ตอนที่แล้วตอนที่ 6 คำตอบสำหรับวิธีพิสูจน์โจทย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 ทฤษฏีอินเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวดำเนินการเชิงเส้นและฟังก์ชั่นเชิงเส้น

ตอนที่ 7 คนอื่นเป็นขยะเมื่อเทียบกับนักเรียนอัจฉริยะ


ตอนที่ 7 คนอื่นเป็นขยะเมื่อเทียบกับนักเรียนอัจฉริยะ

 

 

ในที่สุดเหตุผลก็เอาชนะความโลภ ลู่โจวกำจัดความคิดที่ไม่สมจริงทิ้งไป

 

น้องใหม่ตีพิมพ์ในนิตยสารวิทยาศาสตร์ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ไม่ต้องพูดถึงมีเอกสารจำนวนมากที่อยู่ในนิตยสารคณิตศาสตร์จีนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ตราบใดที่เป็นคนที่มีภาษาอังกฤษพอใช้ได้ คุณก็อาจเอางานที่ต่ำกว่ามาตรฐานตีพิมพ์ลงนิตยสารได้

 

พฤติกรรมปลอมงานนี้ถูกเปิดโปงโดยบุคคลที่ถูกจัดอันดับในนิตยสารที่ต่ำกว่า นิตยสารที่ถูกจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งคือคณิตศาสตร์ประยุกต์(AMC) มันมีชื่อเสียงในด้านการเผยแพร่งานที่ไม่ได้มาตรฐาน

 

มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เป็นเพียงมหาลัยเดียวที่เผยแพร่วิทยานิพนธ์ลงAMCนับร้อยในเวลาเพียงสี่ปี มันจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่จะมีคนเผยแพร่วิทยานิพนธ์ที่ไม่ได้มาตรฐานกว่ายี่สิบเรื่องต่อปี

 

เพื่อปกป้องคุณภาพทางวิชาการของวิทยานิพนธ์ นิตยสารเก่าแก่บางนิตยสารมักจะจำกัดวิทยานิพนธ์ที่ถูกตีพิมพ์ประจำปีไม่เกินหนึ่งร้อยวิทยานิพนธ์หรือน้อยกว่านั้นอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม'นิตยสารจวี้อู๋ป้า'อันนี้ไม่สนใจ มันตีพิมพ์วิทยานิพนธ์มากกว่าหนึ่งพันเรื่องในทุกๆปี ควบคู่ไปกับปรากฏการณ์แอบอ้างซึ่งกันและกันเพื่อสร้างปัจจัยกระทบให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีบทวิจารณ์ปลอมจำนวนมาก คณะผู้จัดทำวารสารหนึ่งจึงเผยแพร่วิทยานิพนธ์มากกว่าร้อยฉบับ!

(ผู้แปล : แปลง่ายๆก็คือ วิทยานิพนธ์ 1 มีข้อมูลอ้างอิงจาก วิทยานิพนธ์ 2 แล้ว 2 ก็อ้าง 1 อ้างกันไปอ้างกันมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ น่าจะประมาณนี้ครับ)

 

ลู่โจวไม่มั่นใจในการเผยแพร่วิทยานิพนธ์ในนิตยสารอื่น แต่สำหรับ AMC...

 

เขาอาจมั่นใจหรือกล้าพูดด้วยความโอ้อวด

 

สรุปคือเขารู้สึกว่ามันไม่มีปัญหา

 

อย่างไรก็ตามมันจะเป็นเรื่องยากถ้าเขาอยากเผยแพร่ค่าประมาณของโจวลงในนิตยสารวิทยาศาสตร์ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่มันจะถูกลงนิตยสารไหม เพราะเขาคงผ่านอย่างง่ายดาย กุญแจสำคัญคือหลังจากตีพิมพ์ไปแล้ว เขาจะทนอยู่จุดนั้นได้ไหม

 

สุดท้ายลู่โจวก็ยังเลือกภารกิจที่สาม เขาไม่มีแผนใช้ค่าประมาณของโจว แต่เขาวางแผนจะเขียนวิทยานิพนธ์หลอกเพื่อให้ผ่านภารกิจ

 

ความรู้ด้านคณิตศาสตร์ขั้นสูงและคณิตวิเคราะห์ของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่านักศึกษาปริญญาโท ถ้าเขาอยากเขียนวิทยานิพนธ์ด้วยภาษาอังกฤษระดับสี่ของเขา เขาก็แค่เรียนรู้ศัพท์เทคนิคเพิ่มบางคำ มันไม่มีอะไรที่ดิกชันนารีไม่สามารถแก้ไขได้

 

เมื่อเทียบกันแล้ว เขาไม่ได้มีเส้นสายหรือความฉลาดทางอารมณ์(EQ)ที่จำเป็นเพื่อผ่านภารกิจแรก

 

ส่วนภารกิจที่สอง มหาลัยไม่ได้ให้คลาสฟิสิกส์กับนักศึกษาใหม่ด้วยซ้ำ เขากลัวว่าระบบจะสร้างคำถามฟิสิกส์ระดับมัธยมปลายและมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าระดับความยากมันจะต่ำแค่ไหน นอกจากนี้เขาไม่ได้สนใจระดับฟิสิกส์ของเขามากนัก เขาไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ฟิสิกส์ตอนนี้ ถ้าเขาจำเป็น เขาเรียนรู้ทีหลังก็ได้

 

หลังจากลู่โจวเลือกภารกิจ เขาก็ผุดลุกขึ้นยืน เขาฮัมเพลงและเดินตรงไปยังหอพัก

 

หลังจากหายหน้าหายตาไปนาน หลิวรุ่ยคงจะเสียสติถ้าเขาไม่กลับไปเร็วๆนี้

 

เจ้าหมอนั่นเป็นคนแปลกๆ เขาเป็นคนค่อนข้างใจกว้าง แต่เมื่อพูดถึงการเรียน เขาเป็นคนชอบเปรียบเทียบและเห็นแก่ตัวจนคนอื่นพูดไม่ออก เขาจะไล่ล่าคุณสุดถนนถ้าหากคุณดูสมุดโน๊ตเขา แถมเขายังจะกลอกตามองบนใส่หากคุณถามอะไรเขา ในสายตาเขา มันเหมือนกับว่าทุกคนบนโลกล้วนแต่เป็นคู่แข่งเขา สิ่งที่เขามุ่งหมายไม่ใช่ความสำเร็จทางวิชาการอะไรเทือกนั้น แต่เป็นการยอมรับของเหล่านักเรียนและบรรดาอาจารย์ตนเองเป็น'อัจฉริยะ'

 

คนประเภทนี้ถือเป็นอัจฉริยะได้ไหม?

 

ลู่โจวคิดว่าไม่

 

ในสายตาของอัจฉริยะที่แท้จริง คนอื่นล้วนแต่เป็นขยะ ใครจะสนใจว่าคุณจะดูสมุดโน๊ตของฉันหรือไม่? คุณรู้เกี่ยวกับค่าประมาณของโจวไหม? ต่อให้มันอยู่ตรงหน้าคุณ คุณก็ไม่รู้จักมันด้วยซ้ำ!

 

ลู่โจวยอมรับนับถือคนๆเดียวเท่านั้นที่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง

 

ใช่แล้ว ถูกต้อง

 

เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องคาดเดาด้วยซ้ำ เขากำลังพูดถึงตัวเอง

 

.....

 

เมื่อเขาเปิดประตูเข้าห้อง มันก็สี่ทุ่มแล้ว

 

หลิวรุ่ยกำลังถือหนังสือแบบฝึกหัด อีกสองคนไม่ได้อยู่ด้วย พวกเขาอาจกำลังเล่นไพ่อยู่ห้องข้างๆ สือช่างเป็นคนประเภทที่จะตั้งใจฟังในชั้นเรียนเท่านั้น เขาไม่ได้อ่านหนังสือสอบ ส่วนหวงกวงหมิง เขาถูกเรียกว่าเป็นเทพแห่งการเรียน เขาไม่ได้ฟังในชั้นเรียน เขาจะอัดทุกอย่างก่อนสอบและยังทำได้ดีอีกด้วย

 

ลู่โจวโยนกระเป๋าลงบนโต๊ะแล้หาบัตรอาบน้ำในลิ้นชัก

 

ในเวลานั้นเอง หลิวรุ่ยก็วางหนังสือแบบฝึกหัดลงแล้วหันมามองทางลู่โจว

 

"สหาย ทำไมนายถึงขยันขนาดนี้ล่ะ?"

 

"ฉันจำเป็นต้องขยัน ฉันไม่ได้แตะหนังสือมาครึ่งเทอม ถ้าฉันไม่เริ่มตอนนี้ มันจะสายเกินไป" ลู่โจวกล่าวก่อนจะเอาผ้าเช็ดตัวพาดไหล่แล้วลุกขึ้่นยืนจากเก้าอี้

 

หลิวรุ่ยเห็นว่าลู่โจวกำลังจะไปอาบน้ำ เขาจึงเอ่ยถาม "ฉันแก้โจทย์นี้ไม่ได้ นายช่วยดูให้ฉันหน่อยได้ไหม?"

 

โอ้ ช่างน่าแปลกใจเสียจริง

 

มีโจทย์ที่หลิวรุ่ยแก้ไม่ได้ด้วยเหรอ?

 

"ไหนฉันขอดูหน่อย"

 

เมื่อลู่โจวยื่นมือออกไปรับ หลิวรุ่ยก็ดันกรอบแว่นแล้วส่งหนังสือแบบฝึกหัดให้ เขาชี้ไปที่โจทย์แล้วถาม "โจทย์นี้"

 

"โจทแคลคูลัส? มันไม่น่ายาก..." ลู่โจวกล่าว เขาเหลือบมองโจทย์แล้วรู้สึกประหลาดใจที่ไม่เคยเห็นโจทย์แบบนี้มาก่อน เขารู้สึกตื่นเต้น ใครจะสนเรื่องอาบน้ำกัน? เขารับหนังสือแบบฝึกหัด นั่งลงแล้วเริ่มแก้โจทย์

 

ก่อนหน้านี้ถ้าหลิวรุ่ยแก้โจทย์ไม่ได้ มันก็ไม่มีทางเลยที่ลู่โจวจะแก้ได้ เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่ตอนนี้แม้แต่คำว่า'เป็นไปไม่ได้'ก็ไม่ได้อยู่ในหัวของเขา

 

หลังจากลู่โจวใช้เวลาพยายามแก้โจทย์ หลิวรุ่ยคลายใจลงเล็กน้อย คนโง่ที่เขาแอบดูถูกก็ยังเป็นคนโง่ แก้ไม่ได้ก็ยังอวดฉลาดอีก

 

ส่วนโจทย์นี้ หลิวรุ่ยแก้ไม่ได้จริงๆ อย่างไรก็ตามในหน้าคำตอบมีวิธีแก้โจทย์พร้อมเสร็จสรรพ เหตุผลที่เขาเอาโจทย์นี้มาถามลู่โจวไม่ใช่เพราะเขาต้องการความช่วยเหลือ แต่เป็นเพราะเขาอยาก'สอดแนมศัตรู'

 

สุดท้ายแล้ว ถ้าเขาอยากหาคนช่วยแก้โจทย์คณิตจริงๆล่ะก็ เขาไม่มาถามคนโง่อย่างลู่โจวหรอก

 

หลิวรุ่ยคิดเรื่องนี้แล้วถาม "ทำไมนายไม่ลอกโจทย์ลงไปก่อนล่ะ? ฉันจะได้ข้ามไปทำโจทย์หน้าก่อน"

 

ความหมายที่ซ่อนอยู่ก็คือไม่มีทางที่ลู่โจวจะแก้โจทย์ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียเวลาเปล่า

 

อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาของลู่โจวไม่ได้เป็นไปตามที่หลิวรุ่ยคาดหวังไว้

 

"...ไม่จำเป็น ฉันแก้เสร็จแล้ว"

 

แก้...แก้เสร็จแล้ว?!

 

ดวงตาของหลิวรุ่ยเบิกกว้างจนแทบถลนออกมา

 

"ใช่ นายได้ยินไม่ผิดหรอก" ลู่โจวกล่าว เขาอธิบายสูตรลงกระดาษทดและควงปากกาไปพลาง "มันเป็นโจทย์สองขั้นตอนปกติ ก่อนอื่นนายแปลงพิกัดคาร์ทีเซียนเป็นพิกัดเชิงขั้ว เนื่องจากช่วงสมมาตร นายจะสามารถตัดส่วนนี้เป็น cot^2(x)..."

 

"จากนั้นก็คำนวณอนุพันธ์เป็น csx^2(x)! แล้วแทนค่ากลับเป็นฟังก์ชั่นดั้งเดิม!" รูม่านตาของหลิวรุ่ยหดตัวลงเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็เข้าใจแนวคิดพื้นฐานในการแก้โจทย์นี้ ที่เหลือก็ง่ายแล้ว เขาแค่ต้องคำนวณออกมาเท่านั้นเอง

 

เวรเอ้ย ฉันไม่เคยคิดถึงขั้นตอนนี้มาก่อน...

 

"บิงโก! แก้ได้แล้วใช่มั้ยล่ะ" ลู่โจวกล่าวด้วยรอยยิ้ม บางครั้งแม้แต่เด็กก็สอนคนอื่นได้

 

"ขอบใจ...ฉันขอยืมกระดาษทดหน่อย ฉันจะลองศึกษาดู"

 

"เอาไปสิ ตามสบาย!" ลู่โจวกล่าวและโบกมืออย่างใจกว้าง จากนั้นเขาก็เดินไปห้องน้ำ

 

หลิวรุ่ยดูกระดาษทดของลู่โจวแล้วนั่งลง เขาดันกรอบแว่นแล้วอ่านโจทย์ เขาขมวดคิ้วและเข้าสู่โหมดสมาธิ

 

แม้ว่าเทคนิคนี้จะเป็นของใหม่สำหรับเขา แต่วิธีแก้โจทย์ถูกเขียนไว้อย่างชัดเจน มันไม่ได้อยู่นอกเหนือความรู้ของเขา ดังนั้นเขาจึงเข้าใจอย่างง่ายดายแม้ว่าจะไม่มีคำอธิบายจากลู่โจวก็ตาม

 

อย่างไรก็ตามสิ่งนึงที่เขาไม่เข้าใจก็คือ ลู่โจวมันคิดวิธีนี้ออกได้ไง?

 

แถมมันยังเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ...

 

บางทีมันอาจเคยเจอโจทย์ประเภทนี้มาก่อนงั้นเหรอ?

 

หลิวรุ่ยคิดว่านี่คือความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว ไม่งั้นเขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าคนโง่ที่ทำงานพาร์ทไทม์จะแก้โจทย์นี้ได้เร็วกว่าอัจฉริยะอย่างเขาได้อย่างไร

 

เขาพลิกไปด้านหลังหนังสือแบบฝึกหัด เมื่อหลิวรุ่ยดูคำตอบ เขาก็แข็งค้าง

 

"ไม่มีทางน่า..."

 

คำตอบถูกต้อง...แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก

 

ประเด็นหลักก็คือวิธีของลู่โจวมันง่ายกว่าของคำตอบ! คำตอบไม่ได้คิดถึงการแปลงพิกัดคาร์ทีเซียนเป็นพิกัดเชิงขั้ว กลับกันคำตอบดันใช้อินทิกรัลแทนซึ่งส่งผลให้มีการคำนวณเป็นจำนวนมาก

 

และนี่ก็เป็นวิธีที่เขาคิด...

 

เป็นไปได้ยังไง?

 

หลิวรุ่ยขบริมฝีปาก

 

จู่ๆเขาก็รู้สึกกังขาในชีวิต

 

=============

ผู้แปลไม่ได้เรียนแคลคูลัส ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด