ตอนที่แล้วมารดาปีศาจ ตอนที่ 23 เลื่อนระดับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปมารดาปีศาจ ตอนที่ 25 หนี้ที่ติดค้างจ่ายคืนด้วยชีวิต

มารดาปีศาจ ตอนที่ 24 กลับไปที่ฐาน


ตอนที่ 24 กลับไปที่ฐาน

 

เหยียนฮ่านชิงไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากหันหน้าหนีไปทางหนึ่ง พวงแก้มและสันกรามไปจนถึงใบหูกลายเป็นสีแดงก่ำ เขาไต่ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วต่ำ “คุณหลับไปนานมาก ยังไม่หิวอีกหรือ”

 

“นั่นก็ไม่เลวนะ” เห็นว่าเหยียนฮ่านชิงพยายามเปลี่ยนเรื่อง จ้าวฉิงก็หัวเราะออกมา ถึงยังไงเธอก็แค่ล้อเล่นไปอย่างนั้นอยู่แล้ว ตั้งแต่หญิงสาวได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาก จ้าวฉิงก็เชื่อมั่นว่าผู้ชายทุกคนล้วนไม่มีความจริงใจ

 

เมื่อเห็นว่าจ้าวฉิงยังคงดูเฉยชาไม่ต่างจากเดิม เหยียนฮ่านชิงก็กัดริมฝีปากแน่น รีรออยู่นานมากก่อนจะพึมพำเสียงเบาหวิว “เป็นผมที่ไม่เหมาะสมกับคุณ”

 

“คุณพูดว่าอะไรนะ” จ้าวฉิงที่กำลังหมกมุ่นครุ่นคิดทบทวนความทรงจำขมวดคิ้วฉับพลางเอ่ยถามขึ้น จนเหยียนฮ่านชิงต้องเร่งรีบตอบกลับ “ไม่มีอะไร ผมแค่พูดกับตัวเอง”

 

จ้าวฉิงไม่ได้พูดอะไรต่ออีก เริ่มขยับแข้งขยับขา จากนั้นก็หย่อนเท้าลงจากเตียง หญิงสาวรู้สึกได้ว่าตัวเธอในอดีตนั้นแตกต่างจากปัจจุบันโดยสิ้นเชิง ทั่วทั้งร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอสัมผัสได้ว่ามันเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง และเธอต้องการจะระบายมันออกไป ความรู้สึกเช่นนี้วิเศษเอามากๆ

 

จ้าวฉิงสัมผัสถึงความทรงพลังถึงขั้นที่รู้สึกว่าไม่มีอะไรจะมาขัดขวางเธอได้ อย่างไรก็ตาม จ้าวฉิงยังตระหนักดีว่า ไม่ว่าคนๆ หนึ่งจะคิดว่าตนเองยอดเยี่ยมสักแค่ไหน ก็ยังคงต้องมีใครบางคนที่เก่งกาจกว่าอยู่เสมอ มันคงไม่ดีแน่ถ้าเธอหยิ่งผยองและมั่นใจในตัวเองมากเกินไป

 

เธอควรจะรู้ขอบเขตขีดจำกัดของตัวเอง

 

“ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหน”

 

“ตั้งแต่ที่คุณหมดสติไป ทุกคนก็ตัดสินใจว่าจะไม่รีบเดินทางกลับ ทุกคนเห็นพ้องต้องกันโดยปริยายว่าจะหาสถานที่พักผ่อนสักหน่อย” เหยียนฮ่านชิงจ้องมองไปยังร่างของจ้าวฉิงจากทางด้านหลัง ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนโดยที่ไม่รู้ตัว

 

ในบรรดาผู้หญิงทั้งหมดที่เขาเคยได้พบเจอมา จ้าวฉิงยอดเยี่ยมที่สุด เธอไม่เคยอวดรู้ทำเป็นเก่งหรือวางท่าเหมือนพวกที่เรียกตัวเองว่าสุภาพสตรีชั้นสูงเหล่านั้น เธอเป็นคนจริงจัง งดงาม เฉลียวฉลาด อีกทั้งยังแข็งแกร่ง การเคลื่อนไหวทุกท่วงท่าน่าประทับใจ จนบุคคลส่วนใหญ่ล้วนแต่ไม่อาจเปรียบเทียบได้เลย

 

หญิงสาวประเภทนี้เป็นเหมือนกับเสือชีต้าห์ที่อยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ เหยียนฮ่านชิงรู้สึกว่าตัวเขาเองไม่ดีพอสำหรับเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าความด้อยค่าของเขา....

มันคล้ายกับมองเห็นบุปผาอันงดงามประณีตไร้ที่เปรียบ และไม่เต็มใจจะยื่นมือสกปรกของตัวเองออกไปเด็ดมันออกมา

 

“เป็นความผิดของฉันที่เป็นภาระให้กับทุกคน” จ้าวฉิงผลักประตูเปิดออก พบว่าพวกเขาอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง อาจเป็นเพราะมีซอมบี้บุกรุกเข้ามา เจ้าของบ้านจึงไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว ทำให้จ้าวฉิงและคนอื่นๆ หยุดพักผ่อนอยู่ในสถานที่แห่งนี้

 

หลังเปิดประตูออกไป เธอก็มองเห็นอาถูพร้อมทั้งกู้ชวนและน้องสาวของเขา ทั้งสามคนอยู่ที่ลานกว้าง กำลังเล่นไพ่กันอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นจ้าวฉิงเดินออกมา กู้พ่านพ่านเป็นคนแรกที่โยนไพ่ในมือของเธอทิ้งไป “ฉิงเจี่ยเจีย(พี่สาวฉิง) พี่ตื่นแล้วหรือ ดีจังเลย! ตั้งแต่ที่พี่เป็นลมไป ฉันตกใจกลัวมากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับเลย!”

 

อาถูพยายามจะดึงตัวกู่พ่านพ่านกลับไป ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง “นี่คุณไม่ละอายบ้างเลยหรือ ผมกำลังจะชนะแล้วแท้ๆ คุณกล้าทิ้งไพ่ของตัวเองลงแบบนั้นได้ยังไง!”

 

“เอาล่ะ หยุดเถียงกันได้แล้วทั้งสองคน” กู้ชวนตบบ่าคนทั้งคู่ จากนั้นก็หันหน้าไปหาจ้าวฉิง “คุณรู้สึกยังไงบ้าง”

 

“ร่างกายของฉันรู้สึกไม่เลวเลย ฉันเลื่อนระดับขึ้นไปอีกขั้นได้สำเร็จ ดังนั้นเราก็ออกเดินทางต่อได้ทุกเมื่อ” จ้าวฉิงรวบมือกำเป็นหมัดแน่น “คราวนี้เราออกมานานพอสมควรแล้ว พวกเราสมควรจะเดินหน้ากลับไปให้ถึงในเร็วๆ นี้”

 

“งั้นก็ไปเก็บข้าวเก็บของกันเถอะ จากนั้นเราจะได้ออกเดินทางในช่วงบ่าย” กู้พ่านพ่านรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง

ถึงแม้การออกสำรวจครั้งนี้จะจบลงด้วยการสูญเสียผู้คนไปสองคน แต่สองคนนั้นก็เป็นแค่เพียงมนุษย์ธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นพวกที่ไร้ยางอายอีกต่างหาก กู้พ่านพ่านจึงไม่รู้สึกสงสารหรือเสียดายเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงแล้วเธอกลับรู้สึกตรงกันข้ามด้วยซ้ำไป ตอนนี้ส่วนแบ่งของแต่ละคนก็เพิ่มขึ้น และพวกเขายังกลับจากการเดินทางครั้งนี้พร้อมด้วยผลตอบแทนมากมายมหาศาล

 

ดังนั้นแล้ว หลังออกมาจากฐานเป็นเวลานาน สิ่งที่สำคัญที่สุดที่พวกเขาต้องทำหลังจากกลับไปถึง ก็คือแบ่งเสบียงวัตถุดิบที่ได้มา เมื่อพวกเขาเข้าไปในฐาน พวกเขาต้องส่งมอบส่วนหนึ่งให้กับฐาน และส่วนที่เหลืออยู่ก็จะถูกแบ่งออกเป็นห้าส่วน

 

เมื่อมีคนน้อยลงไปสองคน และจ้าวฉิงก็ลงทุนลงแรงมากที่สุดในสายตาของทุกคน ผลการจัดสรรปันส่วนครั้งสุดท้าย ก็คือทุกคนรับไปคนละยี่สิบเปอร์เซ็นต์ กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทั้งจ้าวฉิงและเหยียนฮ่านชิงรวมกันได้รับส่วนแบ่งไปสี่สิบเปอร์เซ็นต์

 

เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาเป็นเพียงสมาชิกใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาในทีมสำรวจนี้ ผลตอบแทนจำนวนนี้ย่อมน่าประทับใจอย่างแน่นอน

 

เดิมทีจ้าวฉิงต้องการจะคืนส่วนแบ่งสิบเปอร์เซ็นต์ให้กับคู่พี่ชายน้องสาวรวมถึงอาถู อย่างไรก็ตาม พวกเขาล้วนแต่ปฏิเสธเธอ และกู้พ่านพ่านก็ยังเอ่ยตอบกลับมา “ฉิงเจี่ยเจีย พี่แค่รับมันไปเถอะ พวกเราทุกคนยังต้องรวมกลุ่มกันต่อไปอีก ในเมื่อพี่เป็นถึงผู้ใช้พลังธาตุไม้ระดับสองแล้ว ทีมสำรวจระดับสูงกว่านี้จะต้องพยายามมาดึงตัวพี่ไปเข้าร่วมแน่ๆ ถึงตอนนั้นพี่อย่าลืมทีมสำรวจเล็กๆ ของพวกเราเสียล่ะ!”

 

จ้าวฉิงจึงผงกศีรษะและยอมรับส่วนแบ่งเพิ่มเติมนี้ไปในที่สุด หลังจากแบ่งมันออกครึ่งหนึ่งแล้ว เธอก็ส่งมอบมันให้กับเหยียนฮ่านชิง “นี่คือส่วนของคุณ เก็บไว้เถอะ”

 

ถ้าหากบอกว่าเหยียนฮ่านชิงไม่หวั่นไหว นั่นย่อมจะเป็นการโกหก คนธรรมดาที่เข้าร่วมทีมสำรวจทั่วไปได้ส่วนใหญ่มักจะเป็นสมาชิกในครอบครัวของผู้ใช้พลังพิเศษ หรือไม่ก็เป็นคนปกติที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่นคู่รักหนุ่มสาวที่ตายไปนั้น ฝ่ายชายสามารถซ่อมรถยนต์ได้ ส่วนฝ่ายหญิงก็เป็นนางพยาบาล ดังนั้นผู้มีพลังพิเศษจึงเต็มใจจะรับพวกเขาเข้าร่วมทีม

 

แต่เหยียนฮ่านชิงยังไม่ได้แสดงออกถึงความพิเศษในด้านใดเลย ทว่ากลับยังคงได้รับส่วนแบ่งวัตถุดิบจำนวนมาก ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะพวกกู้พ่านพ่านให้ความเคารพและไว้หน้าจ้าวฉิง เหยียนฮ่านชิงย่อมเข้าใจในประเด็นนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นในหัวใจของเขาจึงรู้สึกซาบซึ้งต่อจ้าวฉิงอย่างถึงที่สุด

 

“คุณไม่จะถือทั้งหมดนี่กลับไปยังที่พักด้วยตัวเองนะ ให้ฉันช่วยก็แล้วกัน” จ้าวฉิงชำเลืองมองปราดหนึ่งก็บอกได้ทันทีว่ามีเสบียงอยู่ค่อนข้างมากทีเดียว จึงตัดสินใจว่า ในเมื่อลงมือช่วยเหลือแล้ว เธอก็จะช่วยให้ถึงที่สุด

 

เดิมเหยียนฮ่านชิงตั้งใจจะปฏิเสธจ้าวฉิง แต่ก็พลันตระหนักได้ทันที ว่าเพียงกำลังของคนๆ เดียวไม่อาจจะหอบหิ้วทั้งหมดนั้นไปได้จริงๆ ใบหน้าของเขาจึงแดงก่ำขึ้นมาอีก

โดยไม่รอฟังความคิดเห็นของเขา จ้าวฉิงก้าวขึ้นไปบนรถแล้ว “มาสิ ทำไมคุณยังยืนทึ่มทื่ออยู่อย่างนั้นล่ะ”

 

เหยียนฮ่านชิงรีบก้าวเข้าไปในรถ รอให้จ้าวฉิงยกเสบียงวัตถุดิบทั้งหนักและเบาส่งต่อเข้ามาให้ และทั้งคู่ก็ออกเดินทางไปยังเต็นท์ที่พักซึ่งเหยียนฮ่านชิงและมารดาพักอาศัยอยู่ บริเวณที่พักอาศัยของคนธรรมดาและผู้มีพลังพิเศษนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ขณะที่จ้าวฉิงเป็นคนขับรถ เธอไม่ต้องเผชิญหน้ากับการกีดขวางใดๆ แม้แต่น้อย มีเพียงสายตาอิจฉาริษยาที่เฝ้ามองมา

 

ขณะที่พวกเขามาถึงด้านนอนเต็นท์ สีหน้าของเหยียนฮ่านชิงก็แปรเปลี่ยนไป เขารีบกระโดดลงมาจากรถทันที เขาก้าวผ่านเต็นท์และอุ้มมารดาของตนออกมาจากกองขยะ

 

บาดแผลบนขามารดาของเขานั้น แต่เดิมก็ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมทันเวลาอยู่แล้ว ยามนี้ยิ่งเน่าเปื่อยจนเห็นกระดูก ทั้งยังมองเห็นแมลงวันบินตอมหึ่ง ถ้าเหยียนฮ่านชิงกลับมาช้ากว่านี้สักสองสามคืน บางทีเขาอาจจะได้เห็นหนอนแมลงวันคลานยั้วเยี้ยไปทั่วร่างของมารดาแล้วด้วยซ้ำ

ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่ถึงขั้นนั้น ทว่าชายหนุ่มก็รู้สึกได้ ว่ามารดาของเขาแทบจะเหลือลมหายใจเพียงเฮือกสุดท้ายแล้ว

 

ดวงตาของเขาแดงฉานทันที เขาเตะประตูเต็นท์เปิดออก เสียงตะโกนดังออกมาทันที “ใครมันทำแบบนี้ ใครที่ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้ว”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด