ตอนที่แล้วบทที่ 247 - แกน่ะตายไปแล้ว (10) [16-12-2019]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 249 - แกน่ะตายไปแล้ว (12) [20-12-2019]

บทที่ 248 - แกน่ะตายไปแล้ว (11) [18-12-2019]


บทที่ 248 - แกน่ะตายไปแล้ว (11)”

ระหว่างเอลฟ์ช่างตีเหล็กกำลังยุ่งกับการชำแหละมังกร ยูอิลฮานก็ได้ให้เอลฟ์กับหมาป่าส่วนใหย่ไปพักกัน ในขณะที่แบ่งบางส่วนออกมาเฝ้ายามไว้ จากนั้นเขาก็ไปหายูมิล

เขาได้เข้าไปในป้อมปราการลอยฟ้า และเมื่อเขาเปิดประตูขึ้นมา ยูมิลก็ได้เดินเข้ามากอดเขาอย่างข้าๆ ยูมิลในตอนนี้ดูเหมือนคนอายุ 15 ปี

"พ่อครับ"

"ว่าไง"

"พ่อฆ่าเจ้านั่นใช่ไหมครับ"

"ใช่แล้ว"

"ดีจังเลย"

"นั่นสินะ"

ลูกมังกรที่อยู่ในอ้อมแขนของมังกรได้คิดบางอย่างขึ้นเมื่อได้ยินการตอบกลับแบบนี้และถามออกมา

"พ่อฆ่าเจ้านั่นยังไงหรอครับ?"

"พ่อรอโอกาสที่เจ้านั่นใช้เวทย์วงกว้างที่มีระยะถึงตัวพ่อ และจากนั้นก็พามันไปที่โลกเรา เพราะแบบนี้ทำให้มันระเมิดกฏของกองทัพปีศาจวิบัติจนมันตกลงไปสู่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ มานาของมันได้รั่วไหลออกมาและจากตรงนั้นการจะเอาชนะมันก็ไม่ได้ยากแล้ว"

"อ๊าา ผมทำแบบนั้นไม่ได้ ผมเอาชนะมันไม่ได้แน่"

ยูมิลที่เข้าใจในทุกๆอย่างที่ยูอิลฮานอธิบายออกมาแบบง่ายๆได้กัดริมฝีปากบ่นออกมา ยูมิลก็ได้ยิ้มขึ้นมาเพื่อเห็นอาการแบบนี้ของลูกเขาและลูบหลังของยูมิล

"เอาเถอะนะ นั่นมันก็แค่ตอนนี้ ถ้าพ่อไม่ได้ใช้วิธีโกงพ่อก็เอาชนะไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ"

"แต่ว่าในท้ายที่สุด พ่อก็เป็นคนชนะและมังกรนั่นก็ตาย ถ้างั้นพ่อแข็งแกร่ง... แต่ผมกลับอ่อนแอเกินไป"

มาตราฐานในพลังของมังกรนั่นเลือดเย็นและน่ากลัว ยังไงก็ตามคำพูดที่ยูมิลเสริมขึ้นมาได้ทำให้ยูอิลฮานยิ้มขึ้น

"มิลยังมีเวลาเหลืออีกเยอะนะ ในอนาคตลูกยังแกร่งขึ้นได้อีกมาก"

"เหมือนมังกรนั่นหรอครับ?"

"หืมมม... ลูกจำเป็นต้องใช้เวลามากเลยนะ แต่ว่าลูกแกร่งแบบนั้นได้แน่นอน"

"แต่ว่าถ้าผมไม่แกร่งขึ้นในตอนนี้ ผมก็เป็นได้แต่ภาระของพ่อน่ะสิ"

"พ่อไม่ได้จะสู้กับเจ้าตัวแบบนั้นตลอดเวลาหรอกนะ แล้วก็น่าตอนนี้ลูกก็ช่วยพ่อได้เยอะมากแล้ว"

"ผมอยากจะสู้กับพ่อด้วยเหมือนกัน... อ๊า แต่สำหรับการสู้กับมังกรนั่นก็ยังเป็นไปไม่ได้อยู่ดี"

ดูเหมือนว่าหลังจากได้เห็นอิชจาร์แล้วมิลจะช็อคมาก นอกจากนี้ยูอิลฮานยังคิดว่าการปรากฏตัวอิชจาร์ไม่ได้ส่งผลดีกับยูมิลเลย

จากการที่มิลได้แกร่งขึ้นมาด้วยความเร็วที่น่าตกใจมาตลอดทำให้หากมิลมั่นใจในพลังตัวเองก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่แล้วมอนสเตอร์บ้าๆแบบนั้นกลับโผล่มาทำให้ความมั่นใจของมิลเหลือแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น! นอกไปจากนี้มันยังเป็นเผ่าพันธ์เดียวกับมิลอีกด้วย! ในตอนนี้มันจะไม่แปลกเลยหากว่ายูมิลคิดว่าพลังของตัวเองนั้นไร้ค่าเมื่อเจอกับตัวตนที่ทรงพลังกว่าแบบนั้น และสูญเสียความตั้งใจที่จะพัฒนาต่อ

ยูมิลคิดว่าเขาคงจะต้องให้กำลังใจยูมิลอีกครั้งหนึ่ง และนึกย้อนไปถึงเหตุผลที่เขามาหายูมิลตั้งแต่แรกแล้ว

"พ่อเอาเนื้อมังกรมาเยอะเลยนะ ถ้าลูกกินเนื้อพวกนี้ลูกจะแกร่งเร็วขึ้นมากเลยนะ พ่อจะให้เนื้อของเทลาก้ากับอิชจาร์กับลูกด้วยนะ"

"อ๊า ผมได้รับแต่ของจากพ่อตลอดเลย"

โอ้ ดูเหมือนมิลจะอยู่ในวัยต่อต้านแล้วสินะ เนื่องจากยูอิลฮานไม่เคยมีประสบการณ์รับมือกับเด็กเลย ทำให้เขาไม่รู้เลยว่าจะปลอบมิลในตอนนี้ยังไงดี

"อ่า ย๊าาาา"

ยังไงก็ตามเมื่อมิลได้เห็นพ่อของเขายูอิลฮานกำลังหาทางออกอยู่ ยูมิลก็ได้เห็นกำลังใจตัวเอง

"เพราะแบบนั่นนี่คือเหตุผลที่ผมจะต้องหาสิ่งที่ผมทำได้เพื่อพ่อ"

"ลูกทำเพื่อพ่อมามากแล้ว!"

ยูอิลฮานได้พูดขึ้นเศร้าๆออกมา ยังไงก็ตามยูมิลได้ส่ายหัวออกมาและพูดขึ้นราวกับเขาได้ตัดสินใจไปแล้ว

"ผมจะหาลูกสะใภ้มาให้พ่อ!"

"ไม่ พ่อไม่ต้องการลูกสะใภ้ ลูกยังเด็กเกินไปจะแต่งงาน... แล้วใครกันที่มาพูดแบบนี้กับลูก?"

พอได้เห็นยูอิลฮานบอกว่าเขาไม่ต้องการลูกสะใภ้เลยทำให้ยูมิลถอยหลังไปอย่างตกใจ

"งั้นผมจะทำอะไรให้พ่อได้กันล่ะ?"

"ลูกก็แค่แข็งแกร่งขึ้นก็ได้ เพื่อพ่อแล้วลูกจะต้องกินเนื้อเยอะๆและก็ฝึกด้วยนะ"

"ครับผม"

เพื่อได้ยินคำว่า 'แข็งแกร่งขึ้น' ยูมิลดูจะมีกำลังใจมากขึ้นกว่าเดิม

"ผมจะแข็งแกร่งขึ้น"

"ใช่แล้ว"

"ผมจะกินเยอะๆจะได้แข็งแกร่งมากๆ"

"ใช่เลย ถูกแล้ว"

"ผมจะทำให้ได้"

เยี่ยมยอด ยูมิลได้ก้าวข้ามกำแพงมาแล้ว ยูอิลฮานได้ลูบหัวยูมิลอย่างโลกใจ บางทีอาจจะเพราะความกังวลหายไปแล้วนี่เองทำให้ยูมิลลูกท้องตัวเองและพึมพัมออกมา

"พ่อ ผมหิว"

"โอเค ในเมื่อไม่น่าจะมีการต่อสู้ไปอีกซักพัก งั้นเรามากินข้าวกันก่อน"

"ครับผม!"

นี่มันไม่ใช่แค่ยูมิลเท่านั้น เขาจะจัดงานเลี้ยงขึ้นเพื่อฉลองในการที่เขาได้ศพของมังกรคลาส 6 กับ 7 มา... ไม่ ไม่ ฉันหมายถึงเพื่อเฉลิมฉลองในชัยชนะครั้งแรกกับพันธมิตรต่างหาก

"ดีล่ะ ถ้างั้นไปเรียกพวกที่เหลือมาที่นี่กัน"

"แล้วพวกที่กำลังชำแหละเนื้อมังกรอยู่ตรงนั่นล่ะ"

"เดี๋ยวพวกนั้นก็กินเนื้อที่พวกเขาชำแหละเองนั่นแหละ"

ต่อจากนี้ยูอิลฮานที่จะต้องยุ่งเพราะการทำอาหารจำนวนมากแน่ เขาได้เดินเข้าไปในห้องครัวภายในคฤหาสน์ ยูมิลได้เช็ดน้ำตาหยดสุดท้ายออกไปจากตาและตามยูอิลฮานไป

ข่าวเรื่องการบุกของกองทัพปีศาจวิบัติที่ถูกกำจัดไป และการตายของอิชจาร์ผู้บัญชาการกองพันที่ 13 ได้แพร่กระจายออกไปยังแต่ล่ะฝ่ายอย่างรวดเร็ว

ทุกๆคนที่สืบเชื้อสายมาจากอิชจาร์และอิชจาร์เองได้หายไป คงจะมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะไม่รู้เรื่องการตายนี้

[ผู้บัญชาการกองพันที่ 13...? มังกรนั่นตายไปแล้ว? แล้วก็พวกฝูงมังกรในดาเรย์ด้วย?]

[ฉันไม่มั่นใจเรื่องคลาส 6 หรอกนะ แต่ว่าสำหรับการตายของคลาส 7 คนก่อนก็เป็นเมื่อพันปีที่แล้วเลยนะ]

[จะเกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้นอีกงั้นหรอ? สงครามแบบนั้นกลับไม่ได้เกิดขึ้นในกำแพงแห่งความโกลาหลแต่กลับมาเกิดในดาเรย์แทน...]

การตายของผู้บัญชาการกองพันไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน บางทีนี่อาจจะทำให้สมดุลเสียไปก็ได้เช่นนั้น ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่กองทัพปีศาจวิบัติเท่านั้นที่ไม่ยินดีกับมัน ฝ่ายต่างๆก็ไม่ได้ต่างกันมากนักเลย

และข่างที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้เลยก็ไม่ใช่เรื่องการตายของอิชจาร์ แต่เป็นตัวตนของคนที่ฆ่าอิชจาร์ต่างหาก

[แล้ว?]

[ใครเป็นคนทำกัน? คนของฝ่ายกองกำลังไหน?]

[นั่นมัน]

[แน่นอนว่าต้องเป็นคนจากกองทัพสวรรค์แน่ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร]

คนที่รอดชีวิตมาจา"กการต่อสู้กันระหว่างกองทัพสวรรค์กับกองทัพปีศาจวิบัติในครั้งนี้มีแค่ทูตสวรรค์เท่านั้นเอง เพราะแบบนี้ทำให้นอกไปจากกองทัพสวรรค์แล้วฝ่ายอื่นๆยากที่จะหาข้อมูลที่ถูกต้องได้ แบบนี้เองทำให้พวกเขาได้แต่ตัดสินสิ่งต่างๆด้วยเบาะแสที่มีเพียงเล็กน้อย

[สิ่งสุดท้ายที่ฉันเห็นคืออิชจาร์กำลังโจมตีกองทัพสวรรค์ แต่แล้วทำไมจู่ๆเขาถึงได้ตายไปล่ะ... ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย]

[มันชัดเจนว่ามีการเทเลพอตข้ามมิติเกิดขึ้นมา จู่ๆทุกสิ่งรอบๆนั่นก็ถูกดูดให้ข้ามมิติไป... แค่เวทมนต์ทำแบบนี้ไม่ได้แน่ มันจะต้องเกี่ยวข้องกับสกิลด้วยแน่]

[มีทูตสวรรค์คลาส 6 ที่ชื่อว่า... สเปียร่าอยู่ด้วยใช่ไหมนะ เธอคนนั้นคือทูตสวรรค์ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะไปถึงคลาส 7 ได้ในอีกพันปี ยังไงก็ตามสำหรับเธอตอนนี้การจะฆ่าอิชจาร์มันเป็นไปไม่ได้...]

[ฉันไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่]

พวกเขาได้คิดกันได้แค่เท่านี้ทั้งหมด สิ่งที่คิดได้ก็คือกองทัพสวรรค์ป้องกันตัวและเกิดการเทเลพอตข้ามมิติขึ้นมาเท่านั้น มันได้เป็นไปตามที่ยูอิลฮานคาดคิดเอาไว้เลยว่าความสนใจทั้งหมดที่เขาทำขึ้นจะถูกกองทัพสวรรค์ดึงดูดไปแทน

ยังไงก็ตามสำหรับกองทัพปีศาจวิบัตินั้นต่างออกไป แม้ว่าการสื่อสารทุกๆอย่างจะถูกตัดขาดไปในตอนที่อิชจาร์ถูกลากไปที่โลก แต่ว่ายูอิลฮานนั้นเป็นคนที่กองทัพปีศาจวิบัติมากที่สุด และพวกมันก็มีข้อมูลของยูอิลฮานอยู่เป็นจำนวนมาก

[ต้องเป็นมนุษย์ยูอิลฮานแน่นอน ทุกๆคนรู้สึกได้ถึงการที่อิชจาร์เสียคุณสมบัติในฐานะสมาชิกของกองทัพปีศาจวิบัติไปได้ใช่ไหมล่ะ? มนุษย์คนนั่นแหละที่ทำให้มันเกิดขึ้น]

เพราะแบบนี้มันจึงไม่ได้ยากเลยที่พวกเขาจะหาว่าใครเป็นคนฆ่าอิชจาร์และฆ่าได้ยังไง

[มนุษย์นั่น? คนที่เทลาก้าจับตามองเอาไว้น่ะหรอ?]

[เทลาก้าได้ถูกสเปียร่าฆ่าไป เจ้าทูตสวรรค์ที่งดงามและกล้าหาญนั่นแหละ!]

[สเปียร่า ผู้หญิงคนนี้จะต้องถูกฉันเหยียยย่ำในสักวัน เธอคนนี้น่ะซื่อบื่อในเรื่องความรัก]

[ทุกๆคนเงียบได้แล้ว ตอนนี้เรากำลังคุยกันเรื่องยูอิลฮานอยู่นะ]

ภายในวิหารขนาดยักษ์ที่มีเสาค้ำยันเพดางสูงกว่า 300 เมตร ได้มีมอนสเตอร์ที่น่าขนลุกนั่งกันอยู่รอบๆโต๊ะที่มีน้ำพุเลือดอยู่ตรงกัน ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์ตัวใดในนี้ต่างก็ทำลายโลกทิ้งไปได้หลายใบทั้งนั้น

[ยูอิลฮาน?]

[ฉันไม่เห็นจะเคยได้ยินชื่อนี้เลย]

[เขาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ]

[สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ!? นี่เรียกฉันมาคุยกันเรื่องสิ่่งมีชีวิตชั้นต่ำเนี้ยนะ? โอ้ น่าสนใจจริงๆเลย]

มีแค่ไม่กี่โลกเท่านั้นที่จะรองรับปีศาจที่น่ากลัวพวกนี้ทั้งหมดเอาไว้ได้

โลกใบนี้ที่ทุกสิ่งมีขนาดใหญ่ยักษ์และเต็มไปด้วยพลังมีชื่อว่าเอลโล่คาทรา นี่คือโลกระดับสูงที่อยู่ภายในฝั่งหนึ่งของกองแพงแห่งความโกลาหล สถานที่ที่เกิดการปะทะกันระหว่างกองทัพสวรรค์กับกองทัพปีศาจวิบัติบ่อยที่สุด และก็ยังเป็นสำนักงานหลักของมอนสเตอร์เหล่านี้อีกด้วย

'มนุษยชาติ' ของโลกใบนี้ได้สูญพันธ์ไปนานแล้วจากหมอกหนาที่เต็มไปด้วยพิษและคำสาป หมอกที่เต็มไปทั่วทั้งทวีปนี้เป็นสิ่งที่คนที่ต่ำกว่าคลาส 4 ลงไปเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสูดมันเข้าไป สภาพแวดล้อมของที่นี่ได้เปลื่ยนไปตามประสงค์ของจ้าวโลก และเพราะแบบนี้ทำให้แม้แต่ต้นไม้ที่แข็งแกร่งที่สุดยังไม่อาจจะโตขึ้นมาได้เลย

และแบบนี้ทำให้ทุกสิ่งที่มีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ได้ต่างก็เป็นผู้ที่แข็งแกร่งและโหดร้าย ซึ่งกองทัพปีศาจก็คือผู้ที่แข็งแกร่งและโหดร้ายที่สุดในโลกใบนี้

ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ต่างก็ทรงพลังในแบบของตัวเองกันทั้งนั้น นี่คือการประชุมของเหล่าผู้บัญชาการกองพันแห่งกองทัพปีศาจวิบัติ นี่คือการพบปะกันของตัวตนที่น่าหวาดหวั่น แม้ว่าผู้บังคับบัญชากองพันจะไม่ได้มากันทุกคน แต่ว่าจำนวนก็ยังมากจนน่ากลัวอยู่ดี

[เรื่องที่เขาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำมันสำคัญด้วยหรอ? สิ่งสำคัญมันก็คือการที่เขาได้ฆ่าอิชจาร์ไปต่างหากล่ะ!]

ลมหายใจราวกับลาวาได้ออกมาจากของผู้บัญชาการกองพันที่ 8 ของกองทัพปีศาจวิบัติ เซนูว่านกยักษ์ที่เกิดมาจากมานาแห่งไฟ

[เสาหลักที่ทรงพลังแห่งกองทัพปีศาจวิบัติได้หายไปแล้ว!]

[ไม่เป็นไรหรอก มานาของอิชจาร์มันอันตรายเกินไป]

[คำสาปของมันก็ยิ่งอันตราย แต่ไม่ใช่ว่านายบอกว่าเจ้านั่นตกไปเป็นสิ่งมีวิตชั้นต่ำงั้นหรอ? ถ้างั้นไม่ใช่ว่าตอนนี้เจ้านั่นมันตายไปแล้วหรอ? นี่มันน่าตกใจจริงๆเลย]

[สิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำธรรมดาๆกลับมีพลังในการทำให้ผู้บัญชาการกองพันตกลงมาสู่ระดับเดียวกับมันได้]

[นี่เป็นสิ่งพวกเรามองไม่ออกเลยจริงๆ]

ผู้บัญชาการกองพันที่ 10 เมโลฮินี่ได้หยักหน้าเห็นด้วย เธอคือผู้บัญชาการเพศหญิงที่หาได้ยาก เธอคนนี้มีขนาดส่วนสูงถึง 20 เมตร และแม้ว่าจะใช้มาตราฐานของมนุษย์ปกติเธอก็ยังเป็นหญิงสาวที่งดงามและมีผิวสีขาวหิมะ

เธอได้พูดเสนอข้อตกลงให้กับเซนูว่า

[ถ้างั้นพวกเราไม่ทำให้เขามาเข้าร่วมกองทัพวิบัติไปเลยล่ะ]

[โอ้ นั่นมันดีเลย]

[อะไรนะ!?]

เซนูว่าได้ตะโกนอย่างตกใจ ยังไงก็ตามผู้บัญชาการกองพันส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ต่างก็เห็รด้วยกับข้อเสนอของเธอ

[คนทั้ฆ่าผู้บัญชาการกองพันเนี้ยนะ!?]

[นั่นแหละเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงต้องพาเขาเข้ามา ไม่ว่าจะด้วยเล่ห์หรืออะไรก็ตาม แต่ความจริงที่เขาได้ฆ่าอิชจาร์ไปก็คือเรื่องจริงใช่ไหมล่ะ? ฉันยิ่งไม่อยากจะคิดพัฒนาการในอนาคตของเขาเลย โอ้ พอพูดแบบนี้แล้วฉันชักอยากเห็นน้าเขาแล้วสิ]

[ใช่แล้ว ฉันก็อยากจะให้น่าเขาเหมือนกัน]

[แต่ว่านะเมโลฮินี่ ขนาดปกติมันไม่ทำให้เธอพอใจหรอกนะ]

[ฟุฟุ เงียบปากไป]

[จะให้คนที่ฆ่าคนของกองทัพปีศาจวิบัติเข้ามาเป็นสมาชิกของเราเนี้ยนะ... ไม่]

เซนูว่าที่ได้ฟังควมเห็นจากผู้บัญชาการคนอื่นๆได้ถอนหายใจออกมาเบาๆ ตต่ว่าเขาก็ยังส่ายหัวและพึมพัมออกมา

[นั่นสิเนอะ? นี่มันคือแนวทางของพวกเรา ดูเหมือนว่าเพราะความสงบสุขหลายปีมานี้จะทำให้ฉันลืมตัวไป]

[ฉันได้ยินมาว่ากองทัพสวรรค์ก็หมายตาเขาเหมือนกัน]

[พวกเราก็แค่บอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกเขา จากนั้นเขาก็จะไม่มีวันเลือกกองทัพสวรรค์แน่ เอาล่ะงั้นก็รีบไปในระหว่างที่เขาอยู่ในดาเรย์ซะ พวกเราจะไปหาที่โลกได้]

[โลกเขา? กองทัพสวรรค์? มีใครอธิบายให้ฉันฟังได้บ้าง]

หญิงสาวทรงเสน่ห์ที่มีปีกค้างคาวอยู่บนหลังที่เป็นผู้บัญชาการกองพันที่ 3 ได้เฮเรียน่าถามออกมา ทำให้ผู้บัญชาการกองพันที่พอจะรู้จักลักษณ์ได้ถ่ายทอดความคิดไปให้คนที่ยังไม่รู้

[โอ้ เป็นชายทีน่าสนใจทีเดียว]

เมื่อได้ยินถึงทุกๆอย่างแล้วทำให้แม้แต่เฮเรียน่าก็ยังเริ่มสนใจในตัวยูอิลฮาน เมโลฮีนี่ที่พอจะเดาบางอย่างได้ก็คำรามออกมา

[เขาเป็นของฉัน]

[หืม เขาจะไม่ชอบฉันมากกว่าหรอ?]

[ฉันไม่สนหรอกนะว่าใครจะเอาเขาไป แต่ว่าสิ่งสำคัญคือต้องพาเขาเข้ามาในกองทัพเขาให้ได้ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม]

[ได้เลย ฉันเชี่ยวชาญในเรื่องนี้เป็นอย่างดี]

เฮเรียน่าได้เลียริมฝีปากของเธอด้วยสายตาที่ทรงเสน่ห์

[ไม่มีชายคนไหนปฏิเสธฉันได้ ถึงเขาจะฆ่ามังกร แต่เขาก็ไม่น่าจะเอาชนะในพลังของราชินีซัคคิวบัสได้]

ยูอิลฮานคือชายที่ปฏิเสธได้แม้แต่ทูตสวรรค์คลาส 6 ที่ได้รับพรจากเทพแห่งความรัก และผู้หญิงที่ได้รับพรจากเทพแห่งความงามเขายังเคยปฏิเสธมาแล้ว แต่ว่าเฮเรียน่านั้นมีความมั่นใจในความสามารถตัวเองมากเกินไป จนไม่สนใจข้อมูลสำคัญนี้

ในวันนี้ได้มีผู้บัญชาการกองพันของกองทัพปีศาจวิบัติอีกคนหนึ่งที่มุ่งหน้าไปที่ดาเรย์

สงครามที่ดาเรย์ได้ถูกยกระดับความสำคัญขึ้นไปอีกแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด