ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0133 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0135 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0134 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมเวทอหังการ

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 134 : อาคมขัดเกลากระดูก

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยยืนเคียงข้าง สีหน้าของนางสงบ ยากจะกล่าวว่านางกำลังคิดอันใดอยู่

มู่หรงต้าเหรินยิ้มกล่าวคำขึ้น “น้องสะใภ้ ข้าเป็นพี่น้องกับฉินหยุนขอกล่าว เจ้าและเขาช่างเหมาะสมกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน!”

เขาเรียกหาเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเป็นน้องสะใภ้ และเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอาแต่ยิ้ม ความสัมพันธ์นี้ชัดเจนเกินไปแล้ว

มีเพียงฉินหยุนทราบว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยคิดใช้เขาเป็นทางหลบหนีและเลี่ยงการโดนบังคับแต่งงาน

“ทุกคนได้เรียนวิชารวมจิตวิญญาณสังหารมาตลอดทั้งคืนแล้ว น่าจะมีความคืบหน้าอะไรบ้าง มาทดสอบกันดีกว่า เข้าใจมากหรือน้อยล้วนไม่ใช่ประเด็น เพียงใช้ได้พวกเราจะสามารถสังหารวิญญาณสัตว์ร้ายและขัดเกลาพวกมันด้วยมือของเรา” ตู้ก่วยหัวเราะกล่าว

กัวเจิ้งและอาจารย์ท่านอื่นจากสถาบันยุทธ์เทียนเสวียนทำได้เพียงกล้ำกลืนความโกรธลงคอ แม้ตู้ก่วยเป็นเพียงอาจารย์ท่านหนึ่ง แต่เขาทรงพลังยิ่ง เขามีความสามารถเพียงพอให้ปกป้องฉินหยุน และพวกเขาก็ไม่กล้าพอมีท่าทีต่อต้าน

ถัดจากนั้น ทุกคนจึงเริ่มใช้วิชารวมจิตวิญญาณสังหารเข้าใส่ก้อนหินบ้างก็ท่อนไม้ ตราบเท่าที่สามารถป่นก้อนหินเป็นเศษซากได้ พวกเขาย่อมสามารถสู้กับวิญญาณสัตว์ร้ายได้

สำหรับฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย พวกเขาสามารถทำลายหินก้อนใหญ่ได้ไม่ยากเย็น ถัดจากนั้น พวกเขาจึงร่วมทางกันกลับห้องหินในถ้ำ ใครกันจะทราบว่าในถ้ำมืดมิดทั้งที่กลางวันแสก ๆ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง...

ภายในห้องหิน เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเริ่มฝึกฝนวิชาเทวะควบคุมอย่างต่อเนื่อง

พอฉินหยุนได้เห็น เขาก็เริ่มฝึกควบคุมกระบี่ภูตผีที่เขามีบ้าง

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพยายามอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่านางเร่งรีบเพื่อเพิ่มพูนความแข็งแกร่งแก่ตัวเอง

“ตอนนี้ทุกคนล้วนเชื่อแล้วว่าพวกเราอยู่ด้วยกัน พี่ชายของเจ้าทำได้ดียิ่งนัก ถึงขั้นเรียกหาข้าเป็นน้องสะใภ้ วิเศษมากโดยไม่ต้องนัดแนะ!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะคิกคักออกมา

“พี่รองมู่หรง ช่างเลวร้ายนัก ครั้งหน้ามีโอกาสข้าต้องสั่งสอนเสียบ้าง” ฉินหยุนสบถออกมาเสียงเบา

“เหตุใดเจ้าโกรธกัน? กังวลว่าในภายหน้าจะหาผู้หญิงไม่ได้หรือ?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะคิกคักต่อ

“ฮึ่ม!” ฉินหยุนพ่นลมออกจมูก เป็นความจริง เขากังวลในเรื่องนั้น

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเพียงหัวเราะมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันนางก็ฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง

สองวันให้หลัง กระดิ่งดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเร่งรีบไปรวมตัวที่ลานฝึกฝน

วันนี้ เพราะต้องออกไปล่าวิญญาณสัตว์ร้าย เชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงเปลี่ยนสวมใส่ชุดสีดำงดงามวิจิตร มันขับเน้นให้นางดูห้าวหาญมากขึ้น

ฉินหยุนเองก็สวมใส่ชุดสีดำ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยคล้ายจงใจเลือกสีเสื้อเดียวกับเขา เรื่องนี้ก็ทำเอาผู้คนคิดว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ไปกันได้ดี

เมื่อครั้งพวกเขาอยู่ในห้องหิน เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอาแต่หัวเราะตลอดทั้งวัน แต่พอออกมา ท่าทีของนางก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา

“นางเด็กสองหน้า!” ฉินหยุนได้แค่สบถในใจ เขาต้องรักษาท่าทีเอาไว้ เป็นเพราะไม่มีใครทราบว่าเด็กสาวงดงามตรงหน้านี้จะคิดอ่านวางแผนการร้ายอะไรต่อเขาอีกหรือไม่

กัวเจิ้งจ้องมองฉินหยุนอย่างโกรธแค้น ทั้งยังกล่าวเสียงดังต่อศิษย์หลายสิบคนที่เข้าร่วมการล่าวิญญาณสัตว์ร้ายในครั้งนี้ “วันนี้คือวันเริ่มการล่าสังหารวิญญาณสัตว์ร้าย นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งที่จะได้รับประสบการณ์ มันจะช่วยให้พวกเจ้าได้เสริมสร้างการควบคุมพลังจิตไม่มากก็น้อย หากหน่วยใดสังหารวิญญาณสัตว์ร้ายได้จำนวนมาก เช่นนั้นจะสามารถเข้าสู่ค่ายอาคมขัดเกลากระดูกเพื่อฝึกฝนได้เป็นเวลาหนึ่งเดือน!”

“แล้วข้าเล่าจะได้อะไร?” ฉินหยุนตะโกนถาม

“ได้มีโอกาสฝึกฝนครั้งนี้ ทั้งยังได้รับเคล็ดวิชาจากการทดสอบที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เจ้ายังไม่พอใจหรืออย่างไร? ค่ายอาคมขัดเกลากระดูกคือสถานที่สำคัญซึ่งสร้างขึ้นโดยพวกเราสามสถาบันยุทธ์ระดับเสวียน เจ้าไม่มีสิทธิ์เข้าไป!” กัวเจิ้งแค่นเสียงตอบกลับมา

ตู้ก่วยพลันกล่าว “ฉินหยุน หากหน่วยของเจ้าสังหารวิญญาณสัตว์ร้ายได้อันดับหนึ่ง ข้าจะช่วยเจ้าให้ได้รับโอกาสเข้าสู่ค่ายอาคมขัดเกลากระดูก แต่ต้องหลังเจ้าเข้าสู่สถาบันยุทธ์ชิงเสวียนในภายหน้านะ”

มู่หรงต้าเหรินที่ยืนอยู่ด้านข้าง พลันถามออกด้วยความสงสัย “ค่ายอาคมขัดเกลากระดูก คือสถานที่ช่วยเหลือการฝึกฝนและสร้างวัชระกระดูกหรือขอรับ? เมื่อฝึกฝนวัชระกระดูก ก็หมายความถึงสามารถก้าวสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด!”

ตู้ก่วยยิ้มมตอบคำ “มันไม่ได้ลึกลับดังเช่นข่าวลือกล่าวอ้าง ก็แค่ช่วยให้เพิ่มระดับขึ้นนิดหน่อย!”

ฉินหยุนถึงกับแอบคาดหวัง เขาทราบว่าสถาบันยุทธ์ระดับเสวียนทั้งสามแห่ง บ่อยครั้งจะร่วมงานกันสร้างวัตถุลึกลับขึ้น ยกตัวอย่างเช่นหญ้าหัวใจลึกล้ำที่เขาได้รับมาก่อนหน้านี้!

“ดี ตอนนี้พวกเจ้าเริ่มงานพร้อมหน่วยตัวเองกันได้แล้ว!” กัวเจิ้งตะโกนขึ้น “การเลือกเพื่อนร่วมหน่วยก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน!”

“ข้าไปกับพี่หยุน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยเสียงเย็นเยือกประกาศกร้าว

นางถึงกับขั้นเรียกฉินหยุนเป็นพี่หยุน!

ครานี้ ผู้คนได้มั่นใจขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว ว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยมีการพัฒนา!

เมื่อกัวเจิ้งได้ยินดังนี้ เขาถึงขึ้นตื่นตกใจขณะเร่งร้อนเกลี้ยกล่อม “เย่ว์เหม่ย เจ้าควรพิจารณาให้ดี วิญญาณยุทธ์ของฉินหยุนมีปัญหา และยังเร็วเกินไปที่เจ้าจะตัดสินใจ เขาอาจลากเจ้าลงสู่ที่ต่ำ เจ้าควรตั้งหน่วยตนเองพร้อมศิษย์จากสถาบันยุทธ์ระดับเสวียน ด้วยพรสวรรค์พลังจิตของเจ้า พวกเราย่อมได้รับอันดับหนึ่ง!”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยทราบดีว่าฉินหยุนแข็งแกร่งขนาดไหน ครั้งการประลองยุทธ์มังกรซ่อนเร้นก็ได้เห็นศักยภาพของเขาไปคราหนึ่งแล้ว นางตอนนี้ยิ่งตระหนักได้ว่าฉินหยุนมีความรู้ความเข้าใจต่อวิชายุทธ์น่าทึ่งมากเพียงใดในช่วงสามวันที่ผ่านมา

เป็นเพราะความเข้าใจสูงล้ำ เขาถึงขั้นเรียนเคล็ดวิชาเทวะควบคุมได้อย่างรวดเร็ว เพียงเวลาสามวัน เขาถึงขั้นควบคุมกระบี่ภูตผีกวัดแกว่งได้แล้ว

สำหรับเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ด้วยการชี้แนะจากเขา นางสามารถเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาเทวะควบคุมถึงขั้นต้น และตอนนี้นางสามารถควบคุมดาบบินได้แล้ว!

“ข้าคิดดีและถี่ถ้วนแล้ว ข้าต้องการร่วมทางกับพี่หยุน อย่าได้ห่วงเรื่องข้า!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวคำยะเยือก นางไม่คิดไว้หน้าแม้กระทั่งกัวเจิ้ง

“ดี! อยากทำอะไรก็ทำ!” กัวเจิ้งโกรธไม่ใช่น้อยจนต้องโพล่งเสียงดังตอบกลับ

ทั้งสิ้นมีสามหน่วย หนึ่งคือฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย อีกหนึ่งคือเจ็ดคนจากสถาบันยุทธ์หลิงเสวียน และอีกหนึ่งคือหน่วยแปดคนจากสถาบันยุทธ์เทียนเสวียน

หากพวกเขาได้รับอันดับหนึ่ง เช่นนั้นทุกคนในหน่วยจะสามารถเข้าสู่ค่ายอาคมขัดเกลากระดูกได้!

หากเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเข้าร่วมหน่วย โอกาสได้รับชัยชนะยิ่งมากขึ้น เพราะแบบนี้กัวเจิ้งถึงได้โกรธรุนแรง

“วิญญาณสัตว์ร้ายมีมาก พวกเจ้าควรสังหารได้ให้ได้อย่างน้อยก็หนึ่งร้อยตัว และนี่คืออุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของที่ข้าให้หยิบยืม รับมันไว้และดูแลให้ดี” กัวเจิ้งมองกระเป๋ามิติเก็บของขนาดใหญ่ทั้งแปดใบซึ่งคนทั้งแปดต่างถือกันอยู่ มองเพียงครั้งเดียวก็บอกได้ว่าทั้งเรียบง่ายและเป็นผลงานหยาบกร้าน

ศิษย์ของสถาบันยุทธ์เทียนเสวียนต่างยินดียิ่งที่ได้รับอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของ แม้ว่าจะเป็นการให้ยืมชั่วคราวก็ตามที

ทางด้านศิษย์ของสถาบันยุทธ์หลิงเสวียน พวกเขาต่างก็ได้รับอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของที่รองอธิการบดีมอบให้เช่นกัน

“แล้วข้าเล่า?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยขมวดคิ้วเอ่ยถาม

“ไม่มีสำหรับเจ้า! หากเจ้าทำมันหายจะเป็นอย่างไร? เจ้าชดใช้ไหวหรือ?” กัวเจิ้งแค่นเสียง

“ใช่แล้ว พวกเจ้ามีกันแค่สองคน ไปด้วยกันก็คงตายด้วยกัน!” อู๋โยวเสินแค่นเสียงดังขึ้น “ให้ไปก็ไร้ค่า!”

พอฉินหยุนได้ยินดังนี้ เขาจึงยิ้มและนำสร้อยข้อมือเส้นหนึ่งออกมา เขาส่งให้เชี่ยวเย่ว์เหม่ยและยิ้มกล่าว “เย่ว์เหม่ย นี่คือสร้อยข้อมือมิติเก็บของที่ข้าทำขึ้น ถือว่ามอบให้แก่เจ้า! หากทำหายก็ปล่อยให้มันหายไป ข้าก็แค่ขัดเกลามันขึ้นให้เจ้าใหม่อีกเส้นก็เท่านั้น! อุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของขนาดใหญ่ที่ต้องแบกหามไปไหนมาไหนด้วยไม่ต่างอะไรกับขยะ อย่าทำให้ตัวเจ้าเสียภาพพจน์!”

สร้อยข้อมือมิติเก็บของ ถือเป็นอุปกรณ์วิญญาณขนาดเล็กและวิจิตรงดงาม ทั้งยังล้ำค่ายิ่ง!

เทียบกับสร้อยข้อมือมิติเก็บของที่วิจิตรงดงาม กระเป๋ามิติเก็บของหยาบกร้านของพวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่ง!

อย่างไรแล้ว กระทั่งกระเป๋าใบใหญ่เช่นนี้ก็มีผู้คนจำนวนมากที่ไม่อาจหาพวกมันมาไว้ในมือตนเองได้!

กัวเจิ้งถึงกับลืมเลือนไป ว่าฉินหยุนสามารถสร้างอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของได้ เขาไม่คิดเช่นกันว่าฉินหยุนจะถึงขั้นมอบของขวัญล้ำค่าเช่นนี้เพื่อเป็นการหักหน้าเขา!

ฝูงชนถึงกับระเบิดเสียงฮือฮา พวกเขาคิดว่าเข็มขัดมิติเก็บของคือสิ่งของดีที่สุดเท่าที่ฉินหยุนจะสามารถสร้างได้แล้ว!

สำหรับสร้อยข้อมือมิติเก็บของ สิ่งนี้ทั้งล้ำค่ากว่า และงดงามยิ่งกว่า!

พวกเขาพลันเข้าใจ ว่าเพราะเหตุใดเชี่ยวเย่ว์เหม่ยถึงหลงรักฉินหยุน มันเป็นเพราะเขาคืออาจารย์จารึกผู้ที่สามารถสร้างสร้อยข้อมือมิติเก็บของได้!

“หยดเลือดไปก็สามารถใช้ได้เลย!” ฉินหยุนยิ้มอ่อน เขามอบสร้อยข้อมือที่ถืออยู่ให้นาง เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เขาสะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย เพราะเพียงหนึ่งวันเขาก็สร้างมันขึ้นใหม่ได้

เมื่อเชี่ยวเย่ว์เหม่ยรับสร้อยข้อมือไปถือ นางตื่นเต้นยินดีไม่ใช่น้อย คำพูดที่ใจกว้างของฉินหยุนก่อนหน้านี้ มันทำให้นางรู้สึกคล้ายมีลูกกวางน้อยมากระแทกกระทั้นในหัวใจ

3 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด