ตอนที่แล้วตอนที่ 51 เงาลึกลับ [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 53 อันดับหนึ่งคนใหม่ของผยองแห่งนภา [อ่านฟรี]

ตอนที่ 52 ของเดิมพัน [อ่านฟรี]


ตอนที่ 52 ของเดิมพัน

"ทำไม หลินหาน เจ้าไม่กล้าเหรอ?" ดวงตาของหลินกู่เทียนแสดงความชั่วร้าย พลันกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"อย่างข้า จะไม่กล้าเหรอ?" หลินหานยืนขึ้นในทันใด แล้วฉีกยิ้มที่มุมปาก "แต่ในเมื่อพี่กู่เทียนอยากจะเห็นพลังของข้า หรือไม่พวกเรามาพนันกันหน่อยไหม?"

" พนันอะไร?" หลินกู่เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย

“พนันว่าข้าจะเอาชนะซู่เหอได้หรือเปล่า” หลินหานพูดขึ้นทันที

อะไรนะ?

เอาชนะซู่เหอได้หรือเปล่า?

เมื่อคำพูดของหลินหานจบลง ไม่เพียงแค่หลินกู่เทียนเท่านั้น แต่อัจฉริยะรุ่นเยาว์อีกมากมายซึ่งเดิมทีรู้สีกชื่นชมพลังของหลินหานได้หัวเราะเยาะทันที

การมีอยู่ของซู่เหอหมายความว่าอะไร?

ซู่เหอเปรียบเสมือนตัวแทนของคำว่าไร้คู่ต่อสู้ ในหัวใจของอัจฉริยะรุ่นเยาว์ในเมืองต้วนเทียนนี้ เขาคือตำนาน!

แต่ในเวลานี้ หลินหานพูดว่าจะเอาชนะเขาเหรอ?

แม้แต่หลินกู่เทียนที่เป็นห้าผยองมานานยังไม่สามารถรับการโจมตีเดียวของซู่เหอได้ หลินหาน อย่างเจ้าริอาจพูดคำๆนี้เหรอ?"

หลายคนหันไปมองหลินหาน ดวงตาของเขาแสดงความสงสัยและดูถูกเหยียดหยาม

“แม้ว่าหลินหานคนนี้จะเก่งกาจ แต่โอหังเกินไปจริงๆ” ที่นั่งของศิษย์ตระกูลลั่ว สายตาของลั่วชิงหย่างส่องประกายแห่งความเย็นชา

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา ลั่วชิงเฉิงที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้ว ไม่แสดงออกว่าเห็นด้วยหรือปฏิเสธ ในความคิดของนาง หลินหานและซูหอเป็นคนประเภทเดียวกัน ล้วนเป็นอัจฉริยะที่หาที่เปรียบไม่ได้จนคนธรรมดาไม่สามารถคาดเดา พวกเขามีความลับที่ยิ่งใหญ่

ลั่วชิงเฉิงรู้ เพราะตอนที่หลินหานมีพลังยุทย์จตุสวรรค์ ก็สามารถจัดการอสูรพยัคฆ์มังกรที่มีพลังสูงกว่าได้

"ดี ข้าจะเดิมพันกับเจ้า!"  หัวใจของหลินกู่เทียนยิ้มเยาะ มองไปรอบๆแล้วพูดว่า "วันนี้ขอทุกท่านเป็นพยาน" เมื่อพูดจบ  หลินกู่เทียนหยิบหินโปร่งแสงที่เปล่งประกายออกมาจากอกเสื้อ

“ศิลาวิญญาณระดับสูงสุด!” ผู้คนรู้สึกถึงออร่าที่อุดมอยู่ในหินก้อนนั้น จึงร้องอุทานออกมาทันที

ศิลาวิญญาณแบ่งออกเป็น: ระดับต่ำ ระดับกลาง ระดับสูง และระดับสูงสุดที่หาได้ยากมาก

ศิลาวิญญาณระดับสูงสุดมีพลังสูงมาก ถ้ามันถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย อาจจะทำให้หลินหานทลายขอบเขตพลัง ยิ่งไปกว่านั้น พลังวิญญาณในศิลาวิญญาณนั้นสะอาดบริสุทธิ์และไม่มีผลข้างเคียงหลังจากการดูดซึมเลย มันจึงมีค่าอย่างมหันต์

“ศิลาวิญญาณระดับสูงสุด!”  ดวงตาของหลินหานเป็นประกาย

เขากำลังกังวลอยู่พอดีว่าตัวเองยังไม่ทลายขอบเขตพลัง แต่หากได้รับหินวิญญาณระดับสูงสุดก้อนนี้ ตบะของเขาจะต้องเพิ่มพูนจนเทียบเท่าห้าผยองแน่นอน

"หินวิญญาณระดับสูงสุดคือของเดิมพัน!" หลินกู่เทียนกล่าวด้วยสีหน้ามุ่งร้าย

หินวิญญาณระดับสูงสุดก้อนนี้คือสิ่งที่เขาเคยค้นพบจากอนุสาวรีย์แห่งหนี่ง เขาเสียดายที่จะใช้มันมาโดยตลอด จึงตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ตอนที่กำลังจะก้าวสู่ปรมาจารย์ยุทย์โดยแท้จริง เขาเชื่อว่าหินวิญญาณระดับสูงสุดนี้จะทำให้หลินหานถูกล่อลวงอย่างแน่นอน

พอเห็นท่าทางสนใจของหลินหาน หัวใจของหลินกู่เทียนฉุกความคิดชั่วร้าย แล้วกล่าวว่า “ของเดิมพันของเจ้าหล่ะ?”

"ของเดิมพันของข้าคือวิชายุทย์กึ่งสูงสุดบทนี้"กรงเล็บมังกรคำราม"!" หลินหานหยิบหนังสือโบราณออกมาจากอกเสื้อของเขา

"วิชายุทย์ระดับกึ่งสูงสุด?!"

"หลินหานคนนี้มีวิชายุทย์ที่ทรงพลังระดับนี้เชียว!"

ลูกศิษย์รอบๆจำนวนไม่น้อยต่างเป็นประกายในดวงตา

"ดี!" หลินกู่เทียนพยักหน้าแล้วมองหนังสือโบราณด้วยความโลภ แม้ว่าเขาจะเป็นลูกศิษย์อันดับหึ่งแห่งตระกูลหลิน แต่เขาก็รู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อได้เห็นวิชายุทย์ขั้นกึ่งสูงสุด

"ซู่เหอแข็งแกร่งเพียงใด ย่อมไม่มีใครรู้ดีไปกว่าข้า หลินหาน เจ้ารอความพ่ายแพ้ที่น่าสังเวชไปซะ! เมื่อถึงตอนนั้น วิชายุทย์ระดับกึ่งสูงสุดจะเป็นของข้า น้องหรูเยียนก็จะค้นพบว่าเจ้าไม่ใช่อัจฉริยะอะไรทั้งนั้น ก็เป็นลูกศิษย์จากตระกูลสาขาที่ต่ำต้อย ... ” ดวงตาของหลินกู่เทียนมีเพลิงริษยาลุกโชน อยากจะดึงหลินหานลงจากหลังม้าให้ขายขี้หน้าต่อหน้าทุกคนอย่างอดไม่ไหว

"หลินหาน เจ้า ... " หลินหรูเยียนที่นั่งด้านข้างแสดงความกังวลในดวงตาคู่งาม

"วางใจเถอะ แต่ไหนแต่ไรมาข้าไม่เคยทำเรื่องที่ตัวเองขาดทุน"   หลินหานยิ้มเบาๆ จากนั้นเขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงไปสังเวียนประลอง

ระหว่างทางที่เดินสวนผ่านหลินกู่เทียน ก็ได้เสียงเย็นชาของหลินกู่เทียนดังแว่วมาว่า "หลินหาน ดูซิว่าเจ้าจะแพ้ยังไง ... "

"วางใจเถอะ คนที่แพ้ไม่มีทางเป็นข้า" หลินหานกล่าวอย่างสุขุมนุ่มลึก

เริ่ม!

บนสังเวียน หลินหานและซู่เหอยืนอยู่ตรงข้ามกัน

ชายหนุ่มสอง คนหนึ่งสวมชุดผ้าฝ้ายเนื้อหยาบ ออร่าธรรมดาสุดขีด ในขณะที่อีกคนสวมชุดสีเขียว พร้อมดาบคมคู่ใจวางท่าอวดเบ่งพลัง บรรยากาศของทั้งสองคนแตกต่างกันมาก ในเวลานี้ออร่ากำลังปะทะเข้าด้วยกัน ทำให้ทั้งสังเวียนสั่นสะเทือนเล็กน้อย

"พลังแข็งแกร่ง!" เฉินอู๋เสียที่อยู่ด้านล่างสังเวียนสื่อสายตาตึงเครียด

ชายสองคนบนสังเวียนให้ความรู้สึกลางๆถึงขอบข่ายของปรมาจารย์ยุทย์ แม้นทั้งสองไม่เคลื่อนไหว แต่พลังงานเข้าปะทะกันอย่างมองไม่เห็น

"ซู่เหอจะต้องเอาชนะหลินหานได้ในหนึ่งการโจมตีอย่างแน่นอน!"

“ใช่ แม้ว่าหลินหานคนนี้จะแข็งแกร่งมาก แต่ซู่เหอคืออันดับหนึ่งแห่งห้าผยอง อย่างที่เห็น หลินกู่เทียนที่ครองตำแหน่งห้าผยองมานาน ยังถูกหนึ่งฝ่ามือของซู่เหอซัดจนกระเด็นลอยไป หลินหานคนนี้น่าจะพ่ายแพ้ตั้งแต่ครึ่งฝ่ามือครึ่ง!”

เหล่าศิษย์รุ่นเยาว์จำนวนมากล้วนพูดถึงเรื่องนี้

แต่ในตอนนี้ เฉินอู๋เสีย ลั่วเทียนหย่างและคนอื่นๆต่างมีความเคร่งเครียดในดวงตา พวกเขารู้สึกได้ถึงสิ่งแปลกๆ เพราะตอนหลินกู่เทียนขึ้นสังเวียนก็มีทีท่าเหมือนจะทนไม่ไหวทั้งๆที่ซู่เหอยังไม่ได้ลงมือเลย แต่ในเวลานี้ เห็นหลินหานสามารถเผชิญหน้ากับซู่เหอด้วยท่าทางที่สงบเยือกเย็นและใบหน้าที่สงบนิ่ง

"เจ้ารู้วิธีใช้พลังแห่งผืนโลก?" บนสังเวียน จู่ๆซู่เหอเอ่ยปากถาม

"ข้าเรียนรู้จากเจ้า ตอนนี้ยังเข้าใจเล็กน้อยแค่เส้นขนเท่านั้น" หลินหานยิ้มอ่อนแล้วตอบอย่างจริงใจ

"เรียนรู้จากข้า?" ซู่เหอมีสีหน้าตกใจ แต่จากนั้น ในหัวของเขาพลันฉุกคิดถึงภาพที่หลินหานจ้องมองตัวเองอยู่ตลอดอย่างตาไม่กระพริบ ตอนนั้นเขาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่ตอนนี้พอลองขบคิดดูก็ตระหนักได้ว่าหลินหานขโมยวิชายุทย์ของตัวเอง?

ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้ซู่เหอตกใจที่สุดคือเขาได้เรียนรู้ได้น้อยนิดเท่าเส้นขนในช่วงเวลาสั้น ๆ?

ไม่อย่างนั้นคงไม่มีคำอธิบายพื้นฐานใดที่สามารถบอกได้ว่า ทำไมหลินหานในเวลานี้รู้วิธีรับมือพลังของเขา ทั้งยังไม่ด้อยกว่าเลย

“สมแล้วที่เป็นคู่ต่อสู้ที่ข้าให้ความสำคัญตั้งแต่แรกเริ่ม ในเมืองต้วนเทียนนี้มีเพียงเจ้าที่ให้ข้ารู้สึกถึงวิกฤตที่จะต้องพ่ายแพ้” ซู่เหอหัวเราะเสียงดัง จากนั้นสายตาของเขาสื่อความคิดจะต่อสู้ทันที พูดว่า "ฝ่ามือเดียว รู้ผลแพ้ชนะ!"

"ได้!"  หลินหานดึงดาบจากด้านหลัง แล้วถือปลอกดาบบนมือซ้าย ส่วนตัวดาบวางด้ามไว้บนมือขวา พูดว่า "หนึ่งดาบ รู้ผลแพ้ชนะ!"

หนึ่งฝ่ามือ!

หนึ่งดาบ!

เวลานี้ อัจฉริยะหนุ่มจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองสังเวียนต่อสู้อย่างตาไม่กระพริบ แม้แต่เฉินอู๋เสีย ลั่วเทียนหย่างที่เป็นถึงห้าผยองยังจับตามองอย่างสนใจ

ถัดไป เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น

ทางเลือกของทั้งสองคือหนึ่งการโจมตีรู้ผลลัพธ์!

พลันอากาศสงบเงียบอย่างแปลกประหลาด

ซู่เหอและหลินหานยืนอยู่ตรงข้ามกันบนสังเวียน

คนหนึ่งมือซ้ายไขว้อยู่ด้านหลัง แล้วยื่นมือขวาออกไปช้าๆ ในขณะที่อีกคนสื่ออารมณ์เด็ดขาดในสายตา สองมือกำด้ามดาบ ราวกับว่าสามารถแยกท้องฟ้าในทันทีที่โจมตี

แคร่ก! แคร่ก ......

ทันใดนั้นพื้นของสังเวียนสู้ก็เริ่มแตก  ฉากนี้ทำให้อารมณ์ของผู้คนหวั่นใหว

นี่คือความแข็งแกร่งในระดับเดียวกับห้าผยอง คลื่นพลังที่สามารถส่งผลกระทบต่อความผันผวนของพลังงานโลกโดยรอบ ทำให้เกิดพลังทำลายล้างสูงมาก จากที่มองดู ก็หมายความหลินหานดาวรุ่งแห่งตระกูลหลิน มีพลังที่แข็งแกร่งในระดับเดียวกับซู่เหอผู้เป็นอันดับหนึ่งแห่งห้าผยองอย่างนั้นเหรอ?

ทางด้านหลินกู่เทียนที่รับชมอยู่ไม่ไกลนัก บัดนี้สายตาของเขาจะเศร้าหมองยิ่งขึ้น หลินหานคนนี้ซ่อนพลังไว้มิดจริงๆ!

"ฮู!"

ทันใดนั้น ซู่เหอเคลื่อนไหวตัว เขาฟาดฝ่ามือไปทางหลินหาน พลังจากมือขวาถูกปลดปล่อยไปในอากาศในวิถีที่ไม่ชัดเจน

"เป็นความรู้สึกนี้อีกแล้ว!" เมื่อได้เผชิญหน้าด้วยตัวเอง สีหน้าของหลินหานก็ตกตะลึง

ในสายตาของเขา ฝ่ามือของซู่เหอราวกับไม่ใช่เลือดเนื้อของมนุษย์ ทว่าเป็นดั่งท้องฟ้ากดลงทับตัวเอง มันเป็นความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความกว้างใหญ่และความมหาศาล ราวกับว่ากำลังเผชิญกับเทือกเขามหึมาที่กดทับลงมา

ทันใดนั้นความรู้สึกวิกฤตก็ลุกโชนขึ้นในใจกลางของหลินหาน ประหนึ่งร่างกายและวิญญาณจะแหลกสลายในตอนนี้!

……………………………………………………………………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด