ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0132 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0134 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0133 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมเวทอหังการ

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 133 : เคล็ดวิชาเทวะควบคุม

มันมีบันทึกจากตู้ก่วยภายในตำราวิชาเทวะ ซึ่งมันทำให้ง่ายต่อการอ่าน

ผ่านไปนานไม่น้อย ในที่สุดพวกเขาก็จดจำทุกอย่างได้

“บอกต่อข้าว่าเจ้าเข้าใจว่าอย่างไร!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยสะกิดฉินหยุนเบามือ “นี่เจ้าฝันกลางวันอะไรอยู่? พูดเร็วเข้า!”

“ข้ากำลังคิดว่าจักรวรรดิเทียนเชี่ยวจะคิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องที่ข้าทำอะไรเจ้า พวกเขาต้องต่อต้านข้าแน่นอน หรือไม่ใช่? ข้าทำให้เชี่ยวหลางพิการไปแล้วครั้งหนึ่ง ทั้งยังนำร่างราชสีห์เหมันต์กลับมาด้วย พวกเขาเกลียดชังข้ามานานยิ่งแล้ว ตอนนี้เจ้ายังก่อเรื่องซ้ำอีก...” ฉินหยุนเป็นกังวลเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกลอกตาแค่นเสียง “เจ้าเพิ่งยั่วยุตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามไป เหตุใดต้องหวาดกลัวจักรวรรดิเทียนเชี่ยวของเรา? เจ้าคือว่าที่ปรมาจารย์จารึกในอนาคต เจ้าควรมีความมั่นใจในตัวเองบ้างสิ!”

“แต่คราวนี้ข้าไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ทั้งยังไปก่อร่างสร้างความเกลียดชังต่อจักรวรรดิเทียนเชี่ยว นอกจากนี้ชื่อเสียงของข้ายังป่นปี้ นี่ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่!” พอฉินหยุนคิดได้ดังนี้ เขารู้สึกไม่สบายใจยิ่ง

“ไม่ใช่ว่าเจ้าได้รับหญ้าหัวใจลึกล้ำไปหรือไร?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยบุ้ยปากกล่าว

“ก็ได้ ข้ายอมรับ อย่างน้อยข้าก็ได้ไอ้นั่นมา!” ฉินหยุนถอนหายใจ

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยแค่นเสียงเบา “เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้จนเกินไป บรรดาตระกูลทรงอำนาจทั้งหมดรวบรวมเงินไปครั้งคิดชิงตัวพี่สาวข้าแล้ว ต่อให้พวกเขาไม่ได้ข้า ก็แค่รู้สึกเสียดายเท่านั้นเอง”

“ทำไมกันเล่า? เจ้าไม่ได้แย่กว่าพี่สาว แต่ทำไมเจ้าถึงไม่มีค่า?” ฉินหยุนสำรวจมองเชี่ยวเย่ว์เหม่ย “แม้ว่าจะเล็กไปบ้างก็ตามที”

“พวกมันอยากแย่งชิงตัวพี่สาวข้าไปไม่ใช่เพราะพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะความลับหลุมฝังเซียนในกายนาง!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอ่ยคำชวนตกตะลึงต่อฉินหยุน

แผนที่หลุมฝังเซียน แท้จริงอยู่ในมือของเชี่ยวเย่ว์หลานนี่เอง!

ฉินหยุนเองก็มีส่วนหนึ่งของแผนที่หลุมฝังเซียนอยู่ในครอบครอง ฉินหย่งเหอเป็นคนมอบมันแก่เขา!

แผนที่หลุมฝังเซียนในมือของเชี่ยวเย่ว์หลานย่อมไม่ใช่ส่วนที่สมบูรณ์ แต่กระนั้นก็มีหลายคนต่อสู้เพื่อแย่งชิง!

“เจ้ารู้เรื่องหลุมฝังเซียนหรือไม่?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าฉินหยุนแปรเปลี่ยน

“ข้าเคยได้ยินมา... เพราะอะไรของสำคัญเช่นนั้นถึงอยู่กับพี่สาวเจ้า?” ฉินหยุนคิดว่าของชิ้นนั้นสมควรอยู่ในมือของจักรพรรดิแห่งเทียนเชี่ยวด้วยซ้ำ

หากมันอยู่ในมือของเชี่ยวเย่ว์หลาน เขาเพียงช่วยเหลือนางและเอ่ยปาก เขาก็ไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับทั้งราชวงศ์เทียนเชี่ยว!

“แผนที่หลุมฝังเซียนไม่ใช่สิ่งของธรรมดา ตอนพี่สาวข้ายังเยาว์ นางเผลอหยดเลือดลงบนตัวแผนที่หลุมฝังเซียน และแผนที่ดังกล่าวได้ผสานรวมเข้ากับกายนาง เป็นผลให้นางไม่อาจนำมันออกมาได้อีก ข่าวคราวนี้เพิ่งถูกแพร่กระจายหลังพี่สาวข้าเข้าร่วมกับตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว

“แล้วทำไมจักรวรรดิเทียนเชี่ยวไม่รักษาไว้? แผนที่หลุมฝังเซียนถือเป็นของล้ำค่า!” ฉินหยุนเอ่ยถาม

“มันก็แค่ส่วนเดียว ไม่มีค่าเลยสักนิด ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกสามส่วนที่เหลือไปอยู่ที่ไหน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยบุ้ยปาก “แต่ไอ้พวกหน้าโง่เหล่านั้นคิดว่าแค่เศษเสี้ยวของแผนที่หลุมฝังเซียน ก็น่าจะพอให้พวกมันหาหลุมฝังเซียนได้พบ”

ฉินหยุนพลันสงสัยต่อชี่เม่ยเหลียน นางคงได้รับแผนที่ดังกล่าวด้วยวิธีการนี้ ในเมื่อนางถือกำเนิดในตระกูลต่ำต้อย มารดาเป็นเพียงหญิงรับใช้ นางจึงไม่มีทรัพยากรการฝึกฝนมากมายนัก ทว่า ด้วยอายุเยาว์เพียงนั้น นางกลับสามารถฝึกได้ถึงขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หกและเข้าร่วมสถาบันยุทธ์ชิงเสวียนได้!

เป็นไปได้มากที่นางจะมีความก้าวหน้าทะยานแบบนั้นเพราะหยดเลือดผสานรวมกายเข้ากับแผนที่หลุมฝังเซียน!

ฉินหยุนคิดอยากโยนเชี่ยวเย่ว์เหม่ยออกจากห้องเสียเดี๋ยวนี้ เพื่อทำการหยดเลือดที่แผนที่หลุมฝังเซียนและรอคอยรับชมผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

“กลับมาพูดถึงเรื่องเคล็ดวิชาเทวะควบคุมกันดีกว่า พวกเราต้องฝึกฝนสิ่งนี้โดยเร็ว และเมื่อเข้าสู่เทือกเขาเมฆมังกรจะได้ไปลงมือสังหารวิญญาณสัตว์ร้ายพวกนั้น” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว “หากข้าฆ่าได้มาก ข้าก็จะได้รับรางวัล!”

“แล้วข้าเล่า? ข้าเองก็อยากได้รางวัลนะ” ฉินหยุนเร่งร้อนเอ่ยถาม

“เจ้า... ไปขออาจารย์ตู้เอา!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว

ถัดจากนั้น ฉินหยุนจึงเริ่มแลกเปลี่ยนความรู้และเข้าใจต่อเคล็ดวิชาเทวะควบคุม

หลังเชี่ยวเย่ว์เหม่ยได้รับฟัง นางหัวเราะร่า “ความรู้ความเข้าใจต่อวิชายุทธ์ของเจ้าสูงล้ำนัก เข้าใจได้รวดเร็วยิ่ง”

นางเริ่มอธิบายส่วนที่นางเข้าใจออกมา

หลังฉินหยุนรับฟัง เขาจึงยิ้มกล่าว “ความสามารถรู้และเข้าใจของเจ้าก็ดีไม่น้อยไปกว่าข้า! เหมือนว่าเจ้าไม่ใช่พึ่งแต่โชคจึงเข้าขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หกได้!”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหันควับมอง “เจ้าสิคนที่มีโชคตั้งแต่เริ่มฝึกฝน!”

นางนำดาบเล่มหนึ่งออกมา จากนั้นจึงเริ่มใช้พลังจิตเพื่อควบคุม

ทางด้านฉินหยุน เขานำเอาหนังสัตว์จำนวนมากออกมาและเริ่มทำการตัด

พอเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเห็น นางเอ่ยถามด้วยความสงสัย “นั่นเจ้าทำอะไร?”

“ทำยันต์น่ะสิ! ข้าต้องขัดเกลายันต์สะกดวิญญาณไว้บ้าง!” ฉินหยุนตอบ “ข้ามีผังวิญญาณสะกดวิญญาณ และพอจะขัดเกลาพวกมันได้จำนวนหนึ่ง ข้าสงสัยนักว่าพวกมันจะสามารถทำอะไรวิญญาณสัตว์ร้ายพวกนั้นได้หรือไม่”

“เช่นนั้นเจ้าก็ทำยันต์ไป ข้าจะเรียนรู้เคล็ดวิชาเทวะควบคุมและวิชารวมจิตวิญญาณสังหาร จากนั้นค่อยสอนต่อเจ้าก็แล้วกัน” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยถือดาบในมือขณะเริ่มการฝึกฝน

เคล็ดวิชารวมจิตวิญญาณสังหารถือเป็นเคล็ดวิชาที่ทำให้สามารถใช้พลังจิต เพื่อโจมตีร่วมกับวัตถุการโจมตีทางกายภาพ

สำหรับเชี่ยวเย่ว์เหม่ย นี่ไม่ได้ยากเย็นแต่อย่างใด ด้วยพลังจิตแกร่งกล้าของนาง นางสามารถจับหลักของวิชาได้ง่ายดาย

ทั้งคืนผ่านไปเร็วยิ่ง!

“เคล็ดวิชาเทวะควบคุมยากนัก!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกระทั่งฝึกทั้งคืน ยังทำได้เพียงใช้พลังจิตควบคุมดาบให้ลอยไปมา

หากนางคิดต้องการควบคุมดาบบินให้โจมตี มันสมควรเป็นเรื่องยากเย็นยิ่ง

“ใช้เวลาของเจ้าไป!” ฉินหยุน ตอนนี้กำลังขัดเกลายันต์สะกดวิญญาณออกมาจำนวนหนึ่ง

“พวกเราจะออกไปในอีกสามวัน ข้าต้องเชี่ยวชาญมันโดยเร็ว” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยแค่นเสียง “เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าอยากรู้นักว่าการสังหารวิญญาณสัตว์ร้ายจะยากเย็นสักเพียงใด”

“หากจัดการไม่ได้ก็หนี! มันไม่สำคัญว่าเจ้าจับหลักวิชาอื่นได้ดีเพียงใด ที่เจ้าควรเชี่ยวชาญคือวิชาตัวเบา เช่นนั้นจะได้หลบหนีอย่างรวดเร็ว” ฉินหยุนยิ้มอธิบายสุดยอดวิชา

กิ๊ง กิ๊ง กิ๊ง!

ช่วงเช้าตรู่ กระดิ่งที่ภายนอกดังขึ้น

“ไปกัน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว

“อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดแหละนะ!” ฉินหยุนถอนหายใจก่อนเปิดประตูหินออกสู่ภายนอก

เมื่อถึงห้องโถง เขาจึงได้เห็นมู่หรงต้าเหรินกำลังยิ้มหัวเราะคิกคัก

“อรุณสวัสดิ์น้องสะใภ้ อรุณสวัสดิ์น้องหยุน!” มู่หรงต้าเหรินยิ้มกล่าวทักทาย

ขณะที่ฉินหยุนคิดอยากอธิบายอะไรสักอย่าง เขาหันไปมองเชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงได้เห็นเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิง... นี่นางตั้งใจกระทำเมื่อครู่ก่อนออกมา!

เขาแทบอธิบายอะไรไม่ได้ ด้วยสภาพนี้พูดไปจะมีใครเชื่ออีกกัน?

กลุ่มศิษย์ตอนนี้รวมตัวกันที่ด้านนอก เมื่อพวกเขาเห็นฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเดินกันออกมา พวกเขาล้วนอิจฉาจนแทบคลั่งตาย

“ฉินหยุนมีเส้นผมยาวติดตามตัว ไม่ มันต้องไม่ใช่!”

“มีกลิ่นของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยที่ตัวมันด้วย!”

“เฮ้อ ชิงสุกก่อนห่าม! พวกเขาถึงกับทำเช่นนี้ จักรวรรดิเทียนเชี่ยวคงไม่ทำอะไรอื่นนอกจากฆ่าฉินหยุนให้ตายตกแล้ว!”

“ฉินหยุนกับเชี่ยวเย่ว์หลานเคยหมั้นหมายกันมาก่อน แต่กลับมีสัมพันธ์อันดีกับน้องสาวด้วยหรือนี่ เฮ้อ...”

ทุกคนต่างคิดว่าเรื่องนี้เกินจะเชื่อ แต่สภาพที่เห็นทำให้พวกเขาได้แต่ถอนหายใจ

พอฉินหยุนได้ยินบทสนทนามากมาย เขารู้สึกใจแทบสลาย นี่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยแม้สักนิด!

เขาจ้องมองเชี่ยวเย่ว์เหม่ย และพบว่าใบหน้านางตอนนี้เปี่ยมด้วยความภูมิอกภูมิใจ

“ฉินหยุน เจ้าทำอะไรต่อเชี่ยวเย่ว์เหม่ย?” กัวเจิ้งก้าวเดินเข้ามาตะโกนถามเกรี้ยวกราด

“ที่ข้าทำต่อนางคือข้าไม่ได้ทำอะไร!” ฉินหยุนมีโทสะตั้งแต่แรกเริ่มเดินเข้ามา พอกัวเจิ้งระเบิดโทสะต่อเขา มันจึงทำเอาเขาคิดอยากระเบิดโทสะออกไปเสียบ้าง

กัวจิ้งคือรองอธิการบดีแห่งสถาบันยุทธ์เทียนเสวียน ทั้งยังเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋า! อัจฉริยะหลายคนของสถาบันยุทธ์เทียนเสวียนล้วนให้ความเคารพแก่เขา แต่แล้วฉินหยุนกลับอวดดีได้เพียงนี้!

“เจ้า... ทราบหรือไม่ว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยมีตัวเลือกนายน้อยจากตระกูลผู้มีชื่อเสียงมากมาย...”

“ไม่ใช่ธุระท่าน!”

“นางคือศิษย์ของสถาบันยุทธ์เทียนเสวียน นาง...”

“ไม่ใช่ธุระท่าน!”

เป็นเช่นนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่ธุระของกัวเจิ้ง เชี่ยวเย่ว์เหม่ยไม่ใช่บุตรสาวเขาเสียหน่อย!

กัวเจิ้งคิดอยากฆ่าฉินหยุนเสียที่ตรงนี้ เพราะเขาลอบติดต่อกับตระกูลชั้นสูงหลายแห่งและต้องการเห็นว่าพวกเขาจะเสนออะไรเพื่อเชี่ยวเย่ว์เหม่ย หากเขาทำได้สำเร็จ เขาจะได้ผลรับประโยชน์มหาศาลยิ่ง แต่แล้วตอนนี้... ฉินหยุนกับเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกลับไปอยู่ร่วมกันมาตลอดทั้งคืน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด