ตอนที่แล้วตอนที่ 45 รู้สึกถึงอันตราย [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 47 ซู่เหอ ที่หนึ่งของห้าผยอง [อ่านฟรี]

ตอนที่ 46 งานชุมนุมชาวยุทย์ [อ่านฟรี]


ตอนที่ 46 งานชุมนุมชาวยุทย์

“หรูเยียน ข้ามาที่นี่เพราะเรื่องงานใหญ่ที่จะจัดในเมืองต้วนเทียน” หลินกู่เทียนยิ้มแล้วพูดทันที

หรูเยียน?

เมื่อได้ยินหลินกู่เทียนเรียกชื่ออย่างสนิทสนมของตัวเอง ก็ทำให้ดวงตาคู่งามสื่อความอึดอัดเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม หลินกู่เทียนเป็นลูกศิษย์อันดับหนึ่งของทำเนียบภายในที่ทรงพลังที่สุดของตระกูลหลิน หรูเยียนจึงพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ "จัดงานอะไร?”

เมื่อได้เห็นสีหน้าที่ไร้อารมณ์ของหลินหรูเยียน ส่วนลึกในดวงตาของหลินกู่เทียนเปล่งประกายความอำมหิตเล็กน้อย

ในวันนั้น เขาเห็นอย่างชัดเจน หลินหรูเยียนแสดงกิริยาของสาวน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าหลิยหาน แต่ตอนนี้หลินกู่เทียนกลับรู้สึกถึงความไม่แยแส ประหนึ่งผลักใสผู้คนผ่านทางสายตาของเด็กสาวที่ยู่เบื้องหน้าเขา

"หลินหาน?"  ดวงตาของหลินกู่เทียนเผยความริษยาอีกครั้ง

ทว่าเขาเก็บอารมณ์ได้ลึกมาก ภายนอกมิได้เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ใดๆ หากแต่ยิ้มอย่างละมุน "ครึ่งเดือนหลังจากนี้ ภายใต้องค์กร"ห้าผยองแห่งเมืองต้วนเทียน"ของเรา จะจัดงานชุมนุมชาวยุทย์ขึ้น จากนั้น ทั้งสามขุมอำนาจที่ทรงพลังของเมืองต้วนเทียนอย่าง ตระกูลหลิน ตระกูลเฉิน และตระกูลลั่ว จะส่งคนรุ่นเยาว์จำนวนมากมาเข้าร่วม "

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ดวงตาของหลินกูเตียสื่ออารมณ์หยิ่งลำพอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเน้นคำว่า "ห้าผยองแห่งเมืองต้วนเทียง" น้ำเสียงให้ความรู้สึกที่เหนือกว่า เขามองไปทางหลินหรูเยียนแล้วพูดอีกว่า "หรูเยียน โอกาสนี้หายากมาก ข้าอยากให้คุณไปกับข้า ในฐานะคู่หูร่วมต่อสู้"  หลินกู่เทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่กำแหง

บัดนี้ ในที่สุดเขาก็เปิดเผยความตั้งใจที่เขามาที่นี่ ดวงตาร้อนแรงของเขาจ้องมองที่หลินหรูเยียน

คู่หูร่วมต่อสู้?

ดวงตาคู่งามของหลินหรูเยียนเปลี่ยนไปในทันที

"หลินกู่เทียน ข้าเคารพเจ้าในฐานะลูกศิษย์อันดับหนึ่งของทำเนียบภายใน จึงเรียกเจ้าว่าพี่กู่เทียน แต่เจ้าได้คืบแล้วจะเอาศอก!” เสียงของหลินหรูเยียนเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที

ใบหน้าที่สวยงามของนางแฝงความเย็นชา แล้วพูดในทันใด "ข้าจะไม่ไปเข้าร่วมงานชุมนุมชาวยุทย์นี้ ถ้าไม่มีอะไร ขอเชิญพี่กู่เทียนกลับไปเสีย อย่ารบกวนการฝึกฝนของข้า"

“หรูเยียน เจ้าไม่เข้าใจเอาซะเลย ว่าการที่สามารถพึ่งพาคนแข็งแกร่งสักคนในตระกูลเป็นสิ่งสำคัญมากแค่ไหน แต่วางใจเถอะ วันหนึ่งข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าข้าต่างหากที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเจ้า!” หลินกู่เทียนไม่ได้โกรธ แต่ยิ้มอย่างมั่นใจแล้วหันหลังจากไป

แต่ขณะที่หลินกู่เทียนหันหลังกลับ เขาก็มองเห็นร่างหนึ่งเดินมาจากระยะไกล

หลินหาน?

หลินกู่เทียนเป็นประกายวายในดวงตา เขาเดินต่อไปด้วยใบหน้าเฉยชา ทั้งที่มองเห็นแต่เขาเมินใส่หลินหาน

"พี่กู่เทียน" หลินหานทักทาย เพราะหลินหานไม่ทราบว่าในหัวใจของหลินกู่เทียนเกลียดชังเขาแค่ไหน

“สถานที่ที่หรูเยียนอาศัยอยู่ เจ้ามิควรมาให้บ่อยนัก มิฉะนั้น ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าการเเย่งผู้หญิงของข้าจะมีจุดจบเช่นไร” หลินกู่เทียนเย้ยหยันแล้วหันหลังเดินออกไป

หลินหานยังยืนอยู่ที่เดิม เขามองความเย็นชาจากสายตาของหลินกูเทียนแล้วได้แต่รู้สึกงุนงง

เขาส่ายหัวอย่างอธิบายไม่ได้  เขาไปเเย่งผู้หญิงกับหลินกู่เทียนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

"ประสาท"   หลินหานพูดพึมพำแล้วเดินไปทางหลินหรูเยียน

"หลินหาน!" ที่ด้านหน้าประตู หลินหรูเยียนผู้มีใบหน้าเย็นชา ทันทีที่เห็นร่างของหลินหานเดินมาจากระยะไกล คิ้วของขยับ ดวงตาคู่งามสื่อความประหลาดใจระคนยินดี

หลินหานมาหานางด้วยตัวเองหรือ?

หลินหรูเยียนยิ้ม แล้วพูดด้วยท่าทางขี้เล่น "หายากนะเนี่ยที่คนบ้าฝึกฝนอย่างหลินหานยังมีเวลามาหาข้า"

หลินหานเพียงบุ้ยปากให้กับการล้อเล่นของหลินหรูเยียน แล้วพูดว่า “ลุงกุ่ยอยู่ไหม? ข้าต้องการให้เขาช่วย”

เมื่อพูดจบ ทั้งสองเดินเคียงข้างกันเข้าไปในจวน แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าในขณะนี้ หลินกู่เทียนยืนอยู่บนกำแพงที่ไม่ไกลนัก ดวงตาเย็นชากำลังจ้องมองรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ของหลินหรูเยียนซึ่งยืนอยู่หน้าจวน

“หลินหาน เจ้ากล้าท้าทายข้า เจ้าคงอยากตายสินะ…” หลินกู่เทียนพูดพึมพำ ดวงตาเปี่ยมจิตสังหารชั่วร้าย

……

ในจวนของหลินหรูเยียน

"อะไรนะ? ลุงกุ่ยไปแล้ว หนึ่งหรือสองเดือนให้หลังถึงจะกลับมา?" ดวงตาของหลินหานสื่อประกายความผิดหวัง

"เจ้ามีธุระอะไรกันแน่ พูดออกมา บางทีข้าอาจจะช่วยได้" หลินหรูเยียนตะโกน

นางฟังหลินหานพูดจบจนถึงตอนนนี้ ที่แท้จุดประสงค์คือมาหาลุงกุ่ย ในใจของนางจึงอดไม่ได้ที่จะเกิดความผิดหวัง

“ข้าต้องการคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างมากเพื่อบีบให้ข้ากระตุ้นศักยภาพ จนทำให้ข้าทลายขอบเขตพลัง” หลินหานฝืนยิ้มและพูดช้าๆ

"คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก?" หลินหรูเยียนพยักหน้าอย่างครุ่นคิด

ก็จริง เมื่อคนคนหนึ่งจะก้าวข้ามอุปสรรคแห่งวิถียุทย์ หากมีแรงกดดันจากภายนอกอย่างมหันต์ ก็มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะกระตุ้นศักยภาพและทำให้ทลายขอบเขตพลังได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ลุงกุ่ยหายตัวไปอย่างลึกลับ ก่อนออกเดินทางเขาบอกว่าจะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งหรือสองเดือนกว่าจะกลับมา

ใบหน้าของหลินหรูเยียนเผยความรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย

"ใช่แล้ว"

ทันใดนั้น ดูเหมือนหลินหรูเยียนจะคิดอะไรบางอย่างได้ จึงพูดด้วยใบหน้าที่มีมีความสุข "หลินหาน เจ้าสามารถเข้าร่วมงานชุมนุมชาวยุทย์ของเมืองต้วนเทียนได้"

"งานชมนุมชาวยุทย์?" หลินหานสนใจ

"ใช่."

หลินหรูเยียนพยักหน้าแล้วพูดต่อ "ครึ่งเดือนหลังจากนี้  'ห้าผยอง'แห่งเมืองต้วนเทียนจะรวมตัวกันเพื่อจัดงานชุมนุมชาวยุทย์สำหรับคนรุ่นใหม่ในเมืองต้วนเทียน ในหมู่พวกเขาจะมีคนรุ่นเยาว์ของสามขุมอำนาจเข้าร่วม เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าจะต้องได้พบกับคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมอย่างแน่นอน "

หลินหรูเยียนยิ้มเริงร่าทันทีที่พูจบ

ผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์ทั้งหมดของสามขุมอำนาจแห่งเมืองต้วนเทียน?

งานชุมนุมชาวยุทย์?

หลินหานแสดงความรู้สึกสนใจบนใบหน้า นี่สิ ถึงจะเป็นสิ่งที่เขาหมายถึง

ทุกวันนี้ คู่ต่อสู้ทั่วๆไปไม่สามารถตอบสนองความต้องการของหลินหานได้ การที่เขาได้ประมือกับคนรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งในเมืองต้วนเทียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ"ห้าผยองแห่งเมืองต้วนเทียน"ต่างหากจึงจะทำให้หลินหานมีใจอยากจะสู้

หลินหานเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นการประมือกับผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์คนไหน หรือจะเป็นการพบปะเพื่อการประลองยุทย์? ตัวเขาจะต้องได้รับประโยชน์มากมายอย่างแน่นอน แม้กระทั่งสามารถทลายขอบเขตยุทย์

"ดี เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะไปอย่างแน่นอน" หลินหานพยักหน้า ใบหน้าแสดงให้เห็นถึงความสุข

หลงจากนั้นหลินหรูเยียน “ขู่บังคับ” ให้หลินหานเป็นคู่ต่อสู้เพื่อขัดเขลาฝีมือกับนาง ถือเป็นรางวัลที่นางช่วยแก้ปัญหาให้หลินหาน

ในเรื่องนี้ แน่นอนว่าหลินฮันไม่ปฏิเสธ หากไม่ใช่เพราะหลินหรูเยียน เกรงว่าเขาจะไม่รู้เรื่องงานชุมนุมยุทย์สำหรับคนรุ่นเยาว์ในเมืองต้วนเทียน

……

ในช่วงครึ่งเดือนหลังจากนั้น หลินกู่เทียนมักจะไปหาหลินหรูเยียนบ่อยๆ แต่เขาถูกหลินหรูเยียนปฏิเสธโดยปิดประตูใส่อยู่ร่ำไป

สิ่งนี้ทำให้หัวใจของหลินกู่เทียนเศร้าหมองยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่หลินหรูเยียนปฏิเสธเขาแต่กลับไปหาหลินหานเพื่อฝึกฝนวิชายุทย์ สิ่งนี้ยิ่งทำให้หัวใจของหลินกู่เทียนเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ความโกรธมากขึ้นกว่าเดิมอย่างมหันต์

อย่างไรก็ตาม หลินกู่เทียนรู้สึกยินดีเล็กน้อย เพราะในที่สุดหลินหรูเยียนตอบตกลงเขาว่าจะเข้าร่วมงานชุมนุมชาวยุทย์แห่งเมืองต้วนเทียน แต่หากหลินกูเทียนรู้ว่าการที่หลินหยานหยุนตอบตกลงจะเข้าร่วมงานชุมนุมชาวยุทย์ก็เพื่อหลินหาน ไม่รู้ว่าเขาจะอาเจียนเป็นเลือดหรือเปล่า

เวลาผ่านไปอีกวัน

ยามค่ำคืน

ประตูทางเข้าตระกูลหลิน กลุ่มคนพร้อมที่จะออกเดินทาง

ในหมู่พวกเขา นอกจากหลินกู่เทียนและหลินหรูเยียนแล้ว ยังมีลูกศิษย์อีกจำนวนหนึ่ง ทุกคนล้วนอันดับต้นๆ รวมถึงหลินยู่ หลินฉายและหลินเจียว

งานชุมนุมชาวยุทย์ มีเพียงศิษย์ที่ได้ห้าอันดับแรกเท่านั้นจึงจึมีสิทธิ์เข้าร่วมการประลอง แน่นอนว่าคนอื่นสามารถตามไปได้ แต่ไปในฐานะผู้รับชมจากระยะไกลเท่านั้น

"ทำไมหลินหานถึงยังไม่มาอีกนะ?" หลินหรูเยียนมีสีหน้าวิตกกังวล

อีกไม่นาน ก็จะเป็นเวลาของงานชุมนุมชาวยุทย์แห่งเมืองต้วนเทียนแล้ว แต่หลินหานยังไม่มาเสียที

"ไปกันเถอะ" หลินกู่เทียนไม่ทราบว่าหลินหานจะไปด้วย เขาจึงโบกมือเพื่อจะพาทุกคนออกจากตระกูล

"รอก่อน!"   ทันใดนั้นหลินหรูเยียนร้องส่งเสียงดัง

"มีอะไรอีก?" หลินกู่เทียนและคนอื่นๆต่างเผยสีหน้างุนงง

“หลินหานจะเข้าร่วมด้วย” หลินหรูเยียนกล่าวทันที

"หลินหาน?"

หลินยู่ หลินฉายและหลินเจียวพยักหน้า หลินหานเป็นอันดับสามของทำเนียบภายใน จึงมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมแน่นอน

"หลินหานจะไปด้วยหรือ?"

แต่ในตอนนี้ ดวงตาของหลินกู่เทียนเต็มไปด้วยความมุ่งร้าย หากแต่ไม่แสดงให้เห็นจนชัดเจน อยู่ต่อหน้าทุกคนเขาจึงยิ้มอย่างละมุน “บางที เขาอาจจะมีธุระจนมาช้า พวกเราควรจะ ...”

"ข้ามาแล้ว" เสียงดังจากระยะไกล ขัดจังหวะคำพูดของหลินกู่เทียน

หลินหานโผล่พรวดเข้ามาด้วยสีหน้าที่สื่อความขอโทษ “ขอภัย ข้าพึ่งทลายขอบเขตพลัง”

เมื่อพูดจบ ทุกคนตกใจ พวกเขาจึงลองตรวจจับคลื่นลมปราณ ก็พลันพบว่าหลินหานก้าวสู่ยุทย์ฉะสวรรค์ขั้นกลางแล้ว

"ซู่ดดด! ทุกคนต่างสูดลมหายใจเข้าทันที

งานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์ผ่านไปนานแค่ไหนเขียว หลินหานทลายขอบเขตได้อีกเเล้วเหอ?

คนทั้งหลายต่างจ้องหลินหาน คล้ายกับกำลังมองดูสัตว์ประหลาด

มีเพียง หลินกู่เทียนที่สื่อความแปลกใจในดวงตาพร้อมกับความมุ่งร้าย

…………………………………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด