ตอนที่แล้วตอนที่ 6 การสอบคัดเลือก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 การทดสอบสถานะพลัง

ตอนที่ 7 ตอบผ่านคำถามเหมือนคนบ้า


8 The Swiping Questions Maniac

 

คำถามที่แสดงอยู่บนโปรเจคเตอร์พุ่งลงมาเหมือนน้ำตก ข้อมูลถูกส่งผ่านดวงตาของเฟิง หลิน นิ้วของเขาสะบัดผ่านหน้าจอเหมือนผีเสื้อที่ทอแสงผ่านดอกไม้ ปัดไปตามคำถามอย่างเป็นธรรมชาติและไม่มีหยุดพัก

คนอื่น ๆ กำลังหมกมุ่นอยู่กับการสอบของตนเองและด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครสังเกตเห็นภาพแปลก ๆ

สองชั่วโมงผ่านไป และหมดเวลาสอบ เฟิง หลินปิดหน้าจอลงอย่างเงียบๆ

ความสามารถในการสอบครั้งนี้ของเขาทำได้ดีกว่าที่เขาเคยทำได้เยอะมาก เขามีความคิดว่าจะตอบคำถามถูกกี่ข้อและนั่นทำให้เขายังกลัวตัวเอง

ทำงานหนักอย่างเงียบๆ ให้ความสำเร็จของคุณส่งเสียง นั่นคือวิธีที่ถูกต้อง

เฟิง หลินไม่ต้องป่าวประกาศความสามารถของเขาให้เปลืองแรง

อย่างไรก็ตามเมื่อการสอบจบลง นักเรียนแถวแนวหน้าของชั้นได้เข้ามามีบทบาทที่น่ารำคาญในชีวิตของเขาเอง

"ว้าว! จ้าว ไค นายตอบคำถามได้ 250 ข้อ! มันน่าทึ่งมากนั่นคือนายต้องตอบคำถามอย่างน้อยสองคำถามต่อนาที!"

"อย่างที่คาดไว้จากอัจฉริยะที่มีพลังมากกว่า 2! ความเฉลียวฉลาดของนายได้รับการส่งเสริมที่ดีเยี่ยม และความคิดของนายก็รวดเร็วยิ่งกว่าแสง การเป็นคนที่มีพลังวิเศษมันน่าประทับใจจริงๆ นายสามารถตอบคำถามยากๆแบบนี้ได้ยังไงกัน ! "

"อัจฉริยะที่แท้จริง กับเราไม่เหมือนกัน!"

...

เสียงอึกทึกตกใจดังออกมาจากด้านข้างขณะที่ผลการสอบออกมา

ชายร่างสูงใหญ่ 1.9 เมตรถูกล้อมรอบไปด้วยคนอื่น ในขณะที่เขาอยู่ข้างหน้าเขาก็ยังไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มที่พึงพอใจจากมุมปากของเขาได้

คนพาลคนนี้ยังขาดประสบการณ์มากเกินไป

เฟิง หลินส่ายหัว

คนนั้นจ้าว ไคเป็นคนที่เก่งที่สุดในชั้นเรียนของพวกเขา กล่าวกันว่าเขาได้ปลุกยีนที่น่ากลัวสองชนิดคือยีนไฟและยีนโลหะ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเสริมแกร่งมันอีกหลายครั้ง พลังของเขาก็ลือกันว่าเกินกว่า 2 กลายเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงในชั้นเรียน

เหตุผลที่เขาเก่งก็เพราะครอบครัวของเขาร่ำรวย พวกเขากินเนื้อของสัตว์ประหลาดในยุคสมัยดวงดาว ดื่มยายีนชั้นดี และพึ่งพาการสะสมทรัพยากรทั้งหมด

หากอัจฉริยะที่แท้จริงสามารถเข้าถึงทรัพยากรดังกล่าว พวกเขาจะเป็นผู้บ่มเพาะในยุคสมัยดวงดาวที่น่าประทับใจมาก

อย่างที่กล่าวกัน การเกิดมาในครอบครัวที่ดีนับเป็นความสามารถของพวกเขา

เฟิง หลินจะไม่ลดระดับตัวเองไปเป็นเหมือนพวกขี้แพ้ที่ไม่พอใจผู้อื่นที่คอยอิจฉาริษยา

แม้ว่าความสามารถของเขายังเทียบจ้าว ไคไม่ได้ แต่เขาก็มีความสามารถที่ไม่น่าเชื่อคือสมการทางพันธุกรรม เฟิง หลินมั่นใจว่าการก้าวหน้าของเขาไม่ใช่สิ่งที่จ้าว ไคจะคาดถึง

เขามียานอวกาศอยู่แล้ว ทำไมเขาต้องอิจฉากับไอ้แค่รถจักรยานด้วย

"ตอนนี้เราจะประกาศผล!" อาจารย์ใหญ่กำลังจะเริ่มประกาศรายชื่อ เพียงแวบเดียวสีหน้าของเธอก็แข็งค้าง

 

หลังจากหยุดไปนาน เธอก็พูดอย่างลังเล“ที่หนึ่ง…เฟิง หลิน? 588 คะแนน!”

"อะไรนะ?" ทุกคนตกตะลึงจนพูดไม่ออก

ด้วยคำถามที่ยากเช่นนี้ แต่มีคนได้588 คะแนน?

นี่หมายความว่าเขาตอบคำถามอย่างน้อย 588 คำถามภายในสองชั่วโมง และจะต้องเป็นคำตอบที่ถูกต้องทั้งหมด?

นี่มากกว่าสองเท่าของจำนวนคำตอบที่จ้าว ไคผู้ที่เก่งสุดในห้องตอบถูก …มันเกือบจะสามเท่า!

เป็นไปได้อย่างไรกัน

สายตาทุกคู่ที่งงงวยจ้องมองมาทางเฟิง หลินราวกับเห็นผี

"อาจเป็นไปได้ว่ามีข้อผิดพลาดในการประมวลข้อมูล หรือไม่บางทีผลการสอบอาจจะผิด"

"ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ! เขาคือหนึ่งในนักเรียนที่อยู่อันดับสุดท้ายไม่ใช่เรอะ?เขาจะทำได้ดีขนาดไหนกัน ลืมเรื่องชั้นเรียนของเราไป นอกเหนือจากอัจฉริยะในประวัติศาสตร์ของโรงเรียน มันก็ไม่มีใครอีกแล้วที่ได้รับคะแนนมากกว่า 500”

“ถูกต้องแล้ว! แม้แต่จ้าวไคก็ยังไม่ได้คะแนนสูงขนาดนั้นเลย มันเป็นไปได้อย่างไรที่ผู้ชายคนนี้จะทำได้? เราต้องการเห็นหน้าจอการสอบของเขา!”

....

นักเรียนคนอื่นเห็นด้วยกับความคิดนี้ ทุกคนมองว่านี่เป็นคำอธิบายที่ถูกต้อง

 

อะไร นักเรียนอันดับท้ายจะได้คะแนนสูงสุดผ่านความพยายาม?

เรื่องตลกอะไร!

อาจารย์ใหญ่คิดเหมือนกัน เธอดึงหน้าจอการสอบของเฟิง หลินจากแผ่นเก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทุกคนตรวจสอบอีกครั้ง

ทุกคนเบียดกันเข้าไปดู ไม่มีความผิดพลาดใดจะเล็ดรอดสายตาพวกเขาไปได้

ตาของเฟิง หลินดูหมองลง แต่ต่อมาเขาก็หัวเราะอย่างไม่แยแส

บุคคลที่ซื่อสัตย์สามารถยืนหยัดได้ไม่ว่าจะโดนทดสอบด้วยวิธีไหน

หากคนเหล่านี้ต้องการตรวจสอบก็ปล่อยให้ตรวจสอบไป เขาแค่หวังว่าหัวใจที่เปราะบางของคนพวกนั้นจะไม่แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆเมื่อพบความจริง

ในความเป็นจริงเขารู้ว่าเขาไม่ได้ตอบเพียง 588 คำถาม เขาตอบทั้งหมด 698 ข้อ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำถูกทุกข้อด้วยความเร็วเขา และเขาก็ตอบผิดไป 110 ข้อ

เฟิง หลินส่ายหัว เขาไม่พอใจกับผลการสอบของเขา

"คำถามนี้ถูกต้อง!”

"อันนี้ก็เหมือนกัน!"

"ถูกต้องทั้งหมด เป็นไปได้ไงกัน?!"

...

ทุกคนในชั้นเรียนรวมถึงอาจารย์ใหญ่เบิกตากว้างกับทุกคำตอบที่ตรวจจนตาของพวกเขาเกือบจะใหญ่เท่ากับตาวัวแล้ว

 

พวกเขาตรวจสอบจากชุดข้อมูลของเฟิง หลิน และตระหนักว่าไม่เพียงแต่เป็นจำนวนคำถามที่ตอบเยอะจนไม่น่าเชื่อ แต่ความแม่นยำในการตอบก็น่าประหลาดใจเช่นกัน เขาตอบถูกสูงกว่า 80%!

สีหน้าพวกเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากจะเชื่อ

พวกเขาอยู่ในยุคสมัยดวงดาวซึ่งเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าอย่างมาก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการเฝ้าระวังที่สามารถตรวจสอบอะตอมได้ นี่เป็นการหยุดความคิดในการโกงทั้งหมด

หากไม่ใช่เพราะสิ่งนี้พวกเขาคงจะเริ่มสงสัยเฟิง หลินอย่างแน่นอน!

เฟิง หลินคะแนนอยู่ต่ำสุดเสมอ เขาจะทำคะแนนได้สูงกว่า 500 คะแนนในการสอบเขียนได้อย่างไรกัน?

ความเป็นไปได้ของเรื่องนี้น้อยยิ่งกว่าการพบดาวเคราะห์อื่นในเอกภพนี้ซะอีก หนึ่งในล้าน? หนึ่งในพันล้าน?

แต่นี่เป็นข้อเท็จจริงและไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับมัน

ท่ามกลางฝูงชนมันไม่ยากที่จะเห็นการแสดงออกของจ้าว ไค เขามองมาด้วยสายตาเกลียดชัง

เขาได้อันดับหนึ่งในชั้นเรียนเสมอ ไม่มีใครกล้าที่จะสลัดเขาจากตำแหน่งนั้น

กระนั้น นักเรียนที่อยู่อันดับสุดท้ายคนหนึ่งกลับกล้าปีนข้ามหัวเขา และแซงหน้าเขาด้วยคะแนนที่มากมาย ความจริงของเรื่องนี้ทำเขายอมรับได้ยาก

โดยธรรมชาติแล้ว เขาจะไม่พูดอะไรบางอย่างที่โง่เขลาเหมือนข้อกล่าวหาที่มีต่อเฟิง หลินว่าเฟิง หลินโกง แต่เขาพูดด้วยเสียงต่ำกับอาจารย์ใหญ่ว่า“อาจารย์ เราควรตรวจสอบกล้อง ในช่วงการทดสอบ ไม่อย่างนั้น ผมเกรงว่าจะไม่มีใครเชื่อว่านักเรียนอันดับท้ายอย่างเฟิงหลินจะสามารถได้คะแนนมากขนาดนั้น ใครจะรู้ ระบบคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนอาจผิดพลาด หรือบางทีมันอาจถูกแฮ็คเกอร์โจมตี!”

จ้าว ไคพูดกว้างๆ แต่มีคำแนะนำที่ลึกซึ้งอยู่ท้ายประโยค

กรวดก้อนเดียวสามารถกระตุ้นระลอกคลื่นนับพันได้

ในฐานะนักเรียนอันดับหนึ่งของชั้นเรียน คำพูดเขาสามารถโน้มน้าวใจทุกคนได้

นักเรียนคนอื่น ๆ เริ่มส่งเสียงเห็นด้วย

 

"ถูกต้องแล้ว! เราต้องการดูบันทึกการสอบ!"

"ฉันไม่สามารถยอมรับได้ว่านักเรียนอันดับสุดท้ายอย่างเขาจะสามารถทำคะแนนได้ถึง 588 คะแนน!"

"นั่นเป็นไปไม่ได้!"

...

เพียงเพราะเฟิง หลินได้รับคะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์ ความโกลาหลจึงเกิดขึ้นในชั้นเรียนของพวกเขา

เสียงแห่งความสงสัยทำให้บรรยากาศรอบตัวพวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่มีใครเชื่อว่าเฟิง หลินจะทำได้ด้วยความพยายามของเขา

มันก็แค่คะแนนสูง ต้องทำกันถึงขนาดนั้นเลย?

เฟิง หลินผิดหวังมาก เขาทั้งผิดหวังทั้งรำคาญ

 

เขาได้คะแนนสูงสุดด้วยความสามารถของเขาเอง ทำไมเขาถึงต้องมาถูกถามแบบนี้

เฟิง หลินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขารู้ว่ามันเป็นการพัฒนาที่รวดเร็วเกินไป นั่นจึงทำให้เกิดความโกลาหล!

แต่ในยุคสมัยดวงดาว พวกเขามีประชากรสูงพร้อมการแข่งขันที่สูง ไม่มีทางที่จะทำตัวให้ไม่โดดเด่นได้

ในฐานะนักเรียน เพื่อจะให้อาจารย์และโรงเรียนสนับสนุน เขาจะต้องโอ้อวดแสดงความสามารถและพรสวรรค์ของพวกเขา ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่พวกเขาจะได้รับการสนับสนุนและรับทรัพยากร ช่วยให้เส้นทางงบ่มเพาะราบรื่น

เพียงแค่คะแนนที่สูง และความแข็งแกร่ง เฉพาะเมื่อคุณแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการสอบระดับวิทยาลัย ทางโรงเรียนจะดูแลคุณอย่างดี

ถ้าไม่ ทำไมโรงเรียนถึงจะต้องลงทุนด้านการศึกษาและบ่มเพาะให้กับคนทั่วไปด้วย?

นี่คือเหตุผลที่เฟิง หลินตั้งใจทำอย่างดีที่สุดเพื่อให้ได้คะแนนที่ดี!

ในยุคสมัยดวงดาว ความอ่อนแอเหมือนเป็นอาชญากรรม และการทำตัวให้ไม่โดดเด่นก็เหมือนการแสดงของคนโง่

 

"เงียบ!" เมื่อเห็นความโกลาหลของฝูงชน อาจารย์ใหญ่ก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เธอตะโกนด้วยพลัง ครอบคลุมไปทั่วทั้งชั้นเรียน

เนื่องจากความโกลาหลครั้งนี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งชั้น ในฐานะอาจารย์ใหญ่ มันจึงเป็นหน้าที่ของเธอที่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ สงบลง

 

เธอประเมินเฟิง หลินอีกครั้งก่อนจะพูดว่า "เฟิง หลินพัฒนาการของเธอมากจนเกินไปในเวลานี้ อย่าตำหนินักเรียนคนอื่นที่เขาจะคิดมาก เพื่อรับรองความน่าเชื่อถือของเธอฉันจะต้องตรวจสอบทุกอย่างอีกครั้ง! "

 

พัฒนาการที่มากเกินไปเป็นความผิดของฉันเหรอ!

เฟิงหลินรู้สึกขุ่นเคือง

ศักยภาพ คนต้องมีศักยภาพ

หากพวกเขามีศักยภาพที่สมบูรณ์ ผู้อื่นจะยอมรับมันอย่างสุดใจ

เนื่องจากอาจารย์ใหญ่ทำการตัดสินใจไปแล้ว  เฟิง หลินก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต่อต้านมัน ความกระหายในใจของเขาเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

จากท่าทางของเฟิง หลินอาจารย์ใหญ่ไม่ได้ใส่ใจหรือกังวลอะไรเมื่อเธอเริ่มตรวจสอบอีกครั้ง

เธอไม่เพียงตรวจสอบจากหน้าจอสอบเท่านั้น แต่เธอยังดึงภาพการเฝ้าระวังและตรวจสอบการตอบสนองทางสมอง ความร้อนในร่างกายของเฟิง หลิน เพื่อตรวจสอบว่ามีสัญญาณของการโกงหรือไม่

คอมพิวเตอร์ออพติคอลทุกเครื่องที่ใช้ระหว่างการสอบของนักเรียนนั้นเชื่อมโยงกับระบบเฝ้าระวัง อาจารย์ใหญ่ทุกคนจะสามารถเปิดวิดีโอได้ทุกเวลาด้วยการสัมผัสเพียงนิ้วเดียว

การฉายภาพปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาของพวกเขา เฟิง หลินเติมภาพตอบคำถามหนึ่งคำถามด้วยความเร็วที่น่าทึ่งนิ้วของเขาพุ่งผ่านและลื่นไหลไปทั่วอย่างราบรื่น

 

เขาไม่ลังเลเลยสำหรับคำถามแต่ละข้อและตอบอย่างเร่งด่วน ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ ตำนาน…ไม่มีวิชาใดที่จัดการกับเขาได้ รอยยิ้มเล็ก ๆ เริ่มก่อตัวบนใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความมั่นใจและความรู้ที่เขามี

 

“เขาตอบอย่างรวดเร็วราวกับว่าเขาไม่ต้องคิดเลย! แม้แต่คำถามที่ซับซ้อนเกี่ยวกับความรู้ในตำนานก็ไม่ได้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากอะไรสำหรับเขา!”

"ใช่! ความรู้เกี่ยวกับตำนานแปลก ๆ นับพันและตรรกะของพวกเขาขัดแย้งกันอยู่ตลอดเวลา - นั่นเป็นเรื่องยากที่สุดที่จะโกง แต่เขาก็ตอบคำถามเหล่านั้นอย่างถูกต้อง"

"ถ้านี่เป็นเรื่องจริงมันก็น่ารังเกียจจริงๆ!"

...

พวกเขาเฝ้าสังเกตวิดีโอเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ประสิทธิภาพที่น่าตกใจ พวกเขาไม่เพียงแค่ตกใจ แต่พวกเขาประหลาดใจ

"ดูนี่สิ เขาตอบด้วยความเร็วอย่างมาก!"

“เขาไม่เพียงแต่ตอบ เขาเลื่อนผ่านพวกมันด้วยซ้ำ!”

“ เป็นไปได้ไหมที่เขาจะเป็นคนคลั่งไคล้เรื่องราวในตำนาน? เขาบรรลุระดับความรู้ที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองโดยที่ครูไม่ได้สอน

...

 

ราวกับว่าทุกคนได้ค้นพบเกาะใหม่ ค้นพบความลับของความเร็วในการตอบรับของเฟิง หลินและความแม่นยำสูงของเขา

พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองเฟิง หลินใหม่อีกครั้ง

คอมพิวเตอร์ออพติคอล การเฝ้าระวังไม่มีปฏิกิริยาตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขาไม่เจอสิ่งผิดปกติของเฟิง หลินแม้แต่น้อยสิ่ง

เป็นไปได้ไหมที่เฟิงหลินจะเป็นคนที่คลั่งไคล้ในตำนานอย่างบ้าคลั่งและได้รับคะแนนสูงสุดด้วยความพยายามของเขาเอง?

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด