ตอนที่แล้วตอนที่ 14 ความเร็วคือที่สุด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16 ชุดจักรกลและชุดยีน

ตอนที่ 15 ดึงดูดความสนใจ


ในอาคารบ่มเพาะ ภายในห้องเฝ้าระวังขนาดใหญ่ หน้าจอโฮโลแกรมแสดงฉากภายในหอต่อสู้ลวงตา ทุกสิ่งที่นักเรียนทำในนั้นจะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

หัวหน้าอาจารย์(เปลี่ยนจากอาจารย์ใหญ่)ของเฟิง หลินพร้อมกับกลุ่มอาจารย์คนอื่นกำลังรออยู่ที่นี่ ข้างหน้าพวกเขาเป็นชายชราที่ดูทรงอำนาจและพวกเขาต่างก็จ้องมองที่หน้าจอโฮโลแกรม ชายชราคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน

"อื้ม!" จวง จื่อหมิงจากห้อง3นั้นไม่เลวเลย สถานะพลังของเขาคือ 2.5 และถ้าเขายังคงเติบโต เขาจะสามารถเข้าชั้นเรียนที่ดีที่สุดได้ทันทีเมื่อเขาขึ้นไปสู่ชั้นสูงสุดของหอต่อสู้ลวงตา "

หัวหน้าอาจารย์ของห้อง3ยืนอยู่ข้างๆและเห็นด้วยพร้อมหัวเราะลั่น "ภูมิหลังของจวง จื่อหมิงนี้เบื้องหลังธรรมดามาก แต่เขาก็ฝึกหนักมากจนได้ผลลัพธ์เช่นนี้!"

อาจารย์ใหญ่พยักหน้าเห็นด้วย หลังจากนั้นสายตาของเขาก็หันไปมองนักเรียนชายอีกคนที่ปรากฏบนหน้าจอ

"ชาง หยูจากห้อง18เองก็ไม่เบา ด้วยสถานะพลัง2.1ที่อาจต่ำไปเล็กน้อย แต่เขาก็สามารถต่อสู้ได้อย่างน่าทึ่งกับผู้พิทักษ์ในชั้น20!"

อาจารย์คนอื่นก็พยักเห็นด้วยตาม

เหล่าผู้พิทักษ์ในหอต่อสู้ลวงตาถูกจำลองโดยใช้แบบจำลองของผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้จริงๆในประวัติศาสตร์ดวงดาว ฝีมือพวกเขาย่อมไม่ต้องกังขา

ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับนักเรียนเหล่านี้ที่เติบโตขึ้นมาในเรือนกระจกเหมือนโรงเรียน

แม้ว่านักเรียนคนนี้จะมีสถานะพลังที่มากกว่าผู้พิทักษะ0.1 แต่การสามารถสู้ได้ก็ยังถือว่าเขาเหนือกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย

"อืมฟาง หยุนจากห้อง31ไม่เลวเลย ยีนที่เขาปลุกขึ้นมาน่าจะเป็นยีนอุกกาบาตและถือเป็นยีนพื้นฐานระดับสูง ถ้าเขาสามารถหาเส้นทางวิวัฒนาการที่ถูกต้อง เขาจะสามารถวิวัฒนาการมันไปเป็นยีนกลุ่มดาวได้อย่างแน่นอน และมันคงไม่ใช่ความฝันที่ไกลเกินจริงสำหรับเขาที่จะกลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวอย่างแท้จริง " อาจารย์ใหญ่ชื่นชมในขณะที่เขามองดูนักเรียนอีกคน จากนั้นเขาก็หันไปหาชายวัยกลางคนข้างเขา "คุณสอนเขาได้ดี"

"อาจารย์ใหญ่พูดถูก ยีนกลุ่มดาวเป็นยีนที่หายากและทรงพลังอย่างมากในบรรดายีนแรกเริ่ม ถ้าเขาสามารถพัฒนายีนของเขาให้เป็นอย่างนั้นได้ เขาก็จะโชคดีมากๆและอนาคตของเขาจะไร้ขอบเขต"หัวหน้าอาจารย์ของห้อง 31 มีรอยยิ้มปลื้มปริ่มบนใบหน้า

...

ในฐานะอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน เขาได้รับการยกย่องให้เป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวระดับสูง การตัดสินของเขานั้นแม่นยำอย่างมากและความเห็นบางครั้งจากเขาก็ทำให้หัวหน้าอาจารย์คนอื่นพากันปลื้มปิติไม่หยุดหย่อน

หากอัจฉริยะจากห้องเรียนของตนได้รับการกล่าวถึง หัวหน้าอาจารย์เหล่านั้นที่รับผิดชอบพวกเขาทุกคนย่อมได้รับความดีความชอบ

สำหรับอาจารย์ใหญ่หญิงห้อง17 สีหน้าเธอเข้มงวดตลอดด แต่ทว่า กลับมีใบหน้าแปลกๆเล็กน้อยเพราะอาจารย์ใหญ่ไม่แม้แต่จะพูดถึงนักเรียนจากห้องเธอเลย

ห้อง 17 ในกลุ่มทั้งหมดถือว่าตรงค่าเฉลี่ย และไม่ได้มีอัจฉริยะมากมายเหมือนห้องอื่น จ้างไคเป็นนักเรียนคนเดียวที่มีสถานะเกิน2.0

เขาอาจเป็นอัจฉริยะในห้องเรียน17 แต่ดูเหมือนว่าค่าเฉลี่ยเขาจะมสูงนักต่อทั้งโรงเรียน

อย่างไรก็ตาม จ้าว ไคคนนี้มีชื่อเสียงด้านการต่อสู้ไม่เก่ง เขาที่มีพลัง2.2จริงๆแล้วกลับยังติดอยู่ที่ชั้น18 เขามีพลังมากกว่าคู่ต่อสู่ถึง0.4 แต่การต่อสู้ก็ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขา มันช่างน่าสมเพชจนแทบทนดูไม่ได้

เธอกัดฟันและรู้สึกไม่พอใจต่อความจริงที่ว่าจ้าว ไคไม่สามารถทำตามที่เธอคาดหวังเอาไว้ได้

คนที่มีอาชีพเดียวกันมักจะแข่งขันกันเสมอ หัวหน้าอาจารย์อีกคนสังเกตเห็นสถานการณ์และทุกคนต่างก็เหลียวมองเธอด้วยรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้มจริงใจ มันทำให้เธอรู้สึกโกรธเคืองมากขึ้น

"นักศึกษาชั้นปีที่สามที่ชื่อเฟิง หลินได้เอาชนะการต่อสู้ข้ามระดับ!" ในขณะนี้เสียงหุ่นยนต์ก็ดังออกมาเตือนทุกคน

"อะไร?อัจฉริยะที่สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ปรากฏขึ้น?"

"ใคร?เขาคือใคร?อัจฉริยะนี้มาจากห้องไหน?"

“เขาสามารถเอาชนะผู้พิทักษ์ในระดับเดียวกับเขาได้ นักเรียนคนนี้ถือว่ามีพรสวรรค์ที่ท้าทายสวรรค์!”

... ...

เสียงอุทานดังออกมา

ชื่อของอัจฉริยะที่สามารถต่อสู้ข้ามขั้นได้ปรากฏขึ้นมาทันที ความโกลาหลครั้งใหญ่คือสิ่งตามมา ครูเหล่านี้พบว่ามันยากมากที่จะเก็บซ่อนความประหลาดใจ

การต่อสู้ข้ามขั้น? มัรจะเป็นไปได้อย่างไร

ผู้พิทักษ์ไม่ใช่คนธรรมดา พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในระดับสูงสุดของแต่ละสาย ใครจะมีความกล้าหาญในการต่อสู้เช่นนั้น แต่นักเรียนคนหนึ่งกลับชนะพวกเขาได้แถมยังเป็นการต่อสู้ข้ามระดับ?

คนที่สามารถทำเช่นนั้นได้อาจถือได้ว่าเป็นสัตว์ประหลาด เขาหรือเธอมาจากห้องไหน?

อาจเป็นคนจากห้อง3 ที่เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความเร็วและการบ่มเพาะที่รวดเร็ว?หรือเป็นคนจากห้อง18ที่เป็นที่รู้จักด้านความกล้าหาญในการควบคุมการต่อสู้ ... ?

ทุกคนมีชื่อในใจและความคิดเห็นที่ต่างกัน

ชื่อหนึ่งพลันกระพริบบนหน้าจอ - เฟิง หลิน

อย่างไรก็ตามหัวหน้าอาจารย์ทุกคนกลับมีสีหน้าว่างเปล่าเพราะพวกเขาจำไม่ได้ว่ามีอัจฉริยะคนนี้ในชั้นเรียนด้วย

สัตว์ประหลาดตนนี้มาจากไหน ชั่วระยะเวลาหนึ่งลักษณะของเฟิง หลินทำให้หลายคนรู้สึกอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก

อาจารย์ใหญ่หญิงจากห้อง 17 พูดพึมพำกับตัวเองว่า "เป็นเขาใช่ไหมนะ" ด้วยเหตุผลบางอย่างเฟิง หลินพลันปรากฏตัวในความคิดของเธอ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ควรเป็นไปไม่ได้ สถานะพลังของเขาเพิ่งทะลวงขึ้นมาได้ไม่นาน ความหาญกล้าในการต่อสู้เขาจะมาจากไหนได้?

เราต้องรู้ว่านักเรียนทุกคนเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นดอกไม้ในเรือนกระจก ความกล้าหาญในการต่อสู้ของพวกเขาไม่ควรตรงกับสถานะพลัง ทุกคนจะสามารถต่อสู้ข้ามระดับกับผู้พิทักษ์หอต่อสู้ลวงตาได้อย่างไร?

หัวหน้าอาจารย์หญิงห้อง17ขมวดคิ้ว มีคนชื่อเฟิงหลินในห้องอื่นอีกไหม

อาจารย์ใหญ่หัวเราะ"ดูเหมือนจะมีอัจฉริยะปรากฏตัวในโรงเรียนของฉัน ฉันขอดูหน่อยว่าเขาเป็นใคร"

สำหรับอาจารย์ใหญ่ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่โรงเรียนของเขาจะมีคนที่มีความสามารถพิเศษ และเขาก็มีความสุขที่รู้เรื่องนี้

เขาเปิดใช้งานสิทธิ์ของเขาในฐานะอาจารย์ใหญ่และสั่งอุปกรณ์ตรวจสอบเพื่อซูมเข้าไปถึงนักเรียนคนนั้น

เมื่อเห็นนักเรียน หัวหน้าอาจารย์ประจำชั้น17ก็ประหลาดใจ "มันเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ!

"เอ๊ะ?คุณรู้จักนักเรียนคนนี้งั้นหรอ?"ครูคนอื่นๆมองดูอย่างสงสัย

หัวหน้าอาจารย์หญิงมีสีหน้าประหลาดใจ อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเธอก็กลับมาสงบและยิ้มให้อาจารย์คนอื่นๆ แต่เธอก็ไม่สามารถระงับความสุขที่ปรากฎในสายตาของเธอได้"เขาไม่ใช่ใครนอกจากนักเรียนอันดับสองเฟิง หลินในชั้นเรียนของฉัน"

"อ่า เขามาจากชั้นเรียนของคุณเหรอ?" คนอื่นเหลือบตามองและแสดงออกถึงความสนใจ

ใครจะคิดว่าห้องธรรมดาอย่างห้องที่17จะสร้างอัจฉริยะที่สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ หากไม่ได้เห็นฉากนี้กับตาพวกเขาคงจะไม่เชื่อ

ต่อหน้าผู้คนมากมาย หัวหน้าอาจารย์หญิงย่อมไม่หลอกตัวเอง เธอระงับความประหลาดใจของเธอและยิ้ม ในขณะที่ลอบสงสัยว่าเฟิงหลินทำได้ยังไง

หัวหน้าอาจารย์คนอื่นหันความสนใจกลับไปที่หน้าจอ อัจฉริยะที่เพิ่งเกิดใหม่นี้ได้ดึงความสนใจทั้งหมดของพวกเขาไป

"สถานะพลังเขาอยู่ที่1.5เท่านั้น แต่เขาสามารถผ่านชั้น16ได้ มันเป็นเรื่องจริงที่ว่าเขาได้สู้ข้ามระดับ แต่สถานะพลังของเขาต่ำเกินไป!" เมื่อเห็นการต่อสู้ของเฟิง หลิน ดวงตาของอาจารย์ใหญ่ก็ส่องแสงประกาย อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเขาก็ถอนหายใจด้วยความเศร้า

ครูคนอื่นๆต่างเริ่มหัวเราะอาจารย์หญิงห้อง17

“เขามีพลังชีวิตต่ำมาก ดูเหมือนว่าเขาจะทุ่มความพยายามทั้งหมดกับวิชายุทธ์เขา!”

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีทางที่จะขึ้นไปถึงยอดหอได้และย่อมไม่สามารถเข้าชั้นเรียนผู้มีพรสวรรค์ได้

“ ช่างน่าเสียดายจริงๆ ถ้าเขาตั้งใจอย่างเต็มที่ในการบ่มเพาะ เขาอาจจะกลายเป็นอัจฉริยะจริงๆ น่าเศร้าที่ไม่มีใครชี้นำและเขาก็เสียเวลาไปในเส้นทางที่ผิด

...

เดิมเขาเป็นอัจฉริยะ แต่ได้ลงมือในเส้นทางที่ผิดแล้ว มันทำให้หัวหน้าครูคนอื่นๆถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่านักเรียนคนนี้จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อนักเรียนในชั้นเรียนของตนเอง

หัวหน้าอาจารย์หญิงลอบขบฟัน

ในขณะเอง อาจารย์ใหญ่ก็พบบันทึกวิดิโอและดูมัน

"อะไรกัน?เขาไม่เคยเข้าหอต่อสู้ลวงตามาก่อนและเริ่มจากชั้นแรก"

"ช่างเป็นความก้าวหน้าที่รวดเร็วมาก!"

“เขายังคงเฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของผู้พิทักษ์อยู่?มีอะไรให้สังเกตอีก?เขาไม่ได้เรียนศิลปะการต่อสู้พื้นฐานมาก่อนหน้านี้เหรอ?”

...

ในฐานะอาจารย์ใหญ่ การตัดสินของเขานั้นถูกต้องตามธรรมชาติและสามารถบอกสถานการณ์ของเฟิง หลินได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาทั้งหมดต่างก็ตกใจ

อาจารย์ใหญ่ถอนหายใจอีกครั้ง เขาได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดาย

"ชายหนุ่มคนนี้ไม่เคยเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ใดๆมาก่อน ศิลปะการต่อสู้ที่เขาใช้ในระดับแรกนั้นไม่ได้มีอะไรอื่นนอกจากหมัดทหาร มันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สอนฟรีในโรงเรียน อย่างไรก็ตามในชั้นต่อมา เขาก็โจมตีโดยใช้ศิลปะการต่อสู้โบราณที่ใช้โดยผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ของหอต่อสู้ลวงตา เขาเรียนรู้ได้ทันทีและยังสามารถใช้งานได้อย่างอิสระตามที่เขาต้องการ ความสามารถตอนแรกมันทำให้เขายากจะต่อสู้ได้ แต่เขาก็ผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆ หากฉันเดาไม่ผิด ฉันคิดว่าเขาได้ปลุกหัวใจยุทธ์ขึ้นมาแล้ว เขาเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริงในด้านวิชายุทธ์ หากเราพบเขาแต่แรก เราย่อมทำให้เขาเติบใหญ่ได้ และเขาอาจกลายเป็นอัจฉริยะระดับสัตว์ประหลาดและแม้กระทั่งมีคุณสมบัติเข้าวิทยาลัยดวงดาว!”

อาจารย์ใหญ่ส่ายหัว มันช่างน่าเสียดายจริงๆ

"อะไร?อาจารย์ใหญ่ประเมินเขาสูงขนาดนี้เลย?" หัวหน้าอาจารย์บางคนเริ่มกลัว

การประเมินของอาจารย์ใหญ่สูงแค่ไหน?เราต่างก็รู้ว่าอัจฉริยะสูงสุดในห้องเรียนอื่นได้รับการประเมินสูงกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย แต่ตอนนี้อาจารย์ใหญ่กลับบอกว่าจริงๆแล้วเฟิง หลินคนนี้จะกลายเป็นอัจฉริยะระดับสัตว์ประหลาด?

หากเฟิง หลินยังคงเติบโต เขาจะไม่กลายเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่สำหรับนักเรียนทุกห้องงั้นหรอ?

หัวหน้าอาจารย์เหล่านี้ล้วนตกใจ แต่ไม่นานพวกเขาก็ถอนหายใจโล่งอกเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นว่าสถานะพลังของเฟิง หลินอยู่ที่1.5

"ช่างน่าเสียดายทุกอย่างมันสายเกินไป"

“สำหรับพลังชีวิตที่เพิ่มขึ้นทุกจุด มันถือว่าเป็นด่านใหญ่ ไม่ว่าจะยังไง การสอบวิทยาลัยกำลังจะเริ่มแล้ว เขาคงไม่มีเวลาเพิ่มค่าสถานะเขาอีก”

"ถูกต้อง ถ้าไม่อย่างนั้นจะต้องมีอัจฉริยะปรากฏในห้อง17แน่"

... ...

ทุกคนถอนหายใจให้ดูเหมือนเสียดาย แต่จริงๆทุกคนต่างก็ดีใจ

มันสายเกินไปสำหรับเฟิง หลิน เขาไม่มีเวลามากพอที่จะเติบโต

พวกเขาตัดสินให้เฟิง หลินตายไปแล้วในใจของพวกเขา

หัวหน้าอาจารย์หญิงรู้สึกหงุดหงิด หากเธอค้นพบศักยภาพของเฟิง หลินก่อนหน้านี้ เขาอาจจะ ... แต่น่าเศร้าที่ทุกอย่างก็สายเกินไป เฮ้อ ...

"หัวหน้าอาจารย์ประจำห้อง17 ห้องของคุณมีอัจฉริยะอยู่ แต่ทำไมคุณไม่ดูแลเขาให้ดี"อาจารย์ใหญ่ส่ายหัว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความอับอาย

ครูคนอื่นเหลือบมองด้วยความดีใจในความโชคร้ายของครูคนอื่น

"อาจารย์ใหญ่ ฉันไม่ทราบมาก่อนเช่นกัน ชื่อของเขาคือเฟิง หลินและก่อนการทดสอบ สถานะพลังของเขามักจะอยู่ที่0.4 เขาเป็นเพียงนักเรียนธรรมดาในตอนนั้น ฉันไม่รู้เลยว่าทำไมเขาถึงมาได้ไกลขนาดนี้ เขามีศักยภาพมากเลยค่ะ" หัวหน้าอาจารย์หญิงก็งงมากเช่นกัน

"อะไรนะ?คุณล้อเล่นงั้นรึ?"

"อย่ามาโกหก ก่อนหน้านี้0.4 แต่ตอนนี้1.5? คุณคิดว่าคุณกำลังพูดอยู่กับใคร?"

"การพัฒนาของเขาจะเร็วขนาดนั้นได้อย่างไร?เว้นแต่ว่าเขาจะเป็นสุดยอดผู้บ่มเพาะที่หลอมรวมพลังของเขาเข้าด้วยกันเพื่อปลุกศักยภาพขึ้น อัตราการพัฒนาเช่นนั้นมันเป็นไปไม่ได้ แต่ทว่า เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ หรือเขาได้เลื่อนพลังมาแต่แรกแล้ว หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาอาจมีสิทธิ์สำหรับวิทยาลัยดวงดาว”

...

ครูที่อยู่รอบข้างไม่มีใครเชื่อเธอเลย

"มันเป็นเรื่องจริง" อาจารย์ใหญ่พูดอย่างใจเย็น เขาได้ตรวจสอบผ่านบันทึกที่ผ่านมาของเฟิง หลิน

ในฐานะนักเรียน การทดสอบทุกครั้งของพวกเขาจะถูกบันทึกไว้ในระบบของโรงเรียน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหัวหน้าอาจารย์หญิงนั้นพูดจริง

นี่เป็นเรื่องจริง! ทุกคนรู้สึกตกใจมาก

ความสงสัยของพวกเขาก่อนหน้านี้หายไปหมดแล้ว เฟิง หลินสามารถยกระดับพลังของเขาได้อย่างรวดเร็วและมีความกล้าหาญในการต่อสู้ที่โดดเด่นเช่นนี้ หากเขายังคงเติบโตไปเรื่อยๆ บางทีเขาอาจจะเป็นคุกคามในไม่ช้า

อย่างไรก็ตามเวลามันน้อยเกินไป เขาคงไม่สามารถไปอยู่ชั้นเรียนผู้มีพรสวรรค์ได้หรอก

น่าจะเป็นไปไม่ได้หรือบางทีอาจมีโอกาส ... ?

ดวงตาของอาจารย์ใหญ่เริ่มสดใสขึ้นอีกครั้งเมื่อนึกถึงเฟิง หลิน หัวหน้าอาจารย์หญิงบิดเอวและรีบพูด อยากรับเอาเครดิต“หากฉันติดสินใจไม่ผิด เฟิงหลินควรถือเป็นนักเรียนประเภทระเบิด ด้วยแรงกดดันของการสอบ ศักยภาพเขาจึงระเบิดขึ้น ฉันขอแนะนำให้โรงเรียนดูแลเขา!”

"ฉันไม่เห็นด้วยสถิติพลังของเขาต่ำเกินไปเขาไม่มีค่าพอที่จะได้รับการดูแล!"

"เวลามีจำกัดเกินไปเขาไม่สามารถทำได้"

“ถูกต้องแล้วหลังจารข้ามขั้นนี้ศักยภาพของเขาอาจถึงขีดจำกัดแล้ว เราต้องไม่ทำให้ทรัพยากรของโรงเรียนสิ้นเปลือง!”

...

ทรัพยากรของโรงเรียนมีจำกัดถ้ามอบให้กับเขาก็หมายความว่านักเรียนคนอื่น ๆ จะไม่สามารถได้รับการดูแลที่ดี

จากที่น้อยอยู่แล้วจะยิ่งน้อยลงไปอีกครูทุกคนต่างไม่เห็นด้วยอย่างมาก หลายคนกลัวว่าอัจฉริยะระดับสัตว์ประหลาดจะเกิดขึ้นจริง และจะต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากไปกับการบ่มเพาะเขา

หากเป็นเช่นนั้นอัจฉริยะในห้องเรียนของตนจะไม่ได้รับความสนใจใดๆเลย

ในใจพวกเขาถือว่าเฟิง หลินเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการแข่งขันด้านทรัพยากรกับนักเรียนของพวกเขา

เมื่อเห็นคนเหล่านี้รวมตัวกันคัดค้าน อาจารย์หญิงก็เข้าใจเจตนาของพวกเขาในทันที เธอรู้สึกโกรธมากและตะโกนออกมาว่า"คุณรู้ได้อย่างไรว่าศักยภาพของเฟิง หลินจะไม่ระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง"

"คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าศักยภาพของเขายังไม่หมดไป สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียว มันเป็นไปไม่ได้ที่ปาฏิหาริย์จะปรากฏขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง!"

“ถูกต้องเขาก็แค่คนโชคดี”

"จากข้อมูลที่พวกเขามีเฟิง หลินเป็นคนที่ธรรมดามาก หากไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะรักษาอัตราการเติบโต เขาจะมีศักยภาพได้มากแค่ไหนกัน"

....

ครูคนอื่น ๆ ล้วนคัดค้านในเวลาเดียวกัน

“พวกคุณ…” อาจารย์หญิงแทบระเบิดและพร้อมที่จะพูดถากถางกลับคืน

เมื่อเห็นว่าการถกเถียงกันระหว่างหัวหน้าครูนั้นเลวร้ายที่สุด อาจารย์ใหญ่ก็ก้าวเข้ามาและพูดว่า"พอ หยุดเถียงกันได้แล้ว นักเรียนคนนี้ถือเป็นอัจฉริยะอย่างไม่ต้องสงสัย มันแค่ว่าพลังเขาต่ำไปเล็กน้อย"

เขาตัดสินใจ"อย่าบอกอะไรกับเขา เรามาดูสิ่งที่เขาทำในอนาคตกันก่อนที่เราจะตัดสินใจ ถ้าศักยภาพของเขายังคงระเบิดอีกครั้ง เราจะถือว่าเขาเป็นผู้สมัครที่มีสิทธิ์เข้าสอบวิทยาลัยและเราจะดูแลเขาอย่างดี!"

เมื่ออาจารย์ใหญ่พูดออกมาอย่างนี้ คนอื่นๆก็ไม่สามารถทำอะไรได้

แต่ไม่ว่าจะยังไง ในเมื่อสัตว์ประหลาดน้อยนี้ยังไม่ได้รับผลประโยชน์อะไร จุดประสงค์พวกเขาก็ถือว่าบรรลุ หัวหน้าอาจารย์คนอื่นลอบยิ้มกัน

อย่างไรก็ตามครูจากห้อง17ต่างพากันกัดฟันตัวเองจนเกือบจะแตก

เฟิง หลินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ได้คาดหวังว่าการพัฒนาอย่างฉับพลันของเขาจะทำให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมากในหมู่อาจารย์

ในตอนนี้ เขามุ่งความสนใจไปกับการสังเกตคู่ต่อสู้ในชั้นต่อไป

เมื่อได้ยินเสียงของปืน เขาก็มาอยู่ในสนามรบนองเลือดสมัยดวงดาว

ร่างมนุษย์ในชุดเกราะโลหะยืนอยู่ในสนาม กระสุนกระจายไปทุกหนทุกแห่งเมื่อเสียงปืนดังขึ้น มีกลิ่นเหม็นเปื้อนเลือดแทรกซึมอยู่ในชั้นบรรยากาศและมองเห็นซากศพที่เกลื่อนพื้น

เขายืนอยู่ที่นั่นโดยไม่ขยับเขยื้อน เปล่งกลิ่นอายแห่งสงคราม

ด้วยความประหลาดใจเฟิง หลินค้นพบว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวในชุดจักรกล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด