ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0124 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0126 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0125 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมเวทอหังการ

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 125 : พรสวรรค์วิถีจารึก

ฉินหยุนเผยสีหน้าจริงจัง ทุกคนตระหนักได้!

เดิมที อาจารย์หลายท่านและบรรดาศิษย์ล้วนไม่เชื่อว่าฉินหยุนสามารถหลอมอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของ แต่ตอนนี้ พวกเขาล้วนเชื่อแล้ว

“หากเจ้าขัดเกลามันขึ้นมาได้ ข้าจะขอซื้อที่สองพันเหรียญม่วง!” โฮ่วฉิงเฟิงเผยใบหน้ายะเยือกที่เปี่ยมด้วยความประหลาดใจขณะกล่าวถาม “นี่เจ้าขัดเกลามันได้จริง?”

พร้อมกันนี้ พวกเขาส่งคืนเข็มขัดมิติเก็บของทั้งสามแก่เซี่ยอู๋เฟิงและพรรคพวก

ฉินหยุนยิ้มมั่นใจกล่าวคำ “ท่านจะทราบหลังข้าขัดเกลามันเสร็จสิ้น หากไม่แล้ว ท่านคงไม่เชื่อในสิ่งที่ข้ากล่าวเป็นแน่”

“ย่อมได้!” จ้าวฉวนเองก็อยากเห็นจึงพยักหน้ารัวเร็ว

กัวเจิ้งและผู้อื่นเผยสีหน้าดำมืด หากฉินหยุนสามารถหลอมอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของได้จริง เขาจะถือเป็นอัจฉริยะใต้หล้าในวิถีจารึกแล้ว พรสวรรค์เช่นนี้นับว่าสูงล้ำกว่าฉินเจิ้งเฟิงไม่รู้กี่เท่า

ผู้ที่มีเส้นวิญญาณจำนวนมากและวิญญาณยุทธ์หายาก พวกเขาเหล่านั้นมีน้อยนิด แต่ก็ยังพอมีให้เห็นบ้างตามกาลเวลา ยกตัวอย่างเชี่ยวเย่ว์หลาน เชี่ยวเย่ว์เหม่ย ฉินเจิ้งเฟิง และผู้อื่น พวกเขาล้วนเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นดีที่สถาบันยุทธ์ระดับเสวียนต้องตาเสมอมา

ทว่า อัจฉริยะโดยธรรมชาติบนวิถีจารึกนั้นพบเจอได้ยากยิ่ง

ก่อนจะได้รู้จักกับวิถีจารึกด้วยตัวเอง จะไม่มีผู้ใดทราบว่าแท้จริงมันคืออะไร และจะไม่มีทางทราบว่าผู้ใดมีความเหมาะสมที่ดี ด้วยเหตุนี้อัจฉริยะของวิถีจารึกจึงหาพบพานได้ยากยิ่งนัก

ยิ่งกับอัจฉริยะระดับที่รู้และเข้าใจด้วยตนเองอย่างฉินหยุน จะนับเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะในวิถีจารึก

หลายคนต่างทราบว่าเขามีพรสวรรค์บนวิถีจารึกโดยธรรมชาติ ทว่า หลังจากเขาพลาดการผสมผสานกับศิลาอัคคีร่วงหล่นกับวิญญาณยุทธ์ ทุกคนต่างคิดว่าวิญญาณยุทธ์ไฟของเขาถูกทำลาย ดังนั้นจึงไม่ได้ให้ค่าสนใจอะไรแก่เขาอีก

และพอตอนนี้... เขากระทั่งสามารถขัดเกลาอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของ!

ฉินหยุนหลอมเหล็กวิญญาณระดับต่ำด้วยความเชี่ยวชาญ เขายังเสริมเครื่องในและหนังสัตว์เพื่อทำให้เหล็กวิญญาณมีความอ่อนตัว ด้วยเหตุนี้ เข็มขัดจึงมีทั้งความอ่อนตัวและเหนียวแน่นในเวลาเดียวกัน

“หากข้าขัดเกลามัน ข้าจะใช้เครื่องในสัตว์และหนังสัตว์ผสานรวมเข้ากับศิลาวิญญาณว่างเปล่า หากเจ้านำเหล็กวิญญาณระดับต่ำผสมเข้าไป มันจะกลายเป็นเสียประสิทธิภาพ เช่นนี้จะทำเพิ่มระดับความยากและส่งผลต่อเสถียรภาพการแกะสลัก” จ้าวฉวนกล่าวคำจากด้านข้าง

ขณะทำการหลอม ฉินหยุนกล่าว “เครื่องในสัตว์และหนังสัตว์เป็นเพียงส่วนเสริมขอรับ โดยหลักแล้วข้าใช้เหล็กวิญญาณระดับต่ำเพื่อดูดกลืนศิลาวิญญาณว่างเปล่า! ศิลาวิญญาณว่างเปล่าเป็นแร่ ดังนั้นเหล็กที่ได้รับออกมาจึงเป็นแร่เช่นกัน คุณสมบัติพวกมันคล้ายคลึงกัน จึงทำให้เหล็กสามารถดูดกลืนวัตถุดิบอย่างศิลาวิญญาณว่างเปล่าได้ดีกว่า”

“ท่านผู้อาวุโสลองคาดเดา หากข้าใช้ศิลาขนาดเท่าเมล็ดข้าวเพื่อหลอมอุปกรณ์วิญญาณ มิติเก็บของที่จะได้รับสามารถกว้างเท่าใด?”

เมื่อจ้าวฉวนได้ยินดังนี้ เขารู้สึกว่าเรื่องนี้สมเหตุสมผล นี่เป็นเพราะเมื่อพวกเขาหลอมอุปกรณ์วิญญาณ พวกเขาไม่เคยคิดซับซ้อนเพียงนี้ ไม่ว่ามันจะง่ายเพียงใด พวกเขาเพียงต้องการหลอมอุปกรณ์วิญญาณโดยเน้นที่ความเร็วและความเสถียร

“ผังวิญญาณมิติระดับสูงเหล่านั้น พวกมันสามารถทำให้พื้นที่ใหญ่กว่า...” จ้าวฉวนไม่กล้าคาดเดา กระทั่งว่าไม่อาจคาดเดาได้ด้วยซ้ำ

เมื่อทุกผู้คนได้ยินคำของจ้าวฉวน พวกเขาเริ่มฮือฮา เป็นเพราะผังวิญญาณมิติที่ฉินหยุนครอบครองอยู่ระดับสูง!

ก่อนหน้า เก๋อตงคิดอยากแย่งชิงผังธาตุแสงไปจากฉินหยุน นั่นก็เป็นผังธาตุแสงระดับสูง!

เป็นฉินหยุนครอบครองผังวิญญาณระดับสูงมากมายเพียงใดกัน? ทุกผู้คนล้วนลอบอึ้งทึ่งภายใน!

กัวเจิ้งลอบกัดฟันแน่น เขานึกเสียดายที่ไม่ซื้อใจฉินหยุน หากเขาสามารถได้รับผังวิญญาณระดับสูงจำนวนมากเหล่านั้น เขาย่อมต้องสร้างผลกำไรมหาศาลขึ้นได้!

ถึงตอนนี้ สีหน้าของผู้อาวุโสจากสถาบันยุทธ์เทียนเสวียน สถาบันยุทธ์หลิงเสวียน และตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามพลันน่าเกลียดยิ่ง เป็นเพราะพวกเขาถึงกับมีเรื่องกับว่าที่ปรมาจารย์จารึกในอนาคต!

โดยเฉพาะกับเหลียวหนิงแห่งสถาบันยุทธ์เทียนเสวียน เขามองค้อนราชันยักษ์วิญญาณในมือฉินหยุน เขารู้สึกโกรธแค้น นั่นเป็นเพราะความสูญเสียของเขาก่อนหน้า ทั้งยังเป็นผลให้เขาไม่อาจโงหัวขึ้นในสถาบันยุทธ์เทียนเสวียน กระทั่งโดนลงโทษที่ก่อเรื่อง

หลังคิดอยู่ชั่วระยะ จ้าวฉวนจึงกล่าว “ศิลาวิญญาณว่างเปล่าขนาดเท่าเมล็ดข้าว รวมเข้ากับผังวิญญาณมิติระดับสูงจำนวนหนึ่ง สมควรสร้างอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของได้ขนาดราวยี่สิบตารางเมตรเป็นอย่างมาก”

ยี่สิบตารางเมตรนับเป็นอะไร นี่หมายความถึงมันสามารถใส่ช้างโตเต็มวัยได้ราวยี่สิบตัวแล้ว

เข็มขัดมิติเก็บของที่ฉินหยุนหลอมก่อนหน้า มันสามารถเก็บสัตว์ปีศาจได้ถึงห้าสิบหรือเกือบหกสิบตัว

สองชั่วโมงให้หลัง เขาจึงค่อยสร้างเข็ดขัดสีดำงดงามขึ้นมาได้ ความประณีตของมันนับว่าเป็นเลิศ จากนั้นเขาจึงนำเอามีดแกะสลักออกพร้อมเริ่มการแกะสลัก

จ้าวฉวน โฮ่วฉิงเฟิง และผู้อาวุโสท่านถึงกับส่งเสียงฮือฮา แกะสลักคือขั้นตอนสำคัญของการขัดเกลาอุปกรณ์ขึ้นมา

ระหว่างที่ฉินหยุนแกะสลัก ม่านแสงจะปกคลุมรอบมีดแกะสลัก มือ รวมถึงตัวเข็มขัด

กระนั้น เขาก็ยังเป็นกังวล จึงได้ปล่อยคลื่นพลังจิตออกมาก่อเป็นม่านพลังเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีพลังจิตแกร่งกล้าสอดแนมได้

เมื่อเริ่มการแกะสลักผังวิญญาณมิติ แสงสว่างที่ปกคลุมนี้ชวนคุ้นเคย มันเป็นไปอย่างลื่นไหลและสามารถเสร็จสิ้นในการลงมือรวดเดียวจนจบ

แม้ต้องใช้เวลาถึงสี่ชั่วโมง แต่เขารู้สึกคล้ายเวลาแทบไม่ได้ผ่านไปเลย

จ้าวฉวนผู้อยู่ด้านข้างมองอย่างสะพรึง โดยเฉพาะกับการแกะสลักที่ลื่นไหลของฉินหยุนยิ่งทำให้เขาแตกตื่น!

“เสร็จแล้วขอรับ ข้าแกะสลักผังวิญญาณสัญญาโลหิตและผังวิญญาณมิติ เพียงหยดเลือดลงไปก่อน ท่านจึงค่อยใช้อุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของได้ หากมีคนฉกชิงเอาไป พวกมันจะไม่มีทางได้รับสิ่งของภายในไม่ว่าจะกระทำด้วยวิธีใดก็ตาม” ฉินหยุนส่งเข็มขัดให้จ้าวฉวน

“เหล่าโฮ่ว มาตรวจสอบ! ข้าไม่ได้ขาดแคลนอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของ ดังนั้นนี่จึงเป็นของเจ้า!” จ้าวฉวนตอนนี้มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าฉินหยุนสามารถหลอมอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของได้จริง

นอกจากนี้ วิญญาณยุทธ์ของฉินหยุนยังไม่ได้พิการ มันสามารถปล่อยเปลวเพลิงอ่อนจางออกมาได้ นี่สมควรเป็นวิญญาณยุทธ์ของเขาเกิดปัญหาใหญ่ขึ้น ไม่เช่นนั้นความเร็วการแกะสลักลายเส้นผังวิญญาณสมควรรวดเร็วกว่านี้แล้ว

โฮ่วฉิงเฟิงรับเข็มขัดมิติเก็บของ หลังหยดเลือด เขาจึงใช้พลังจิตสำรวจมิติภายใน เขาถึงขั้นร้องอุทาน “กว้างขนาดเก็บสัตว์ปีศาจได้ราวห้าสิบตัว!”

บรรดาศิษย์ที่นี่ล้วนไม่แปลกใจ เป็นเพราะพวกเขาทราบกันแต่แรกแล้วว่าเข็มขัดของเซี่ยอู๋เฟิงและพรรคพวกสามารถเก็บร่างของสัตว์ร้ายได้หลายสิบตัว

อีกทางหนึ่ง กัวเจิ้ง เก๋อหยวนเฟย เหลียวหนิง และผู้อื่นล้วนเผยใบหน้าเปี่ยมด้วยความไม่เชื่อ!

“จริงหรือนี่?” จ้าวฉวนเองก็ประหลาดใจ

“เหตุใดข้าจึงต้องโกหกเล่า?” โฮ่วฉิงเฟิงเผยใบหน้ายะเยือกทว่ารอยยิ้มนั้นอบอุ่น เขามองฉินหยุนอ่อนโยนขึ้นมาทันตา

เขากล่าวต่อฉินหยุน “เจ้าจงเข้าร่วมสถาบันยุทธ์ชิงเสวียนเดี๋ยวนี้ ไม่จำเป็นต้องผ่านการทดสอบใด!”

ไม่เพียงแต่การเข้าร่วมสถาบันยุทธ์ชิงเสวียนเป็นเรื่องยาก กระทั่งไม่เคยมีใครได้รับเชื้อเชิญให้เข้าร่วม!

แต่คราครั้งนี้ ฉินหยุนกลับได้รับการยกเว้น

“มีเงื่อนไขใดต้องยอมรับหรือไม่ขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

โฮ่วฉิงเฟิงกล่าว “เมื่อพวกเราต้องการอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของ และเมื่อเจ้าไม่มีเรื่องสำคัญอื่นใดต้องกระทำ ให้ช่วยพวกเราหลอมมันขึ้นมา นี่คือเงื่อนไข! แน่นอนว่าเจ้าไม่ได้รับอนุญาตขัดเกลาอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของเกินกว่าสามชิ้นงานต่อเดือน... พวกเราเพียงต้องการให้เจ้าช่วยแกะสลักผังวิญญาณ พวกเราจะมอบวัสดุที่จำเป็นเพื่อให้เจ้าได้ทำงานเสร็จสิ้นภายในหนึ่งวัน”

เรื่องนี้ทำเอาสถาบันยุทธ์เทียนเสวียนและหลิงเสวียนล้วนอิจฉาตาร้อนผ่าว! เพราะนี่เท่ากับว่าสถาบันยุทธ์ชิงเสวียนจะได้รับอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของสามชิ้นงานในทุกเดือน!

อุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของไม่ใช่ของซื้อขายได้ตามท้องตลาด พวกมันเหล่านั้นจะกลายเป็นรางวัลแด่ศิษย์ของสถาบันเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนต่อพวกเขา

ฉินหยุนคิดเรื่องนี้ขณะรู้สึกว่าไม่เลว ทว่า เขาไม่ได้ตกปากรับคำโดยทันที เขาเอ่ยถามต่อ “รองอธิการโฮ่ว ท่านสามารถเชิญสหายทั้งสามของข้าด้วยได้หรือไม่?”

“ไม่! เป็นข้ายกเว้นเฉพาะเจ้า นี่เป็นเพราะเจ้าเชี่ยวชาญผังวิญญาณมิติ!” โฮ่วฉิงเฟิงส่ายหน้า

“งั้นข้าขอปฏิเสธ!” ฉินหยุนกล่าว

หากไร้ซึ่งแขน พละกำลังของเซี่ยอู๋เฟิงถือว่าลดลงอย่างมหาศาล นอกจากนี้ หน่วยนี้ยังคนเพียงสาม หากพวกเขาต้องการผ่านการทดสอบในภายหน้า มันจะยิ่งกลายเป็นเรื่องยาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด