เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0136 [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••
ตอนที่ 136 : ฝูงวิญญาณสัตว์ร้าย
ฉินหยุนสัมผัสหูตัวเองและพยักหน้ารับ ย้อนกลับไปตอนนั้น เป็นเขาใช้พลังของวิญญาณยุทธ์สั่นไหวอย่างกะทันหันจนทำให้เชี่ยวหลางพิการ
“นับว่ายอดเยี่ยม ข้าอยากฆ่าไอ้หมอนั่นทิ้งมาตั้งนานแล้ว มันเอาแต่คิดจะแต่งงานกับข้า กระทั่งใช้วิธีสกปรกแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ด้วยซ้ำ” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยแค่นเสียง “จงบอกต่อข้า วิญญาณยุทธ์ที่สองของเจ้าคืออะไร แล้วข้าจะบอกถึงวิญญาณยุทธ์ข้า แลกเปลี่ยนกันเช่นนี้เป็นอย่างไร?”
“เชิญเจ้าก่อน!” ครั้งนี้ เขารู้สึกว่าหากให้นางพูดก่อน ค่อยสบายใจกว่าเขาเปิดเผยวิญญาณยุทธ์ที่สองต่อนางก่อน
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยไหวกระจกในมือและกล่าว “วิญญาณยุทธ์ข้าคือกระจกนี่ เป็นวิญญาณยุทธ์ระดับทองม่วง ข้าไม่รู้ว่ามันคือวิญญาณยุทธ์ในตำนานหรือไม่”
“จริงหรือนี่? เจ้าไม่ได้โกหกต่อข้าใช่หรือไม่?” ฉินหยุนไม่คิดเชื่อ นางถึงขั้นมีวิญญาณยุทธ์ประหลาดเพียงนี้ กระทั่งนำมันออกมาได้โดยตรง
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยสีหน้าจริงจัง “วิญญาณยุทธ์ข้าเดิมทีไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่หลังจากฝึกฝนและผสานรวมเข้ากับพลังภายใน มันก็เปลี่ยนเป็นกระจก... เรียกว่าเป็นชิ้นส่วนผลึกแก้วคงได้”
ฉินหยุนนึกถึงเซี่ยอู๋เฟิง หลังฝึกฝนวิญญาณยุทธ์ เขาจึงผสานรวมเข้ากับพลังธาตุก่อเกิดเป็นดาบ!
“งั้นนอกจากรับรู้ดวงวิญญาณแล้ว กระจกนั่นทำอะไรได้อีกบ้าง?” ฉินหยุนเอ่ยถาม “นี่เจ้าใช้วิญญาณยุทธ์กระจกนั่นเพื่อก้าวหน้ารวดเร็วเพียงนี้หรือ... แล้วพลังจิตของเจ้ายังแข็งแกร่งยิ่ง ทั้งหมดเป็นเพราะกระจกนั่น?”
ฉินหยุนเกิดความสงสัย
“ข้าตอนนี้มีเจ็ดชีพจรวิญญาณ แต่สองชีพจรวิญญาณเพิ่งปรากฏหลังข้าปลุกวิญญาณยุทธ์ให้ตื่นขึ้น เพราะแบบนั้น ผู้คนถึงคิดว่าข้ามีเพียงห้าชีพจรวิญญาณ” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะ “เรื่องน่าทึ่งที่สุดของวิญญาณยุทธ์ข้าก็คือ หลังส่องถึงวิญญาณยุทธ์แล้ว ข้าสามารถคัดลอกวิญญาณยุทธ์เข้าสู่กระจกได้!”
“หมายความว่าอย่างไร?” ฉินหยุนไม่เข้าใจ
“ยกตัวอย่าง เมื่อวิญญาณยุทธ์เจ้าสะท้อนในกระจกข้า ข้าจะได้วิญญาณยุทธ์นั้นมาไว้ภายในกระจก มันจะเทียบเท่าได้ครอบครองวิญญาณยุทธ์นั้น!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวภูมิอกภูมิใจ
ฉินหยุนถึงขั้นมึนงงและตื่นตระหนก “เรื่องนี้... เป็นไปได้ด้วย? ถ้าหากเจ้าเห็นวิญญาณยุทธ์มากมาย ไม่ใช่ว่าเจ้าก็ได้ครอบครองวิญญาณยุทธ์จำนวนมากหรือ?”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะรับและพยักหน้า “จะมากหรือน้อยก็ตามแต่ ข้าเพียงใช้ได้แค่หนึ่งวิญญาณยุทธ์ และทุกครั้งที่เปลี่ยนวิญญาณยุทธ์ ข้าต้องรอนับปีถึงจะเปลี่ยนอีกครั้งได้! ล่าสุดที่ข้าเปลี่ยนคือวิญญาณยุทธ์ระดับทองม่วง นี่ก็ผ่านมาปีแล้ว นับว่าได้เวลาเปลี่ยนพอดี”
ฉินหยุนกล่าว “เป็นเช่นนี้ มันคงน่ากลัวยิ่งหากเจ้าสามารถเปลี่ยนไปมาได้เมื่อใดก็ได้ตามต้องการ ทั้งยังสามารถปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ได้หลายประเภทในการต่อสู้!”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเพียงหัวเราะรับคำ “ตอนนี้ไม่ได้ แต่ในอนาคตอาจจะได้ วิญญาณยุทธ์สามารถวิวัฒนาการขึ้นได้ ข้าอาจเปลี่ยนวิญญาณยุทธ์ได้มากกว่าหนึ่งครั้งในหนึ่งปี หรือไม่ก็อาจใช้สองวิญญาณยุทธ์ได้พร้อมกัน... แน่นอนว่าหากมันไม่ใช่วิญญาณยุทธ์ทรงพลัง ข้าก็ไม่คิดเก็บมันไว้ในกระจก! วิญญาณยุทธ์ของเจ้านั้นทรงพลังยิ่ง จงรีบเปิดเผยมันออกมาให้ข้าส่องได้แล้ว!”
“แล้วพวกเราต้องทำอย่างไร? ข้าต้องเสียอะไรไปหรือไม่?” ฉินหยุนถามด้วยความกังวล
“อย่าได้ห่วง หากเจ้าเสียอะไรไป ข้าจะให้พี่สาวรับผิดชอบเจ้าเอง!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว “ผ่อนคลายร่างกาย ให้กระจกข้าสัมผัสท้องเจ้า”
ฉินหยุนพยักหน้ารับทำตามที่นางบอก
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยนำกระจกวางที่ท้องของเขา จากนั้นจึงรออยู่พักหนึ่งจึงขมวดคิ้ว
นางเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เหมือนวิญญาณยุทธ์เจ้ามีอะไรสักอย่างที่ผิดแปลกออกไป กระจกข้าไม่สามารถคัดลอกได้... ส่วนวิญญาณยุทธ์ที่สอง น่าจะด้วยเหตุผลอื่น มันก็ทำให้ข้าไม่อาจคัดลอกได้!”
ฉินหยุนกล่าวตอบ “วิญญาณยุทธ์ที่สองของข้าคือวิญญาณยุทธ์สั่นไหว และมันเป็นสีดำ!”
พอเชี่ยวเย่ว์เหม่ยได้ยินดังนี้ นางตื่นตกใจ ปากเล็กนั้นอ้ากว้างออกเล็กน้อย จากนั้นจึงกล่าวขื่นขม “ไม่แปลกใจเลย... วิญญาณยุทธ์สั่นไหวระดับสูงกว่าวิญญาณยุทธ์กระจกของข้า เพราะอย่างนั้นจึงคัดลอกไม่ได้...”
“เสียใจด้วยแล้วกันนะ!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเสียใจจริง ๆ วิญญาณยุทธ์ทั้งสองของฉินหยุนล้วนแข็งแกร่ง แต่นางไม่อาจทำสำเนาพวกมันออกมาได้เลย
“โอ้ใช่ แล้ววิญญาณยุทธ์พี่สาวเจ้าเล่า?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“หนึ่งคือวิญญาณยุทธ์พลังจิตระดับทองม่วง... ส่วนที่เหลือข้าไม่ทราบแล้ว นางไม่ได้บอกต่อข้า กระจกข้าก็ส่องไม่เห็นด้วย” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว
ฉินหยุนลอบตระหนัก เขาจึงได้เข้าใจว่าเพราะอะไรเชี่ยวเย่ว์เหม่ยถึงมีพลังจิตแข็งแกร่ง เป็นเพราะนางสามารถปล่อยวิญญาณยุทธ์พลังจิตระดับทองม่วง นั่นถือเป็นวิญญาณยุทธ์ในตำนาน
และที่ทำเขาตกใจที่สุดก็คือ เชี่ยวเย่ว์หลานเองก็มีสองวิญญาณยุทธ์!
“เมื่อวิญญาณยุทธ์กระจกของเจ้าเลื่อนระดับ ข้าจะให้ลองอีกครั้งก็แล้วกัน” ฉินหยุนกล่าวปลอบเชี่ยวเย่ว์เหม่ยและยิ้มให้
“ควรเป็นเช่นนั้น! วิญญาณยุทธ์ระดับทองม่วงไม่ใช่สูงที่สุด มันยังพัฒนาขึ้นได้อีก!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยยังคงถือกระจกในมือต่อไปและกล่าว “มาดูกันดีกว่าว่าข้าจะหาวิญญาณสัตว์ร้ายนั่นได้หรือไม่!”
วิญญาณยุทธ์กระจกของนางนับว่ามีประโยชน์มหาศาล นางสามารถสัมผัสถึงความผันแปรของดวงวิญญาณทั้งหลายที่ห่างไกลนับหมื่นเมตรจากตัวนาง ตอนนี้ฉินหยุนจึงได้แต่วิ่งตามนางไปเรื่อย
หลังพวกเขามุ่งหน้าไป วิญญาณสัว์ร้ายก็คล้ายสัมผัสถึงพวกเขาได้ มันเร่งรีบมาทางนี้โดยทันที
“อู๋ว์!” เสียงหอนร้องของวิญญาณสัตว์ร้ายพลันดังขึ้น
ในที่สุดฉินหยุนก็ได้เห็นมันกับตา ร่างนั้นคือหมาป่า แต่ที่หลังของหมาป่ามีมือของมนุษย์อยู่คู่หนึ่ง มือนั้นค่อนข้างยาว ขนดกสีดำหนา
วิญญาณสัตว์ร้ายตนนี้ผสานรวมเข้ากับแขนของมนุษย์ มันเสริมความแข็งแกร่งของตัวมันเองขึ้น
“ใช้วิชารวมจิตวิญญาณสังหาร!” ฉินหยุนตะโกนขึ้น
พร้อมกันนี้ เขาและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเพ่งจิตใช้วิชารวมจิตวิญญาณสังหาร พวกเขาปลดปล่อยกระแสพลังจิตออกมาเสมือนอย่างการใช้พลังปราณทรงพลังเข้าโจมตี มันพุ่งเข้าใส่วิญญาณสัตว์หมาป่าตรงหน้า
“อู๋ว์...” หลังโดนโจมตี วิญญาณสัตว์หมาป่าที่เมื่อครู่ยังวิ่งไปมาพลันล้มลงกับพื้น
“ได้ผล เคล็ดวิชาของอาจารย์ตู้ใช้งานได้ดียิ่ง!” ฉินหยุนยิ้มเอ่ยคำ แต่แล้วขณะที่เขากำลังจะเข้าไป เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพลันควบคุมดาบแทงเข้าที่หัวของหมาป่า
“เหตุใดเจ้าเร่งรีบคิดเข้าใกล้มัน? ส่วนแข็งแกร่งที่สุดของวิญญาณสัตว์ร้ายคือวิญญาณชั่วร้ายในตัวมัน หากเจ้าไม่ระวังอาจเกิดอันตรายได้” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยต่อว่า
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยควบคุมดาบแทงเข้าใส่ และในตัวดาบก็มีพลังจิตอยู่ภายใน มันแทงเข้าใส่ร่างของวิญญาณสัตว์ร้ายเพื่อทำการปลิดชีพวิญญาณร้ายภายในร่าง
“วิญญาณร้ายถูกสังหารแล้ว!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยนำวิญญาณยุทธ์กระจกออกมาตรวจสอบและค่อยกล่าว
ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะนับถือความรอบคอบของนาง เขายิ้มพูดขึ้นว่า “เย่ว์เหม่ย ร่วมทางกับเจ้า พวกเราจะสามารถหาวิญญาณสัตว์ร้ายได้อย่างรวดเร็ว อันดับหนึ่งสมควรเป็นของพวกเราแล้ว!”
“แน่นอนว่าพวกเราต้องได้อันดับหนึ่ง! ไอ้สารเลวกัวเจิ้งนั่นถึงขั้นกล้าดูถูกข้า” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยเสียงเย็นเยือก
นางถือกระจกไว้ในมือขณะสัมผัสถึงดวงวิญญาณรอบกายนาง “แปลก? เหมือนมีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ทำไมข้าสัมผัสได้ว่ามีดวงวิญญาณในร่างนับร้อยกำลังเคลื่อนไหวมาทางนี้?”
“หลักร้อย? หรือจะเป็นฝูงวิญญาณสัตว์ร้าย?” ฉินหยุนตระหนกขณะเร่งรีบตะโกนขึ้น “หนีออกจากตรงนี้ก่อน ถ้าเป็นฝูงวิญญาณสัตว์ร้ายพวกเราเผชิญหน้าด้วยไม่ไหว”
หลังเก็บกระจกไป เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกับฉินหยุนจึงเร่งร้อนหลบหนีจากพื้นที่
“นี่เป็นไปได้อย่างไร? ทำไมวิญญาณสัตว์ร้ายมีจำนวนมากขนาดนั้น? อาจารย์ตู้บอกว่าวิญญาณสัตว์ร้ายไม่รวมกลุ่มนี่” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเป็นกังวลจนต้องนำเอากระจกออกมาอีกครั้งหนึ่ง หลังพยายามสัมผัสรับรู้ นางพลันตะโกนขึ้น “ใกล้มาก! พวกมันห่างไปแค่หนึ่งพันเมตร ทั้งยังเร็วมากด้วย!”