ตอนที่แล้วบทที่ 28 เรือนเจียงหนาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 30 คุกเข่าให้กับลุงเจียงของเธอ!

บทที่ 29 การหาพันธมิตร


ตอนที่ 29 การหาพันธมิตร

พอพูดเสร็จ หวังเป้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาอธิบายให้เจียงป๋ายฟัง "เรื่องของจางฉางเกิงเป็นแค่เรื่องรอง เรื่องที่สำคัญคือคุณชายจ้าวต้องการที่จะพบคุณเจียง สำหรับจางฉางเกิงที่เขาขอมานั้นมันก็แค่คุณชายจ้าวทำตามเขาเฉยๆ ไม่ได้มีความหมายอื่นใดเลย"

นี่คือการบ่งบอกถึงตำแหน่ง

หวังเป้าได้บอกเจียงป๋ายอย่างแจ่มแจ้งแล้ว แม้ว่าจ้าวอู๋จี๋จะเป็นคนกลางก็ตามแต่กับจางฉางเกิงก็ไม่ใช่กลุ่มเดียวกันกับเขา พวกเขาไม่ได้มีความหมายว่าอยากจะรวมกลุ่มกันกับจางฉางเกิงเพื่อจัดการกับเจียงป๋าย

"คุณชายจ้าวต้องการที่จะพบฉัน นั่นก็ถือว่าเป็นเกียรติสำหรับฉันแล้ว"

เจียงป๋ายยิ้ม เจตนาดีของอีกฝ่ายที่แสดงออกมา โดยธรรมชาติแล้วเจียงป๋ายจะไม่ประมาทและเขาก็เข้าใจดีกับเรื่องราวของครอบครัวตัวเอง การ์ดสงครามเทพเจ้าสิ่งของแบบนั้นสามารถพบเจอได้แต่ไม่สามารถที่จะคว้ามาได้ ครั้งนี้ความสามารถที่แท้จริงของเขายังคงเป็นเพียงแค่ปรมาจารย์ขั้นแปดเช่นเดียวกับหวังเป้า

"ขอโทษค่ะคุณเจียง เชิญทางนี้ค่ะ!"

หวังเป้าหัวเราะขึ้นมา ในเวลาเดียวกันสายตาของเขาก็ดูแปลกๆไป เขายื่นมือออกมาทำท่าทางของการต้อนรับ จากนั้นก็เริ่มเดินนำทางไป

เดิมทีเขาก็ยังมีความกังวลอยู่ เจียงป๋ายยังเด็กมากแต่มีความแข็งแกร่งที่จะต่อต้านแบบนี้ จะทำให้คนอื่นมองเขาเป็นคนหยิ่งผยองและเข้ากับคนอื่นไม่ได้ แต่ความกังวลที่มีมาก่อนหน้านี้ในตอนนี้ก็ลดไปครึ่งนึงแล้วหล่ะ

ตามด้วยซูเจี๋ยและเจียงป๋ายที่เดินตามหลังมา ส่วนเสี่ยวเทียนนั้นมีคนมาต้อนรับเป็นพิเศษ

"พระเจ้า! นั่นท่านปรมาจารย์หวังเป้า! แท้จริงแล้วความคิดริเริ่มของเขาคืออยากออกไปต้อนรับคนอื่นและนำทางด้วยตัวของเขาเองหรอ แล้วคุณชายจ้าวมารึยัง?"

เจียงป๋าย พวกเขาเดินไปข้างหน้าและขึ้นไปบนอาคารหลัก ทันทีที่สถานการณ์นี้ตกอยู่ในสายตาของผู้คนที่นับไม่ถ้วนและหนึ่งในนั้นก็มีคนที่อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ

พอเขาเรียกแบบนี้ ทำให้ทุกคนในห้องของเขาสิบกว่าคนลุกขึ้นทันที และไม่มีฉากแห่งความเมามายของงานเลี้ยงเหมือนเมื่อกี้อีกเลย แต่ละคนเหมือนถูกกระตุ้นและได้รีบวิ่งไปที่ระเบียง

ทั้ง3ชั้นของอาคารต่างก็ตื่นตระหนกไปหมด มีคนหลายสิบคนมองไปที่เจียงป๋ายที่กำลังเดินมาจากไกลๆ

ราวกับถูกวางยาพิษ พวกเขาเคลื่อนไหวจนเกิดเสียงดัง ตึกเล็กอื่นๆที่ไกลออกไปก็พบกับศีรษะของผู้คนที่โผล่พ้นออกมา แต่เดิมที่เงียบสงบก็กลายเป็นเต็มไปด้วยเสียงผู้คน

หวังเป้าเป็นใครกันนะ?

ผู้ติดตามของคุณชายจ้าว ปรมาจารย์ด้านศิลปะประจำชาติปรากฏตัวขึ้นเพื่อต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ แบบนี้......จะไม่ให้พวกเขาไม่ประหลาดใจได้ยังไงหล่ะ

" พระเจ้า เด็กคนนั้นคือใครกัน ไม่เคยเจอมาก่อนเลย ทำไมถึงให้หวังเป้าต้อนรับเอง ฉันบอกว่าคุณชายจ้าวจะมาวันนี้ มาโดยความรู้สึกที่เป็นแขกรับเชิญนะ แล้วเด็กคนนี้คือใครกัน? ผ่านเจียงหลงมาได้ยังไง? "

"ฉันเดาว่าน่าจะมีจักรพรรดิมานะ ไม่อย่างนั้นคุณชายจ้าวไม่มาจัดงานเลี้ยงด้วยตัวเองอย่างนี้หรอก!"

หนึ่งในผู้คนอดไม่ได้ที่จะพูดกระซิบออกมาว่า ตัวตนของเจียงป๋ายได้ถูกคาดเดาไว้แล้ว

"ว้าว ว้าว คนที่ไม่มีที่มาที่ไป ไม่รู้ว่าเขามาจากครอบครัวไหน ดูๆแล้วโตมาค่อนข้างหล่อ อีกสักพักฉันก็จะออกมาพบเขา ฉันจะไปพบเขาอย่างแน่นอน ถ้าหากว่า...."

หญิงสาวคนหนึ่งที่เสื้อผ้าดูน่าหลงใหล ได้เห็นเจียงป๋ายแบบนั้นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหวีผมและพูดพึมพำกับตัวเอง

"อย่าฝันไปเลย!แขกของคุณชายจ้าวที่เธอคิดอยากจะเจอก็จะได้เจองั้นหรอ ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นคนยังไง หลายปีแล้วที่ไม่เห็นคุณชายจ้าวจัดงานเลี้ยง ลูกหลานคนใหญ่คนโตของจักรพรรดิจะมาจริงๆเหรอ?"

เสียงของผู้หญิงคนนี้ก็เบาลง เธอได้รับการเยาะเย้ยจากผู้คนที่เหลือ เธอก็อดไม่ได้ที่จะคาดเดาขึ้นมา

"ฮ่า อะไรกันคุณชาย ปกติแล้วไม่เป็นแบบนี้หนิ เด็กครอบครัวไหนของจีนกันที่ได้รับความอนุเคราะห์จากคุณชายจ้าว ปีนั้นจักรพรรดิหลี่ชิงก็ข้ามแม่น้ำไปเยี่ยมคุณชายจ้าวด้วยตัวของเขาเอง คุณชายจ้าวก็ไม่ได้เชิญแขกมาและให้หวังเป้ามาต้อนรับด้วยตัวเองซะที่ไหนกัน?"

"หลายปีมานี้ที่หวังเป้าต้อนรับแขก ฉันก็ได้พบเขา2ครั้ง ครั้งหนึ่งเป็นการตรวจสอบคนของส่วนกลางและอีกครั้งคือวันที่เราเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1วันนั้น ฉันไม่รู้เลยว่านั่นเป็นเขา"

บุคคลที่มีตัวตนมากที่สุด เขายืนและจิบไวน์อยู่ตรงนั้นไม่พูดจาอะไร

ทั้งสองเรื่องนี้ในตอนนั้นล้วนเป็นการเข้าร่วมโดยบังเอิญของเขาและถือว่าโชคดีที่ได้เข้าร่วม เขาพอใจกับสิ่งที่เขาพูดอยู่เสมอ เขาพูดไว้เยอะมากแล้วก็กลับไปและทุกครั้งก็ทำให้มีการตะโกนเรียกด้วยความประหลาดใจอยู่เสมอ

"ใช่เหรอ เขาเด็กมากทำไมถึงสามารถทำให้คุณชายจ้าวปฏิบัติต่อเขาได้อย่างสุภาพขนาดนั้นกันหล่ะ แท้จริงแล้วเขาคือใครกันนะ?"

ทุกคนต่างก็คาดการณ์อยู่ชั่วครู่หนึ่งและมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป

มีคนพูดว่าเขาคือเศรษฐีชาวต่างชาติที่ไม่ได้เปิดเผยตัวตน ที่กลับมาสืบทอดธุรกิจของครอบครัว เขาพกเงินมหาศาลเป็นพันล้านมาเยี่ยมเยียนคุณชายจ้าวก็เป็นธรรมดาที่จะได้รับการปฏิบัติที่สุภาพแบบนั้น

มีคนพูดอีกว่าเขาคือทายาทของตระกูลที่ไม่เปิดเผยตัวตน และยังมีคนพูดอีกว่าเขาคือเลขาคนสนิทของผู้มีอำนาจใหญ่โต และยังมีคนอีกมากมายที่เดากันว่าเขาอาจจะเป็นลูกนอกสมรสของคุณชายจ้าวก็ได้ หลายปีมานี้ไม่เคยได้ยินเลยว่าคุณชายจ้าวไม่เคยแต่งงาน แต่ดูเหมือนว่าจะมีสถานการณ์หนึ่งในอดีตที่คุณชายจ้าวได้มีลูกกับผู้หญิงที่เขารักมากหรือว่าลูกของเขาคือเด็กคนนี้?

"เอาหล่ะ ไม่ต้องเดากันแล้ว ฉันรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น!"

เจียงหูหัวเราะขึ้นมา และพูดต่อหน้าผู้คนด้วยประโยคดังกล่าว

"พี่ชายคนนี้ ทำไมดูไม่คุ้นหน้าเลย เพิ่งมาใหม่เหรอ แล้วทำไมถึงรู้ได้หล่ะว่าเกิดอะไรขึ้น?"

เขาพูดแบบนี้ออกไป ทำให้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนรอบๆได้ทันที แต่ละคนก็มารุมล้อมเพื่อที่จะถามเขา

เขาคือคนที่มีฐานะคนหนึ่ง แท้จริงแล้วเขาคือคนชั้นต่ำที่หลอกลวงว่าเป็นคนรวย ตอนนี้ในมือที่มีเงินนับพันล้านที่เพิ่งได้ผ่านมาตรฐานเข้ามาในงานนี้ น่าเสียดายที่มันช่วยทำให้เขาดูเย่อหยิ่ง เขามาที่นี่เพื่อที่จะขยายความสัมพันธ์แต่ก็ไม่มีใครสนใจเขา จึงทำให้เขาโมโหอย่างมาก แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถช่วยได้ แต่เมื่อเขาได้พบเจียงป๋ายจึงทำให้เขามีความหวังขึ้นมาทันทีพร้อมยังได้มีโอกาสและได้พูดคุย

"เหอะ เหอะ คนอื่นไม่รู้ แต่ฉันโชคดีจริงๆ ด้วยความบังเอิญที่ได้รู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไง แล้วพวกคุณรู้เรื่องของจางฉางเกิงไม่กี่วันก่อนหน้านี้รึเปล่า?" คนผู้นั้นหัวเราะและพูดอย่างช้าๆ พูดจบก็จิบเหล้าไปหนึ่งคำ เขาดูมีความลึกลับที่คาดเดาไม่ถูกอย่างไงอย่างงั้น

"จางฉางเกิงหรอ? ฉันรู้ ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าเขาขาดทุนอย่างมาก! ลูกน้องทุกคนที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาสูญเสียกันไปนับไม่ถ้วน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาคนนั้นยังถูกคนทำร้ายจนแขนขาหัก ตอนนี้ส่งไปรักษาที่ต่างประเทศแล้ว ได้ยินมาว่าเป็นฝีมือของคนเหี้ยมโหดที่ชื่อเจียงป๋าย......ไม่ใช่หรอ"

เมื่อเขาพูดแบบนี้แล้วทันใดนั้นก็มีคนพูดเสริมขึ้นมาทันที

จางฉางเกิงเป็นคนที่มีอิทธิพลและได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก มีคนไม่น้อยที่เคยติดต่อกับเขาและเรื่องก่อนหน้านี้ก็เป็นเรื่องที่ใหญ่โตมาก พวกคุณทุกคนในที่นี้ต่างก็ได้รู้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งกันไปหมดแล้ว

เขาพูดแบบนี้แล้ว ทันใดนั้นก็มีคนคาดเดาเกี่ยวกับตัวตนของเจียงป๋ายขึ้นมา

" อืม คนนั้นก็คือเจียงป๋ายนั่นเอง ก่อนหน้านี้ฉันเคยไปจ่ายค่าภาษีกับเขาที่นั่น เรียกได้ว่าคุ้นเคยกันเลยทีเดียว"

เขาได้สร้างเมืองแห่งความบันเทิงขึ้นมา ก่อนหน้านี้ที่นั่นคือสถานที่บันเทิงของหม่าฉางหยาง แต่ปัญหาของคุณหม่าที่ลูกชายไปก่อไว้ก็ได้เขาที่ช่วยจัดการถ่านจงหมิง เพื่อทำการขอบคุณ คุณหม่าก็เลยมอบที่นั่นให้แก่เขา"

เขาหัวเราะดังลั่นจากนั้นจึงพูดสิ่งนี้ออกมา

อ้างว่ารู้จักกับเจียงป๋าย จริงๆแล้วแต่เดิมเขาไม่เคยแม้แต่พูดคุยกับเจียงป๋าย แม้ว่าตัวตนของเขาจะไม่ธรรมดา แต่เจียงป๋ายปกติแล้วก็ไม่ได้ชอบให้ใครมาต้อนรับและส่งเขา จึงไม่ค่อยได้ทักทายกับผู้คนที่เจียงหูแค่เคยเจอและพยักหน้าให้แต่ก็ไม่เคยพูดคุยกันสักประโยค

เพียงแค่เรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้

" อ้าว! พี่ที่น่าเคารพ! เมื่อกี้พึ่งเจอคุณแต่รู้สึกไม่ค่อยคุ้นหน้าเลยไม่ได้ทักทาย ฉันช่างไร้มารยาทจริงๆ ต่อไปเรายังต้องได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ฉันจะต้องคุ้นเคยกับคุณเจียง และต่อไปพี่น้องก็ไม่ควรมีขอบเขตต่อกัน" ทันใดนั้นรอบๆก็เริ่มมีคนให้ความสนใจขึ้นมา

แต่เดิมแล้วพวกเขาคิดว่าเรื่องของเจียงป๋ายเป็นแค่ข่าวลือ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว

แม้ว่าเจียงป๋ายแต่ก่อนจะเป็นคนดูโหดๆ แต่สำหรับพวกเขาก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว สุดท้ายแล้วทั้งหมดทั้งมวลคือคุณต้องไปถึงตำแหน่งนั้นให้ได้อีกครั้ง แต่ไม่ใช่คนที่มีระดับขึ้นไปอีกขั้น คุณไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในใจ เพียงแค่ไม่ให้มันมายั่วยุคุณได้ก็พอแล้ว

แต่ตอนนี้เจียงป๋ายได้กลายเป็นแขกคนสำคัญของคุณชายจ้าวไปแล้ว กลัวว่าหลังจากนี้จะมีวันที่ผู้ไม่ได้มีตำแหน่งสูงส่งทำให้ผู้มีอำนาจใหญ่หลวงนั้นสั่นคลอนได้!

ก็ต้องเป็นอย่างนั้น บุคคลนี้ที่อ้างว่าตัวเองคุ้นเคยกับเจียงป๋ายก็กลายเป็นฝ่ายที่มีผู้คนมากมายที่ต้องการเป็นพันธมิตรด้วย

แล้วใครให้พวกเขาไม่คุ้นเคยกับเจียงป๋ายกันหล่ะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด