เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0138 [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••
ตอนที่ 138 : แก่นดวงวิญญาณ
ฉินหยุนกลับไปยังจุดนัดพบเชี่ยวเย่ว์เหม่ย และบอกต่อว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“เต่าเยอะขนาดนั้น... ถ้าพวกเราฆ่าพวกมันได้หมด ก็เอาพวกมันทั้งหมดใส่อุปกรณ์วิญญาณไม่พออยู่ดี!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยขมวดคิ้ว “จากที่อธิบาย เหมือนพวกมันจะแข็งแกร่งมาก สู้กับพวกมันคงเปลืองแรงไม่น้อย”
“มันก็ถูก... แต่เต่ายักษ์พวกนั้นมูลค่าสูงยิ่ง กระดองเต่าสามารถปลดปล่อยสายฟ้าออกมาได้ ภายในมันจะต้องมีอะไรบางอย่างล้ำค่าให้นำไปขายอย่างแน่นอน ให้ข้าคาดเดานะ อย่างน้อยมันก็ควรได้สักหนึ่งแสนเหรียญผลึก!” ฉินหยุนรู้สึกคล้ายนี่เป็นโชคดีในโชคร้าย
“นี่เจ้ามั่นใจหรือว่าเต่าพวกนั้นเอาไปขายได้แพงปานนั้น?” พอเชี่ยวเย่ว์เหม่ยได้ยินว่า มูลค่ามันอาจสูงถึงหนึ่งแสนเหรียญผลึกต่อตัว นางถึงขั้นหวั่นไหว ดวงตางดงามนี้เป็นประกายสว่างวูบออกมา
ฉินหยุนมองไปยังทิศทางซึ่งเต่ายักษ์กำลังมุ่งหน้ามา เขาพยักหน้าและกล่าว “ควรเป็นแบบนั้น! เต่ายักษ์พวกนั้นสามารถดูดกลืนพลังวิญญาณก่อน จากนั้นพวกมันค่อยรวบรวมสะสมไว้ในร่าง หลังผ่านกระบวนการแปรสภาพอะไรบางอย่าง พวกมันจึงควบแน่นเกิดขึ้นเป็นพลังภายในคุณลักษณะอสนีบาต จากนั้นจึงค่อยปล่อยเป็นการโจมตีออกมา”
“ในตอนนั้น ที่ข้าต้องทำก็เพียงแค่ขว้างยันต์สะกดวิญญาณออกไป เมื่อสะกดวิญญาณชั่วร้ายภายในร่างเต่ายักษ์ได้ หลังจากนั้นก็แค่ให้เจ้ากำจัดวิญญาณร้ายพวกนั้น เท่านี้การต่อสู้ก็ไม่น่าจะยากจนเกินไป”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพอได้ยินดังนี้จึงรู้สึกสนใจ นางพยักหน้ารับเป็นการเห็นด้วย หากมันมีมูลค่าสูงจริง หลังนำออกขาย มันสามารถกลายเป็นเหรียญผลึกปริมาณมหาศาลได้!
ในภายหน้า หากนางต้องการเป็นอิสระจากราชวงศ์เทียนเชี่ยว นางจำเป็นต้องรวบรวมทรัพย์สินสะสมไว้เพื่อการนั้นไม่ใช่น้อย
“ดี งั้นข้าร่วมมือกับเจ้าก็แล้วกัน!”
หลังเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวดังนี้ ฉินหยุนจึงนำนางมุ่งหน้าเข้าไปใกล้ฝูงเต่ายักษ์ จากนั้นเขาจึงค่อยปล่อยนางลงกับพื้น
เขาลอยขึ้นกลางอากาศพร้อมกล่าวคำ “เย่ว์เหม่ย พอได้ยินเสียงข้าตะโกน ให้รีบพุ่งไปเลย”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพยักหน้ารับ นางนำดาบของนางออกมาพร้อมมองขึ้นฟ้า
เสียงอึกทึกดังสนั่นจากทางด้านหน้า ฝูงเต่ายักษ์ตอนนี้กำลังเดินผ่านดงต้นไม้ใหญ่มาอย่างเนิบช้า พวกมันค่อย ๆ คลานกันมาทีละตัว ทีละตัว
ฉินหยุนใช้ก้าวอัคคีเมฆาเดินกลางอากาศขณะมือกำยันต์สะกดวิญญาณเอาไว้แน่น หลังมาถึงบริเวณด้านบนเหนือฝูงเต่ายักษ์ เขาจึงเล็งหลายตำแหน่งเพื่อทำให้อำนาจของยันต์สะกดควบคุมฝูงเต่ายักษ์เอาไว้ได้
หลังขว้างยันต์ออกไปตามตำแหน่งที่คาดการณ์ไว้ พวกมันคล้ายเข้าสู่ห้วงแห่งการหลับใหล วิญญาณร้ายภายในร่างเต่ายักษ์โดนสะกดเอาไว้ด้วยพลังอำนาจของยันต์สะกดวิญญาณ มันไม่อาจควบคุมร่างกายเต่ายักษ์ได้เป็นระยะเวลาชั่วคราว
“เย่ว์เหม่ย เอาเลย!” ฉินหยุนตะโกนขึ้น
ฝูงเต่ายักษ์ที่อยู่ใต้อำนาจยันต์สะกดวิญญาณพลันเคลื่อนไหวขึ้นมา นี่หมายความว่าเต่ายักษ์เหล่านี้สามารถทะลวงอำนาจยันต์สะกดวิญญาณได้
ยันต์สะกดวิญญาณทำได้เพียงถ่วงเวลาพวกมันเอาไว้ชั่วคราว
ฉินหยุนเร่งรีบร่อนลงพื้นควบคุมกระบี่จำนวนหนึ่งแทงเข้าใส่หัวเต่ายักษ์ เขาใส่กระแสพลังจิตลงไปในตัวกระบี่เพื่อกำจัดวิญญาณร้ายภายในร่างไปพร้อมกัน
ดาบยาวของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยก็พุ่งออกเช่นกัน ฝูงวิญญาณร้ายถูกกำราบลงอย่างรวดเร็ว
ฝูงเต่ายักษ์ทั้งสิ้นแปดสิบตัวถูกสังหารด้วยการประสานพลังของพวกเขาได้แทบในเวลาอึดใจ!
“ยันต์สะกดวิญญาณของเจ้าใช้งานได้ดีนัก เจ้าควรใช้พวกมันตอนพวกเราโดนบุกเข้าโจมตีครั้งก่อนนะ” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะคิกคักขณะกระโดดขึ้นบนหลังเต่ายักษ์และกล่าว “จะมีอะไรบางอย่างที่เจ้าว่าในกระดองเต่านี่จริงหรือ?”
ฉินหยุนปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณเข้าสู่ร่างเต่ายักษ์ เขาสัมผัสได้ถึงพลังจิตที่บริสุทธิ์ยิ่งในปริมาณมหาศาล
“พละกำลังของเต่ายักษ์พวกนี้เหนือล้ำกว่าสัตว์ปีศาจหลายตัวนัก มันแค่เคลื่อนไหวเชื่องช้า วิญญาณร้ายภายในก็แข็งแกร่งมาก เพราะแบบนั้นมันถึงสามารถฝึกฝนจนเกิดขึ้นเป็นผลึกแก้วจิตวิญญาณภายในร่างเต่ายักษ์ได้... นี่สมควรเป็นแก่นดวงวิญญาณในตำนาน!”
เขาใช้พลังของจิตวิญญาณต้นกำเนิดทะลวงเข้าในร่างของเต่ายักษ์ จากนั้นจึงดึงเอาผลึกแก้วสีเขียวงดงามดังไข่มุกเม็ดหนึ่งออกมา
“เป็นแก่นดวงวิญญาณจริงด้วย!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยร้องอุทาน “นี่สมควรนำไปขัดเกลาเป็นอุปกรณ์วิญญาณได้!”
อุปกรณ์ที่ขัดเกลาขึ้นจากแก่นดวงวิญญาณ ถือเป็นของที่เหมาะสมยิ่งในการใช้พลังจิตควบคุม หากเป็นอย่างที่คิด ช่วงเวลาที่ขัดเกลาพวกมันขึ้น จำเป็นต้องผสานแก่นพลังปริมาณมหาศาลเข้าไปด้วย
“สิ่งของนี้ถือว่าหาได้ยากยิ่ง ไม่ควรนำมันออกขาย เร่งรีบเก็บพวกมันก่อนเร็วเข้า” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยตื่นเต้นยินดี “หากเจ้ามีอุปกรณ์วิญญาณเช่นนั้น ด้วยการใช้เคล็ดวิชาเทวะควบคุม มันจะยิ่งทำให้เจ้าเก่งกาจได้มากขึ้น”
ฉินหยุนใช้พลังของจิตวิญญาณต้นกำเนิดนำเอาแก่นดวงวิญญาณออกจากร่างของเต่ายักษ์
ต่อให้พวกเขาไม่สามารถนำร่างพวกมันไปจากที่นี่ มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะพวกเขาได้รับแก่นดวงวิญญาณซึ่งเป็นของล้ำค่าที่สุดไปแล้ว
ไม่ช้า ฉินหยุนก็ได้รับแก่นดวงวิญญาณทั้งสิ้นแปดสิบเม็ด
“แก่นดวงวิญญาณนั่นข้าฝากไว้กับเจ้าก่อน ภายหลังไว้ข้าค่อยมาขอให้เจ้าขัดเกลาอุปกรณ์วิญญาณสักชิ้น” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะดีใจยกใหญ่ เจ้าจำเอาไว้ให้ดี อย่าได้ใช้ส่วนที่เป็นของข้า!”
ฉินหยุนยิ้มรับคำ “อย่าได้ห่วง!”
เขาหันมองร่างเต่ายักษ์ทั้งสิ้นแปดสิบตัวพร้อมรู้สึกเสียดายที่ไม่อาจนำร่างพวกมันไปด้วยได้ พวกเขาตอนนี้ใช้พื้นที่ในมิติเก็บของไปแล้วไม่ใช่น้อย ดังนั้นจึงไม่อาจนำพวกมันไปจากที่นี่
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเกิดความสงสัยขึ้นมา นางขึ้นไปยืนบนกระดองเต่ายักษ์ตัวหนึ่ง หันมองไปยังทิศทางที่ฝูงเต่ายักษ์จากมาและกล่าวคำ “ทำไมถึงมีวิญญาณสัตว์ร้ายมากมายเพียงนี้? ทั้งยังมาหาพวกเราโดยตรงเสียอีก!”
ฝูงเต่ายักษ์โค่นต้นไม้โบราณยักษ์เป็นทางยาว หากมองตามเส้นทางไป มันกลายเป็นเส้นทางโล่งเตียนไปแล้ว
ฉินหยุนขมวดคิ้วกล่าวคำ “ฝูงเต่ายักษ์พวกนี้เป็นเต่าน้ำ พวกมันมาจากแม่น้ำเมฆมังกรหรือเปล่า? นำกระจกเจ้าออกมา และตรวจสอบว่ามีวิญญาณสัตว์ร้ายใกล้เคียงบริเวณนี้ดูหน่อยน่าจะดีกว่า”
หลังเชี่ยวเย่ว์เหม่ยนำกระจกออกมา นางจึงหัวเราะ “เหลือวิญญาณสัตว์ร้ายเพียงตัวเดียวในละแวกนี้ ไม่มีฝูงพวกมันอยู่ในระยะอีกต่อไป เหมือนพวกเราจะจัดการพวกมันได้จนหมดสิ้นแล้ว!”
กล่าวคำจบ นางจึงพุ่งกายมุ่งตรงออกไป
ฉินหยุนตามติดหลังนางขณะตระเตรียมยันต์สะกดวิญญาณในมิติเก็บของ เขากล่าวพึมพำกับตนเอง “ตอนแรกมีเจ็ดสิบ เมื่อครู่ใช้ไปสามสิบ”
ไม่นานจากนั้น พวกเขาจึงได้ยินเสียงน้ำไหลของแม่น้ำดังขึ้นจากตรงหน้า
“เป็นแม่น้ำเมฆมังกร!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะร่า “วิญญาณสัตว์ร้ายเหมือนจะซ่อนตัวในแม่น้ำ!”
ฉินหยุนเองก็เห็นแม่น้ำเมฆมังกร ความกว้างของมันราวหมื่นเมตรเห็นจะได้ ทั้งยังกระแสน้ำเชี่ยวกราก คลื่นน้ำที่รุนแรงเป็นผลให้อากาศเคลื่อนไหวเกิดเป็นลมพัดแรง เพียงมองก็ชวนให้สะพรึงได้แล้ว!
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยชะลอฝีเท้าลง รอยยิ้มที่ใบหน้าเลือนหายกลับกลายเป็นจริงจังขึ้นมา
“แม่น้ำเมฆมังกรน่ากลัวยิ่งนัก...” มีคำกล่าวว่า มีเทือกเขาเมฆมังกรที่ตั้งอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของแม่น้ำเมฆมังกร เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยความสงสัยอย่างเปี่ยมล้นในดวงตาว่าเบื้องหลังเวิ้งน้ำนี้มีอะไรอยู่กันแน่
ฉินหยุนเองก็เคยได้ยินข่าวลือ หากเขาก้าวเท้าผ่านเทือกเขาเมฆมังกรและมุ่งหน้าสู่แดนยุทธ์อ้างว้าง เขาจำเป็นต้องผ่านแม่น้ำสุดแสนกว้างใหญ่และอันตรายแห่งนี้ไปเสียก่อน
“ฉินหยุน ดูที่แม่น้ำ ตรงนั้นมีไอน้ำ!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวคำ
น้ำก่อให้เกิดไอน้ำ เรื่องนี้เป็นปรากฏการณ์ตามปกติ
ทว่าไอน้ำตรงหน้าพวกเขานี้มันยิ่งมายิ่งหนา นับว่าแปลกประหลาดอย่างยิ่ง
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยนำกระจกออกมาก่อนร้องตะโกนขึ้น “มีดวงวิญญาณกำลังมาจากแม่น้ำ!”
เมื่อฉินหยุนได้ยินดังนี้ เขาเร่งรีบทะยานกายออกคว้าตัวเชี่ยวเย่ว์เหม่ยไว้ จากนั้นค่อยเร่งรีบทะยานขึ้นฟ้าเพื่อหลบเลี่ยง
ครืน!
ผิวน้ำของแม่น้ำพลันกระจายตัวออกเป็นคลื่นยักษ์ แรงปะทะรุนแรงเข้ากระทบชายฝั่งแม่น้ำ!
อะไรบางอย่างคล้ายกระโดดพรวดออกจากแม่น้ำและทะยานเข้าหาบริเวณที่เชี่ยวเย่ว์เหม่ยอยู่เมื่อครู่
เป็นสัตว์ตัวสีดำมืด!
สิ่งนี้คือราชสีห์ขนาดใหญ่มหึมาความยาวกว่าสิบเมตร ทั้งร่างของมันปกคลุมด้วยสีดำ ขนที่แผงคอยังหนายิ่ง ดวงตานั้นเป็นสีน้ำตาลลึกล้ำขณะมันปล่อยลมหายใจออกเป็นหมอกผ่านทางปาก
“โฮก!” ราชสีห์ทมิฬตัวใหญ่ยักษ์พลันอ้าปากร้องคำรามลั่นสู่อากาศด้านบน มันมาพร้อมกับลูกไฟขนาดใหญ่ยักษ์ด้วย!