เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0110 [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••
ตอนที่ 110 : ผู้นำสัตว์ร้าย
เซี่ยอู๋เฟิงถามเสียงลุ่มลึก “สัตว์ร้ายกี่ตัว?”
“มีหลายสิบตัวที่อยู่ระดับหก!” ฉินหยุนนำเอาค้อนราชันยักษ์วิญญาณออกมาและกล่าว “ข้าจะเข้าร่วมศึกนี้!”
“ข้าด้วย!” มู่หรงต้าเหรินพลันโบกพัดและกล่าว
ก่อนหน้า มีเพียงฮั่วจงซึ่งร่างกายใหญ่โตทำการต่อสู้ แต่คราวนี้พวกเขาทั้งสี่จะร่วมสู้ด้วยกัน!
“โอ้!” ฮั่วจงตะโกนดัง เขาเป็นฝ่ายพุ่งกายออกไปก่อน ท่วงท่าของเขาหาได้อ่อนแอกว่าแรดเกราะหยกไม่
หลังพุ่งตัวออกไปหลายสิบเมตร เขาจึงได้เห็นหมาป่าร่างใหญ่พุ่งเข้าหา ไม้คทาในมือพลันฟาดหวดเข้าใส่อย่างเต็มแรง
ร่างหมาป่าหนักนับพันจินพลันลอยลิ่วไปเพราะแรงหวดของไม้คทา มันกระทั่งทำต้นไม้แตกหักยามเมื่อร่างหวดปะทะ ผิวหนังของมันกระทั่งปริแตกออก แรงดิบของฮั่วจงได้ทำให้ฉินหยุนต้องทึ่งอีกครั้ง!
ทางด้านมู่หรงต้าเหรินที่ไม่ได้สู้นับตั้งแต่แรก ยามนี้ลอยลิ่วตัวเบา เขาโบกพัดในมือยิงออกซึ่งเส้นสายกำลังภายในจำนวนหนึ่งจัดการโค่นเสือดาวตัวหนึ่ง จากนั้นเขาจึงยิงบอลแสงสีม่วงออกโจมตีเข้าอย่างแม่นยำที่หัวของเสือดาวตัวนั้นเป็นการปลิดชีพ
แม้มู่หรงต้าเหรินไม่ได้ดิบเถื่อนอย่างฮั่วจง ทว่าการโจมตีจากระยะไกลของเขากลับทรงพลังจนสามารถสังหารเสือดาวที่อยู่ห่างออกไปกว่าร้อยเมตรได้อย่างไม่ยากเย็น
การโจมตีของเซี่ยอู๋เฟิงก็น่ากลัวไม่แพ้กัน หลังลอยลิ่วถึงตัว มือทั้งสองของเขาพลันโบกสะบัดปล่อยคลื่นพลังออกมา มันแม่นยำจนกระทั่งทำลายแขนขาทั้งสี่ของสัตว์ร้าย ถัดจากนั้นจึงเป็นฮั่วจงพุ่งเข้ามาฟาดหวดศีรษะของสัตว์ร้ายจนตายด้วยไม้คทาในมือ
ก่อนที่ฉินหยุนและแรดเกราะหยกจะเริ่มโจมตี ฝูงใหญ่ตรงหน้าก็โดนฮั่วจงและคณะจัดการไปก่อนแล้ว
“ไม่ได้มากมายอะไร!” มู่หรงต้าเหรินยิ้มกล่าว เขาเพียงสังหารสัตว์ร้ายไปตัวหนึ่ง ชัดเจนว่าเป็นผู้ที่ขี้เกียจที่สุดในคณะแล้ว
แรดเกราะหยกก้มศีรษะลงต่ำหลายครั้ง ทว่าไม่มีผู้ใดทราบว่านี่หมายความถึงอะไร
“น้องสามฮั่ว ในเมื่อเจ้ามีวิญญาณยุทธ์วัว สมควรเป็นวงศ์ตระกูลเดียวกับแรดตัวนี้แล้ว เข้าใจหรือไม่ว่ามันกล่าวอันใด?” มู่หรงต้าเหรินยิ้มเอ่ยถามขณะกระโดดขึ้นบนหลังของตัวแรด
“ข้าไม่เข้าใจเลย...” ขณะฮั่วจงกล่าวคำจบ แรดเกราะหยกก็เริ่มออกวิ่งไปแล้ว
มู่หรงต้าเหรินหันกลับมายิ้มพูดขึ้นว่า “นี่นับเป็นสัตว์พาหนะที่ดี ไปกัน!”
ฉินหยุนเอ่ยคำ “ตามมันไปแล้วค่อยรับชมเรื่องราว ใครจะรู้กัน มันอาจคิดพาเราไปที่ไหนสักแห่งก็ได้!”
เซี่ยอู๋เฟิงและฮั่วจงต่างรู้สึกได้ ว่าแรดเกราะหยกตัวนี้มีความอ่อนน้อม นี่เป็นความรู้สึกที่พวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อนยามเผชิญหน้ากับสัตว์ปีศาจ
หากไม่ใช่เพราะฉินหยุนอยู่ตรงนี้ พวกเขาคงสังหารสัตว์ปีศาจตรงหน้าตั้งแต่แรกพบเห็น
“น้องหยุนขึ้นมาเร็ว มีที่ว่างให้เจ้าได้นั่ง!” มู่หรงต้าเหรินยิ้มกล่าว
ฉินหยุนทะยานตัวขึ้นไปนั่งบนหลังของแรดเกราะหยกอย่างไม่รีรอ
แรดเกราะหยกมีความยาวทั้งตัวกว่าหกหรือเกือบเจ็ดเมตร ทั้งยังสูงถึงสามเมตร ผิวหนังขาวราวหยกแก้ว มันทั้งเรียบลื่นและงดงามยามสัมผัส ทั้งยังมีนอหยกสีขาวงดงามอยู่บนจมูกถึงสอง ร่างกายส่วนหน้าของมันค่อนข้างใหญ่ ขณะที่ด้านหลังค่อนข้างเล็ก กล่าวกันว่าทั่วทั้งกายของแรดเกราะหยกนั้นเปรียบเสมือนสมบัติขุมหนึ่งหากคิดนำขาย
ฮั่วจงและเซี่ยอู๋เฟิงต่างทะยานขึ้นบนหลังของแรดเกราะหยกเช่นกัน
แรดเกราะหยกมีพลังการฟื้นฟูยอดเยี่ยม หลังเลือดหยุดไหล ของเหลวสีขาวก็ไหลออกจากผิวหนังทำการสมานบาดแผลเอาไว้ ความเสียหายที่แรดเกราะหยกได้รับแต่แรกเริ่มฟื้นคืนสภาพ
“หากข้าได้มีสัตว์ปีศาจไว้เป็นพาหนะสักตัว มันจะสง่างามได้เพียงใดกันนะ? เจ้านี่ทั้งใหญ่โตและยังกินแต่พืช น่าจะง่ายเลี้ยงดูไม่ใช่น้อย” มู่หรงต้าเหรินที่นั่งอยู่ด้านหน้าสุดยิ้มพูดขึ้น
“หากไม่ใช่น้องหยุนช่วยเตือน พวกเราคงไม่รู้ว่าสัตว์ปีศาจก็สามารถมีสัมพันธ์กับมนุษย์ได้” ฮั่วจงหัวเราะโง่งม “วิญญาณยุทธ์ของข้าคือวิญญาณยุทธ์วัว เพราะแบบนั้นส่วนใหญ่หากเลือกได้ข้าก็ไม่อยากลงมือสังหารวัวเช่นกัน”
เซี่ยอู๋เฟิงกล่าวคำ “มีสัตว์ร้ายจำนวนมากในบรรดาสัตว์ปีศาจ หากไม่มีความเข้าใจต่อสัตว์ร้ายเป็นอย่างดี ก็ไม่อาจตัดสินได้ว่าสมควรโจมตีมันหรืออย่างไรดี น้องหยุนยังเยาว์เพียงนี้ ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีความรู้ความเข้าใจต่อสัตว์ปีศาจถึงระดับนี้ได้”
หลังผ่านไปชั่วครู่ ฉินหยุนลอบภูมิใจที่มีอาจารย์ที่ดีอย่างติงเทียนฉวน ไม่เช่นนั้นแล้วเขาก็คงไม่มีวันได้เข้าใจเรื่องนี้เช่นกัน
“อาการบาดเจ็บของแรดตัวนี้ไม่น่าจะใช่เพราะฝูงเมื่อกี้!” ฉินหยุนมองบาดแผลและกล่าว “แรดเกราะหยกมีผิวหนังที่หนายิ่ง มันไม่ใช่อะไรที่ง่ายต่อการฉีกขาดเพราะสัตว์ร้ายระดับหก! ข้าคิดว่าแรดเกราะหยกตัวนี้น่าจะอยู่ระดับเจ็ด หรือไม่ก็แข็งแกร่งยิ่งกว่านั้น บางทีอาจเป็นผู้นำของสัตว์ปีศาจในละแวกนี้ด้วยซ้ำ”
ฮั่วจงพลันตื่นเต้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น “นี่หมายความว่าแรดยักษ์ตัวนี้จะพาพวกเราไปหาผู้อื่นหรือ? หากเป็นแบบนั้นก็เยี่ยมไปเลย หากสังหารสัตว์ร้ายระดับเจ็ดได้ แต้มเสวียนที่จะได้รับก็มหาศาลตามไปด้วย”
แรดเกราะหยกห้อตะบึงกว่าสี่ชั่วโมงไม่หยุด ฉับพลันนี้เอง ฉินหยุนสัมผัสได้ผ่านพลังจิตถึงสัตว์ร้ายที่อยู่ไม่ไกล!
สีหน้าฉินหยุนเคร่งเครียดขณะพูดขึ้น “น่าจะมีฝูงสัตว์ร้ายอยู่ทางด้านนั้น!”
แรดเกราะหยกเริ่มชะลอฝีเท้าและหยุดลงไม่มุ่งหน้าไปต่อ
ฉินหยุนและคณะกระโดดลงจากหลังของแรด
“ให้ข้าอยู่แนวหน้า พวกเจ้าคอยจัดการสัตว์ร้ายตัวเล็กตัวน้อย” เซี่ยอู๋เฟิงหันมองไปยังถ้ำภูเขาตรงหน้า อย่างกะทันหัน ลมเย็นเยือกพลันพัดผ่านป่า
“สัตว์ร้ายกำลังใกล้เข้ามา!” เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจน มีสัตว์ร้ายจำนวนมากกำลังแห่กันเข้ามาทางด้านนี้
“ให้มันเข้ามา ครั้งนี้พวกเราร่วมกันโจมตี! น้องหยุนระวังตัวให้ดีด้วย!” ฮั่วจงพอกล่าวคำจบ เขาพุ่งออกไปเป็นคนแรก
พอหันมองไปอีกด้าน เซี่ยอู๋เฟิงไม่อยู่ที่เดิมแล้ว เขาบินลัดผ่านอากาศขึ้นไป
ฉินหยุนยกค้อนราชันยักษ์วิญญาณขึ้นพร้อมใช้ก้าวอัคคีเมฆาพุ่งไปทางด้านเดียวกัน ค้อนใหญ่ยักษ์ตอนนี้ฟาดหวดเข้าใส่เสือดำที่กำลังพุ่งคิดเข้าขย้ำร่างเขา
กระบวนท่าฟ้าคำรามลั่นการโจมตีใส่หัวของเสือดำ พลังภายในก่อเกิดการระเบิด หัวของมันแตกกลายเป็นกองเนื้อไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
สัตว์ร้ายระดับที่หกโดนฉินหยุนสังหารด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
พละกำลังของเขาที่เผยออกนี้เป็นผลให้มู่หรงต้าเหรินที่ยืนอยู่ด้านหลังถึงกับตื่นตกใจ เขาไม่เคยคิดว่าฉินหยุน ผู้ซึ่งมีรูปร่างใกล้เคียงตนเองจะสามารถระเบิดพลังป่าเถื่อนเช่นนี้ออกมาได้
เคล็ดวิชาเคลื่อนไหวของฉินหยุนยิ่งมายิ่งว่องไวกว่าฮั่วจง ขณะหลบเลี่ยงสัตว์ร้ายที่พุ่งเข้าหาจากทั้งสองฟากข้าง เขาสามารถสังหารพวกมันทั้งสองได้ในเวลาเดียวกัน อย่างมาก เขาเพียงฟาดหวดออกไปสองทีก็ปลิดชีพพวกมันได้แล้ว
แรดเกราะหยกเองก็เข้าร่วมศึกนี้
กระทั่งมู่หรงต้าเหรินไม่ได้อยู่ในสนามรบ เขาก็ยังคอยช่วยเหลือโจมตีในระยะไกล
กำลังภายในที่เขายิงออกไปผ่านระยะทางค่อนข้างไกล ถึงกับสามารถโจมตีใส่หัวของสัตว์ร้ายได้อย่างแม่นยำ
ต่อให้พวกมันไม่ตาย การเคลื่อนไหวก็ต้องเชื่องช้า บางตัวกระทั่งล้มกับพื้นก่อนเปิดโอกาสให้ฉินหยุนและฮั่วจง เร่งมือเข้าไปปลิดชีพมันด้วยค้อนไม่ก็ไม้คทา
กล่าวได้ว่าการโจมตีระยะไกลของมู่หรงต้าเหรินช่วยลดแรงกดดันต่อฉินหยุนและฮั่วจงได้มาก
อย่างกะทันหัน เสียงคำรามลั่นดังออกจากถ้ำภูเขา เสียงนี้คล้ายเสียงคำรามร้องของมังกร!
“พี่ใหญ่เซี่ย เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?” มู่หรงต้าเหรินเอ่ยถามขณะเห็นร่างสีขาวลอยลิ่วออกจากปากถ้ำ
“เป็นมังกรดำวารี! มันดุร้ายมาก! เมื่อครู่ข้าจัดการมันจนได้รับบาดเจ็บไปบ้างแล้ว ตอนนี้ถ้าพวกเราร่วมมือกัน ก็น่าจะจัดการมันลงได้!” เซี่ยอู๋เฟิงกล่าวหนักแน่น “น้องฮั่ว เข้าโจมตีประชิดระวังให้ดี อย่าเข้าใกล้มากจนเกินไป! มู่หรง เจ้าและข้าไปเตรียมตัว ทันทีเมื่อมังกรน้ำโผล่ออกมา ให้ปล่อยกำลังภายในที่แข็งแกร่งที่สุดโจมตีใส่มัน!”
“น้องหยุน ตามอยู่ด้านหลังน้องฮั่ว รับมือตามสถานการณ์!”
เซี่ยอู๋เฟิงทะยานขึ้นสู่อากาศ ขณะที่ฮั่วจงเร่งพุ่งตรงไปด้านหน้าพร้อมไม้คทาในมือ
ถึงตอนนี้เอง ร่างเงาสีดำขนาดใหญ่มหึมาพลันทะยานออก เซี่ยอู๋เฟิงตะโกนแทบพร้อมชั่ววินาทีที่มันโผล่ออกมา “ฆ่า!”