ตอนที่แล้วบทที่ 210 - ฉันก็ด้วย (2) [02-10-2019]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 212 - ฉันก็ด้วย (4) [06-10-2019]

บทที่ 211 - ฉันก็ด้วย (3) [04-10-2019]


บทที่ 211 - ฉันก็ด้วย (3)”

การโจมตีจากเงามืดนี้ได้พุ่งขึ้นมาจากพื้นโดยที่ไม่มีใครรู้ตัวเพื่อแทงเข้าไปที่ท้องของยูอิลฮาน คมมีดของมันชัดเจนว่าได้เต็มไปด้วยความแค้นที่สะสมมาหลายต่อหลายปี คนที่ทำการโจมตีนี้ชัดเจนว่าจะต้องเชี่ยวชาญในสกิลการซ่อนเร้นแล้วเป็นอย่างต่ำ บางทีก็อาจจะไปถึงสกิลขั้นสูงแล้วด้วย ถึงแม้ว่าการซ่อนเร้นจะยังด้อยกว่ายูอิลฮาน แต่อย่างน้อยก็มากพอที่จะเปิดโจมตีก่อน!

ยังไงก็ตาม

[ความสามารถฉายา 'ไม่อาจเอื้อม' ได้ถูกใช้งานทำให้การลอบโจมตีไร้ผล!]

ในตอนนี้ได้ถึงเวลาแสดงถึงพลังของฉายาไม่อาจเอื้อมที่ยูอิลฮานได้รับมาแล้ว การลอบโจมตีที่ควรจะเอาชีวิตเขาไปได้ไร้ผลลงแล้ว

แต่ยังไงก็ตามพลังของการโจมตีนี้ก็ได้ทำให้เกิดแรงกระแทกจนทำให้ท้องของยูอิลฮานเป็นรูใหญ่อยู่ดี เขาไดทรุดเข่าลงไปในทันที

"แค่ก แค่ก"

[อิลฮาน! อะ อิลฮาน!?]

[ชิ]

ปัญหาอีกอย่างก็คือในระหว่างการเลื่อนคลาสหรือการวิวัฒนาการสกิลจะทำให้การเคลื่อนไหวของเขาถูกยับยั้งเอาไว้

ยูอิลฮานยอมรับว่าเขาลดการระวังตัวลงไปจากความตื่นเต้นที่ได้หินพลังเวทย์คลาส 5 มา แต่แน่นอนว่าต่อให้เขาจะไม่ประมาทก็ไม่มีอะไรจะเปลื่ยนไปหากเขาเผชิญหน้ากับศัตรูที่เหนือกว่ามากๆ! สิ่งที่พิสูจน์ในเรื่องนี้ก็คือกับดักทั้งหมดที่เขาได้ติดตั้งเอาไว้ต่างก็ไร้ประโยชน์

[อึก...!]

ผู้ที่ทำการลอบโจมตีได้เผยตัวออกมาแล้ว และน่าทึ่งคือรูปร่างของมันไม่ได้ใหญ่เลย บางทีอาจจะสูงน้อยกว่าหรือเท่าๆกับยูอิลฮานด้วยซ้ำไป

แม้ว่า 'มัน' ที่อยู่ในที่นี้จะไม่มีรูปร่างให้พูดถึงก็ตาม ตัวมันเป็นเพียงเงาที่กำลังสั่นไหวและมานาจำนวนมหาศาลที่หมุนวนอยู่รอบๆตัว แต่ปัญหาก็ไม่ใช่แค่่นั้น

[เป็นได้ได้ยังไงกัน มานานี่มัน... มันเหมือนกับของโลกใบนี้ชัดๆ!] (เลียร่า)

[กรี๊ดดดดด!]

เลียร่าที่กำลังจะเสียเจ้านายของเธอไปได้ลดระดับความสูงลงและยิงลำแสงออกไปทันที ยังไงก็ตาม 'มัน' ได้หลบลำแสงทุกๆเส้นด้วยการขยับตัวของมันเองเท่านั้น เรื่องนี้ต่อให้เป็นตัวยูอิลฮานที่อยู่ท่ามกลางการโจมตีแบบนี้ก็ยังเป็นไปไม่ได้

แต่ก็เพราะลำแสงจากร้อยนัยน์ตาที่มีดาเมจที่รุนแรงทำให้มันตัวหลบในทุกๆการโจมตีและไม่อาจจะเข้าไปหายูอิลฮานได้ในตอนนี้

[นายเอาแต่กลั่นแกล้งเรามาตลอด]

ระหว่างที่หลบลำแสงอยู่ มันก็ได้พูดออกมา ทุกๆคำพูดของมันได้กลายเป็นคำสาปเข้าใส่ยูอิลฮาน คำสาปนี้เต็มไปด้วยพิษร้ายที่น่ากลังซึ่งร้ายแรงพอที่จะเอาชีวิตของยูอิลฮานไปได้เลยหากว่าเขาไม่ได้เชี่ยวชาญในสกิลต้านทานคำสาปขั้นสูงและต้านทานพิษขั้นสูง

"อั๊ก"

[อิลฮานหลบเร็ว! ฉันบอกให้หลบไง กรี๊ดดด!]

"เลียร่า...! ถ้าเธอเคลื่อนไหวล่ะก็..."

ทุกๆการกระทำและคำพูดของมันได้กลายมาเป็นสกิล เจ้านี่มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่างไปจากมอนสเตอร์คลาส 5 ที่ยูอิลฮานเคยเจอมาถึงตอนนี้ถึงขนาดอยู่คนละมิติกันเลย ระดับของบันทึกมันต่างกันอย่างชิ้นเชิง และในเรื่อง 'ชีวิต' ก็ต่างกัน

[กรี๊ดดด!]

เลียร่าที่ได้รู้ว่ายูอิลฮานขยับตัวไม่ได้ได้เข้าไปกอดยูอิลฮานบินถอยออกไป เพียงแค่นี้ก็มากพอที่จะสร้างแรงกดดันขึ้นบนร่างของเธอแล้ว ยังไงก็ตามถึงจะรู้แบบนี้เธอก็ไม่ได้หยุดลงเลย 'เจ้านั่น' ได้มองทั้งสองคนโดยที่ไม่ยอมหยุดคำสาป

[ฉันพยายามจะไล่นายออกไปแล้วแต่ก็ทำไม่ได้ มันน่ารำคาญที่สุด!]

"นาย.... ก็มีประสบการณ์... หนึ่งพันปีสินะ?"

ยูอิลฮานที่ยังขยับตัวอิสระไม่ได้จากการวิวัฒนาการของสกิลภาษาของเขาก็ยังแทบจะขยับปากตอบกลับไม่ได้เลย มันไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเลยแต่ยูอิลฮานก็รู้ว่าแบบนี้ก็คือการยอมรับของมันในตัวเอง

"นายรู้จักฉันมาตั้งแต่พันปีก่อนแล้ว"

[ไม่มีชีวิตใดบนโลกนี้ที่ไม่รู้จักนาย]

การตอบกลับนี้ของมันทำให้ยูอิลฮานยิ้มออกมาแม้ว่าจะยังมีความเจ็บปวดอยู่ก็ตาม เขาก็แค่คิดว่ามันน่าตลกดี เขาได้ดื้นรนเพื่อรับมือกับอนาคตในตอนพันปีนั้น แต่แล้วกลับมีสิ่งมีชีวิตถูกทิ้งไว้กับเขา สิ่งมีชีวิตอยู่ทั้งหมดนั้นได้เฝ้าดูเข้า ถ้านี่มันไม่ตลกแล้วจะมีอะไรที่น่าตลกอีกล่ะ

[นายมันเห็นแก่ตัวอย่างไร้ขีดสุด ทุกๆคนก็อยากที่จะมีชีวิต แต่นายก็เอาแต่ใช้พวกเขาเป็นหินรองเท้าเพื่อที่จะเอาตัวรอดเพียงคนเดียว]

"ใช่ ฉันทำแบบนั้นแหละ"

[โลกนี้ไม่พอใจในตัวนาย พวกเราทุกคนไม่พอใจในตัวนาย]

ยูอิลฮานได้นึกไปถึงมอนสเตอร์กลายพันธ์ที่อารวาดในตอนที่เพิ่งเริ่มมหาภัยพิบัติที่พอถึงระยะหนึ่งแล้วได้ลดจำนวนลงไปอย่างต่อเนื่อง

มันเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งมีชีวิตที่ได้รับบันทึกจำนวนมหาศาลจากการทนอยู่มาได้พันปีเหมือนยูอิลฮานล่ะ? คำถามที่เขาหาคำตอบของเขาไม่ได้ในใจของเขาได้รับคำตอบมาจากทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว

ดันเจี้ยนนรกไงล่ะ มันจะมีพื้นที่ที่น่ากลัวแบบนั้นเกิดขึ้นมาโดยไร้สาเหตุไปได้ยังไงล่ะ? ในพันปีที่ยูอิลฮานได้ถูกบันทึกนภายอมรับเป็นคนพิเศษ แต่ว่าเขาจะใช่คนเดียวที่พิเศษจริงๆน่ะหรอ?

"นับตั้งแต่เริ่มฉันก็อยู่คนเดียวมาตลอด ดังนั้น...ฉันก็เลยไม่ได้คิดถึงเรื่องคนอื่นเลย"

ใช่แล้ว นี่มันคือความผิดของเขา กระบวนความคิดของคนโดดเดี่ยวบ้านี่ได้ถ่วงรั้งขาาเขาไว้จนกระทั่งมาจนถึงท้ายที่สุดนี้

[ฮ่าห์]

เมื่อได้ยินแบบนี้ 'เจ้านั่น' ได้พ่นคำสาปออกมาจากปากที่ไร้รูปร่างอีกครั้ง แม้กระทั่งในตอนนี้ลำแสงที่ยิงลงไปเหมือนกับนก็ยังไม่โดนร่างมันแม้แต่ทีเดียว

[มนุษย์เห็นแก่ตัว เราเกลียดนายที่สุด]

"ฟู่... ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่นี่"

จู่ๆยูอิลฮานคงจะไม่มีทางพูดออกไปว่า 'สัตว์ทุกๆตัวบนโลกสำคัญเทียบเท่ามนุษย์! เรามาปกป้องเพนกวิ้นแอนตาร์กติกกันเถอะ' หรืออะไรคล้ายๆแบบนี้แน่

ทุกสิ่งที่เขาทำบนโลกนี้ก็เพื่อเอาตัวรอด และถึงแม้การทำแบบนั้นจะทำให้พิษร้ายสั่งสมกันมาจนย้อนกลับมาทำร้ายเขา เขาก็ไม่ได้เสียใจสักนิด เขาก็แค่คิดว่ามันโชคร้ายที่เขาทำพลาดเท่านั้นเอง

[ฉันจะฆ่านาย ในโลกใหม่ไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์อยู่]

"โลกใหม่... ฉันก็อยากจะถามเรื่องนี้เหมือนกัน"

คำว่าโลกใหม่ได้ทำให้มันฉุดคิดและเปิดปากขึ้นมา นี่ก็ยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับมิสทิคโจมตีอีกด้วย แต่แล้วแม้ว่าจะพูดมันก็ยังคงหลบลำแสงทั้งหมดได้อยู่ดี

"นายรู้ถึงที่ที่เด็กๆที่เกิดหลังจากเกิดมหาภัยพิบัติอยู่ไหม?"

[ดันเจี้ยน]

และเพราะอะไรบางอย่างทำให้มันยอมตอบกลับมา

[ดันเจี้ยนที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจของเขา ดันเจี้ยนที่นายไปเหยียบย่ำอย่างไร้ปราณี ดันเจี้ยนที่มีแต่สิ่งมีชีวิตที่กลายพันธ์และยังมีความโลภเหลืออยู่ ทุกๆคนอยู่ภายในนั้น พวกเราไม่ได้ทำอะไรแต่มันเป็นสิ่งที่โลกได้เลือก]

"ฮ่าห์"

ในที่สุดแล้วเขาก็ได้คำตอบที่ค้นหามาตลอด 3 ปี เขาภาวนาให้มันไม่เป็นจริงแต่แล้วมันกลับเป็นจริงไปซะได้

"ฮ่า... ฮ่าฮ่า"

เขาได้เผลอหัวเราะออกมาโดยไม่ได้รู้ตัวเลย ความโกรธภายในอกของเขากำลังปะทุขึ้นมา สิ่งมีชีวิตที่ไร้เดียงสาได้หายไปโดยที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย พอคิดถึงจำนวนเด็กนับไม่ถ้วนที่ต้องไปอยู่ในนั้นทำให้ยูอิลฮานไม่อาจจะเก็บความโกรธเอาไว้ได้อีกต่อไป

ยังไงก็ตามมันได้ตอบกลับมาอย่างมั่นคง น้ำเสียงของมันได้เต็มไปด้วยอารมณ์ที่มากมายนับไม่ถ้วน

[ก็เหมือนกับนายแหละมนุษย์ ทุกๆคนต่างก็ต้องฆ่าเพื่อเอาตัวรอด ฉันก็เหมือนกัน นี่มันไม่ใช่เกม นี่มันคือการแข่งกันเอาตัวรอด พวกเราก็เหมือนกับนาย พวกเราจะฆ่านายก็เพื่อเอาตัวรอดเหมือนกัน]

"ฮ่าๆ นายนี่เลือกคำพูดมาได้แย่จริงๆ..."

[ฉัน จะ ฆ่า นาย!]

ในบางช่วงได้มือหอกปรากฏขึ้นมาบนมือเงานั่น มองดูแล้วดูคล้ายกับหอกมังกรแปดหางที่ยูอิลฮานใช้ จริงๆแล้วการเคลื่อนไหวของมันก็ยังคล้ายกับยูอิลฮานอีกด้วย แต่แค่เร็วกว่ามาก

พอมาคิดดูแล้วนี่มันก็เป็นเรื่องปกติในเมื่อสิ่งมีชีวิตนี่ได้เฝ้าดูยูอิลฮานมาเป็นพันปี และหลังจากมหาภัยพิบัติก็เช่นกัน

ยังไงก็ตามยูอิลฮานก็ยังขยับไมได้ นี่มันก็เพราะว่าการวิวัฒนาการสกิลภาษานั้นมีระดับใหญ่มากจนต้องใช้บันทึกจำนวนมหาศาล

เขาอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมากับการที่ตัวเขาต้องกลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ ที่แม้แต่ดิ้นรนยังทำไม่ได้เลย เขาได้แต่กระพริบตากับขยับริมฝีปากเท่านั้น นี่ไม่ได้ต่างจากคนพิการเลย

[ย๊ากกกกกก! ย๊ากกกกกกกก!] (มิสทิค)

เหตุผลที่ยูอิลฮานยังอยู่ได้มาจนถึงตอนนี้ก็เพราะลำแสงจากป้อมปราการลอยฟ้า การตัดสินใจของมิสทิคฉลาดมากๆ เธอรู้ว่านี้คือเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับยูอิลฮานในตอนนี้และพยายามที่ใช้ประโยชน์จากทุกสิ่งที่จะเป็นไปได้

[ตาย! ตาย!] (มิสทิค)

[ไม่ได้ผลหรอก คนทรยศ]

แน่นอนว่าลำแสงไม่อาจจะยิงได้ตลอดไป พลังงานและหินพลังเวทย์ภายในป้อมปราการลอยฟ้ามีอยู่จำกัด ยิ่งเธอยิงลำแสงออกไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เข้าใกล้ขีดจำกัดนั้นมากเท่านั้น ยูอิลฮานคาดเอาไว้ว่าลำแสงไม่น่าจะอยู่ได้จนถึงตอนที่เขาพร้อม

เขาได้เคยเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตคลาส 5 มาหลายตัวแล้ว เขาฆ่าพวกมันด้วยตัวเองมามากกว่าสิบตัว แต่ถึงแบบนั้นเจ้าตัวที่อยู่ข้างหน้าเขาอยู่คนระดับกันโดยสิ้นเชิง มันไม่มีทางที่ยูอิลฮานจะไม่รู้ว่านี่มันหมายถึงอะไรแน่

เจ้านี่จะต้องเป็นคลาส 6 ฝั่งหนึ่งคือคลาส 3 และอีกฝั่งหนึ่งคือคลาส 6

นี่คือความแตกต่างกันระหว่างมนุษย์กับมอนสเตอร์ มนุษย์จะได้รับค่าประสบการณ์ก็ต่อเมื่อทำการฆ่ามอนสเตอร์ ส่วนมอนสเตอร์นั้นจะพัฒนาขึ้นอย่างไร้ขีดสุดจากการได้รับมานาและบันทึกต่อให้ไม่ได้ไปสู้กับใครก็ตาม

[พวกเรารวมจิตสำนึกกันแล้ว ไม่ว่านายจะพัฒนาได้เร็วแค่ไหน... นายก็เอาชนะเราไม่ได้]

"ถึงนายจะ... พูดเหมือนกับนายเป็นบอสตัวสุดท้ายแล้ว... แต่ฉันก็ฟู่วว... โครตจะรำคาญนายเลยล่ะ"

คลาส 6 นี่ที่ชอบทำตัวเจ้ากี้เจ้าการ มันเปนประเภทที่น่ารำคาญที่สุดแล้ว ยังไงก็ตามน่าเสียดายที่ยูอิลฮานยังเตรียมพร้อมไม่เสร็จเลย หากเขาได้คลาส 4 หรือหากเขาได้รับพรของเทพธิดาแห่งเพลิง! หรือแค่เขาขยับตัวได้ในตอนนี้!

ยังไงก็ตามยังมีอีกคนหนึ่งที่ในตอนนี้ก็ยังสู้ได้นอกไปจากเขา

[ฟู่ว นี่มันก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายจริงๆนั่นแหละ]

ปีกของเลียร่าได้สะบัดขึ้น ร่างกายของเธอได้ถูกปกคลุมได้ด้วยแสงสีชมพูและหอกที่เป็นสัญลักษณ์ของพรจากเทพธิดาแห่งความรักก็อยู่ในมือของเธอแล้ว

หอกนี้จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเมื่อถูกใช้ในการปกป้องคนรัก หรือก็คือในช่วงเวลาแบบนี้นี่แหละ

"ไม่"

ยูอิลฮานรู้สึกเกลียดตัวเขาเองมาก ถึงแม้ว่าเขาจะพูดออกไปว่า 'ไม่' แต่ความคิดของเขาก็คิดว่านี่มันเป็นไปตามที่เขาคำนวนไว้แล้ว เขาเกลียดตัวเขาเองก็เพราะความคิดแบบนี้

เขาไปพึ่งพาการเสียสละจากคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ตอนไหนกันนะที่เขาโม้อย่างมั่นใจว่าเขาจัดการทุกๆอย่างด้วยตัวเองได้? เขาฝึกตัวเองมาจนถึงตอนนี้เพื่ออะไร? ตอนนี้เขาก็กำลังจะเสียเลียร่าที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตเขาไปงั้นหรอ?

[ไม่นั่นหมายว่ายังไงกันนะ? นายนี่นิสัยไม่ดีเลยนะอิลฮาน]

เลียร่าได้ตอบกลับมาอายๆเหมือนกับเธออ่านความคิดของเขา แต่ท่าทางของเธอในตอนนี้อยู่ในโหมดการต่อสู้แล้วซึ่งขัดกับรอยยิ้มที่อบอุ่นบนใบหน้า มานาจำนวนมหาศาลได้เปล่งออกมาจากร่างของเธอและออร่าของการฝึกฝนของกาลเวลาก็ได้ทำให้เงาหยุดเคบื่อนไหว

[นายจำเป็นต้องรู้จักพึ่งพาคนอื่นให้มากกว่านี้]

"ฉันจะไม่สร้างภาระให้กับคนอื่น"

[นั่นมันไม่ใช่ภาระ นี่คือสิ่งที่ฉันต้องกัน]

"แต่ถ้าเธอทำแบบนั้น เธอจะ..."

[ทำไมนายไม่เข้าใจเลยนะอิลฮาน?]

คำพูดของเลียร่าตั้งมั่นจนแทงลึกเข้าไปในหัวใจของยูอิลฮาน

[ถ้าเป็นแบบนี้นายก็จะต้องอยู่คนเดียวไปตลอดนะ มันจะไม่มีทางที่ฉันจะส่งความรู้สึกไปหานายได้]

"อะไรนะ...?"

[ไม่มีอะไรหรอก]

เลียร่าได้หันหน้ากลับไป การเคลื่อนไหวของเธอไม่ได้มีอะไรมากกว่าการเอาชีวิตไปโยนทิ้งเลย แต่ว่าจริงๆแล้วเธอกำลังซ่อนแก้มที่แดงอยู่

[ใช่แล้ว เธอ ยังมีเธออีก คนที่อยู่กับมนุษย์เสมอ อยู่ต่อหน้าเรา ซ้ำแล้วซ้ำอีก!]

[อย่ามาขัดนะ ฉันกำลังคุยเรื่องสำคัญกันอยู่]

เมื่อออร่าของคลาส 6 ทั้งสองคนได้ปะทะกันบนพื้นทำให้พื้นดินไม่อาจจะทนได้อีกต่อไป พื้นดินได้สั่นสะเทือนพร้อมๆกับคลื่นลมที่เหมือนจะผลิกกลับท้องฟ้า คลื่นกระแทกก็ยังส่งมาถึงที่ที่ยูอิลฮานอยู่อีกด้วย ฉากๆนี้ปกติแล้วจะมีแต่ในการ์ตูนเท่านั้นที่จะมีได้... ในหัวของเขาได้คิดเรื่องไร้สาระแบบนี้ลอยขึ้นมา

[ฟังให้ดีนะอิลฮาน เพราะฉันอายฉันจะไม่พูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง]

และในตอนที่จิตใจเขากำลังสับสน เสียงของเลียร่าก็ลอดเข้ามา

[ฉันรักนายอิลฮาน ฉันรักนาย มากยิ่งกว่าใครๆอีก]

[ก๊าซซซซซซซซซ!]

พอพูดจบเลียร่าได้พุ่งตัวออกไปในทันทีโดยไม่คิดรอคำตอบจากยูอิลฮาน เงานั่นก็ยังรู้ด้วยว่าทันจะต้องจัดการเลียร่าก่อนที่จะไปฆ่ายูอิลฮาน มันได้พุ่งเข้าไปหาเธอเช่นกัน

[ฮ่าหหหหหห์]

[ตาย!]

นับจากวินาทีที่เลียร่าได้ใช้พลังของเธอเพื่อคนอื่นนอกจากตัวเองทำให้ขนปีกของเธอได้ล่วงลงไปทีละนิด ในเวลาเดียวกันพลังของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงก็ยังออกไปจากร่างของเธอ และเลือดสีขาวเปล่งประกายก็ยังกระจายจากปีกของเธอ ขนสีขาวบริสุทธิ์และหยดเลือดนี้ทำให้ดูแล้วเหมือนกับหิมะบนท้องฟ้าที่ยามค่ำคืน

แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ไม่ได้หยุดลง แสงสว่างได้เปล่งออกมาจากหอกสีชมพูของเธอเพื่อปกป้องตัวเธอและเป้าหมายของเธอ

[องค์เทพแห่งความรัก!]

ผู้หญิงที่ได้ละทิ้งสวรรค์และกลับมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำได้ตะโกนออกมาอย่างกล้าหาญพร้อมแทงหอกออกไป

[โปรดมอบพลังให้กับฉันเพื่อปกป้องคนรักด้วยเถิด!]

และเมื่อทั้งสองคนปะทะเข้าด้วยกัน เลียร่าก็ได้สร้างหลุมลงไปในเงามืดแม้ว่าเธอจะไอออกมาเป็นเลือดก็ตาม

[สกิลภาษาได้วิวัฒนาการขึ้นเป็นสกิลบันทึก! ในตอนนี้คุณสามารถจะแปลทุกๆสิ่งที่เห็น ได้ยิน และรู้สึกให้เป็นภาษาของบันทึกนภาและบันทึกสิ่งนั้นเอาไว้ เมื่อทำการบันทึกแล้วทุกๆอย่างจะกลายเป็นบันทึกของตัวคุณเอง]

[อัตราในการพัฒนาของสกิลทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า]

[ค่าประสบการณ์และปริมาณของบันทึกที่ได้รับจากมอนสเตอร์ได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า]

[เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่คุณเคยเจอและเคยทำการบันทึกมาก่อน พลังโจมตีและพลังโจมตีคริติคอลเพิ่มขึ้น 30%]

การวิวัฒนการสกิลได้จบลงแล้ว และในเวลาเดียวกันนี้

[คุณได้เชี่ยวชาญสกิลประกายเพลิง คุณได้กลายเป็นจ้าวแห่งเพลิง]

[คุณได้รับพรจากเทพธิดาแห่งเพลิง พลังโจมตีธาตุและความต้านทานธาตุไฟเพิ่มขึ้น 50% ไฟไม่อาจจะทำอันตรายให้กับคุณได้อีกเกินไป ไฟที่ศัตรูได้ใช้ทำเสียการควบคุมจากผู้ใช้และคุณจะการเป็นผู้ควบคุมไฟนั้นแทน สกิลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเพลิงจะถูกยกระดับขึ้นหนึ่งระดับชั้น]

[คุณสามารถเลื่อนไปคลาส 4 ได้]

ดวงตาของยูอิลฮานได้เป็นประกายขึ้นมาแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด