ตอนที่แล้วบทที่ 112 การยับยั้งของผู้แข็งแกร่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 114 เทคนิคกายเร้นโลหิต

บทที่ 113 สัญญาหนึ่งปี


บทที่ 113

สัญญาหนึ่งปี

คลื่นสัตว์ปีศาจไม่ได้มีแค่เมืองชวูเซี่ย แต่เมืองอื่นๆ ก็มีเช่นกัน

ในเมืองกวนเซี่ย จำนวนสัตว์ปีศาจได้ทวีคูณขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก บางป่าที่ปลอดภัยตอนนี้อาจจะมีสัตว์ปีศาจหลายตัวเดินอยู่ภายใน

คนส่วนใหญ่ไม่ได้แลกแกนปีศาจของพวกเขาในเมืองกวนเซี่ย ภายในนิกายมีสถานที่แห่งหนึ่งที่สามารถขายแกนปีศาจได้อยู่

กล่าวง่ายๆ นิกายนั้นเทียบเท่ากับเมืองจริงๆ เพียงแต่ว่าเมืองนี้มันเต็มไปด้วยนักรบที่แข็งแกร่ง

“แกนปีศาจระดับ 2 ขั้นต่ำสามชิ้น แกนปีศาจระดับ 2 ขั้นกลางสองชิ้น และแกนปีศาจกลายพันธุ์ระดับ 2 ขั้นสูงหนึ่งชิ้น รวมทั้งหมดเป็น 300,000 เหรียญทอง”

ในโถงแลกเปลี่ยน หลี่ฟูเฉินขายแกนปีศาจทั้งหกที่เขาได้รับมาจากสนามรบในเมืองชวูเซี่ย

“หลี่ชิตี๋ โชคของเจ้าชนเข้ากับทองจริงๆ อือ เจ้าไม่ใช่ว่ายังต้องเลี้ยงอาหารดีๆ พวกเราอยู่?” เฉินฟางหัวแนะนำ

“ใช่แล้ว!” จ้าวหมิ๋งเยวี่ยพยักหน้า

หลี่ฟู่เฉินยิ้ม “ไม่มีปัญหา”

ศาลาละเอียดอ่อนเป็นห้องอาหารที่มีอาหารคุณภาพสูงสุดในนิกายคังหลุน ดูแล้วคล้ายกับร้านอาหารในโลกภายนอก แต่อาหารในที่นี่ล้วนแล้วแต่หายากและประณีตบรรจง มื้อเดียวจะมีค่าใช้จ่ายหลายพันเหรียญทอง หากใครสามารถจ่ายได้ ราคาจะสูงขึ้นไปอีกเป็นหลายหมื่นเหรียญทอง

มีศาลาอันละเอียดอ่อนทั้งหมดสี่แห่ง หนึ่งที่นิกายชั้นนอก นิกายชั้นใน พื้นที่ของศิษย์หลัก และพื้นที่ส่วนกลาง

***

=ศาลาละเลียดอ่อนชั้นใน =

“เยี่ยมเลย! ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ข้ามาที่นี่ ข้าก็ไม่สามารถลืมรสชาติมันได้เลย ตอนนี้ในที่สุดข้าก็มีโอกาสได้ลิ้มรสมันอีกครั้ง” เฉินฟางหัวใช้ตะเกียบของเธอเพื่อครีปปลาและยัดเข้าไปในปากของเธอ สีหน้าที่มีความสุขปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ

จ้าวหมิ๋งเยวี่ยเองก็กำลังมีช่วงเวลาที่ดีเช่นกัน แม้ว่าเธอจะเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสชั้นใน แต่เธอไม่ค่อยได้รับอิสระมากนัก และไม่ค่อยทานอาหารเช่นนี้

มองไปยังอาหารอันโอชะที่วางกระจายอยู่บนโต๊ะ ในที่สุดหลี่ฟู่เฉินก็เข้าใจว่าทำไมเวลาจากทานอาหารราคาแพงถึงต้องมาทานที่ศาลาละเอียดอ่อน ส่วนผสมที่ใช้คือระดับกลาง เช่นผักจิตวิญญาณก็ระดับกลางเช่นกัน ปลาสมบัติระดับสอง เต้าหู้ที่ทำจากถั่ววิญญาณก็ระดับกลาง นกวิญญาณระดับกลางและไข่……

ปลาสมบัติระดับสองมีค่า 1,000 คะแนนต่อกิโลกรัม สิบกิโลกรัมจะเป็น 10,000 คะแนนสะสมและเมื่อเปลี่ยนเป็นเหรียญทอง มันจะเป็น 20,000 เหรียญทอง หลังจากรวมค่าธรรมเนียมการทำอาหารแล้ว ปลาสมบัตินี้เพียงอย่างเดียวก็จะเป็น 21,000 เหรียญทอง

โชคดีที่ส่วนผสมระดับกลางอื่นๆ ราคาถูกกว่ามาก เพิ่มได้มากสุดก็เพียง 9000 เหรียญทอง

แค่อาหารเพียงมื้อเดียว ราคาที่หลี่ฟู่เฉินต้องจ่ายก็มากกว่า 30,000 เหรียญทอง

แต่หลี่ฟู่เฉินไม่รู้สึกเสียใจที่ต้องจ่ายค่าอาหารราคานี้ กลับกันเขาดื่มด่ำไปกับรสชาติ

หลังจากผ่านมือของผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารมา รสชาติของส่วนผสมระดับกลางก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นจนถึงระดับที่มันไม่สามารถอธิบายได้ หากอาหารที่นี่ถือได้ว่าประณีต อาหารที่อื่นก็คงจะถือได้ว่าไร้ความนุ่มนวลและน่าเบื่อ

หลังจากทานอาหารเสร็จ ทั้งสามรู้สึกถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นจากภายในร่างกาย

ส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงกว่านั้นจะช่วยบำรุงตันเทียน  อาหารที่ทั้งสามบริโภคไปนั้นเทียบเท่ากับยาเม็ดพยัคฆ์มังกรระดับสูงหลายเม็ด ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะรู้สึกถึงความอบอุ่น

ออกจากศาลาละเอียดอ่อน สายลมจากภูเขาช่วยทำให้ร่างกายเย็นลง

“หลี่ฟู่เฉิน ในที่สุดเจ้าก็ออกมา ทำลายแขนข้างหนึ่งของเจ้าเองตอนนี้! อย่าได้ทดสอบความอดทนของข้า! ข้าลืมกล่าวไป ข้าคือเหลาเทียนจุน ลุงของเหลาไห่หลง”

ห่างจากหน้าประตูของศาลาละเอียดอ่อนไปสิบเมตร ชายผู้แข็งแกร่งยืนอยู่ที่นั่นอย่างเย็นชา และจ้องมองมาที่หลี่ฟู่เฉินราวกับว่าเขาได้ตายไปแล้ว

“เหลาเทียนจุน หลี่ฟู่เฉินเป็นเพื่อนของข้า และข้าแนะนำให้เจ้าออกไปซะเดี๋ยวนี้” เฉินฟางหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่โหดเหี้ยม

เหลาเทียนจุนเบนสายตาของเขาไปที่เฉินฟางหัว “เฉินฟางหัว เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องนี้?”

“ถูกแล้ว เรื่องนี้อยู่ในมือของข้าแล้วตอนนี้” เฉินฟางหัวไม่แสดงความลังเลใดๆ

เหอะ เหอะ!

เหลาเทียนจุนหัวเราะ “เฉินฟางหัว เจ้าไม่ควรกล่าวออกมาเช่นนั้น ตอนแรกเจ้ามีอนาคตที่สดใส แต่น่าเสียดายที่เพราะมดตัวนี้ เจ้าเลยต้องโยนอนาคตนั้นทิ้งไป เจ้าอาจคิดว่าข้ากล่าวโม้โอ้อวด แต่ไม่ช้าก็เร็วเจ้าจะรู้ว่าเจ้าทำผิดพลาดครั้งใหญ่ไปแล้ว”

ไม่รู้ทำไม เฉินฟางหัวตัวสั่นหลังจากได้ยินคำกล่าวนี้จากเหลาเทียนจุน

จ้าวหมิ๋งเยวี่ยไม่สามารถทนเห็นเหลาเทียนจุนคุกคามเฉินฟางหัวได้ “เหลาเทียนจุน ให้ข้าเตือนเจ้า หากเจ้ากล้าสัมผัสกับเฉินชิเจี๋ยแม้แต่ทางใดทางนึง ข้าจะให้เจ้าต้องทนทุกข์ทรมาน”

เหลาเทียนจุนไม่ได้สนใจเรื่องที่จ้าวหมิ๋งเยวี่ยกล่าว “ใครบอกว่าข้าจะไปสัมผัสนาง? เป็นไปได้ไหมว่าการกล่าวหา เป็นการทำผิดกฏของนิกาย?”

“เจ้า!”

จ้าวหมิ๋งเยวี่ยจะโต้เถียงกับเหลาเทียนจุนได้อย่างไร? เพียงแค่ประโยคเดียวจากเขา กลับปิดปากเธอ

หันกลับมามองหลี่ฟู่เฉิน เหลาเทียนจุนกล่าวด้วยความรังเกียจ “ทำไม? เจ้าจะคอยอยู่ข้างหลังผู้หญิงสองคนนี้ และเป็นเต่าที่รอคอยความช่วยเหลือหรือไม่? หักแขนข้างหนึ่งของเจ้าแล้วข้าจะลืมทุกสิ่ง หากไม่ เจ้าจะไม่สามารถรับผลที่ตามมาได้ อย่าคิดว่าข้าล้อเล่น ข้าเป็นคนที่ทำตามคำกล่าวของตนเอง”

เมื่อตอนที่เหลาเทียนจุนกล่าว เขามีมารยาทดีผิดปกติ แต่ยังให้ความรู้สึกถึงความเจ้าเล่ห์อีกด้วย ทุกคำเจาะเข้าไปในใจอย่างเย็นยะเยือก

หลี่ฟู่เฉินหัวเราะ “เหลาเทียนจุน หากข้าไม่ได้เข้าใจผิด ปีนี้เจ้าสมควรอายุ 31 ปีใช่หรือไม่?”

“แล้วอย่างไร? เจ้าคิดว่าเป็นเพราะข้าเป็นศิษย์พี่ของเจ้า เจ้าเลยไม่กล้าที่จะเผชิญปัญหาหรือไม่? เป็นเช่นนั้นก็ผิดพลาดแล้ว” เหลาเทียนจุนกล่าวอย่างเย็นชา

หลี่ฟู่เฉินส่ายหัว “ให้เวลาข้าหนึ่งปี หนึ่งปีต่อมาเราจะสู้กับบนเวทีเฟิงหยุนของนิกายชั้นใน”

เวทีเฟิงหยุนสร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้ศิษย์จัดการกับความไม่พอใจของพวกเขา

แม้ว่าเวทีเฟิงหยุนจะห้ามไม่ให้ใครก็ตามฆ่ากัน แต่มันก็ชอบทำที่จะทำให้ศัตรูของท่านพิการ ผู้แพ้ต้องสาบานที่จะไม่แก้แค้น หากนิกายพบว่าผู้แพ้กล้าแก้แค้นในความมืด เขาจะถูกตัดสินประหารชีวิต

“หนึ่งปี?” เหลาเทียนจุนสำรวจหลี่ฟู่เฉิน

หลี่ฟูเฉินมีรูปร่างเหมือนหอก เขาไม่ได้ขยับแม้แต่เพียงครั้งเดียว เมื่อตอนที่ลมภูเขาพัดเข้าใส่เขา ดวงตาของเขาดูเหมือนจะไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทำให้เหลาเทียนจุนไม่สามารถอ่านอารมณ์ของเขาได้

“ไม่ ฉันจะไม่ให้หนึ่งปีกับเจ้า หักแขนข้างหนึ่งของเจ้าตอนนี้ ผู้หญิงสองคนนี้ไม่สามารถปกป้องเจ้าได้ตลอดเวลา”

เหลาเทียนจุนส่ายหัว

บุคลิกภาพของเขาเป็นประเภทที่ชอบทำสิ่งที่เขามั่นใจ หนึ่งปีมีตัวแปรมากเกินไป

ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมเขาต้องให้หลี่ฟู่เฉินหนึ่งปี?

“เหลาเทียนจุน แน่นอนว่าเจ้าเป็นคนขี้ขลาด เจ้าอยู่ที่ระดับที่แปดของขอบเขตต้นกำเนิด ในขณะที่หลี่ฟู่เฉินอยู่ในระดับที่สี่ของขอบเขตต้นกำเนิด เช่นนี้เจ้าก็ยังไม่สามารถอดทนรอได้แม้เพียงหนึ่งปี? เจ้าเป็นคนแบบไหน?”

จ้าวหมิ๋งเยวี่ยส่งสายตาดูถูกไปยังเหลาเทียนจุน

ความปั่นป่วนทั้งหมดดึงดูดความสนใจของเหล่าศิษย์ชั้นในโดยรอบ

ได้ยินสิ่งที่จ้าวหมิ๋งเยวี่ยกล่าว ทุกคนมองไปที่เหลาเทียนจุนอย่างรังเกียจ

การแสดงออกของเหลาเทียนจุนเปลี่ยนไป “เอาหล่ะ ข้าจะให้เจ้าหนึ่งปี หนึ่งปีต่อไป ฉันจะไปพบเจ้าที่เวทีเฟิงหยุน ฉันจะทำลายตันเทียนของเจ้าและทำลายแขนขาของเจ้าทั้งหมด เจ้าจะนอนบนเตียงตลอดไป”

“ข้าส่งคำเหล่านั้นกลับไปที่เจ้า” หลี่ฟู่เฉินกล่าวอย่างเฉยเมย

ท่าทางที่สงบของหลี่ฟู่เฉินทำให้เกิดสภาวะในจิตใจของเหลาเทียนจุน เขาผู้ที่ควบคุมอารมณ์ได้อยู่เสมอ รู้สึกราวกับว่าเขาสูญเสียการควบคุมไปเมื่อมองไปที่หลี่ฟู่เฉิน

ไม่ว่าเขาจะพยายามทำอะไร หลี่ฟูเฉินก็ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

“ฮึ่ม ฉันไม่เชื่อว่าเจ้าจะพัฒนาได้มากภายในปีเดียว ฉันหวังว่าเจ้าจะไม่ร้องไห้และขอความเมตตา”

ทิ้งคำกล่าวสุดท้ายของเขา เหลาเทียนจุนหันและออกไป

“หนึ่งปีต่อไป เหลาชิเซียงจะต่อสู้กับหลี่ฟู่เฉินบนเวทีเฟิงหยุน?”

“หลี่ฟู่เฉินไม่ใช่หุ่นหันเกินไป? เหลาชิเซียงก้าวเข้าสู่ระดับที่แปดของขอบเขตต้นกำเนิดได้ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา หนึ่งปีต่อไป เขาอาจจะอยู่ในระดับที่เก้าของขอบเขตต้นกำเนิดแล้ว”

“แน่นอนว่านี้หุนหันเกินไป หลี่ฟู่เฉินอยู่ในระดับที่สี่ของขอบเขตต้นกำเนิด หนึ่งปีต่อไป เขาน่าจะอยู่ในระดับที่หกของขอบเขตต้นกำเนิด ในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ ในทุกระดับชั้น มันยากที่จะคืบหน้าต่อไปอีกเรื่อยๆ”

ศิษย์ชั้นในโดยรอบเริ่มพูดคุยกัน แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้คาดว่าหลี่ฟูเฉินจะเป็นฝ่ายชนะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด