ตอนที่แล้วตอนที่ 163 การผสานกันของแก่นแท้ทั้งสามชนิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 165 แก่นแท้แห่งดาบที่ทะยานขึ้น

ตอนที่ 164 เจ็ดวัน


ที่ยอดเขา เมื่อมองไปที่ร่างของโอวหยางห่าวเทียนที่กำลังล้มลง ใบหน้าของโอวหยางห่าวยื่อแต่เดิมที่เคยยิ้มแย้มเปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันที

"พี่ใหญ่...มันเป็นไปได้ยังไง?ทำไม?"

โอวหยางห่าวยื่อทำใจให้เชื่อไม่ได้

ตอนนี้ พี่ใหญ่ของเขากดดันเจียงวู่เฉิงได้อย่างสมบูรณ์ แต่ในเวลาไม่กี่วินาทีต่อมามันก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

พี่ใหญ่ของเขาเสียชีวิตจากดาบของเจียงวู่เฉิง

"พี่ใหญ่ของเจ้าได้ตายไปแล้ว ตอนนี้ถึงคราวของเจ้าที่จะตายบ้าง"ดวงตาเย็นชาของเจียงวู่เฉิงมองไปที่โอวหยางห่าวยื่อ

แค่การมองก็เพียงพอ โอวหยางห่าวยื่อหวาดกลัวอย่างมาก

แสงดาบวาดผ่านร่างของโอวหยางห่าวยื่อและฆ่าเขาทันที

หลังจากผสานแก่นแท้ดาบทั้งสามชนิดแล้ว เจียงวู่เฉิงสามารถสังหารโอวหยางห่าวเทียนซึ่งมีการบ่มเพาะอยู่ครึ่งก้าวสู่ขั้นระเบิดหยินหยางได้ด้วยกระบวนท่าเดียว การฆ่าโอวหยางห่าวยื่อนั้นเป็นเหมือนการหั่นเค้กเพียงชิ้นเดียว

ทันทีที่โอวหยางห่าวยื่อถูกฆ่าโดยเจียงวู่เฉิงเก้าอี้ตัวหนึ่งก็แตกทันที ประมุขตระกูลโอวหยางยืนขึ้นผมและหนวดเคราของเขาปลิวสไวด้วยพลังที่ท้วมท้น

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

เมื่อเห็นอย่างนี้ทุกคนต่างเข้าใจว่าทำไมชายชราผมขาวคนนี้ถึงโกรธมากและพวกเขาก็ไม่พูดอะไร

ตึงเครียด

แม้ว่าตระกูลโอวหยางจะเป็นหนึ่งในเจ็ดเผ่าอันดับต้นๆของราชวงศ์เทียนซ่ง แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะมีอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมมาปรากฏ

พวกเขาโชคดีที่มีอัจฉริยะสองคนเกิดขึ้นในรุ่นนี้และพวกเขาก็เป็นพี่น้องกัน อย่างไรก็ตามทั้งคู่ถูกสังหารโดยคนคนเดียวกันในการคัดเลือกครั้งนี้ ถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาก็โกรธเช่นกัน

ถ้าอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่การคัดเลือกครั้งนี้ ชายชราผมขาวคงจะฆ่าเจียงวู่เฉิงแล้ว

บนยอดเขา

เจียงวู่เฉิงนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นและเริ่มฟื้นฟูพลังลมปราณของเขาหลังจากที่ฆ่าสองพี่น้องโอวหยาง

การต่อสู้สองครั้งติดต่อกันนั้นใช้พลังลมปราณของเขาไปอย่างมากมาย

"ไม่รู้ว่าพี่สองและน้องสี่จะทำอะไรอยู่ตอนนี้?"เจียงวู่เฉิงสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

ด้วยความแข็งแกร่งของหยางจู่ซวน เขาสมควรอยู่ในสิบอันดับแรกของทำเนียบมังกรปฐพี

ถึงแม้ว่ามันจะเสี่ยง แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขา มันไม่ยาวเกินไปที่เขาจะได้รับการเป็นตัวแทน

มีเพียงแค่คนที่อยู่ห้าอันดับแรกในทำเนียบมังกรปฐพีเท่านั้นที่จะคุกคามเขาได้

ในบรรดาห้าอันดับแรก เสวี่ยหยุนอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมอันดับหนึ่งและไม่มีใครกล้าที่จะท้าทายเขา ดังนั้นทันทีที่เขาได้รับแก่นพลังอสูรเขาจะหยุดการต่อสู้ทันที

ไป่หลีเฉิงเป็นศิษย์ของวังมังกรและเขาอยู่อันดับสอง เขาจะไม่ไปยุ่งกับหยางจู่ซวนอย่างแน่นอน

โอวหยางห่าวเทียนซึ่งอยู่อันดับสามนั้นถูกฆ่าโดยเจียงวู่เฉิง

มู่หยิงหยิงและเฟิงหยูเทียนที่อยู่อันดับที่4และ5นั้นอาจเป็นภัยคุกคามต่อหยางจู่ซวน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าหยางจู่ซวนจะไม่สามารถเอาชนะได้ แต่เขาก็สามารถที่จะหลบหนีได้

สำหรับซูรู...

เจียงวู่เฉิงนั้นรู้ว่านางมีความลับที่มากมายและนางนั้นฉลาดอย่างมาก

นักรบทุกคนในการคัดเลือกครั้งนี้ หรือแม้กระทั่งเสวี่ยหยุนก็ไม่อาจที่จะฆ่านางได้

"ข้ามีแก่นพลังอสูรอยู่แล้ว ข้าต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่เพื่อเตรียมตัวที่จะสู้กับเสวี่ยหยุน"ดวงตาของเจียงวู่เฉิงเปล่งประกาย

การคัดเลือกนั้นมีระยะเวลาถึงเจ็ดวัน และในวันนี้ก็เป็นเพียงวันแรกเท่านั้น

ก่อนที่การคัดเลือกจะสิ้นสุด เขาจะต้องเผชิญหน้ากับเสวี่ยหยุนแน่นอน ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม

ด้วยเหตุนี้เขาจึงอยู่บนยอดเขาและเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้กับเสวี่ยหยุน

ทั่วทั้งบริเวณเทือกเขาเมฆาครามการต่อสู้และการฆ่ายังคงดำเนินต่อไป

วันแรกในเทือกเขาเมฆาคราม นักรบทั้ง68คนนั้นได้รับประสบการณ์ต่อสู้อันดุเดือดและบ้าคลั่งจากอสูรลมปราณทั้ง15ตัว

อสูรทั้ง15ตัวนั้น มีสามตัวในพวกมันที่ระดับการบ่มเพาะใกล้เคียงกับระเบิดหยินหยางขั้นกลาง ขณะที่อีก12ตัวนั้นการบ่มเพาะอยู่ที่ระเบิดหยินหยางขั้นแรก อย่างไรก็ตามพวกมันทั้งหมดถูกฆ่าตายภายในครึ่งวัน

หลังจากอสูรลมปราณถูกฆ่า นักรบอาณาแก่นทองคำที่เหลือก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือด

ท่ามกลางภูเขาทั้ง15ลูก การต่อสู้ที่ดุเดือดนั้นเกิดขึ้นบนยอดเขาเกือบทุกลูก

ในวันเดียว แก่นพลังอสูรทั้ง15นั้นถูกครอบครองหมดแล้วและเหลือผู้เชี่ยวชาญจำนวนไม่ถึง30คนที่ยังมีชีวิตอยู่ในเทือกเขาเมฆาคราม

ผู้เชี่ยวชาญทั้ง68คนนั้นเข้าร่วมการคัดเลือก อย่างไรก็ตามเพียงหนึ่งวันต่อมาผู้เชี่ยวชาญมากกว่าครึ่งได้ตกตายลงไป

ในบรรดาผู้ที่ถูกกำจัด 9ใน10ส่วนของพวกเขาถูกฆ่าตายจากการต่อสู้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ออกจากเทือกเขาเมฆาครามเพราะตระหนักได้ว่าการคัดเลือกนั้นน่ากลัวและพวกความไม่มีความมั่นใจที่จะสู้ต่อ

ผู้เชี่ยวชาญอาณาแก่นทองคำที่เหลือ ผู้ที่ยังไม่ได้ครอบครองแก่นพลังอสูรพยายามที่จะมองหาคู่ต่อสู้

ท้ายที่สุดการคัดเลือกจะดำเนินไปจนกว่าจะถึงเจ็ดวัน

ในวันที่สอง มันเป็นวันที่เงียบสงบอย่างมากในตอนกลางวัน แต่เมื่อถึงตอนกลางคืนก็มีการต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญสามคนร่วมมือกันและแอบโจมตีผู้เชี่ยวชาญที่ครอบครองแก่นพลังอสูร แม้ว่ามันจะไม่รุนแรงเท่าวันแรก แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็ถูกกำจัด

ในวันที่สาม มีการต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างมากในเทือกเขาเมฆาคราม

มันเป็นการต่อสู้ระหว่างหยางจู่ซวนและหลิงเสวี่ยเอ๋อ

หลิงเสวี่ยเอ๋อนั้นอยู่อันดับที่แปดในทำเนียบมังกรปฐพี นางเคยต่อสู้กับเจียงวู่เฉิงเป็นระยะเวลาสั้นๆ

ในขณะที่หยางจู่ซวนคือผู้ที่ไม่มีใครเคยรู้จักและไม่เคยอยู่ในรายชื่อทำเนียบมังกรปฐพี หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้มันได้สร้างชื่อให้เขา

ในระหว่างการต่อสู้หลิงเสวี่ยเอ๋อพยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาแก่นพลังอสูร อย่างไรก็ตามหยางจู่ซวนได้ฆ่านางทันทีด้วยสายฟ้าของเขา

หลังจากการต่อสู้ ผู้เชี่ยวชาญที่มองจากบนอากาศคิดว่าหยางจู่ซวนนั้นมีคุณสมบัติที่จะติดในห้าอันดับแรก

...

วันที่หก

วันสุดท้ายได้ใกล้เข้ามา นักรบขั้นอาณาแก่นทองคำที่ยังไม่ได้ครอบครองแก่นพลังอสูรรอไม่ได้อีกต่อไป พวกเขาต้องพยายามที่จะครอบครองให้ได้

ซูรูก็เช่นกัน

ซูรูยังคงไม่ต่อสู้ใดๆระหว่างการคัดเลือก จนกระทั่งถึงวันที่หกที่นางร่วมมือกับคนอื่นและฆ่าหนึ่งในผู้ครอบครองแก่นพลังอสูร จากนั้นพวกเขาก็ต่อสู้เพื่อแก่นพลังอสูรและสุดท้ายก็มันก็ถูกครอบครองโดยซูรู

จากนั้นนางก็ถูกรุมโดยนักรบอาณาแก่นทองคำหลายคน อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาโจมตีนาง พวกเขาก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่นางได้

นางเป็นเหมือนปุยนุ่นที่ไม่สามารถทำร้ายได้ ในท้ายที่สุดนางก็ประสบความสำเร็จในการครอบครองแก่นพลังอสูร

ในวันเดียวกัน ฉิงกังศิษย์หลักของวังมังกรที่อยู่อันดับที่หกของทำเนียบมังกรปฐพี ถูกลอบโจมตีโดยนักรบในอาณาแก่นทองคำหลายคนและฆ่าเขาลงที่สุด

ศิษย์คนอื่นๆของวังมังกรนั้นรู้สึกเสียใจสำหรับเขา

ในที่สุดมันก็เป็นวันสุดท้ายในการคัดเลือก

หลังจากนั่งอยู่บนยอดเขามาเป็นเวลาหกวัน เจียงวู่เฉิงก็เปิดตาขึ้นและแสงที่คมชัดส่องเข้ามาในดวงตาของเขา

"วันสุดท้าย"

"มาเลย!"

หลังจากนั้น คมดาบแห่งแก่นแท้ก็เปล่งประกายออกมาจากร่างของเขาและทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด