ตอนที่แล้วตอนที่ 164 เจ็ดวัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 166 การต่อสู้ที่ไม่เคยมีมาก่อน

ตอนที่ 165 แก่นแท้แห่งดาบที่ทะยานขึ้น


ภายในเทือกเขาเมฆาครามตกอยู่ในความสงบ

ทันใดนั้น แก่นแท้แห่งดาบที่น่าเหลือเชื่อที่เหมือนดั่งมังกรยักษ์ตัวหนึ่งที่หลับไหลมาเป็นล้านปี

ท้องฟ้าเปลี่ยนสีและโลกก็เริ่มสั่นสะเทือน

ตลอดแนวเทือกเขาเมฆาคราม นักรบอาณาแก่นทองคำที่มีแก่นพลังอสูรและไม่มีล้วนแต่ตื่นตระหนก

"แก่นแท้แห่งดาบนี่..."

"แก่นแท้แห่งดาบที่น่าสะพรึงกลัว แก่นแท้แห่งดาบนี้เรียบง่ายและทำให้ข้าหวาดกลัว พลังของมันแข็งแกร่งอย่างมาก!"

"ตอนนี้ในบรรดาคนที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในเทือกเขาเมฆาคราม มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถปลดปล่อยแก่นแท้ที่ทรงพลังขนาดนี้ได้ เจียงวู่เฉิง!"

เหล่านักรบนั้นหวาดกลัว แต่ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็เข้าใจสิ่งที่เจียงวู่เฉิงต้องการจะบอก

"ด้วยดาบในมือ จะไม่มีใครเทียบได้!"

แน่นอนว่าเขามีความเข้าในแก่นแท้แห่งดาบที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์!

"ฮ่าฮ่า มันเริ่มแล้ว"

ผู้เชี่ยวชาญที่รวมตัวกันอยู่บนอากาศกำลังตกอยู่ในความโกลาหล

"การต่อสู้ระหว่างเจียงวู่เฉิงและเสวี่ยหยุนนั้นน่าตื่นเต้น!"

"ก่อนหน้านี้ เจียงวู่เฉิงไม่มีโอกาสที่จะชนะเสวี่ยหยุนอย่างแน่นอน แต่ในตอนนี้มันเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป"

"การผสานกันระหว่างแก่นแท้แห่งดาบทั้งสามชนิดทำให้เขามีคุณสมบัติที่จะต่อสู้กับเสวี่ยหยุน ไม่เพียงเท่านั้น ผลลัพธ์ก็ยังไม่อาจจะคาดเดา"

ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้กำลังพูดคุยกัน

ก่อนการคัดเลือกนี้เริ่มขึ้น เจียงวู่เฉิงและเสวี่ยหยุนได้ต่อสู้กันไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่พวกเขาก็เพียงแค่ทักทายกันและเสวี่ยหยุนยังไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งของเขาอย่างเต็มที่ ในเวลานั้นผู้คนล้วนรู้ว่าเขากำลังจะต่อสู้ แต่ไม่มีใครเชื่อในตัวเขาสักคน

หลังจากทั้งหมด เสวี่ยหยุนนั้นแข็งแกร่งเกินไป

อย่างไรก็ตามวันแรกของการคัดเลือก ความแข็งแกร่งของเจียงวู่เฉิงก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเขาผสานแก่นแท้ทั้งสามชนิดเข้าด้วยกัน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังฆ่าโอวหยางห่าวเทียนที่อยู่ครึ่งก้าวสู่ขั้นระเบิดหยินหยางด้วยกระบวนท่าเดียว ทำให้ทุกคนตระหนักได้ว่าความแข็งแกร่งของเขาก้าวหน้าขึ้นพอที่จะสู้กับเสวี่ยหยุนได้

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการคัดเลือก

วันนี้เป็นวันของเจียงวู่เฉิงและเสวี่ยหยุน

การต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะยอดเยี่ยมที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในราชวงศ์เทียนซ่งกำลังจะเริ่มขึ้น

หลังจากแก่นแท้แห่งดาบที่น่าเหลือเชื่อพุ่งสูงขึ้นไปเสียดฟ้าสร้างเสียงที่ดังกังวาลขึ้น พลังออร่าที่น่าหวาดหวั่นก็พุ่งออกมาจากเขายอดเขาอีกแห่ง

ออร่านี้เย็นและมืดมิดอย่างมาก!

ดูเหมือนว่าพลังนี้จะกลืนกินทุกสิ่งในจักรวาล

ในทันทีที่พลังแห่งความมืดมิดปรากฏขึ้น ทั้งโลกถูกเปลี่ยนเป็นสีดำ มันเปรียบเหมือนราชาแห่งโลกนี้

แก่นแท้แห่งดาบที่สามารถควบคุมทั้งโลกได้

และพลังแห่งความมืดที่กลืนกินทุกสิ่ง

พวกเขาลุกขึ้นยืนและเผชิญหน้ากันจากระยะไกล...

โลกทั้งใบตกอยู่ในความวังเวงและบรรดานักรบที่อยู่ในเทือกเขาเมฆาครามต่างกลั้นหายใจ จ้องมองแก่นแท้แห่งดาบและพลังแห่งความมืดที่น่าหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไร

เมื่อแก่นแท้แห่งดาบและพลังแห่งความมืดมาถึงจุดสูงสุด

ตึง!ตึง!

เสียงฝีเท้าดังขึ้น แม้ว่าเสียงจะเบา แต่ภายในเทือกเขาเมฆาครามเต็มไปด้วยความเงียบ มันทำให้เหมือนมีคนตีกลองอยู่ภายในใจของพวกเขา ทำให้คอของทุกคนแห้งผาก

"การต่อสู้ที่สุดยอด!"หยางจู่ซวนยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง เขามองดูทุกสิ่งด้วยความรุนแรง ถึงแม้ว่าเขาจะเก่งมาก แต่เมื่อเขาเห็นแก่นแท้แห่งดาบและพลังแห่งความมืด เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้

"นี่คือการต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของราชวงศ์เทียนซ่งของเรา"ไป่หลีเฉิงถอนหายใจ"น่าเสียดาบที่คู่ต่อสู้ของเสวี่ยหยุนไม่ใช่ข้า"

ช่วงเวลาที่แก่นแท้แห่งดาบของเจียงวู่เฉิงถูกปลดปล่อยออกมา เขาก็รู้ในทันทีว่าเจียงวู่เฉิงแข็งแกร่งกว่าเขา

"พี่สาม"ซูรูที่ยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย มีความคาดหวังเล็กน้อย แต่ความกังวลปรากฏขึ้นในสายตาของนาง

ที่นอกเทือกเขาเมฆาคราม นักรบจำนวนมากไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่น

ไม่กี่วันทีผ่านมา นักรบเหล่านี้ยืนอยู่ที่แห่งนี้และจ้องมองไปที่เทือกเขาเมฆาคราม พวกเขาตื่นเต้นอย่างมากกับสิ่งที่เห็นและมันไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย

เมื่อแก่นแท้แห่งดาบพวกพุ่งขึ้นและพลังแห่งความมืดก็ปรากฏ คนเหล่านี้ก็ตื่นเต้น

"นั่นคือเจียงวู่เฉิงและเสวี่ยหยุน!"

"ฮ่าฮ่า วันสุดท้าย ในวันสุดท้ายสัตว์ประหลาดทั้งสองตนจะสู้กัน"

"การต่อสู้ที่สุดยอดครั้งนี้ คือการต่อสู้กันระหว่างอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมทั้งสองของราชวงศ์เทียนซ่ง การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องถูกบันทึกลงไปในบันทึกประวัติศาสตร์ของลานนักสู้"

"ข้ารอการต่อสู้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นนี้มาหลายวันแล้ว!"

นักรบหลายคนตะโกนด้วยความตื่นเต้นและตกใจ

นี่คือการต่อสู้ที่จะทำให้ทั่้วโลกตกใจ

แม้ว่าการต่อสู้จะยังไม่เริ่มขึ้น แต่แก่นแท้แห่งดาบที่พวกพุ่งและพลังแห่งความมืดมิดที่กลืนกินทุกอย่างก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาบ้าคลั่งและตื่นเต้น

"ยังไม่รู้่ว่าใครจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้หัวเราะ"หลิงเฟิงหน้าซีดเล็กน้อยและยืนจ้องไปข้างหน้า

เขายังเป็นหนึ่งในนักรบอาณาแก่นทองคำที่เข้าร่วมการคัดเลือกครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเขาใช้เวลาหนึ่งวันในเทือกเขาเมฆาคราม ก่อนที่จะยอมแพ้อย่างไม่ลังเล เขาเข้าใจถึงความน่ากลัวในการคัดเลือกครั้งนี้เป็นอย่างดี

ตอนนี้ผู้เข้าร่วมการคัดเลือกที่แข็งแกร่งที่สุดกำลังจะต่อสู้กัน

"พี่ใหญ่"เจียงเมิ่งเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ถัดไปจากหลิงเฟิงกัดฟัน ภายในใจของนางเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ

หนึ่งในผู้เข้าร่วมการคัดเลือกที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนในตอนนี้ คือคนที่นางเคยดูถูกจากก้นบึ้งของหัวใจ

นางยังคิดว่าเขาเป็นถึงขยะที่จะไม่มีโอกาสดีๆในชีวิตของเขาอีก

แต่ในตอนนี้?

ผู้ชายคนนี้ไปไกลเกินเอื้อม

แม้ว่าจะเป็นหลิงเฟิงที่นางชื่นชม เขาก็ยังห่างไกลจากเจียงวู่เฉิงอย่างมาก

"ถ้าหากข้าเหลือความรักไว้ให้แก่เขาบ้างในเวลานั้น..."เจียงเมิ่งเอ๋อร์คิดถึงเรื่องนี้ แต่นางก็ไม่กล้าที่จะคิดต่อไป

นางรู้ว่าเจียงวู่เฉิงรักนางเมื่อตอนที่เขายังเด็ก

หากตอนนั้นนางไม่ทำร้ายเขาและปล่อยให้ความรู้สึกดีดีของพวกเขายังอยู่ บางทีตอนนี้เขาและนางอาจจะอยู่ด้วยกัน

แต่ตอนนี้ทุกอย่างหายไป

...

ครืด!ครืด!ครืด!

เสียงฝีเท้าดังขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้สายตาของทุกคน ร่างสองร่างเดินช้าๆจากสองทิศทางที่แตกต่างกัน

หนึ่งในร่างนั้นเปรียบดั่งคมดาบที่ทรงพลัง ให้ความรู้สึกเหมือนแผ่นดินและสวรรค์แยกออกจากกัน

อีกร่างหนึ่งเป็นดั่งตำนานที่สามารถกลืนกินทุกสิ่งอย่างในจักรวาล

คนทั้งสองกลายเป็นจุดสนใจจากทุกสิ่ง

มีช่องว่างระหว่างพวกเขาเพียงระยะ2ลี้ ช่องว่างนั้นเป็นที่ราบกว้างใหญ่ของเทือกเขาเมฆาคราม

ในตอนนี้พวกเขาทั้งคู่เงยหน้าขึ้นและมองไปที่แต่ละฝ่าด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความต้องการสู้

ฟุบ!

ทันใดนั้นร่างของเจียงวู่เฉิงก็หายไป

ฟุบ!

ร่างของเสวี่ยหยุนก็หายไปในเวลาเดียวกัน

"พวกเขาหายไปไหน?"

นักรบทุกคนที่เฝ้ามองการต่อสู้นั้นสบสน แต่ทันใดนั้นที่ใจกลางของที่ราบ...

แสงดาบที่น่าสะพรึงกลัวที่สามารถทำลายสวรรค์และโลกได้ และดาบสีแดงเลือดที่ราวกับจะกลืนกินจักรวาล

ทันใดนั้นท้องฟ้าและพื้นดินก็แตกระแหง!

...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด