหนัก เขายิ้มเย็นเยือกขณะเร่งรีบทะยานกายหลบ ทว่า เขาไม่คิดว่าในช่วงเวลานี้เอง คลื่นพลังทรงอำนาจของพลังจิตจะปกคลุมตนเองเอาไว้!

เป็นวิชารวมจิตวิญญาณสังหาร!

ฉินหยุนมองจิตสำนึกของฉินเจิ้งเฟิงจมดิ่งสู่ห้วงความสับสน เขาทราบแล้วว่าตนทำสำเร็จ ดังนั้นเขาจึงยื่นมือออกอย่างดุดันเข้าปะทะที่ช่องท้องของฉินเจิ้งเฟิง พร้อมกันนี้ วิชาขัดเกลาวิญญาณก็เริ่มโคจรออกไปแล้ว

“อ๊าก!” ฉินเจิ้งเฟิงผู้ซึ่งอยู่ในสภาพกึ่งไม่ได้สติ รู้สึกถึงความเจ็บปวดเข้าที่วิญญาณจนต้องกรีดร้อง

ฉินหยุนกำลังแยกวิญญาณยุทธ์ของฉินเจิ้งเฟิงออกและกักเก็บมันเอาไว้ในตันเถียนตนเองชั่วคราว จากนั้น เขาจึงใช้วิชารวมจิตวิญญาณสังหารอีกครั้งจนเป็นผลให้ฉินเจิ้งเฟิงจิตใจแตกซ่านอีกครั้งหนึ่ง

“ข้ายอมแพ้!” ฉินเจิ้งเฟิงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ความปรารถนาแรงกล้าต่อการมีชีวิตรอดเป็นผลให้เขาต้องร้องตะโกนสองคำออก!

ถึงตอนนี้เอง ฉินหยุนก็ใกล้หมดแรง ตอนนี้เขาจึงเร่งรีบจัดการกับแผลที่แขนข้างขวา

“เร็วข้า ถอนอาคมธง! ให้ข้าเข้าไป!” จักรพรรดินีเย่ตะโกนกราดเกรี้ยว

จ้าวฉวนเองก็กำลังปิดอาคมธง

หลังจักรพรรดินีเย่เข้าถึงข้างกาย นางเร่งรีบตรวจสอบสภาพตันเถียนของฉินเจิ้งเฟิง ขณะที่นางรับรู้ด้วยพลังจิต สีหน้าของนางกลับกลายเป็นน่าเกลียดขึ้นมา

“วิญญาณยุทธ์... วิญญาณยุทธ์ไม่มีแล้ว พลังธาตุก็กำลังแตกกระจาย...” น้ำเสียงของจักรพรรดินีเย่สั่นเทิ้ม มันเปี่ยมไปด้วยความโศกและโทสะ

นางหันควับมองที่ฉินหยุนด้วยดวงตาเปี่ยมด้วยจิตสังหารขณะตะโกนอย่างกราดเกรี้ยว “ฉินหยุน เจ้าต้องตาย!”

จ้าวฉวนและผู้อื่นเมื่อได้ยินดังนี้ จึงตอบสนองด้วยการปลดปล่อยพลังออกเตรียมหยุดจักรพรรดินีเย่!

ทว่า ไม่ใช่จักรพรรดินีเย่ที่เคลื่อนไหว!

ผู้ที่ทำการโจมตีออกนี้คือพระยาเยี่ยนซึ่งทะยานกายมาจากอีกด้านหนึ่ง!

พระยาเยี่ยนใช้งานก้าวกลืนนภาถึงขีดสุดทะยานกายเข้าถึงตัวเป้าหมาย ทุกคนล้วนสนใจทางด้านจักรพรรดินีเย่ ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งรับพระยาเยี่ยนได้ไม่ทัน!

พร้อมกันนี้ ฉินหยุนรู้สึกได้ถึงอันตรายคุกคามใกล้เข้ามา โดยทันที เขายกแขนซ้ายและฟาดมันออกไปยังทิศทางที่รับรู้ถึงอันตราย

โดยทันที แขนของเขารวบรวมพลังรุนแรงของอสนีบาตและอัคคีเพลิงไว้ก่อนระเบิดออก มันควบแน่นจนเกิดขึ้นเป็นรูปหัวของราชสีห์คำราม ขณะนี้มันถูกยิงออกไปแล้ว!

โฮก!

หัวราชสีห์อสนีบาตและอัคคีคำรามร้องสุดแรง มันปะทะเข้ากับฝ่ามือของพระยาเยี่ยน!

ตู้ม!

แรงระเบิดจากการปะทะเป็นผลให้ฝูงชนต้องถอยและตั้งป้องกันเตรียมพร้อม

พระยาเยี่ยน ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า ถูกบังคับให้ถอยกลับไปหลายก้าวและกระทั่งเลือดกระอักออกจากปาก!

อีกทางหนึ่ง ฉินหยุนก็ถอยไปหลายก้าวขณะเลือดกระอักเต็มปากเช่นกัน!

อย่างกะทันหัน จักรพรรดินีเย่เคลื่อนไหว นางจ้วงแทงดาบยาวเข้าใส่แผ่นหลังของฉินหยุนด้วยความเร็วสูงยิ่ง

ฉินหยุนระวังจักรพรรดินีเย่อยู่ก่อนแล้ว ต่อให้เขาได้รับบาดเจ็บไม่น้อย เขาก็ยังสามารถเร่งรีบหลบเลี่ยงได้ ขณะหลบ เขาจึงโคจรวัชระพลังภายในผสานรวมกับพลังกระดูกทองคำ และเร่งรีบปล่อยหมัดเข้าใส่หน้าท้องของจักรพรรดินีเย่!

จักรพรรดินีเย่กรีดร้องเสียงหลงขณะร่างปลิวกระเด็น พลังธาตุของนางระเบิดออกจากร่าง!

จ้าวฉวนและโฮ่วฉิงเฟิงเคลื่อนไหวจัดการสะกดพระยาเยี่ยนเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายโจมตีได้อีก

ทางด้านเซี่ยอู๋เฟิงและตู้ก่วย พวกเขาเร่งรีบเข้าถึงข้างกายฉินหยุนตรวจสอบอาการบาดเจ็บ

อีกทางหนึ่ง มู่หรงต้าเหรินเข้าไปหยิบค้อนราชันยักษ์วิญญาณของฉินหยุน ยามเมื่อหยิบขึ้นมา เขารู้สึกได้ถึงน้ำหนักอันมหาศาลจนถึงกับแตกตื่น!

“ฉินหยุน สารเลวนัก กล้าดียังไงทำลายวิญญาณยุทธ์และพลังธาตุขององค์ชายรัชทายาท ข้าจะทำให้เจ้ารับรู้ว่าโชคชะตาที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตายเป็นอย่างไร!”

น้ำเสียงของจักรพรรดินีเย่คุกคามขณะคำราม ใบหน้าของนางกระเพื่อมสั่นกระตุกบิดเบี้ยว นี่เป็นเพราะความโกรธและความโหดเหี้ยมครอบงำนาง

ฉินเจิ้งเฟิงได้สติ ก่อนหน้านี้เขายังมีอาการมึนงงอยู่ เขาทราบเพียงว่าวิญญาณยุทธ์เสียหายไปบ้าง เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันถูกนำออก

“เสด็จแม่ ข้า... พลังธาตุและวิญญาณยุทธ์ข้าหายไปแล้ว...” ฉินเจิ้งเฟิงเผยน้ำเสียงสิ้นหวัง

แม้ฉินหยุนบาดเจ็บเพราะสกัดการโจมตีของพระยาเยี่ยน แต่อาการบาดเจ็บของเขาก็ไม่ได้ร้ายแรงนัก แขนราชสีห์สวรรค์ของเขามีความทนทานเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก

จักรพรรดินีเย่ที่พลังธาตุกำลังแตกสลาย พลันส่งสายตากราดเกรี้ยวแดงฉานต่อฉินหยุน นางได้เห็นฉินหยุนกำลังยืนขึ้นจึงคำรามออก “ฉินหยุน เจ้ากล้าดียังไงที่บอกว่าตนเองไม่ได้ฝึกฝนวิชาปีศาจ? เจ้าไม่มีพลังภายใน แต่แล้วเหตุใดเจ้าแข็งแกร่งได้เพียงนี้? กระทั่งผู้อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปดยังไม่อาจจัดการเจ้า นี่ต้องเป็นเจ้าฝึกฝนวิชาปีศาจแล้ว!”

“ที่แขนข้างนั้นของเขา คือโทเทมราชสีห์สวรรค์ ยามเมื่อเขาปล่อยการโจมตีผ่านฝ่ามือออกเมื่อครู่ หัวราชสีห์นั้นเหมือนอย่างที่โทเทมราชสีห์สวรรค์ของสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง!” ชายชราคนหนึ่งในชุดน้ำเงินเอ่ยคำ

“โทเทมราชสีห์สวรรค์ สิ่งที่เป็นมรดกจากราชสีห์สวรรค์จากบรรพกาลงั้นหรือ นี่เจ้าคือผู้ได้รับมันหรือนี่?” ชายชราอีกคนเผยใบหน้าแตกตื่นกล่าวคำ

สายตาทุกผู้คนล้วนจับจ้องที่แขนซ้ายของฉินหยุน พวกเขาต่างได้เห็นรอยสักโทเทมสัตว์ร้ายที่แขนอย่างชัดถนัดตา!

หลังจากผู้อาวุโสหลายท่านได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ถึงการสืบทอดโทเทมสัตว์ร้าย พวกเขาต่างแตกตื่นกันถึงขีดสุด!

ทั่วทั้งโถงกว้างใหญ่ คลื่นเสียงแตกตื่นปะทุดังออก ผู้คนเริ่มพูดถึงเรื่องโทเทมสัตว์ร้ายกันแล้ว!

เชี่ยวหยางหลงแตกตื่นทั้งดวงตาเผยออกกว้างและสั่นเทิ้ม เขาจับจ้องแขนซ้ายของฉินหยุนอย่างไม่อาจเชื่อสายตา

รอยสักโทเทมราชสีห์สวรรค์ผสานรวมเข้ากับแขนของฉินหยุนอย่างสมบูรณ์ มันคือสิ่งที่ทรงพลังอำนาจจนเขาต้องรู้สึกหวั่นเกรง!

“ไม่แปลกใจเลยที่วิชายุทธ์เมื่อครู่นี้น่าสะพรึงเพียงนั้น เพราะเป็นวิชาจากโทเทมราชสีห์สวรรค์!” ต้วนเฉียนสูดลมหายใจเข้าลึก แม้เขารู้สึกคุ้นเคยกับฉินหยุนนัก กับเรื่องนี้เขาเองก็เพิ่งทราบ

ชายชราจากตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามเอ่ยคำสีหน้าหนักแน่น “ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ผังจารึกโทเทมของโทเทมราชสีห์สวรรค์... ครั้งเขาเข้ามาที่ห้องโถงแห่งนี้ หุ่นเชิดราชสีห์นั่นสมควรขัดเกลาขึ้นจากผังจารึกโทเทมแล้ว!”

“เขาเป็นมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด เป็นไปได้อย่างไรที่สามารถได้รับพลังจากโทเทมสัตว์ร้ายโบราณอันทรงพลังได้?”

“เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ เหลวไหลทั้งเพ!”

“แค่เรื่องที่ได้รับสืบทอดโทเทมสัตว์ร้ายโบราณก็เกินกว่าผู้ใดเทียบแล้ว กระนั้นยังมีความรู้ความเข้าใจที่น่าสะพรึงต่อมันอีก!”

“พวกเราสมควรต้องรับฉินหยุนเข้าตำหนักทิศเหนือ แค่การวิจัยโทเทมสัตว์ร้ายโบราณก็เพียงพอสร้างผลประโยชน์ใหญ่หลวงแก่พวกเราแล้ว”

ผู้อาวุโสหลายคนจากตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามร้องอุทานกันด้วยความอึ้งทึ่ง ใบหน้าพวกเขาล้วนแตกตื่น! หลังดึงสติกลับมาได้ พวกเขาล้วนริษยากันออกหน้าออกตา สำหรับพวกเขา โทเทมราชสีห์สวรรค์ถือเป็นสิ่งล้ำค่ามหาศาล มันหาได้ยากยิ่งกว่าวิชายุทธ์ระดับโลกา!

หลายคนต่างนึกย้อนกันได้ว่า ฉินหยุนได้เข้าไปแช่ในสระราชสีห์สวรรค์เกินกว่าเจ็ดวันด้วยซ้ำ พอมีคนกล่าวออกมาเช่นนี้ ยิ่งทำเอาฝูงชนตื่นตะลึง!

ตอนนี้ทุกคนล้วนได้เข้าใจ ว่าฉินหยุนได้รับมรดกโทเทมจากสระราชสีห์สวรรค์!

ทุกคนในโถงแห่งนี้ล้วนหารือกันเรื่องโทเทมราชสีห์สวรรค์ไม่ขาดปาก!

ฉินเจิ้งเฟิงและจักรพรรดินีเพียงแต่อึ้งต่อเสียงอื้ออึงที่ดังทั่วทั้งโถง ฉินหยุนที่พวกเขาเกลียดชังที่สุด แท้จริงแล้วถึงขั้นได้รับสืบทอดมรดกอันลึกล้ำอย่างโทเทมราชสีห์สวรรค์!

อีกทางหนึ่ง วิญญาณยุทธ์และพลังภายในของฉินเจิ้งเฟิงถูกทำลาย กลับไม่มีผู้ใดสนใจเขา เรื่องนี้ทำเอาเขาโกรธแค้นยิ่ง

“ฉินหยุน ร่างมารดาเจ้าอยู่ในมือข้า หากเจ้าปรารถนาได้มันกลับคืน เจ้าจงหย่าขาดต่อเชี่ยวเย่ว์หลาน และทำให้นางยอมรับข้าเป็นคู่แต่งงาน ไม่เช่นนั้น ลูกน้องของข้าจะเอาศพมารดาเจ้าไปให้สุนัขในวังรุมทึ้ง!” ฉินเจิ้งเฟิงเผยน้ำเสียงอ่อนแรงทว่าชั่วร้าย ใบหน้านี้คล้ายคนคลั่งไม่สนสิ่งอื่นใดอีก

จักรพรรดินีเย่มองออกขณะหัวเราะลั่นอย่างต่ำทราม นางมองฉินหยุนและกล่าว “หากเจ้าอยากได้ซากร่างของแม่เจ้า เช่นนั้นจงตัดแขนซ้ายเจ้าออก และส่งผังวิญญาณที่เจ้ามีในครอบครองมา!”

เสียงอื้ออึงทั้งห้องโถงล้วนกลายเป็นเงียบงัน!

แม้ฉินเจิ้งเฟิงและจักรพรรดินีเย่ใช้วิธีการชั่วร้าย แต่หากพวกเขาทำจริง สิ่งที่จะได้รับคือโทเทมราชสีห์สวรรค์และผังวิญญาณระดับสูง!

เชี่ยวเย่ว์หลานหัวเราะ “องค์ชายของสามจักรวรรดิล้วนเหมือนกันหมด พวกมันรู้แต่วิธีนำศพของมารดาผู้ตายมาใช้ข่มขู่! และตอนนี้ ในบรรดาสามองค์ชาย สองในสามมีสภาพน่าสังเวชเพียงใดจงรับชม!”

เชี่ยวเย่ว์หลานจ้องมองฉินเจิ้งเฟิงกล่าวโกรธแค้น “ข้าไม่เคยคิดแต่งงานกับคนเช่นเจ้า ต่อให้ตายก็ไม่!”

ฉินเจิ้งเฟิงหาได้สนใจเชี่ยวเย่ว์หลานไม่ ตอนนี้อย่างไรเขาก็พิการไปแล้ว สิ่งเดียวที่เขาต้องการก็คือข่มขู่รีดผลประโยชน์จากฉินหยุนให้มากที่สุด เขาตะโกนโพล่งคำออก “นอกจากนี้ จงมอบสี่ร้อยห้าสิบล้านเหรียญผลึกที่เจ้าได้รับมาเป็นค่าเสียหายที่เจ้าทำร้ายข้าด้วย!”

“นี่เจ้ามองหาอะไร? จงเขียนหนังสือหย่าขาดและจงตัดแขนตนเองซะ ไม่เช่นนั้น ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็จะสั่งให้คนของข้าเอาร่างแม่ของเจ้าไปให้สุนัขมันกัดกิน!” ฉินเจิ้งเฟิงหัวเราะชั่วร้ายกล่าวคำต่อ “ฉินหยุน ท้ายที่สุดเจ้าก็พ่ายแพ้ต่อข้า ข้าต่างหากคือผู้ชนะ!”

ฉินหยุนโกรธรุนแรง ร่างกายถึงกับสั่นเทิ้ม ก่อนหน้า ทั้งชี่เม่ยเหลียนและเชี่ยวเย่ว์หลานก็โดนข่มขู่เช่นนี้ ย้อนกลับไป ตอนนั้นเรื่องราวแทบไม่เกี่ยวกับเขายังโกรธแค้นรุนแรง แต่ครานี้ถึงคราวที่เขาจะโดนข่มขู่เช่นเดียวกันบ้างแล้ว

จักรพรรดินีเย่ยิ้มชั่วช้า “ฉินหยุน หากเจ้าไม่เชื่อ ก็ลองดูได้!”

ทั่วทั้งห้องโถงเงียบงัน ทุกคนล้วนมองที่ฉินหยุนราวกับคาดหวังว่าจะทำตามอย่างที่ฉินเจิ้งเฟิงพูด!

เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหาภายในเช่นนี้ กระทั่งยอดฝีมือทรงอำนาจอย่างจ้าวฉวนยังไม่ทราบว่าควรรับมืออย่างไรดี เพราะมันมีโอกาสสูงยิ่งที่ร่างมารดาของฉินหยุนจะถูกขุดขึ้นมาและตกอยู่ในมือของจักรพรรดินีเย่และคนของนางจริง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด