ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0075 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0077 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0076 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ

สารบัญ จอมเวทอหังการ

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 76 : คำทำนาย

บ้านพักของติงเทียนฉวนก็อยู่ข้างทะเลสาบ แต่ก็อยู่ห่างจากป่าไผ่เกือบหนึ่งพันเมตรได้

ไม่ช้า ฉินหยุนมาถึงทางเข้าคฤหาสน์ ทว่า เขาถูกหยุดเอาไว้โดยชายวัยกลางคนไม่ให้เข้าไปภายใน

หยางฉีเย่ว์เร่งรีบออกมาพาเขาเข้าไปด้านใน

ฉินหยุนเข้ามาในห้องจึงได้เห็นผู้อำนวยการจางในชุดขาว กำลังเดินไปมาในห้องโถง ด้วยสีหน้าดำมืดนั้น เขาเร่งร้อนเอ่ยถาม “ผู้อำนวยการ เกิดอะไรขึ้นกับอาจารย์ติง?”

หยางฉีเย่ว์เอ่ยขึ้น “อาจารย์ติงถูกวางยา! ผู้อำนวยการและข้ากำลังช่วยกันสะกดพิษไว้”

ผู้อำนวยการจางขมวดคิ้วกล่าวด้วยโทสะ “อาจารย์ติงคือคนสัตย์ซื่อผู้หนึ่ง เขามีความรับผิดชอบดีเยี่ยมและไม่เคยสร้างศัตรูใด ใครกันที่กล้าวางยาต่อเขาร้ายแรงถึงเพียงนี้?”

ฉินหยุนพลันนึกถึงคนผู้หนึ่งโดยทันที เป็นปรมาจารย์เว่ย!

หยางฉีเย่ว์ก็ทราบเรื่องนี้ เพราะแบบนั้นนางจึงคิดเห็นเช่นเดียวกับฉินหยุน ว่าควรเป็นปรมาจารย์เว่ยแล้ว

“พิษในร่างของอาจารย์ติงหาได้ยากยิ่ง พิษชนิดนี้ค่อนข้างล้ำค่าไม่น้อย ทั้งยังยากได้รับมา” ถึงตอนนี้ ผู้อำนวยการจางยิ่งมายิ่งโทสะเปี่ยมล้น เส้นเลือดบริเวณหน้าผากแทบปูดบวมขณะกล่าว “ข้าต้องหาให้ได้ว่ามันเป็นใคร พวกมันถึงขั้นวางยากับเด็ก!”

“เด็ก?” ฉินหยุนมึนงงไปจึงเร่งร้อนเอ่ยถาม

“แต่เดิมเป็นบุตรของอาจารย์ติงที่โดนวางยา อาจารย์ติงทำได้เพียงช่วยชีวิตบุตรชายเอาไว้หลังพบเจอพิษในร่าง เป็นเขาย้ายพิษนั้นมาไว้ในกายตัวเองทันเวลา! พิษที่เด็กคนนั้นได้รับยังไม่ได้หายโดยสมบูรณ์ ตอนนี้เขายังไม่ได้สติ หากอาจารย์ติงไม่ช่วยรักษาเด็กอย่างทันเวลา ถึงตอนนั้นอาจกลายเป็นส่งผลกระทบต่อทั้งบิดาและบุตรชายแล้ว”

วางยาสังหารเด็ก เรื่องนี้ไร้ซึ่งหัวใจเกินไปแล้ว!

ความโกรธพลันล้นทะลักในใจฉินหยุน

“มีสมุนไพรโอสถที่ใช้ชำระล้างพิษได้อยู่ ชื่อของมันคือผลไม้ไร้สี สามารถหาพบได้ในเทือกเขาเมฆมังกร แต่หาได้ยากยิ่ง ข้าส่งคนไปจำนวนหนึ่งออกค้นหาแล้ว” ผู้อำนวยการจางกล่าว “ข้าต้องคอยดูอาการของทั้งคู่เอาไว้ด้วยพลังภายใน เพื่อช่วยสะกดพิษที่พวกเขาได้รับ”

ใบหน้าของฉินหยุนเปี่ยมด้วยความกังวลขณะกล่าว “ข้าต้องการเข้าเทือกเขาเมฆมังกรเพื่อค้นหาวัตถุดิบสมุนไพรนั้นด้วย”

พอหยางฉีเย่ว์ได้ยิน นางเร่งร้อนกล่าวคำ “แบบนั้นไม่ได้ เจ้าไปคนเดียวอันตรายเกินไป ให้ข้าไปกับเจ้า นี่ถือเป็นการเรียนรู้ประสบการณ์ไปด้วย!”

“เอาตามนั้น!” ผู้อำนวยการจางพยักหน้ารับร “ไม่มีเวลาแล้ว จงรีบไปโดยทันที หากมีคนช่วยค้นหามากขึ้น ก็ยิ่งมีโอกาสพบเจอผลไม้ไร้สีได้รวดเร็วขึ้น”

หลังกล่าวคำจบ หยางฉีเย่ว์และฉินหยุนจึงเร่งรีบเปลี่ยนชุดที่เหมาะสมกับการผจญภัยและมุ่งหน้าสู่เทือกเขาเมฆมังกร

* * *

เลียบแม่น้ำเมฆมังกร หยางฉีเย่ว์และฉินหยุนกำลังเร่งรีบวิ่งอย่างสุดกำลัง

พวกเขาสวมใส่ชุดเครื่องแบบรัดรูปสีดำ สีหน้าของพวกเขาหนักอึ้ง

นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ฉินหยุนได้เข้าสู่เทือกเขาเมฆมังกร

“อาจารย์ นี่ต้องเป็นปรมาจารย์เว่ยที่ก่อการแน่!” ฉินหยุนมั่นใจขณะกล่าวกระซิบ “ภายนอกเหมือนดั่งพ่อพระ แต่เขาต้องเป็นคนร้ายกาจอย่างไม่ต้องสงสัย!”

หยางฉีเย่ว์กล่าวเสียงเย็นเยือก “ข้ารู้ รอจนกระทั่งอาจารย์ติงฟื้น หากเป็นมัน เช่นนั้นพวกเราจะไปแสวงการล้างแค้นให้!”

ภายในเทือกเขาเมฆมังกร มีภูเขาและป่ารายล้อมอยู่เต็มไปหมด

ต้นไม้โบราณสูงล้ำใบหนา เป็นผลให้ป่ามีอากาศเย็นและอับชื้น ยิ่งผ่านลึกเข้าไป แมลงมีพิษไม่ก็สัตว์ปีศาจจะปรากฏตัวออกมาสร้างความหวาดกลัว

ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์วิ่งลัดผ่านป่ามาตลอดทางโดยพบแต่ความมืดทึบ

อย่างกะทันหัน พวกเขาพลันพบแสงสว่างลุกโชนผ่านช่องว่างของใบไม้จนแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน!

ถัดจากนั้น คลื่นอากาศร้อนแรงพลันสะกดลงมาจากท้องฟ้า!

พวกเขาทั้งสองต้องหยุดก้าวเท้าแทบทันที!

ฉินหยุนเงยหน้ามองขึ้นท้องฟ้าขณะพบแสงสีน้ำเงินแรงกล้าปรากฏผ่านกลุ่มใบไม้ เขาร้องอุทานถาม “นี่เรื่องอะไรกัน?”

หยางฉีเย่ว์กระโดดขึ้นไป ด้วยการกระโดดไม่กี่ครั้ง นางจึงขึ้นไปอยู่เหนือต้นไม้ใหญ่

ฉินหยุนเร่งรีบปีนตามกิ่งไม้ขึ้นไป เขาอดไม่ได้ที่จะต้องตื่นตะลึง!

บอลแสงขนาดมหึมาสีน้ำเงินกำลังปรากฏบนท้องฟ้าขณะค่อย ๆ เคลื่อนคล้อยลงมา เป้าหมายปลายทางของมันคือเทือกเขาเมฆมังกร

“เอ่อ... อาจารย์ขอรับ นั่นคืออะไรกัน?” ฉินหยุนเอ่ยถามทั้งสีหน้าประหลาดใจ คลื่นความร้อนยิ่งมันเคลื่อนคล้อยลงมายิ่งร้อนแรงมากขึ้น

ใบหน้าของหยางฉีเย่ว์คร่ำเคร่ง นางไม่ได้กล่าวคำใดออก ทว่าสายตานั้นจับจ้องบอลแสงสีน้ำเงินที่ร่วงหล่นลงมาอย่างไม่ลดละ

หลังรออยู่พักหนึ่ง นางมองจนกระทั่งได้เห็นว่าบอลแสงจะไม่ตกลงเข้าหาพวกเขา นางจึงค่อยเอ่ยปากกล่าวคำ “สิ่งนี้คือดาวยุทธ์พยากรณ์! นานมาแล้ว มีคำทำนายว่าตำหนักดวงดาวราชันยุทธ์จะร่วงหล่นลงมาที่เทือกเขาเมฆมังกร!”

ฉินหยุนนึกย้อนถึงครั้งล่าสุดที่เข้าสู่เทือกเขาเมฆมังกร ติงเทียนฉวนบอกไว้ว่ามีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น ยิ่งเวลาผ่านไปสัตว์ปีศาจระดับสูงก็ยิ่งเผ่นหนีออกจากส่วนลึกของป่ามากขึ้น

เขามองที่หยางฉีเย่ว์ซึ่งเผยใบหน้าเย็นเยือกและเคร่งเครียดขณะเอ่ยถามเสียงเบา “อาจารย์ขอรับ เรื่องนี้ร้ายแรง? มันอันตรายมากหรือไม่ขอรับ? มันจะส่งผลต่อการค้นหาผลไม้ไร้สีของพวกเราหรือไม่?”

หยางฉีเย่ว์กล่าว “เจ้าไม่เคยได้ยินตำนานของตำหนักดวงดาวราชันยุทธ์ ดังนั้นเจ้าจึงไม่ทราบว่ามันหมายถึงสิ่งใด!”

ฉินหยุนแน่นอนว่าอยากรู้ ทว่าเขายิ่งรู้สึกว่ามันเป็นอันตรายที่คืบคลานเข้ามา

หลังหยางฉีเย่ว์กระโดดกลับลงพื้น นางจึงกล่าว “ไปยังสถานที่ซึ่งดวงดาวสีน้ำเงินนั่นร่วงหล่น หากพวกเราหามันเจอก็รักษาพิษได้ มันจะเร็วกว่าการค้นหาผลไม้ไร้สี!”

กล่าวคำจบ นางจึงเร่งพุ่งกายมุ่งหน้าสู่บริเวณที่ดวงดาวสีน้ำเงินร่วงหล่นลงมา

ฉินหยุนติดตามอยู่ด้านหลังของหยางฉีเย่ว์ด้วยอาการตื่นตกใจ ตำหนักดวงดาวราชันยุทธ์คล้ายเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง มันทำให้เขาเกิดความสงสัยมากมาย

“อาจารย์ อะไรคือตำหนักดวงดาวราชันยุทธ์ขอรับ?”

หยางฉีเย่ว์ตอบคำ “นานมาแล้ว สถานที่แห่งนี้ให้กำเนิดผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งยิ่ง เมื่อคนผู้นั้นเข้าถึงพลังระดับหนึ่ง เขาสามารถสร้างตำหนักดวงดาวในอวกาศด้วยตนเองได้ หากวันหนึ่งเขาสิ้นชีวิต ถึงตอนนั้นตำหนักดวงดาวจะร่วงหล่นลงสู่สถานที่ให้กำเนิด”

“เรื่องนี้... มีตำนานด้วยหรือขอรับ?” ฉินหยุนเคยอ่านตำราโบราณมากมาย แต่เขาไม่เคยเห็นตำนานเช่นนี้มาก่อน

“มันเป็นเรื่องกว่าหมื่นปีมาแล้ว! แน่นอนว่ามันก็แค่ตำนาน เรื่องราวเฉพาะเจาะจงไม่มีผู้ใดทราบ”

คำกล่าวของหยางฉีเย่ว์ทำให้ฉินหยุนรู้สึกหนักอึ้ง

ตำนานจากเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน... และตอนนี้ตำหนักดวงดาวก็ร่วงหล่นลงมา กล่าวได้ว่าตำหนักดวงดาวนั่นมีอายุกว่าหมื่นปี!

“ปรากฏการณ์ใหญ่ขนาดนี้ จักรวรรดิทั้งสามที่อยู๋ใกล้เคียงต้องทราบเรื่องและส่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเข้ามาแน่ พวกเราต้องไปถึงที่นั่นโดยเร็วที่สุด” หยางฉีเย่ว์กล่าวอีกครั้ง จากนั้นจึงนำดาบยาวเล่มหนึ่งออกมาคว้าจับไว้ในมือมั่น นางกลับกลายเป็นระมัดระวังตัวยิ่งกว่าครั้งใดที่เคยเป็น

ขณะที่นางกล่าวคำจบ ออร่าของคนจำนวนไม่น้อยพลันพุ่งผ่านอากาศไป

“นั่นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋า? ข้าคิดว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็นผู้อำนวยการ!” ฉินหยุนกล่าวคำด้วยอาการแตกตื่น

“เป็นผู้อำนวยการจาง ทั้งยังมีอีกสองที่เป็นขอบเขตวรยุทธ์เต๋า...” หยางฉีเย่ว์ขมวดคิ้ว “ข้าบินได้ แต่มันจะกลายเป็นเป้ากลางอากาศ อยู่บนพื้นพวกเราจะปลอดภัยกว่า!”

“ฉินหยุน อาจารย์หยาง นับจากนี้อย่าได้เข้าใกล้สถานที่ซึ่งดวงดาวสีน้ำเงินร่วงหล่น!” เสียงนี้ดังลั่นผ่านอากาศเข้ามา เป็นเสียงของผู้อำนวยการจาง เขาผ่านกลุ่มใบไม้หนาลงมาที่พื้น

“ผู้อำนวยการ สถานการณ์ตอนนี้คือ?” หยางฉีเย่ว์เอ่ยถาม

ผู้อำนวยการจางส่ายหน้าให้เห็น “ข้าไม่แน่ใจนัก สถานการณ์ตอนนี้ซับซ้อนยุ่งเหยิง ข้าแนะนำให้ว่าอันดับแรกอย่าได้เข้าใกล้ เมื่อใดที่ดวงดาวนั้นหล่นสู่พื้นดิน มันจะต้องเกิดแรงปะทะรุนแรงมหาศาลแน่”

ทันทีเมื่อผู้อำนวยการจางกล่าวคำจบ เสียงดังสนั่นรุนแรงจึงดังจากระยะไกลพร้อมพื้นดินเริ่มสั่นไหวรุนแรง

“โชคดีที่มันตกบริเวณส่วนลึก แต่เสียงนี้ก็ยังดังมากอยู่ดี พวกเจ้าจงระวังให้ดี ภายในเทือกเขาแห่งนี้จะเต็มไปด้วยอันตรายนานาชนิดแล้ว” กล่าวคำจบ ผู้อำนวยการจางก็บินขึ้นอากาศหายตัวไป ทิศทางที่เขาบินมุ่งหน้าไปคือบริเวณที่ดวงดาวนั้นร่วงหล่นลงมา

3.5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด