ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0091
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0093

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0092


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ [เรื่องใหม่]

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ

สารบัญ จอมเวทอหังการ

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 92 : เม็ดยาใจสงบ

นักเรียนของห้องแปดกล่าวเสียงดังขึ้น “นี่เป็นเพราะหัวหน้าห้องอย่างจ้าวเต๋อ ในบรรดาพวกนี้ แปดตนเป็นเขาสังหารได้สำเร็จขอรับ”

เมื่อได้ยินดังนี้ หน้าของจ้าวเต๋อจึงเปี่ยมด้วยความภูมิอกภูมิใจ เขายิ้มและกล่าว “นี่เป็นเพราะทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี!”

“ตอนนี้ห้องเรียนของเราคืออันดับหนึ่ง รางวัลที่ได้จะเป็นเม็ดยาวิญญาณชั้นเลิศ เม็ดยาใจสงบ และเหรียญผลึกหนึ่งแสนเหรียญ ที่ข้าต้องการก็เพียงแค่เม็ดยาใจสงบกับห้าหมื่นเหรียญผลึก ที่เหลือพวกเจ้าเอาไปแบ่งกันได้ตามสบาย” นักเรียนทั้งหมดล้วนคิดกันว่า จ้าวเต๋อคิดครอบครองส่วนแบ่งใหญ่ไว้คนเดียว

เมื่อนักเรียนห้องแปดกว่าสิบคนได้ยินเช่นนี้ พวกเขาเร่งร้อนยิ้มกล่าวขอบคุณอีกฝ่าย ทว่าภายในใจ ไม่สุขเลยสักนิด...

อย่างไรแล้วก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร จ้าวเต๋ออยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้าตั้งแต่อายุสิบห้า ทั้งยังสวมใส่ชุดสีน้ำเงินของตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม นี่เป็นการบ่งบอกสถานะของเขาแล้ว

บิดาของเขา จ้าวกวงเหว่ยก็เป็นศิษย์นอกของตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม แม้เขาจะเพียงแค่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด แต่แม้จะเป็นอาจารย์ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปด ก็ต้องแสดงความนับถือทั้งยังหวาดกลัวที่จะมีท่าทีต่อต้านตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม

ในช่วงสองเดือนมานี้ ผู้ที่เคลื่อนคล้อยลงมาอย่างกะทันหันคือตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามในเทือกเขาเมฆมังกร พวกเขาถูกมองเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์วิถียุทธ์แห่งเต๋า กับผู้ที่มาจากที่แห่งนั้น ไม่มีผู้ใดกล้ายั่วยุอีกฝ่าย

ทว่าตามข่าวลือ เมื่อครั้งตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามลงมาที่ผืนดิน ฉินหยุนได้ทำศิษย์คนหนึ่งพิการต่อหน้าตำหนัก

ด้วยเหตุนี้ จึงมีหลายคนที่ถูกศิษย์ของตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามรังแกลอบชื่นชมฉินหยุนไม่ขาด

“ท่านก็ส่งมอบรางวัลได้แล้ว!” จ้าวเต๋อหันมองผู้อำนวยการจางด้วยสีหน้าจองหองอวดดี ทั้งยังตะโกน

ผู้อำนวยการจางขมวดคิ้วเล็กน้อย สำหรับนักเรียน จ้าวเต๋อผู้นี้ออกจะโอหังต่อหน้าเขาเกินไปแล้ว

ในอดีต กระทั่งเป็นอัจฉริยะที่เปรียบดังสัตว์ประหลาดยังไม่กล้าที่จะมีท่าทีโอหังหรือเผยสีหน้าจองหองต่อเขา

“ยังมีอีกหนึ่งห้องเรียนที่เรายังไม่ได้นับ” ผู้อำนวยการจางกล่าวเสียงเย็น

ยังมีอีกห้องเรียน ชัดเจนว่าเป็นห้องเก้า และห้องเก้าก็มีเพียงแต่ฉินหยุน อีกฝ่ายเพิ่งเข้าไปได้เมื่อสองวันที่ผ่านมา

ทุกคนล้วนทราบว่าฉินหยุนแข็งแกร่ง แต่สองวันเขาจะสังหารสัตว์ร้ายไปได้มากเพียงใดกันละ?

“ท่านกำลังพูดถึงฉินหยุนหรือ? มันคงโดนสัตว์ร้ายในป่ากินจนซากไม่เหลือแล้ว” จ้าวกวงเหว่ยแค่นเสียง “ครั้งนี้ห้องเรียนที่แปดของเราชนะแล้ว รีบมอบของรางวัลมาจะดีกว่า!”

เขาเองรู้สึกว่า เป็นไปไม่ได้ที่ฉินหยุนจะชนะ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะมีความหวัง!

ขณะที่เขาเกือบจะส่งมอบรางวัลออกไป สายลมร้อนพลันพัดวูบออกมา เป็นฉินหยุนใช้ก้าวอัคคีเมฆาทะยานออกมา!

นอกจากนี้ เขายังแบกร่างหมาป่าสีดำขนาดใหญ่ไว้บนไหล่ ไม่นานจากนั้น เขาจึงค่อยเดินออกมาพ้นจากประตูสวน

เมื่อฉินหยุนออกมา บรรดาข้าราชบริพารเฒ่าแห่งเทียนฉิน และผู้อาวุโสจากตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามล้วนเผยความเหี้ยมโหดประกายวูบในดวงตา

เมื่อจ้าวเต๋อเห็นฉินหยุน เขาจึงแค่นเสียงใส่ “แค่สัตว์ร้ายตัวเดียว? ก็อย่างว่า เข้าไปแค่สองวันจะฆ่าได้สักกี่ตัวกัน? แม้มีพลังอยู่บ้างแต่สองวันฆ่าได้หนึ่งตัวก็ไม่นับว่าเลวแล้ว”

จ้าวกวงเหว่ยถอนหายใจโล่งอกก่อนกล่าวเร่งผู้อำนวยการจาง “เร็วเข้า ส่งรางวัลมา!”

ผู้อำนวยการจางไม่ยินดีอย่างยิ่งกับคู่บิดาและบุตรชายตรงหน้า ทว่าเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องนำรางวัลออกมา ขณะที่เกือบจะส่งมอบให้อยู่แล้วนั้นเอง...

“เดี๋ยว!” ฉินหยุนเร่งร้อนตะโกนขณะวางร่างหมาป่าสีดำลงกับพื้น

“อะไรอีก? ข้าสังหารสัตว์ร้ายได้เก้าตัว เจ้าแค่หนึ่งตัวมีปากคิดพูดอันใด?” จ้าวเต๋อตะโกนเสียงเย็น

“เพราะอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของของข้าไม่สามารถเก็บได้อย่างไร้ขีดจำกัด เพราะแบบนั้นถึงต้องแบกมันมายังไงละ” ฉินหยุนยิ้มอ่อนให้อีกฝ่าย

ทุกคนล้วนตระหนกขณะมองฉินหยุนเริ่มนำร่างของสัตว์ร้ายออกจากมิติเก็บของทีละตัว...

หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า... เก้า และยังมีหมาป่าที่เขาแบกออกมาอีก รวมทั้งหมดแล้วมีสัตว์ร้ายสิบตัว!

กลุ่มนักเรียนถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึก พวกเขาทั้งหมดล้วนเคยสู้กับสัตว์ร้ายพวกนี้มาก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงทราบว่าพวกมันน่าสะพรึงเพียงใด

ด้วยพวกเขาร่วมมือกัน การจะสังหารได้สักตัวนับเป็นเรื่องยากแล้ว แต่ฉินหยุนโดยลำพังกลับสามารถสังหารพวกมันได้สิบตัว!

“แค่พักหายใจเอง ยังมีอีก!” ฉินหยุนยกยิ้มก่อนจะเริ่มนำเอาร่างของสัตว์ในมิติเก็บของออกมาเพิ่ม...

ทุกคนยิ่งมายิ่งดวงตาเบิกออกกว้าง พวกเขารับชมอีกฝ่ายนำร่างแล้วร่างเล่าออกมา ดวงตาแทบถลนจนตกจากเบ้าตาด้วยซ้ำ มันยังมีอีก... ซ้ำยังไม่ใช่แค่ตัวเดียว

ไม่นานจากนั้น ฉินหยุนค่อยนำเสนอกองร่างสัตว์ร้าย ทั้งสิ้นจำนวนมากถึงห้าสิบตัว!

ใบหน้าของจ้าวเต๋อเปี่ยมด้วยความไม่เชื่อ เขาแตกตื่นจนแทบพูดอะไรไม่ออก

บรรดาอาจารย์และผู้อาวุโสพบว่า สัตว์ร้ายเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีร่องรอยของการโดนค้อนทุบ

ช่วงระหว่างการประลองยุทธ์มังกรซ่อนเร้น ฉินหยุนมีเคล็ดวิชาค้อนที่น่าสะพรึง มันทำเอาประทับตราตรึงในใจหลายผู้คน

ร่างที่บาดเจ็บของสัตว์ร้ายเหล่านี้ก็เพราะเคล็ดวิชาค้อน!

นับทุกคนรวมเข้าด้วยกัน ฉินหยุนก็ยังสังหารสัตว์ร้ายเหล่านี้ได้มากกว่าผลรวมของทุกห้อง ไม่แปลกใจที่เขาจะบอกว่าอุปกรณ์เก็บของไม่พอให้เก็บ

และสิ่งที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่านั้นคือ อุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของที่ฉินหยุนครอบครอง มันเก็บร่างของสัตว์ร้ายได้มากกว่าห้าสิบตัว! มิติภายในไม่สมควรเล็กจ้อยแล้ว สิ่งนั้นสมควรเป็นอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของระดับสูง

อันที่จริง ฉินหยุนไม่เคยคิดว่ามิติเก็บของในสร้อยข้อมือวิญญาณเทวะเก้าตะวันจะขยายขนาดได้ตามพลังจิตของตน นับว่านี่เป็นอีกหนึ่งปาฏิหาริย์ก็ไม่เกินเลย

“หลังได้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว จึงพบว่าสัตว์ร้ายเหล่านี้ทุกตัวมีสัญลักษณ์ที่หลงเหลือไว้โดยตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม จึงสามารถยืนยันได้ว่าฉินหยุนสังหารพวกมันจากด้านในนั้น” หลังผู้อำนวยการจางเรียกสติคืนมาได้ เขาค่อยหัวเราะเสียงดังออกจากใจ

จ้าวกวงเหว่ยสูดลมหายใจเข้าลึก เขาแทบไม่อยากยอมรับ ถึงกับต้องเอ่ยคำถามเสียงดัง “ฉินหยุน นี่เจ้าทำได้อย่างไร? กระทั่งข้ายังไม่อาจสังหารจำนวนมากขนาดนี้ในสองวัน!”

“เพราะท่านอ่อนแอยังไงละ!” ฉินหยุนกล่าว

“ที่ข้าหมายความคือ เจ้าหาตัวสัตว์ร้ายอย่างรวดเร็วได้ยังไง?” จ้าวกวงเหว่ยต้องเผยน้ำเสียงโกรธเคืองเล็กน้อยกล่าวถามซ้ำ

ไม่ว่าใครต่างก็บอกได้ โดยตัดสินจากบาดแผลบนร่างว่าพวกมันถูกสังหารในการโจมตีไม่สองก็สามครั้ง อาการบาดเจ็บเหล่านั้นต้องเป็นเพราะฉินหยุนโจมตีไม่ผิดแน่แล้ว

“ข้าเพียงขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า สัตว์ร้ายพวกนี้คิดว่าเพราะข้าอยู่ลำพัง มันถึงเข้าโจมตีเข้ามา” ฉินหยุนหัวเราะกล่าว “แต่พวกมันกลับมาหาที่ตายเสียเอง!”

ผู้อำนวยการจางเร่งรีบส่งมอบเม็ดยาใจสงบและหนึ่งแสนเหรียญผลึกให้ฉินหยุน เขายิ้มกล่าว “นี่คือรางวัลของอันดับแรกในรอบนี้ มันคงดีหากเจ้าจะกินเม็ดยาใจสงบหลังฝึกฝนวิถีวิญญาณแล้ว โดยมันจะช่วยเสริมความมั่นคงแก่วิถีหัวใจ ขณะที่เสริมความแข็งแกร่งให้วิถีวิญญาณ”

ฉินหยุนพยักหน้ารับกล่าวขอบคุณทวนซ้ำอยู่หลายครั้ง

จ้าวเต๋อกัดฟันแน่นมองฉินหยุนอย่างโกรธแค้น! รางวัลที่เขาเกือบจะได้รับอยู่แล้วกลับโดนพรากเอาไป!

เม็ดยาใจสงบทั้งหายากและล้ำค่า ราคาของมันแทบไม่อาจประเมินได้ กระทั่งในตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ก็ยังนับว่าขาดแคลนยิ่ง ไม่แปลกใจที่จ้าวเต๋อและบิดาจะโกรธหน้าแดงจนควันแทบออกหู

“มอบเม็ดยานี้ให้ฉินหยุนช่างไม่เหมาะสมนัก!” จ้าวกวงเหว่ยพลันตะโกนขึ้น “เป็นเพราะในการแข่งขันล่าและสังหารสัตว์ร้าย ข้าไม่ได้คิดว่าฉินหยุนจะเข้าร่วม นอกจากนี้เม็ดยาใจสงบยังไม่มีประโยชน์อะไรแก่เขา หากเป็นผู้อื่นได้รับมันจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่า!”

“พวกเราควรมอบเม็ดยาใจสงบแก่อันดับสอง และจัดแจงรางวัลอื่นมอบให้แก่อันดับหนึ่งเสียแทน!”

เพื่อให้บุตรชายได้รับเม็ดยาใจสงบอันล้ำค่า จ้าวกวงเหว่ยถึงกับก่อการ

“อาจารย์จ้าวกล่าวถูกต้อง” ผู้อาวุโสจากตำหนักดวงดาวเอ่ยคำขึ้น

ผู้อื่นที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับฉินหยุนล้วนลุกฮือขึ้นโดยทันที

จ้าวกวงเหว่ยยิ้มกว้าง เขาหันมองผู้อำนวยการจางและกล่าวต่อ “ท่านจงดู ทุกคนล้วนคิดเช่นเดียวกัน ชัดเจนว่าเขาไม่พอใจที่ฉินหยุนได้รับเม็ดยาใจสงบ...”

แต่ก่อนจะกล่าวจบประโยค เขาพลันได้เห็นฉินหยุน นำเอาเม็ดยาใจสงบออกมาและ กลืนลงท้องไป...

ฉินหยุนหันมองจ้าวกวงเหว่ยที่สีหน้าน่าเกลียดจนเขียวคล้ำและกล่าวหัวเราะคิกคักกับอีกฝ่าย “รสชาติไม่เลวเลยทีเดียว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด