ตอนที่แล้วบทที่ 7 ถ้าชนะได้ฉันจะยอมเป็นลูกน้องแก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 9 กึ่งปรมาจารย์ถังจงหมิง

บทที่ 8 เรื่องยุ่งยากของเถ้าแก่หม่า


ตอนที่ 8 เรื่องยุ่งยากของเถ้าแก่หม่า

" ทำเรื่องน่าอายหรือไปทรยศ แย่งชิงใครเขา ฉันไม่ทำ! " เจียงป๋าย อดไม่ได้เลยที่จะทำขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาเข้าใจผิดในสิ่งที่ซูเจี๋ยอยากสื่อ แต่จะว่าไปเรื่องนี้ก็โทษเจียงไป๋ไม่ได้ ใครบอกให้ซูเจี๋ยสื่อมาไม่เข้าใจเอง

" ฮ่าๆๆ ดูนายพูดเข้า ฉันจะให้นายทำเรื่องอย่างนี้ได้ยังไง หลี่เฉียงโทรหาคุณหม่าซิ บอกไปว่าเรื่องของเขา ฉันหาคนจัดการให้ได้แล้ว บอกให้เขารีบมา "

ซูเจี๋ยหัวเราะฮ่าๆๆ จากนั้นก็สั่งหลี่เฉียงให้เขาไปตามเถ้าแก่ของที่นี่มา จากนั้นเขาก็โบกไม้โบกมือให้พวกเด็กๆกับพวกสาวน้อยที่ดูเหมือนแทบจะกลืนกินเจียงป๋ายเสียให้ได้ รีบออกไปกันให้หมด

" ไหนบอกฉันมา นี้มันเรื่องอะไรกัน? "

ก่อนหน้านั้นซูเจี๋ยเคยบอกอยู่ว่าเถ้าแก่หม่าเจอเรื่องลำบากเข้าแล้ว เห็นว่าไปมีเรื่องกับพวกของหัวหน้าแก๊งมาเฟียแถวเขตตะวันออก แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร ดูท่าแล้วเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับ ธุรกิจต่างๆที่ ซูเจี๋ย พูดถึงด้วย

แค่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ก็อย่างว่าเจียงป๋ายก็รู้จักซูเจี๋ยดีพอสมควร เจ้านี่บอกไม่ได้ว่ามันรวยแค่ไหน แต่สัก 2-3 ล้านก็น่าจะมีอยู่ ฉะนั้นงานที่มันให้ความสนใจก็น่าจะไม่ธรรมดา

" วางใจได้ เรื่องนี้สำหรับคนอื่นแล้วอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ แต่สำหรับนายมันเล็กน้อยมาก "

ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามจะเคยเป็นพวกมาเฟียมาก่อน แต่มาเจอระดับปรมาจารย์อย่างนาย มันก็ต้องให้เกียรติกันบ้าง ที่สำคัญ ฝ่ายตรงข้ามเคยลั่นวาจาแล้วขอแค่เถ้าแก่หม่าสามารถหาคนชนะมันได้ มันจะไม่พูดมากหันหัวกลับทันที ในเมื่อมันกล้าลั่นวาจาแล้ว ไม่เพียงแต่เป็นเกียรติและศักดิ์ศรีของมัน แต่ถือเป็นหน้าตาของผู้นั้นด้วย

ไม่ว่าจะเขตเจียงหนาน เจียงเป่ย ผู้คนละแวก 3 จังหวัด 16 อำเภอแถวๆนี้ ต่างก็ให้เกียรติเจ้าพ่อมาเฟียท่านนั้น ไม่มีใครกล้ายุ่งเรื่องของเถ้าแก่หม่าเลยสักคน บวกกับเรื่องนี้ เถ้าแก่หม่าเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ว่าเขาจะไปขอเจ้าพ่อเจ้าแม่ที่ไหน ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งเรื่องนี้ กว่าจะได้คนฝีมือดีมา 2 คนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ดันโดนเขาจัดซะเรียบเลย

" ฉะนั้นตอนนี้เถ้าแก่หม่าปวดหัวกับเรื่องนี้มาก ขอแค่นายยอมที่จะช่วยไปจัดการเรื่องนี้ เมื่อถึงตอนนั้นไม่ว่านายอยากได้อะไรรับรองว่า ได้แน่นอน "

ซูเจี๋ยหัวเราะร่า...พร้อมกับขยับเข้ามาพูดกับเจียงป๋าย

หากจะกล่าวถึงปรมาจารย์ที่เก่งกาจระดับชาติแล้วใครจะรู้ว่าสุดยอดแค่ไหน หากซูเจี๋ยไม่บอกเจียงป๋ายก็ไม่รู้หรอก ควรรู้ไว้ว่าคนประเภทนี้นอกจากปืนแล้ว พวกอาวุธทั่วๆไป ในสายตาของพวกมันก็ไม่ต่างอะไรจากเศษเหล็กด้วยซ้ำ มันสามารถฆ่าคนด้วยมือเปล่า ให้กลายเป็นผีได้ง่ายๆ คนพวกนี้ปกติแล้วไม่มีใครกล้าไปยุ่งด้วยหรอก

" มันจัดการยากมากเลยเหรอ " เจียงป๋ายตั้งท่า พร้อมกับถามขึ้น

" นี่ ... ปรมาจารย์ครึ่งขั้น ! " เมื่อได้ยินคำนี้หลุดออกมาซูเจี๋ยหุบรอยยิ้มลง พร้อมกับทำหน้าขรึมขณะที่พูด

จะว่าไปรอบๆเขตเทียนตูก็มียอดฝีมือมากมาย, เถ้าแก่หม่าจะหาไม่ได้เลยเหรอ น่าจะเป็นเพราะว่าทุกคนเห็นแก่หน้าของตาแก่ฝ่ายโน้นมากกว่าและที่สำคัญคงเป็นเพราะทุกคนไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่เคยอยู่ในวงการมาเฟีย มันเป็นต้นแบบปรมาจารย์ครึ่งขั้นของแท้ ท่วงท่าทั้ง 12 ของมันนั้นรวดเร็วดังสายฟ้า ฟาดลงกลางภูเขาจนแตกร้าว

ดวงตาของเจียงป๋ายเป็นประกายขึ้นมา พร้อมกับพยักหน้า เขาไม่ได้รู้สึกกังวลกับปัญหานี้เลย พร้อมกับถามขึ้นว่า " ตาแก่ที่คุณพูดถึงคือ? "

" อืม..เป็นพวกของราชวงศ์เก่าแก่ในอดีต ที่ทุกคนชื่นชมและเรียกท่านว่า ท่านเจ้าคุณตอนนี้ท่านก็อายุ 83 ปีแล้ว ในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท่านสั่งคำไหนคำนั้น เรียกได้ว่าเป็นเจ้าชายแถบนี้ ถือเป็นวีรบุรุษผู้แข็งแกร่งที่มีอยู่จริง ไม่มีใครกล้าลองดีกับท่าน ทั้งเหนือใต้ของแม่น้ำแยงซี ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าไปยุ่งกับท่าน แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาท่านเริ่มวางมือ เรื่องส่วนใหญ่ก็จะให้ลูกน้องไปทำแทน "

" สมุนที่มาคนนี้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในลูกน้องที่มีฝีมือคนหนึ่ง ถือเป็นยอดฝีมือหนึ่งในสามที่เคยได้เหรียญทองการต่อสู้มา ฉะนั้นฉันจึงอยากจะเตือนนายไว้ ฉันรู้ว่านักกังฟูระดับสูงหากลงมือแล้ว จะให้ออมมือหรือหยุดเป็นไปได้ยาก แต่ฉันก็หวังว่าตอนที่นายลงมือจะไม่เอาให้ถึงตาย ไม่อย่างนั้นแล้ว.... ถึงนายจะเป็นถึงระดับปรมาจารย์ก็อาจจะมีปัญหาได้ ตาลุงนั่นเอาใจยากจะตายไป ขนาดท่านเจ้าคุณจ้าว ยังไม่อยากไปยุ่งวุ่นวายด้วยเลย "

คำพูดของซูเจี๋ยทำให้เขาคิดอะไรบางอย่างออก แต่เจียงป๋ายกลับไม่ให้ความสนใจเลยด้วยซ้ำ พูดโอ้อวดมาเป็นอย่างดี สุดท้ายก็พวกกระจอกไม่มีพลังอะไรเท่าไหร่ มีระบบอยู่ในมือทำให้เจียงป๋ายรู้สึกมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม มีเรื่องแล้วไงจะทำไมกัน

เต็มที่ก็ทนสัก 2 ปี หลังจากนั้นก็จะจัดการฝ่ายตรงข้ามให้น่าดูไม่ต่างกัน, แต่อย่างว่าอะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่สมควรไปทำ ขณะเดียวกันเขาก็ให้ซูเจี๋ยบอกเล่าเรื่องราวของเถ้าแก่หม่าให้เขาทราบอย่างละเอียด

ความจริงคือตาลุงหม่า แกมีลูกชายที่ไม่ได้เรื่อง เป็นเด็กเสเพลเจ้าชู้มาแต่เด็ก เรียนอยู่แถวตัวเมือง บอกว่าไปเรียนแต่ปกติก็ไปดื่มไปกินไปเที่ยว เจ้านี่มันเป็นคนปากหวานตั้งแต่เกิด หน้าตาก็ดี อายุน้อยฐานะดีเป็นธรรมดาที่จะมีสาวๆมาติดพันนับไม่ถ้วน แต่ไม่กี่เดือนก่อนคบกับสาวน้อยน่ารักอยู่คนนึง คบได้อยู่ไม่นานก็เปลี่ยนใจ ใครจะไปรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นเด็กดีเด็กซื่อที่ไร้เดียงสา พอผิดหวังเสียใจ เลยกรีดข้อมือคิดฆ่าตัวตาย

แน่นอนว่าเด็กนั่นยังไม่ตายแต่ก็ตกใจกันไปไม่ใช่น้อย

หลังเถ้าแก่หม่ารู้เรื่องเข้า ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แค่สั่งให้ลูกน้องเอาเงินไปชดใช้ โดยคาดไม่ถึงว่าจะไปมีเรื่องกับคนที่ไม่ควรมีเรื่อง

ลูกเถ้าแก่หม่ามีเงินฐานะดีมีชื่อเสียง ครอบครัวของฝ่ายหญิงเองก็ไม่ได้มีฐานะแย่อะไรพ่อแม่ของฝ่ายหญิงก็เป็นพ่อค้าแม่ค้าทั่วไป ครอบครัวก็ถือว่าร่ำรวย แต่เมื่อเทียบกับเถ้าแก่หม่า ก็ถือว่าต่างกันราวฟ้ากับดิน ถ้าพูดไปตามหลักแล้วถึงแม้ภายในใจจะเกลียดแค้นเถ้าแก่หม่าแค่ไหน ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ต้านไม่อยู่ ก็ลุงรองของเขาสุดยอดมาก!

เพราะลุงรองของหญิงสาวผู้ที่ไม่มีทั้งลูกชายและลูกสาว รักทะนุถนอมหญิงสาวยิ่งกว่าของมีค่าใดๆ แบบชนิดที่ว่าอมไว้ในปากก็กลัวละลาย กุมไว้ในมือก็กลัวแตกกันเลยที่เดียว พอได้ยินว่าหลานสาวของตัวเองถูกหลอกเจาะไข่แดงฟรีๆและถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายมีหรือที่เขาจะยอม?

พอรู้เรื่องก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ยกพวก 7-8 คน สั่งฆ่ามาตลอดทาง ภายในวันเดียวลูกสมุนฝีมือดีของเถ้าแก่หม่าถูกส่งเข้าโรงพยาบาลหมดแถมประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่าภายใน 10 วันให้เถ้าแก่หม่าเอาไอ้ลูกชายตัวดีที่ไม่รู้ว่าหนีไปอยู่ที่ไหนมารับโทษตายเสียดีๆ ไม่งั้นจะมาจัดการพวกเถ้าแก่หม่าให้ราบคาบ ไม่ว่าเขาจะขอร้องอ้อนวอนแค่ไหนก็ไม่ได้ผลแถมไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง

หนึ่งในสมุนผู้เก่งกาจของท่านเจ้าคุเป็นสุดยอดกึ่งปรมาจารย์ถังจงหมิ่ง ไม่มีใครหน้าไหนจะกล้าเข้าไปยุ่งด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็ไม่ใช่ไม่ทิ้งทางออกไว้ให้ เขาก็บอกไว้แล้วนี่ ขอแค่ฝ่ายเถ้าแก่หม่ามีคนล้มเขาได้ เขาจะไม่พูดมากพร้อมที่จะหันหลังกลับทันทีแต่เรื่องน่าเศร้าก็คือเถ้าแก่หม่าหาคนแบบนี้ไม่ได้เลยถึงได้มีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น

เมื่อได้ฟังมาถึงตรงนี้ เจียงป๋ายอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะออกมา ถ้าพูดกันตามจริงไอ้ลูกชายของเถ้าแก่หม่าก็ถือว่าเลวมากแต่คนแซ่ถังก็ร้ายใช่ย่อย ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็จะฆ่าล้างตระกูลเขา ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่

" ตึงตึงตึง.... "

หลังจากนั้นเจียงป๋ายกับซูเจี๋ยก็ชวนกันดื่มเหล้าพูดคุยสารทุกข์สุขดิบทั่วไป เพื่อให้รู้จักกันมากขึ้น เสียงเคาะประตูดังขึ้น หลังจากเสียงดังเสร็จประตูของห้องก็ถูกเปิดออก มีผู้ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่อ้วนเล็กน้อยเดินเข้ามา

" ฮ่าๆๆลูกพี่หม่า! มาแล้วเหรอ? " พอคนนี้มาซูเจี๋ยก็ลุกขึ้นยืน หัวเราะฮ่าๆๆ

คนๆนี้เจียงป๋ายก็รู้จัก หัวหน้าเก่าเขาเองหม่าฉางหยาง นอกจากสโมสรนี้แล้ว คนๆนี้มีธุรกิจมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจแนวบันเทิง อาบอบนวด โรงแรม ร้านคาราโอเกะ ร้านเหล้า ร้านนวดต่างๆมีเป็นโขยง, ได้ยินมาว่ามีบ่อนคาสิโนใต้ดินอีกหลายแห่งและมีค่ายหนังด้วยอีก 1 บริษัท มีมูลค่าทรัพย์สินนับพันล้าน

คนแบบนี้มักจะมีเรื่องราวที่ให้ใครรู้ไม่ได้มากมาย ต้องเลี้ยงลูกน้องไว้มาก ต้องดูแลทั้งขึ้นทั้งล่อง เผลอๆอาจจะเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังนักการเมืองคนใดคนหนึ่งและไม่ว่าในกลุ่มสังคมปัจจุบัน หรือพวกกลุ่มมาเฟียก็น่ามีอิทธิพลอยู่ไม่น้อย ในเขตเทียนตูเขาก็ถือว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงพอสมควร, สมัยก่อนที่เจียงป๋ายเคยเห็น เขามักจะสง่าราวเทพบุตรแต่ว่าที่เห็นในตอนนี้ ก็แค่คนอ้วนที่ดูกำลังกังวลใจอยู่ก็แค่นั้นเอง

" ซูเจี๋ย ได้ข่าวว่าเรื่องของฉันนายจัดการได้? ยังไงกันอาจารย์ของนายยอมออกจากป่า? ขอแค่ท่านยอมออกจากป่า มีอะไรที่ต้องการรีบบอกมาได้เลย ขอแค่เถ้าแก่หม่าคนนี้ทำได้ รับรองไม่มีปฏิเสธ "

เถ้าแก่หม่ารีบมามาก สังเกตได้จากเม็ดเหงื่อที่อยู่เต็มหน้าผากที่มีให้เห็น

ฟังจากคำพูดเขาแล้ว เจียงป๋ายก็รู้ได้ทันทีว่า เขาน่าจะแค่ได้ยินซูเจี๋ยบอกสามารถช่วยเขาได้ ก็รีบมาโดยไม่ทันถามรายละเอียดอะไรเลย นี่คือลักษณะของพวกที่อยากหายป่วย แล้วรีบหาหมอเพื่อรักษาแบบมั่วๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด