ตอนที่แล้วบทที่ 229 - ฉันไปด้วย (5) [10-11-2019]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 231 - ฉันไปด้วย (7) [14-11-2019]

บทที่ 230 - ฉันไปด้วย (6) [12-11-2019]


บทที่ 230 - ฉันไปด้วย (6)”

โซ่วิญญาณและเพลิงที่ยูอิลฮานสร้างขึ้นมาได้ไปรัดสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเอาไว้ สมาชิกของกองทัพปีศาจแห่งการทำลายที่เหลือรอดอยู่ทั้งสองคน หนึ่งเป็นสัตว์ขนาดยักษ์และอีกหนึ่งเป็นรูปร่างมนุษย์ แต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่พวกมันเหมือนกันเลยก็คือพวกมันไม่อาจจะสลัดหลุดไปจากโซ่นี้ได้ โซ่นี้ได้เชื่อมต่อเข้ากับยูอิลฮาน และตราบใดที่ยูอิลฮานไม่ตัดการเชื่อมต่อกับโซ่นี้ โซ่พวกนี้ก็จะไม่มีวันถูกทำลาย

แน่นนว่ามันยังมีวิธีหลุดออกไปจากโซ่อยู่่นั่นก็คืออยู่ในระดับที่สูงกว่ายูอิลฮานมากจนเมินเฉยต่อข้อจำกัดได้ แต่ว่าสำหรับสองคนตรงหน้าเขานี้ยังไม่ได้อยู่ในระดับนั้น

"เลียร่า เธอจัดการไปคนนึงนะ"

"ไม่ล่ะ ปล่อยให้มิลจัดการดีกว่า มิลยังเลเวลต่ำอยู่เลย"

ระหว่างที่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงถูกมัดอยู่ต่อหน้า สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำทั้งสองคนก็คุยเล่นกันอยู่ นี่มันน่าขำมากๆ ฉากๆนี้มันเหมือนกับคู่รักที่กำลังเกี่ยงกันว่าใครจะเป็นคนกินเนื้อชิ้นสุดท้ายในมื้อเย็น แต่แล้วก็จบลงด้วยการมอบให้ลูกๆของพวกเขา

"โอเค ถ้างั้นไปจัดการเลยมิล"

"ตามนั้นแหละ"

ในท้ายที่สุดเลียร่าก็กลับไปที่ป้อมปราการลอยฟ้าโดยไม่สนใจในสิ่งมีชีวิตชั้นสูงทั้งสองตัวเลย สิ่งนี้ได้ทำให้ศักดิ์ศรีในความเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงของทั้งสองคนนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆ

[โอหัง...!]

[อ๊าาาาาาาา!]

ถึงแม้ว่าพวกมันจะถูกยูอิลฮานมัดเอาไว้อยู่ และกลายเป็นแค่ 'ชิ้นเนื้อ' แต่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงคือจ้าวแห่งโลกใบนี้นะ ยังไงก็ตามกับแค่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำสองคนกลับมาทำตัวตามสบายต่อหน้าเขา!

[ฉันจะฆ่าแก!]

[ฉันจะทำให้ผู้หญิงของแก่กลายมาเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง!]

ปีศาจสัตว์ได้รวบรวมพลังทำลายเอาไว้ภายในสองมือของมัน ในขณะที่ปีศาจรูปร่างมนุษย์ได้สร้างลูกแก้วน้ำแข็งขึ้นมารอบตัว! สมแล้วกับการที่มันเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงการทำแบบนี้มันใช้เวลาไม่ถึงสองวินาทีด้วยซ้ำไป

ปีศาจทั้งสองได้โจมตีพร้อมๆกัน ยังไงก็ตามมันก็ไม่ได้เกิดเป็นฉากที่เลียร่ากลายเป็นน้ำแข็งอย่างที่มันต้องการเลยสักนิด ในตอนที่มันได้รวมมานามา ยูอิลฮานก็เรียกโล่เอจิสทั้งห้าออกมารับการโจมตีของพวกมันแล้ว

[อะไร...]

[โล่นั่น!?]

หลังจากที่เอจิสได้ถูกขนปีกของเทวดาตกสวรรค์มาอัพเกรดทำให้ในตอนนี้มันมีความสามารถในการดูดเอามานามาเสริมพลังตัวเองได้แล้ว ดังนั้นโล่นี้จึงถูกใช้สะท้อนการโจมตีด้วยมานาของพวกนั้นกลับไป

[ติดคริติคอล!]

[อั๊ก!?]

"เยี่ยม ผลลัพธ์ดีกว่าที่คิดไว้อีก"

และโล่นี้จะกลายเป็นโล่ที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเขาได้รับวัตถุดิบของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเข้ามาเสริมพลังให้กับโล่ ยูอิลฮานพอใจกับประสิทธิภาพจากเอจิสมาก จากนั้นเขาก็ได้ใช้ปีกเสรียกเพรียกแห่งการล่มสลายยิงคลื่นกระแทกพุ่งตัวออกไป

ในตอนนี้ที่เขาเชี่ยวชาญในสกิลกระโดด และสกิลชั้นสูงอย่างข้ามมิติก็กำลังพัฒนาขึ้นทุกวันทำให้ยูอิลฮานสามารถใช้การกระโดดสามสี่ครั้งติดต่อกันได้ด้วยการขยับเพียงครั้งเดียว แม้ว่ามันจะดูเหมือนเขาทีบตัวพุ่งออกไปแบบปกติ แต่ในเวลาต่อมาตัวเขาก็ได้ไปข้างหน้ากว่าร้อยเมตรไปแล้ว! นี่มันไม่ต่างกับการเทเลพอตมากนักเลย

"ฮึ่ม"

เอจิสได้ลอยตามไปพร้อมๆกับการเคลื่อนไหวของยูอิลฮานเช่นกัน พร้อมกันนี้ก็ไดมีเปลวเพลิงได้รวมตัวกันอยู่ในจุดกลางของปลายหอก คนที่ยูอิลฮานเล็งอยู่ในตอนนี้คือคนที่ใช้น้ำแข็ง ยูอิลฮานกำลังคิดที่จะพุ่งเข้าไปทำลายน้ำแข็งนั่น

[หืมม แกคิดจะใช้ไฟละลายฉันงั้นหรอ?]

เจ้าหมอนี่กังวลก็แค่กับการที่ยูอิลฮานใช้การยิงลำแสงจากระยะไกลเท่านั้น แต่ว่าพอยูอิลฮานเข้ามาใกล้ทำให้มันหัวเราะออกมาอย่างโล่งใจ

[ถ้าคิดแบบนั้นก็เข้ามาเลย]

"หืมมม แน่สิ"

เจ้านี่คิดว่าเหตุผลที่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงทั้งสามที่ตายไปนั้นก็แค่เพราะว่าถูกลอบโจมตีเท่านั้น มันไม่มีทางที่จะสิ่งมีชีวิตจะถูกฆ่าตายโดยที่ไม่ทำอะไรได้ในพริบตาเดียวอยู่แล้วนี่? แต่ในตอนนี้คนที่ถนัดลอบโจมนี้นั่นกลับพุ่งเข้ามาสู้ซึ่งๆหน้า

เป็นพวกโอหังที่อยากจะตายสินะ ไม่รู้ที่ที่ควรอยู่งั้นสิ? ไม่มีสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำคนไหนจะเทียบกับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้แน่นอน เจ้านี่ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน!

[นี่คือน้ำแข็งแห่งคาลทาร์ วีรชนแห่งที่ราบเยือกแข็ง ฉันจะทำให้แกรู้ว่าแกคิดผิด!]

"พูดตรงๆเลยนะ หยุดพูดเหมือนตัวโกงได้ไหม?"

[ตัวโกง?]

ในตอนนี้เพลิงจำนวนมหาศาลได้มารวมกันอยู่ที่ปลายหอกของเขา มันรวมกันจนถึงจุดที่น่าแปลกใจากที่ทำไมหอกถึงยังไม่เป็นอะไร เพลิงได้เปลื่ยนไปเป็นสีโปร่งแสงแล้ว นี่เป็นเหตุผลแรกที่ทำให้ยูอิลฮานได้ตัดสินใจที่จะใช้เพลิงของเขาจัดการกับสิ่งมีชีวิตชั้นสูง

ในเวลาเดียวกันสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่เผชิญน้ากับเขาอยู่ก็ยังคิดว่าบางทีนี่อาจจะอันตรายเล็กๆ สิ่งมีชีวิตชั้นสูงอีกคนหนึ่งได้โจมตีสนับสนุนเข้ามาในทันที แต่แล้วการโจมตีนั้นก็ถูกเอจิสของยูอิลฮานขัดเอาไว้

"แต่ถึงแบบนั้นฉันก็ไม่สนหรอกนะว่าแกจะพูดอะไร...."

ในตอนนี้เองได้มีเสียงดังสนั่นดังขึ้นมา ยูอิลฮานได้เปิดใช้เทวะกำลังเสริมพลังสร้างเนื้อของเขาและใส่พละกำลังนี้มหาศาลนี้เข้าไปภายในหอกมังกรแปดหาง นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ยูอิลฮานเข้ามาสู้กับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงตรงๆ

[อั๊ก!?]

ยูอิลฮานได้ใช้การกระโดดต่อเนื่องมาปรากฏตัวอยู่หน้าเจ้าน่ารำคาญในทันที และแทงหอกของเขาออกไป

[ติดคริติคอล!]

เจ้านี่ได้พยายามรวมพลังเยือกแข็งจากร่างกายมาสร้างเป็นดาบน้ำแข็งนับร้อยโจมตียูอิลฮาน แต่ว่าต่อหน้าเพลิงโปร่งแสง ดาบน้ำแข็งทั้งหมดต่างถูกละลายลงไป ในแง่คุณสมบัติธาตุแล้วชายคนที่ประกายตัวเองเป็นวีรชนแห่งที่ราบเยือกแข็งได้แพ้อย่างสิ้นเชิง เขาได้เบิกตากว้างออกมา

[แกทำลายน้ำแข็งของฉัน... อั๊ก!?]

[ติดคริติคอล!]

[ติดคริติคอล!]

[ติดคริ...]

แต่ปัญหาที่มากกว่านั้นเลยก็คือการโจมตีที่เขานั้นต้องใช้พลังทั้งหมดมาป้องกันยังมีขึ้นมาอีกเก้าครั้ง นี่เป็นการโจมตีที่ไร้เสียง ไร้รูปร่าง

เขาไม่อาจจะทนต่อการโจมตีนี้ได้เลยในเมื่อเขาได้ถูกสกิลการร่วงหล่นลดระดับลงมา

[อ๊าาา!?]

"ก่อนหน้านี้แกก็เพิ่งจะเห็นไปนี่?"

[อย่าบอกนะว่านี่คือศิลปะการต่อสู้ทีแม้กระทั่งในหมู่เทคนิคขั้นสูง...!? มันไม่อาจจะหลบได้...]

นี่เป็นคำพูดสุดท้ายแล้ว การโจมตีที่ต่อเนื่องของยูอิลฮานได้ตัดเส้นวงจรมานาทั้งหมดออกและทำให้มานาปั่นป่วนจนทำให้ร่างทั้งร่างแข็งไป ในที่สุดแล้วเขานั้นก็รู้ว่าเป็นเขาเองที่โอหัง

[คุณได้รับค่าประสบการณ์]

[คุณได้เพิ่มเลเวลเป็น 275 พละกำลังเพิ่มขึ้น 2 ความคล่องแคล่วเพิ่มขึ้น 1 พลังชีวิตเพิ่มขึ้น 1 พลังเวทย์เพิ่มขึ้น 1]

[คุณได้รับบันทึก คาลทาร์ เลเวล 319]

[สกิลหอกไร้วิถีได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็นเลเวล 95]

[สกิลเทวะกำลังได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็นเลเวล 3]

เหตุผลที่สามที่ต่อให้เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงแล้วเขาไม่ถอยก็เพราะหอกไร้วิถีของเขาได้อยู่ในระดับที่สูงมากๆแล้วแม้กระทั่งในหมู่เทคนิคขั้นสูงด้วยกันเอง เพราะสกิลนี้มาจากการฝึกนับพันปีของเขา

ต่อให้สองเหตุผลแรกจะมีพลังไม่เพียงพอ แต่สกิลหอกไร้วิถีนี้ของเขาก็มีพลังมากพอที่จะพลิกการต่อสู้ได้

[ใช่ เราเอาชนะแกไม่ได้]

ปีศาจสัตว์ได้มองไปที่พรรคพวกที่แข็งแกร่งที่พยายามดิ้นรนเอาตัวรอดแล้วแต่กลับแพ้ ในจุดนี้เลียร่าก็ได้กลับมาพร้อมกับยูมิลแล้วด้วย มันได้รู้ว่ายูมิลเป็นมังกรและหัวเราะออกมา

[ฉันรู้ว่าแกไม่ธรรมดา แต่การที่แกมีมังกรนี่ งั้นแกเป็นนักขี่มังกรสินะ]

ยูอิลฮานได้หันไปหายูมิลโดยไม่สนใจคำพูดของมันเลย

"มิล ถึงค่าประสบการณ์จะลดลงจากการที่พอมัดมันเอาไว้ แต่ว่าลูกปิดฉากมันได้เลย"

"อ่า ผมอยากจะแกร่งขึ้นด้วยพลังของผม..."

"แต่ว่าลูกก็ยังอ่อนแออยู่ ดังนั้นลูกต้องรีบแกร่งขึ้นใช่ไหมล่ะ?"

"ครับ!"

ยูมิลได้เปลื่ยนให้ลมหายใจแห่งทองยาวและแหลมคมขึ้น มานาของเขาได้ถูกบีบอัดในจุดๆเดียวและกลายมาเป็นเกรียวสว่านหมุนอยู่

ยังไงก็ตามขณะที่ยูอิลฮานกำลังคิดว่ายูมิลได้เรียนเวทย์ลมมาเป็นอย่างนี้นี้ ศัตรูของเขาก็พูดออกมาอีกครั้ง ดูเหมือนว่ามันจะยังพูดไม่หมด

[ในตอนนี้แกคงจะรู้สึกมั่นใจมากสินะ แกคงจะมัวเมาไปกับการที่เอาชนะสิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้สินะ แต่ยังไงก็ตามนอกจากฉันแล้วก็ยังมีพรรคพวกคลาส 5 อีกนับไม่ถ้วน มีกระทั่งคลาส 6 อีกด้วย สงครามของโลกชั้นสูงเพียงจะเริ่มขึ้นเท่านั้น กองทัพสวรรค์กับกองทัพจรัสแสง เจ้าพวกสารเลวหยิ่งยโสนั่นก็ยังไม่ต้อนรับคนแบบแกเหมือนกัน... คนแบบแกที่เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำจะต้านทานไหวงั้นหรอ?]

"หืม"

ยูอิลฮานพูดออกมา

"จุดอ่อนของเจ้านี่มันอยู่ใต้เอวนะ โจมตีไปตรงนั้นเลยมิล"

"เข้าใจแล้วครับ"

[อ๊ากกกกกกกก!]

[คุณได้รับค่าประสบการณ์]

เสียงร้องสุดท้ายนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ยูิลฮานรู้สึกดีมาก มันดูเหมือนว่าเขาจะได้รับประสบการณ์มามากกว่า 50% ซะอีกจากผลงานที่เขาทำไป แต่ว่ายูมิลที่เป็นคนปิดฉากก็ยังยินดีกับการที่เลเวลอัพหลายต่อหลายครั้งเช่นกัน

"ที่นี่มันเป็นสวรรค์ค่าประสบการณ์จริงๆเลยครับพ่อ!"

"พ่อก็บอกแล้วนี่นา"

"..."

ยูอิลฮานได้เก็บร่างของพวกสิ่งมีชีวิตชั้นสูงกลับมาและยกเลิกสกิลการร่วงหล่น หลังจากนั้นแล้วเขาก็ตรวจสอบดูศัตรูรอบๆ แต่แล้วเลียร่ามองมาที่เขาด้วยสายตาเป็นกังวล

"อิลฮาน ฉันไม่คิดว่าเจ้าหมอนั่นจะพูดผิดหรอกนะ... นายจะไม่เป็นอะไรจริงๆน่ะหรอ? ฉันน่ะเคยเห็นสิ่งมีชีวิตคลาส 5 ปะทะกันนับร้อยในโลกชั้นสูงเลยนะ"

"หลังจากการต่อสู้นี้ฉันค่อนข้างจะมั่นใจ ต่อให้สู้กับสิ่งมีชีวิตคลาส 6 ห้าคน ฉันก็ไม่เป็นไรหากยังอยู่ในพื้นที่ของสกิลการร่วงหล่น สกิลนี้มันไม่ใช่แค่เพิ่มพลังของฉันเท่านั้น แต่มันยังทำให้ศัตรูอ่อนแอลงอีกด้วย ด้วยตัวฉัน มิล และป้อมปราการลอยฟ้า ฉันสามารถจะรับมือมันห้าคนได้ในครั้งเดียว"

ยูอิลฮานได้ตอบกลับไป สิ่งมีชีวิตชั้นสูงคลาส 6 ห้าคน ขณะที่เลียร่ากำลังคิดถึงจำนวนมากขนาดนี้นี่เอง...

"ยิ่งไปกว่านั้น เราก็จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์แบบกองโจรอีกด้วย"

"ด้วยป้อมปราการลอยฟ้าเนี้ยนะ?"

"ด้วยป้อมปราการลอยฟ้าเนี้ยแหละ"

"นายรู้ไหมว่าคลาส 6 น่ะสามารถจะตรวจสอบทั้งโลกนี้ได้ในเวลาไม่เกิน 15 นาทีด้วยซ้ำไป"

"นั่นมันก็เยอะแล้วนะ แล้วก็นอกไปจากนี้..."

"ไม่ สำหรับตอนนี้มันเป็นความลับ"

เลียร่าอยากจะเข้าไปต่อยเลียร่าจริงๆ แต่ว่าาพอได้เห็นรอยยิ้มของเขา เธอก็ทำไม่ลง ตอนนี้เขาอาจจะกำลังคิดอะไรบ้าๆอยู่ก็ได้ และความคิดบ้าๆนั่นอาจจะเป็นแรงผลักดันหลักที่ทำให้เกิดเป็นยูอิลฮานในปัจจุบัน

บางทีพลังที่ยิ่งใหญ่ที่ยูอิลฮานครอบครองอยู่อาจจะไม่ใช่ทั้งพลังของเขา ไม่ใช่ทั้งความพยายามของเขา ไม่ใช่ทั้งพรสวรรค์ของเขา

แต่มันเป็นสิ่งที่เขาอยู่ก็ได้ตรัสรู้ขึ้นมาจากความรู้ที่เขาสะสมมาเป็นพันปีก็ได้ - เลียร่าได้คิดแบบนี้

"เราไปกันเถอะ"

ตอนนี้ยูอิลฮานต้องซ่อมแซมอุปกรณ์ของเขาที่เสียหายจากการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตั้นสูง เขาได้กอดมิลเอาไว้ก่อนจะถามออกมา

"มิล นับจากนี้ไปจะเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงมาก ลูกไหวนะ"

"ครับ ถ้าผมไม่ลำบาก ผมก็คงจะไม่มีวันแข็งแกร่งได้อยู่แล้ว ผมอยากที่จะแข็งแกร่งขึ้นด้วยวิธีที่มีเกียรติ ไม่ใช่แบบหลบๆซ่อนอย่างเมื่อกี้นี้"

"เยี่ยม ถ้ารู้คิดแบบนั้นก็ดีแล้ว"

"แล้วก็นะผมก็เหมือนกัน..."

ยูมิลดูเหมือนจะลังเลนิดๆ แต่แล้วในที่สุดเขาก็กัดริมฝีปากพูดออกมา

"ผมอยากที่จะแก้แค้นให้กับฟีเรีย"

"...อืม"

ยูมิลได้ใช้เวลาอยู่กับฟีเรียและเอลฟ์คนอื่นๆอยู่ 2 ปี 9 เดือน เขาใช้เวลาอยู่กับพวกเอลฟ์มากกว่ายูอิลฮานอีกด้วยซ้ำไป ยูอิลฮานก็รู้เรื่องนี้เหมือนกัน แต่การที่ได้ยินจากปากของเขามันต่างออกไป

"ไปแก้แค้นให้เธอกันเถอะ กำจัดพวกเศษขยะทั้งหมดที่คิดว่าเราเป็นหนอนแมลง"

"ครับผม"

"...นี่มันไม่ควรจะเป็นคำพูดที่เกิดขึ้นระหว่างพ่อกับลูกเลยนะ แต่ว่าฉันก็เห็นด้วย"

ยูอิลฮานได้กลับไปที่ป้อมปราการลอยฟ้าพร้อมกับเลียร่าและยูมิล กองทัพมังกร นายูนาและคังฮาจินที่รออยู่ตางก็ตกตะลึงและงงไปเพราะการที่ได้เห็นพวกสิ่งมีชีวิตชั้นสูงตายไปก่อนจะได้ทำอะไรด้วยซ้ำ

"นายยังต้องการเราจริงๆหรอ?"

"จากนี้ไปฉันต้องการแน่ ไปกันก่อนเถอะ"

"ไป? ที่ไหนล่ะ?"

"ไว้ถึงเธอจะรู้เอง"

วงเวทย์ได้ถูกเปิดใช้งานอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาได้เทเลพอตไปในทันที และในคราวนี้มาอยู่ในป่าทึบ

[เราจำเป็นต้องแบ่งสมาชิกออกไป]

"แต่ว่าฟีเรีย รวมไปถึงเอลฟ์ทั้ง 23 คนที่ไปกับเธอยังไม่กลับมาเลยนะ ถ้าพวกฟีเรียถูกไล่ล่าล่ะ..."

[เธอกับเอลฟ์คนอื่นๆอยู่กับพรรคพวกของเราแล้ว และก็จากสัญญาณที่ขาดหายไปจากพรรคพวกของฉันเมื่อตะกี้นี้ทำให้ดูเหมือนว่าพรรคพวกของเขาตายไปแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเอลฟ์คนอื่นๆเลย...]

"ไม่มีทาง ใครกันที่จะฆ่าฟีเรียได้!"

ในตอนนี้พวกเขาได้อยู่ในสถานที่ที่ดี สถานที่ที่ไม่ใช่พื้นที่สงครามแล้ว และในที่นี่ก็มีสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำจำนวนมากอยู่บนพื้นเช่นกัน ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนกับ 'ที่หลบภัยฉุกเฉิน'

"มันไม่มีทางที่เธอจะตาย พวกเราจะรอเธอ! แล้วก็นะ พวกเราจะต้องไปด้วยกัน!"

[ตอนนี้พวกเรากำลังพยายามทำให้พวกนายรอดนะ! ในอดีตพวกเราก็ได้ซ่อนพวกนายจากมังกรจำกันได้ไหม?]

"แต่ถึงแบบนั้น..."

คนที่ทะเลาะกับคนที่ดูเหมือนจะเป็นสมาชิกของสวนอาทิตย์อัสดงก็คือมิลฟ่าที่ได้รับอาร์ติแฟคในการควบคุมวงเวทย์ไป ส่วนคนที่เหนือก็มองมาที่เธอโดยไม่รู้จะทำอะไรดี จะมีก็แต่เจ้าหญิงแห่งเผ่าพันธ์หมาป่าเอริเซียที่เห็นด้วยกับมิลฟ่าและจ้องไปที่สิ่งมีชีวิตชั้นสูง

ยูอิลฮานได้คิดขึ้นมาว่าเขาเลือกตัวแทนของเหล่าเอลฟ์ได้ดี มีเอลฟ์ไม่กี่คนเท่านั้นที่น่าจะตายไปกับฟีเรีย ส่วนเอริเซีย เฟมิล มิไร จิล พีท รวมไปถึงลูกน้องของเขาคนอื่นๆและเอลฟ์ที่เหลือยังปลอดภัยดี

"ฟู่ววว"

ยูอิลฮานได้ถอนหายใจโล่งอกก้าวไปข้างหน้า แน่นอนว่าในตอนนี้ภายในมือของเขามีหอกมังกรแปดหางที่มีเพลิงลุกท่วมอยู่

"ฮ่าห์!"

[อั๊ก!?]

[ติดคริติคอล!]

หอกมังกรแปดหางที่ยูอิลฮานโยนลงไปได้ปักเข้าที่สมาชิกของสวนอาทิตย์อัสดงที่กำลังบินอยู่ในทันที

น่าเสียดายที่เจ้านี่ไม่ได้ตายไปในทันทีและทำให้การซ่อนตัวของป้อมปราการลอยฟ้าหายไป แต่ว่ามิสทิคที่ดูเหมือนกับจะรู้ร่วงหน้าอยู่แล้วได้ใช้กระจกแห่งการทำลายโจมตีจากทุกด้านในทันที พร้อมทั้งลดระดับความสูงลง ในที่แห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตชั้นสูงอยู่ทั้งหมด 18 คน

"ทะ ท่านจักรพรรดิ"

"เป็นองค์จักรพรรดิ"

"องค์จักรพรรดิมาแล้ว!"

สมแล้วที่เป็นเผ่าพันธ์ที่มีสายตาที่ดี ในทันทีที่พวกเอลฟ์ได้เห็นใบหน้าของยูอิลฮาน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและไม่สบายใจของเหล่าเอลฟ์ได้หายไปและแทนที่ด้วยความโล่งใจ นี่มันดูเหมือนว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นการแสดงเท่านั้น

"ท่านจักรพรรดิ"

"ท่านจักรพรรดิ พวกเรากำลังคอยท่านอยู่"

"ท่านจักรพรรดิ"

[อ๊าาาาก! หมอนั่นเป็นใคร!]

สิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้ตะโกนออกมาราวกับจะทำลายเสียงแห่งความยินดีนี้

พวกเอลฟ์ได้หวาดกลัวถอยกลับไปด้วยความกลัว ในตอนนี้เองยูอิลฮานก็ลงมายืนบนพื้นเพื่อแยกฝั่งสิ่งมีชีวิตชั้นสูงกับลูกน้องของเขาออกจากกันด้วยเอจิส พร้อมพูดขึ้น

"เจ้าพวกนี้เป็นศัตรู"

"ครับท่าน!"

นี่คือความภักดีที่ไร้ข้อกังขาใดๆ! พวกเขาไม่คำนึงถึงสิ่งที่สวนอาทิตย์อัสดงเคยทำและไม่คำนึงทุกสิ่งที่พวกนั้นทำมาจนถึงตอนนี้ เรื่องพวกนั้นไม่สำคัญเลย พวกเอลฟ์ได้คิดว่าสวนอาทิตย์อัสดงคือศัตรูและถอยกลับมาในทันที

[แก...]

"แกควรดูแลตัวเองก่อนนะ"

ระหว่างที่ฉันอยู่ในดาเรย์นี่ดูเหมือนสกิลการร่วงหล่นของฉันจะเพิ่มเลเวลขึ้นอย่างต่อเนื่องสินะ - ยูอิลฮานคิดขึ้นและได้ใช้เพลิงปกคลุมพื้นที่

"อีกเดี๋ยวมันก็จบแล้ว"

การต่อสู้ได้จบลงในเวลาเพียงแค่ 15 นาที และเลเวลของยูอิลฮานได้เพิ่มขึ้น 3

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด