ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0092
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0094

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0093


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ [เรื่องใหม่]

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ

สารบัญ จอมเวทอหังการ

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 93 : รองเท้าบินได้

ใบหน้าของจ้าวกวงเหว่ยกระตุกด้วยโทสะ เขานึกว่ากำลังสู้เพื่อโอกาส แต่แล้วเวลานี้ กลับไม่มีโอกาสหลงเหลือให้เขาอีกต่อไป

ทุกคนล้วนแตกตื่น เป็นเพราะเม็ดยาระดับสูงล้ำอย่างเม็ดยาใจสงบนั้นต้องหาสถานที่สงบก่อนจึงค่อยกินลงไปเพื่อค่อย ๆ ขัดเกลามัน

แต่กับฉินหยุน เขาทำเสมือนกลืนก้อนน้ำตาลลงไป การกระทำแบบนี้จะส่งผลกระทบต่อสรรพคุณของเม็ดยาอย่างร้ายแรง

“ยังมีการแข่งรอบสองอยู่นะ!” ผู้อำนวยการจางเร่งร้อนกล่าว

ฉินหยุนรู้สึกได้ว่าฤทธิ์ยากำลังแตกฟองในร่างขณะรู้สึกเริ่มไม่สบายเล็กน้อย ไม่ว่าจะอะไร มันก็ต้องใช้ระยะเวลาระดับหนึ่ง “ท่านดูสิ มีนักเรียนที่นี่อีกหลายคนนะที่ได้รับบาดเจ็บ!”

จ้าวกวงเหว่ยสามารถบอกได้ ว่าฉินหยุนตอนนี้กำลังพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อสะกดฤทธิ์ยาเอาไว้ เขาจึงแค่นเสียงกล่าว “งั้นก็เริ่มรอบที่สองกันเลย! รางวัลของการแข่งขันรอบที่สองดียิ่งกว่าเม็ดยาใจสงบนัก เป็นวิชายุทธ์ระดับลึกล้ำขั้นสูง!”

นักเรียนทั้งหมดล้วนตื่นเต้นยินดี กระทั่งจ้าวเต๋อยังตื่นเต้น

วิชายุทธ์ระดับลึกล้ำขั้นสูงล้ำค่ามหาศาล กระทั่งในตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามก็ไม่ใช่ง่ายได้เรียนรู้พวกมัน

ฉินหยุนหันมองผู้อำนวยการจาง จึงได้เห็นเขาพยักหน้าให้

“พวกเราจะเริ่มรอบที่สองเดี๋ยวนี้!” จ้าวกวงเหว่ยตะโกนกล่าว

เม็ดยาใจสงบ คือเม็ดยาวิญญาณระดับชั้นแนวหน้า มันมีสรรพคุณทางยาที่รุนแรง หากคนผู้หนึ่งไม่ขัดเกลามันให้ดี ผลลัพธ์คือจะทำให้ฤทธิ์ยาสูญสิ้นและอาจทำร้ายร่างกายผู้กินเข้าไปได้

ในสถานการณ์เช่นนี้ หากฉินหยุนยังต้องการเข้าร่วมในรอบที่สอง เขาคงทำได้เพียงแต่ขับฤทธิ์ยาออก นั่นจะเท่ากับเป็นการสูญเสียเม็ดยาใจสงบโดยเปล่า

หัวใจทุกผู้คนล้วนแทบสลายต่อเม็ดยาใจสงบ ในยามที่คิดว่ามันจะเสียเปล่าเพราะฉินหยุน

ฉินหยุนหาได้กังวลใดไม่ หลังฝึกฝนวิชาหยางสีดำจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบ ความเร็วในการขัดเกลาฤทธิ์ยาของเขารวดเร็วมหาศาลยิ่ง

“แล้วรอบที่สองคือ?” ฉินหยุนทราบว่ามีรอบสอง แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเริ่มต้นเร็วเพียงนี้

“เป็นการแข่งความเร็ว ออกวิ่งจากที่นี่ ใครที่ไปถึงประตูหลักของสถาบันยุทธ์ฮัวหลิงเร็วที่สุดจะได้รับวิชายุทธ์ระดับลึกล้ำขั้นสูงไป อันดับสองและสามจะได้รับวิชายุทธ์ระดับลึกล้ำขั้นกลาง” ผู้อำนวยการจางกล่าวต่อ “นักเรียนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้าทั้งหมดสามารถเข้าร่วม เตรียมตัวกันได้แล้ว”

นักเรียนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้ามีด้วยกันกว่าสองร้อยคน พวกเขาล้วนเตรียมพร้อมรออยู่ก่อนแล้ว เพียงแค่รอให้ผู้อำนวยการตะโกนคำว่า “เริ่ม” ก็เท่านั้นเอง

“อาจารย์อย่างพวกเราควรไปที่ทางเข้าและรออยู่ที่นั่น!” จ้าวกวงเหว่ยใบหน้าเปี่ยมด้วยความมั่นใจ ราวกับบุตรชายของเขาต้องชนะอย่างแน่นอนแล้ว ก่อนจากไปเขาหันกลับมายิ้มให้จ้าวเต๋อ

จ้าวเต๋อหันมองฉินหยุน ผู้ซึ่งกำลังขมวดคิ้วและหลับตาลง น้ำเสียงในคอพลันแค่นออกมา “ต่อให้เจ้าไม่สะกดฤทธิ์ยาเอาไว้ เจ้าก็ไม่ใช่คู่แข่งของข้าอยู่ดี”

บรรดานักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขันลอบยินดีที่เห็นฉินหยุนไร้การเคลื่อนไหว พวกเขาไม่ได้คิดว่าตนจะได้อันดับหนึ่ง แต่อย่างน้อยก็ยังพอมีความมั่นใจต่ออันดับสองหรือสามบ้าง

หากฉินหยุนเข้าร่วม อย่างน้อยหนึ่งในสามอันดับแรกสมควรถูกฉกชิงเอาไปแล้ว

ฉินหยุนเพียงนั่งขัดสมาธิเริ่มขัดเกลาเม็ดยา เขาคิดว่าตนสมควรสะกดฤทธิ์ของเม็ดยาใจสงบได้ แต่เป็นเขาประเมินพลังของเม็ดยาชั้นเลิศต่ำเกินไป เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสงบใจและขัดเกลามัน

“รอบที่สอง การแข่งขันความเร็วเริ่มขึ้นได้!” ผู้อำนวยการจางทำได้เพียงประกาศเริ่มการแข่งรอบที่สอง

เส้นทางจากหน้าสวนแห่งนี้ไปยังประตูหลักของสถาบันยุทธ์ฮัวหลิงไม่ใช่เส้นตรง มันต้องผ่านการเลี้ยวหลายต่อหลายครั้งก่อนจึงสามารถไปถึงลานฝึกฝนและค่อยเป็นประตูหลัก

ผู้อำนวยการจางทะยานขึ้นฟ้าขณะมุ่งหน้าไปที่ประตูหลักแล้ว

สายตาทุกผู้ของนักเรียนที่อยู่บนพื้นล้วนอิจฉาความสามารถนี้ของผู้อำนวยการจาง หากพวกเขาสามารถบินได้เช่นนั้น ย่อมได้อันดับแรกแล้ว...

“ดูจ้าวเต๋อ! ทำไมเขาบินอยู่กัน?” นักเรียนคนหนึ่งพลันตะโกนขึ้น

“ดูที่รองเท้านั่น เป็นอุปกรณ์วิญญาณบินได้! เลวนัก มันใช้อุปกรณ์วิญญาณ!”

“ใครใช้ให้เขามาจากตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามกันเล่า? ข้าได้ยินว่าปู่ของเขาเป็นคนที่ค่อนข้างมีสถานะในตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว”

“บิดาเขาเป็นอาจารย์ที่นี่ และสถานะของปู่เขาก็ไม่นับว่าธรรมดา ไม่แปลกที่จะมีรองเท้าบินได้สักคู่หนึ่ง”

ทุกคนต่างมองจ้าวเต๋อที่บินขึ้นสู่อากาศด้วยสายตาริษยา พวกเขารู้สึกไม่ยินดีอย่างยิ่งภายในใจ

จ้าวเต๋อสวมใส่รองเท้าสีน้ำเงินคู่หนึ่ง แม้ทำให้บินกลางอากาศได้ แต่ความเร็วนับว่าห่างไกลจากผู้อำนวยการจางนัก นอกจากนี้เขายังร่างเซไปมาไม่มั่นคง ชัดเจนว่านี่เป็นการใช้งานครั้งแรกแล้ว

* * *

ที่จุดเริ่มต้น เหลืออยู่เพียงแต่ฉินหยุน ทุกคนตอนนี้มุ่งหน้าไปรอเขาที่ประตูหลักของสถาบันยุทธ์ฮัวหลิงก่อนแล้ว

“เป็นเราใกล้ก้าวสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก ถึงว่าทำไมไม่อาจสะกดมันเอาไว้! หวังว่าจะทันเวลา!” ฉินหยุนทำได้เพียงประหลาดใจระคนยินดี เรื่องนี้ไม่อาจช่วย ในสถานการณ์ตอนนี้เขาไม่มีทางเข้าร่วมการแข่งขันความเร็วได้แน่แล้ว

หลังผ่านการบำรุงหล่อเลี้ยงของเม็ดยาใจสงบ มหาวิถีทั้งสามในร่างกายของเขายิ่งมั่นคงและแข็งแกร่งขึ้น มันเกิดการเชื่อมต่อกันและกันขณะประสานเข้าด้วยกัน

เม็ดยาใจสงบยังเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณหนาแน่นของเก้าตะวัน เป็นเพราะเขามีสร้อยข้อมือวิญญาณเทวะเก้าตะวัน จึงสามารถดูดกลืนพลังทั้งหมดที่เม็ดยานี้ครอบครอง

สิ่งแรกที่เกิดการเปลี่ยนแปลงและแข็งแกร่งขึ้นคือวิถีหัวใจ!

เป็นเพราะเขากินหญ้าหัวใจลึกล้ำเข้าไปก่อนหน้านี้ หลังฝึกฝนวิถีหัวใจเหลืองดำ และวิถีกระดูก เส้นโคจรทั่วร่างกายของเขาจึงยิ่งแข็งแกร่งและยืดขยายออก

ในเวลานี้ มหาวิถีทั้งสามเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่ง ภายใต้แรงปะทะรุนแรงของเม็ดยาใจสงบ มันยิ่งทำให้แข็งแกร่งขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เส้นโคจรในร่างกายยิ่งมายิ่งหนาใหญ่และแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ

“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เราจะฝึกวิถีกระดูกตะวันดาราได้...”

ขณะที่ฤทธิ์ยาเริ่มอ่อนแรงลง ฉินหยุนสูดลมหายใจเข้าลึกและลืมตาขึ้น เพียงหนึ่งความคิด เขาควบแน่นกำลังภายใน!

ด้วยความแข็งแกร่งของเส้นโคจรที่ขยายออก กำลังภายในของเขาสามารถไหลไปทั่วร่างกายได้แทบจะในทันที ทั้งยังลื่นไหลเป็นอย่างยิ่ง

ฉินหยุนรู้สึกได้อย่างชัดเจน ถึงพละกำลังทรงพลังซึ่งเกิดขึ้นโดยการพรั่งพรูของกำลังภายในที่อยู่ในร่างกาย เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยขณะถอนหายใจอยู่ภายใน “ความรู้สึกนี้คือการปลดปล่อยกำลังภายในพร้อมพลังธาตุ!”

ความรู้สึกนี้มันแตกต่างจากการปล่อยกำลังภายในที่ควบแน่นผ่านวิชามังกรหลอมหกกระบวน

กำลังภายในที่ก่อเกิดขึ้นเพราะมังกรหลอมหกกระบวนค่อนข้างรุนแรงและยากควบคุม

“ในที่สุดก็ก้าวสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก! อาจารย์โปรดรอข้า ข้าจะต้องก้าวถึงขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้าให้ได้ก่อนอายุยี่สิบ!” ฉินหยุนดวงตาสุกสว่างเป็นประกายดั่งดวงดาวขณะเปี่ยมล้นด้วยความมั่นใจ

เขามองที่จ้าวเต๋อซึ่งกำลังงกเงิ่นบนฟ้าและแค่นเสียง เขาคิดกับตนเองว่า “เราอยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หกแล้ว ในที่สุดก็สามารถหลุดพ้นจากข้อจำกัดของก้าวอัคคีเมฆา!”

เขาเริ่มโคจรกำลังภายในอัคคีเมฆา ขาเคลื่อนไหว เปลวเพลิงสีทองม่วงอ่อนจางปรากฏขึ้นที่เท้า

“วูบ!”

ขาของเขาสั่นไหวราวคิดปล่อยคลื่นอากาศระเบิดออก!

เขากระโจนตัวออกอย่างสุดแรง เพียงพริบตา เขาก็ออกมาห่างได้กว่าร้อยเมตรแล้ว

ฉินหยุนยังคงก้าวต่อไปด้วยเสียงอันดัง ทั้งยังทำการสำรวจความว่างเปล่าด้วยความเร็วสูง ในทันที เขาสามารถไปไกลได้หลายสิบเมตร

ในการแข่งขันความเร็ว ผู้ที่เร็วที่สุดสมควรเป็นจ้าวเต๋อซึ่งมีรองเท้าบินได้สวมใส่อยู่!

ขณะพวกเขาใกล้ถึงประตู ใครคนหนึ่งพลันร้องตะโกนขึ้น “ข้างหลัง!”

จ้าวกวงเหว่ยผู้ซึ่งรออยู่หน้าประตู เดิมทีมีจิตวิญญาณแห่งชัยชนะเปี่ยมล้น แต่แล้วยามเมื่อเห็นฉินหยุนทะยานมาทางด้านนี้ รอยยิ้มดังกล่าวที่ใบหน้าจึงกลับกลายเป็นแข็งทื่อ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด