ตอนที่แล้วบทที่ 110 มอบแกนปีศาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 112 การยับยั้งของผู้แข็งแกร่ง

บทที่ 111 เหนือกว่า


บทที่ 111

เหนือกว่า

“เหลาไห่หลง คนอื่นอาจจะกลัวเจ้า แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าข้า หลี่ฟู่เฉิน จะต้องกลัวเจ้า วันนี้เราจะได้เห็นดีกัน ว่าใครกันแน่ที่เป็นเหมือนสุนัขตาย”

ร่างกายของหลี่ฟู่เฉินสั่นสะเทือน เขาระเบิดพลังขอบเขตต้นกำเนิดระดับสี่และเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับระดับสิบสามออกมา

เขาดึงความแข็งแกร่งทางกายภาพออกมาเต็มกำลัง มากถึง 15,000 กิโลกรัม

ทันใดนั้นเองที่ร่างกายของเขากลายเป็นบิดเบี้ยว และดาบเหล็กดำในมือของเขาก็พุ่งไปตามเส้นทางที่ไม่เหมือนใด ในทันที ไฟสว่างจ้าพุ่งออกไปและดาบก็เร่งความเร็วไปถึงจุดสูงสุด

ทักษะดาบลึกลับขั้นต่ำ ดาบดาวตก

สองดาบเหล็กปะทะกัน หนึ่งเหมือนสายฟ้า หนึ่งเหมือนดาวตก พวกมันปะทะกันเข้าหากัน

เคร๊ง!

เสียงที่น่ากลัวของโลหะกระแทกกันดังกึกก้อง มันส่งเสียงแหลมไปยังหูของคนรอบข้าง วัชพืชบนพื้นผิวดินปลิวออกไป และกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย สิ่งสกปรกถูกอัดให้มีขนาดเล็กลงกว่าดิน ถูกอัดลงไปในทราย

ท่ามกลางสองคนนั้น ไฟสีเขียวและสีแดงตัดกัน ประกายไฟพุ่งออกมาเนื่องจากดาบที่กำลังเสียดสีกัน จุดประกายไฟใส่เศษหญ้าบนพื้น

พลังฉีกระจายแผ่วงกว้าง

ทั้งเหลาไห่หลงและหลี่ฟู่เฉินก้าวถอยหลังไปคนละ 8 ก้าว

“หลี่ฟู่เฉินยังยืนอยู่ได้หลังจากปะทะกับดาบที่ใช้ออกด้วยพลังทั้งหมดของเหลาชิเซียง?”

หวูชิงเหม่ยที่กำลังเดินไป จ้องมองด้วยความงุนงง เธอไม่สามารถเชื่อสายตาตัวเองได้

เหลาไห่หลงเป็นอัจฉริยะชั้นในและระดับขั้นสูงกว่าหลี่ฟู่เฉินสองระดับ ก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่หยูเหวินเทียนพ่ายแพ้ให้แก่หลี่ฟู่เฉิน นั่นเป็นเพราะระดับการบ่มเพาะของพวกเขาแทบจะเท่ากัน

หากหลี่ฟู่เฉินอยู่ในระดับที่เจ็ดของขอบเขคพลังฉี เขาจะไม่สามารถเอาชนะหยูเหวินเทียนได้อย่างแน่นอน

สูดดด เกาช่างเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“น่าสนใจ หลี่ชิตี๋ผู้นี้แข็งแกร่งกว่าที่ข้าคาดเอาไว้มาก” เฉินฟางหัวใส่ใจกับทุกรายละเอียดที่เกิดขึ้น

“ความสามารถที่สามารถปะทะกับเหลาไห่หลงชิเซียงได้?”

จ้างหมิ๋งเยวี่ยตกตะลึง แต่ทว่าดวงตาของเธอเปลี่ยนจากความประหลาดใจกลายเป็นเปล่งประกายในทันที

“เหลาชิเซียงยังไม่ได้ใช้กำลังอย่างเต็มที่ ใช่ไหม? ถ้าเขาใช้ เขาจะทนดาบของเหลาชิเซียงได้อย่างไร?”

ศิษย์ชั้นในทั้งสองที่วิพากษ์วิจารณ์หลี่ฟู่เฉิน กลายเป็นตกใจ

“สนุขเวร แกตาย!”

เหลาไห่หลงฟันติดต่อกลายหลายครั้ง หวังจัดการหลี่ฟู่เฉิน

เคร๊ง เคร๊ง เคร๊ง…

วิชาดาบดาวตกของหลี่ฟู่เฉินดุดันมากกว่าวิชาดาบของศัตรู ความเร็วในการเรียกคืนพลังฉีนั้นรวดเร็วมาก ไม่เพียงแต่เขาสามารถสกัดกั้นวิชาดาบอัสนีวายุของเหาไห่หลงได้เท่านั้น แต่เขายังค่อยๆ สะกดข่มเหลาไห่หลงได้ด้วย

ใบหน้าของเหลาไห่หลงกลายเป็นซีด “หลี่ฟู่เฉิน สนุขเวรเช่นเจ้าจะมีคุณสมบัติอะไรมาต่อกรกับข้า? แค่เพียงระดับที่สี่ของขอบเขตต้นกำเนิด กลับสามารถสกัดกั้นวิชาดาบอัสนีวายุของข้าได้ เจ้าใช้ลูกเล่นอันใด?!”

“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าปากอันโสโครกของเจ้าจะพูดต่อไปได้อีกนานแค่ไหน!”

ทุกครั้งที่เหลาไห่หลงกล่าว จะมีคำว่าสุนัขเวรหลุดออกมา สิ่งนี้ทำให้หลี่ฟู่เฉินรู้สึกโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ เขาตัดสินใจแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่มีโอกาสชนะเหลาไห่หลง อย่างน้อยในการต่อสู้ครั้งนี้เขาจะทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะได้ตบเหลาไห่หลงซักสองสามครั้ง

10 กระบวนท่า 50 กระบวนท่า 100 กระบวนท่า…

เพียงไม่นาน 100 กระบวนท่าก็ผ่านไป

ทั้งสองฝั่งไม่สามารถจัดการกันและกันได้

แต่ด้วยสายตาของเฉินฟางหัว เธอสามารถกล่าวได้ว่าหลี่ฟู่เฉินมีข้อได้เปรียบเล็กน้อย

“อัสนีตัดวายุ!”

วิชาดาบอัสนีวายุของเหลาไห่หลงกลับกลายเป็นดุร้ายยิ่งกว่าเดิม เขาฝึกฝนวิชาดาบอัสนีวายุมาถึงขั้นสมบรูณ์แล้ว และไม่เคยพ่ายแพ้ผู้ใดมาก่อน

“พินาศไปซะ!”

วิชาดาบดาวตกของหลี่ฟู่เฉินมาถึงขั้นดีเลิศนานแล้ว ไม่ว่าจะด้านการออกอาวุธหรือความสามารถในการใช้วิชา เขาสามารถดึงศักยภาพสูงสุดออกมาใช้ได้

กลางอากาศ สายธารของระเบิดแสงถูกปล่อยออกมา วิชาดาบอัสนีวายุของเหลาไห่หลงถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง การลงดาบสามครั้งของเขาไม่สามารถเทียบได้แม้แต่การลงดาบเพียงครั้งเดียวของหลี่ฟู่เฉิน

นี่คือความสำคัญของความสามารถโดยรวมที่คนๆ หนึ่งควรมี

หลี่ฟู่เฉินไม่พอใจ ที่เขาสามารถสะกดข่มเหลาไห่หลงได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาใช้ลูกเตะไร้เงาและหายไปอย่างไร้ร่องรอย

เขาไม่ได้โคจรย่างก้าวเงาวายุ หากรวมทั้งลูกเตะไร้เงาและย่างก้าวเงาวายุเข้าด้วยกัน ความเร็วของเขาจะสูงขึ้นไปอีกขั้น แต่มันจะไม่ส่งผลในด้านความแข็งแกร่งในการโจมตี เมื่อเทียบกับการใช้เทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับ

เหลาไห่หลงกลายเป็นหมดสภาพหลังจากถูกแทงด้วยดาบของหลี่ฟู่เฉินที่ด้านหลังก็เนื่องจากความประมาท

เขาสวมเกราะหนังสัตว์ปีศาจระดับ 3 และมีการป้องกันทางกายภาพที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นการแทงครั้งนี้จึงไม่ได้บาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด ทว่ามันกลับส่งผลกระทบต่อสภาพโดยรวมของเขาแทน

“วิชาดาบเสี้ยวทั้งสาม!”

หลี่ฟู่เฉินวนรอบเหลาไห่หลง และโจมตีเขาอย่างต่อเนื่อง วิชาดาบของเขาจะแตกต่างกันไปในแต่ละครั้งทีโจมตี บางครั้งก็เป็นวิชาดาบดาวตกและบางครั้งก็เปลี่ยนกลับไปเป็นวิชาดาบเสี้ยวทั้งสาม

“ไปให้พ้น!”

เหลาไห่หลงไม่สามารถทนรับมันได้อีกต่อไป และกวาดดาบเหล็กดำของเขาออกเป็นวงกลม ที่กลางอากาศ มันราวกับว่ามีพายุฝนฟ้าคะนอง มันเป็นการปะทุพลังงานดาบที่น่าหวาดกลัว

เงียบและไร้ตัวตน หลี่ฟู่เฉินกลายเป็นเงาและกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง คราวนี้อยู่ทางด้านขวาของเหลาไห่หลง

“ดาบดาวตก!”

ด้วยการแกว่งดาบของเขา ทันใดนั้นแสงสะท้อนจากดาบก็หายไป และกลายเป็นดาวที่คล้ายกับตกมาจากฟากฟ้า

ปิสส!

ด้วยเกราะพลังฉีที่สลายไป เกราะหนังสัตว์ปีศาจระดับ 3 จึงถูกแทง เหลาไห่หลงพ่นเลือดออกมากองใหญ่ และได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง

พลังโจมตีของดาบดาวตกนั้นน่ากลัวเกินไป มันมีทั้งความเร็วและความรุนแรง

แม้แต่กระทั้งกอริล่าหลังเหล็กระดับ 2 ชั้นสูง ก็เกือบถูกเจาะกะโหลกโดยหลี่ฟู่เฉินมาแล้ว

ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ!

หลังจากที่เหลาไห่หลงได้รับบาดเจ็บ หลี่ฟู่เฉินกลั้นหายใจและปล่อยดาบดาวตกออกไป 3 ครั้งต่อเนื่อง สองในสามของพวกมันรวมกันเป็นดาบเดียว

มีรูปรากฏอยู่บนเกราะหนังสัตว์ปีศาจและผิวของเหลาไห่หลง มันส่งผลทำให้เหลาไห่หลงบิดไปมาด้วยความเจ็บปวด

ติ๋ง!

หลี่ฟู่เฉินปลดดาบเหล็กดำของเหลาไห่หลงออกจากมือ

“ตอนนี้ใครกันแน่ที่คือสนุข?”

หลี่ฟู่เฉินยืนอยู่ตรงหน้าของเหลาไห่หลง จ้องมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา

ศิษย์ชั้นในทั้งสองที่ติดตามเหลาไห่หลงมาทั้งคู่กลายเป็นโง่งม พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าเหลาไห่หลงจะพ่ายแพ้ มันเป็นความจริงที่ว่าเหลาไห่หลงเป็นอัจฉริยะด้านในและมีระดับสูงกว่าหลี่ฟู่เฉินถึงสองระดับ

“หลี่ฟู่เฉินชนะ?”

เกาช่างเทียนและหวูชิงเหม่ยมองหน้ากันด้วยความไม่เชื่อ

พวกเขาไม่สามารถจินตนาการถึงขอบเขตของความสามารถของหลี่ฟู่เฉินได้

“เฉินชิเจี๋ย หลี่ฟู่เฉินชนะ” ความสุกใสในด้วยตาของจ้าวหมิ๋งเยวี่ยนั้นเปล่งประกายมากขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอสนใจใครคนนึง เธอผู้ซึ่งไม่แม้แต่จะสนใจกับคนที่มีโครงกระดูกระดับ 5 ดาวอย่างเช่นหยูเหวินเทียน

จากมุมมองของเธอ หยูเหวินเทียนอาจมีศักยภาพในการบรรลุขอบเขตสวรรค์ แต่เธอที่เป็นหลานสาวของผู้อาวุโสนิกายชั้นใน จึงไม่ได้ให้ความสนใจกับนักสู้ขอบเขตสวรรค์มากนัก

นอกเหนือจากว่าหยูเหวินเทียนจะบุกเข้าไปในขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดได้

แต่น่าเสียดาย แม้ว่าเขาจะมีโครงกระดูกระดับ 5 ดาว มันก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะสามารถบรรลุขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด

แม้หากทำการมองอย่างรวดเร็ว ไปยังนิกายคังหลุน หรือนิกายที่อยู่รอบๆ แคว้น มันก็สามารถบอกได้ทันทีว่า ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดเป็นจุดสูงสุดของกองกำลัง

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด สามารถเดินทางไปยังดินแดนต่างๆ ได้อย่างไร้ข้อจำกัดและมีชีวิตที่สุขสบายผาสุก

“ใช่ แน่นอนว่านี่นับเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ”

เฉินฟางหัวตีหน้าผากของเธอ และมีการแสดงออกที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน

“หลี่ฟู่เฉิน ไอ้สนุขสารเลว! สักวันหนึ่งข้าจะฆ่าเจ้า และทำลายทุกสิ่งที่เจ้ามี จงสิ้นหวังซะสิ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ใบหน้าของเหลาไห่หลงเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและความขุ่นแค้น

เพี๊ยะ!

หลี่ฟู่เฉินไปที่ตบใบหน้าของเหลาไห่หลง ใบหน้าของอีกฝ่ายผองขึ้นมาทันที

“เจ้ากล้าทำร้ายข้า? เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใคร?!” เหลาไห่หลงกรีดร้อง

เพี๊ยะ!

หลี่ฟู่เฉินตบอีกครั้ง แต่เพียงครั้งนี้เขาตบด้วยหลังมือ

เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! ….

หลี่ฟู่เฉินไม่อนุญาตให้เป้าหมายของเขาได้มีโอกาสพูดแม้แต่เพียงนิดเดียว ขณะที่เขาตบเขาอย่างโหดเหี้ยมแบบต่อเนื่อง

เหลาไห่หลงที่โดนตบก็กลายเป็นเซ่อ ขณะที่ดวงตาของเขาดูไร้ชีวิตชีวา

“นี้…”

ดูฉากนี้ ใบหน้าของทุกคนว่างเปล่า

เหนือกว่า เหนือกว่าอย่างแท้จริง

การกระทำทั้งหมดล้วนไม่ใช่เรื่องไร้สาระ

“นี้ไม่ดี หลี่ฟู่เฉินบุ่มบ่ามมากเกินไป เหลาไห่หลงเป็นผู้เยาว์ของตระกูลเหลาอันทรงเกียรติ สถานะของเขาสูงกว่าของฟางเหล่ยไห่มาก” เกาช่างเทียนรู้ดีมากว่าใคร รู้ว่าเหลาไห่หลงมีประวัติความเป็นมาอย่างไร หากไม่รู้ เขาคงจะไม่ต้องทุกข์ทนกับการต้องเงียบ

“แก ไอ้สารเลว! แกกล้าสร้างความอัปยศให้กับนายน้อยของเรา แกสมควรตาย และจะไม่มีใครสามารถช่วยเหลือแกได้!”

ห่างออกไปร้อยเมตร ผู้ดูแลชั้นในสองคนคำราม และวิ่งไปที่หลี่ฟู่เฉิน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด