ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0074
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0076

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0075


ตอนที่ 75 : หญ้าหัวใจลึกล้ำ

ร่างของฉินเฟิงและชี่เสวี้ยถูกหลอมละลายในลาวา ผู้คนล้วนตื่นตะลึง!

เหลียวหนิงผู้ซึ่งถูกหยางฉีเย่ว์หยุดเอาไว้เองก็ร่างกายแข็งทื่อ!

ศิษย์ที่เลิศล้ำทั้งสองถึงกับเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาของเขา!

หนึ่งคือองค์ชายแห่งเทียนฉิน และอีกหนึ่งคือองค์หญิงแห่งเทียนชี่

หลังประสบอาการตื่นตะลึง บรรดาข้าราชบริพารเฒ่าจักรวรรดิเทียนฉินพลันเปี่ยมล้นด้วยความโศกและโทสะ!

ฉินเฟิง ผู้ซึ่งเป็นองค์ชายอันดับสอง ทั้งยังมีพรสวรรค์ทางวิถียุทธ์แห่งเต๋าล้ำเลิศ แต่แล้วตั้งแต่ยังอายุเยาว์เพียงนี้ กลับต้องตายในสภาพและสถานที่เช่นนี้!

ฉินเฟิงคือบุคคลผู้ซึ่งจักรพรรดินีตั้งความหวังเอาไว้สูง ในอนาคตเขาจะได้กลายเป็นผู้ช่วยเหลือแก่องค์ชายรัชทายาทฉินเจิ้งเฟิง แต่แล้วตอนนี้... เขากลับถูกฉินหยุนสังหาร

เหล่าข้าราชบริพารเฒ่าพูดกล่าวคำใดไม่ออกเพราะหยางฉีเย่ว์และต้วนเฉียนล้วนปกป้องฉินหยุน พวกเขาไม่อาจรับมือกับคนทั้งสองได้

ฉินหยุนรับคำท้าหนึ่งปะทะสาม และในเพียงไม่กี่ลมหายใจ เขาถึงขั้นเสร็จสิ้นการประลองครั้งนี้!

พละกำลังนี้น่าหวาดกลัวเกินไป มันถึงขั้นสั่นสะท้านหัวใจผู้ชมทั้งหมดในที่นี้!

ในแดนยุทธ์มังกรซ่อนเร้น หลังผ่านห้วงเวลาแห่งความเงียบพักหนึ่ง เสียงร้องอุทานราวฟ้าคำรามเป็นชุดค่อยดังขึ้น!

มีเพียงเย่เสินเหล่ยที่รอดชีวิต ทว่าก็พิการแล้ว

เป้าโทสะหลักของฉินหยุนพุ่งตรงที่ชี่เสวี้ยและฉินเฟิง!

เป็นเพราะทั้งสองยั่วยุฉินหยุน จิตสังหารของเขาจึงล้นทะลักเพราะอีกฝ่ายใช้ชื่อชี่เม่ยเหลียน

สีหน้าของฉินหยุนตอนนี้สงบขณะเดินไปข้างลานประลองยุทธ์ เขาก้มมองเหลียวหนิงและกล่าวเสียงเย็นเยือก “ข้าชนะแล้ว ตามข้อตกลง ส่งพิมพ์เขียวของค้อนราชันยักษ์วิญญาณให้ข้า!”

หยางฉีเย่ว์เองยังกล่าวด้วยน้ำเสียงคุกคาม “เร็ว นำเอาพิมพ์เขียวออกมา!”

เหลียวหนิงและอาจารย์ผู้อื่นยังตอบสนองต่อเหตุการณ์ไม่ทัน!

นี่เป็นเพราะพวกเขาไม่คิดว่าฉินหยุนจะสามารถจัดการคนทั้งสามได้!

ตอนนี้ ฉินหยุนไม่เพียงแต่จัดการคนทั้งสาม แต่เป็นเขาจัดการด้วยพละกำลังที่เหนือล้ำกว่าอย่างมหาศาล ฉินเฟิงและชี่เสวี้ยตอนนี้จมหายในบ่อลาวาไปแล้ว!

พลังอำนาจของวิญญาณยุทธ์ไฟระดับทองม่วงชวนสะพรึง เปลวเพลิงที่ปลดปล่อยหลอมละลายได้กระทั่งหิน หากไม่ได้เห็นกับตาตนเอง ย่อมไม่มีใครเชื่อเรื่องพวกนี้เป็นแน่

เหลียวหนิงกัดฟันกรอด เขาไม่คิดส่งมอบพิมพ์เขียวให้ ทว่าหลังได้เห็นออร่าคุกคามรุนแรงของหยางฉีเย่ว์ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องนำเอากระดาษออกมาและส่งมอบ

ฉินหยุนรับกระดาษเหล่านั้นมาและกางอ่าน เขาพบว่าตนขาดความเข้าใจเรื่องนี้ เขาจึงตัดสินใจส่งมันแก่ต้วนเฉียนและเอ่ยถาม “ผู้จัดการ ท่านพอช่วยข้าตรวจสอบสิ่งนี้ว่าถูกต้องได้หรือไม่ขอรับ?”

เมื่อได้รับ ต้วนเฉียนจึงขมวดคิ้วรับชมกระดาษในมือ

เหลียวหนิงและคณะพลันแตกตื่นขณะเร่งร้อนตะโกนขึ้น “ฉินหยุน นั่นถือเป็นความลับของสถาบันยุทธ์เทียนเสวียนเรา! เจ้าต้องเก็บเป็นความลับอย่าได้เผยแพร่ต่อผู้อื่น!”

ฉินหยุนแค่นเสียง “มันตกเป็นของข้าแล้ว ข้าจะทำอะไรกับมันล้วนไม่ใช่ธุระพวกเจ้า นอกจากนี้พวกเรายังไม่เคยตกลงเรื่องที่พวกเจ้ากล่าวเมื่อครู่แม้สักนิด!”

เขาไม่คิดไว้หน้าเหลียวหนิง เขาเชื่อว่าชี่เสวี้ยและฉินเฟิงที่กล้ากล่าวคุกคามต่อเม่ยเหลียนย่อมต้องมีความเกี่ยวข้องกับเหลียวหนิง

สีหน้าของเหลียวหนิงแปรเปลี่ยนขณะโทสะเผยให้เห็นผ่านดวงตา

“ถูกต้อง!” ต้วนเฉียนส่งพิมพ์เขียวคืนแก่ฉินหยุน

ฉินหยุนเก็บพิมพ์เขียวดังกล่าว ขณะเดินลงจากลานประลองกลับไปยืนเคียงข้างหยางฉีเย่ว์

เขาหันมองเชี่ยวเย่ว์หลานซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไป ดวงตาเย็นชาของนางภายใต้หน้ากากยังคงเป็นเช่นเดิม มันเคยไร้อารมณ์อย่างไรก็เป็นเช่นนั้น

เมื่อเชี่ยวเย่ว์หลานพบฉินหยุนมองมา นางเร่งรีบหันไปทางอื่นพร้อมเดินออกจากแดนยุทธ์มังกรซ่อนเร้นไป

การประลองยุทธ์มังกรซ่อนเร้นจบสิ้นด้วยประการนี้ ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ออกจากนครหลวงเพื่อเดินทางกลับสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง

อัจฉริยะจำนวนไม่น้อยถูกทำให้พิการในการประลองยุทธ์ พวกเขาล้วนมาจากสามจักรวรรดิ

และเป็นฉินหยุนที่ก่อร่างสร้างความโกรธแค้นแก่ราชวงศ์ของทั้งสามจักรวรรดิ!

โดยเฉพาะเชี่ยวหลางจากจักรวรรดิเทียนชี่ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขนาดที่ไม่อาจฟื้นตัวได้ในเวลาอันสั้น นอกจากนี้ราชสีห์เหมันต์ยังถูกสังหารและร่างของมันถูกฉินหยุนฉกชิงเอาไป นี่นับเป็นความสูญเสียครั้งร้ายแรง

หลังการประลองยุทธ์มังกรซ่อนเร้น นามฉินหยุนยิ่งมายิ่งกระฉ่อน

องค์ชายผู้เคยยากไร้ตอนนี้กลับกลายเป็นคนสำคัญผู้หนึ่งขึ้นมา!

บรรดาข้าราชบริพารขายชาติของจักรวรรดิเทียนฉินล้วนเป็นกังวล หากฉินหยุนไม่ตาย พวกเขาก็ยากอยู่อย่างสงบสุขได้

* * *

ทั้งเด็กใหม่และศิษย์พี่ในสถาบันยุทธ์ฮัวหลิงล้วนอิจฉากันถ้วนหน้ายามเมื่อเห็นฉินหยุนเดินทางกลับมา

สำหรับเด็กใหม่ ความสำเร็จนี้ควรค่าแก่การชื่นชม ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะมีจักรพรรดินีเป็นศัตรู เขาคงได้รับการต้อนรับอย่างเอิกเกริกแล้ว

ที่ป่าไผ่บริเวณข้างริมทะเลสาบของฮัวหลิง

ในห้องโถงของบ้านพัก หยางฉีเย่ว์กำลังรับชมฉินหยุนนำเอาหญ้าหัวใจลึกล้ำออกมาพร้อมถอนหายใจ “สำหรับผู้ฝึกตน หญ้าหัวใจลึกล้ำคือสิ่งสำคัญยิ่งแก่ผู้ที่ฝึกฝนวิถีหัวใจแล้ว หลังกินมันเข้าไป พวกเขาเหล่านั้นจะได้รับการบ่มเพาะอันทรงพลังมหาศาลของวิถีหัวใจ!”

ฉินหยุนเอ่ยถาม “อาจารย์ขอรับ หากวิถีหัวใจทรงพลัง สิ่งเด่นชัดที่จะบ่งบอกคืออะไร?”

หยางฉีเย่ว์นั่งลงและกล่าว “สามมหาวิถีประกอบด้วย วิถีกระดูก วิถีหัวใจ และวิถีวิญญาณ! วิถีหัวใจคือสิ่งที่อยู่ตรงกลาง มันสามารถส่งผลกระทบต่อทั้งวิถีกระดูกและวิถีวิญญาณ มันยังเป็นแกนกลางซึ่งเชื่อมต่อระหว่างวิถีหัวใจและวิถีวิญญาณด้วย!”

“หากวิถีหัวใจแข็งแกร่ง แบบนั้นวิถีกระดูกของเจ้าก็จะแข็งแกร่ง ในอนาคต เมื่อเจ้าฝึกฝนผ่านไปแล้ว วิถีวิญญาณก็จะยิ่งแข็งแกร่ง!”

“วิถีกระดูกเกี่ยวข้องกับร่างกาย วิถีวิญญาณเกี่ยวข้องกับวิญญาณ! เมื่อนั้นเจ้าจะได้ร่างกายที่แข็งแกร่ง วิญญาณที่แข็งแกร่ง และจิตใจที่แข็งแกร่ง! ภายหลังเมื่อเจ้ากินหญ้าหัวใจลึกล้ำเข้าไป วิถีหัวใจที่เจ้าฝึกฝนจะแข็งแกร่งได้ยิ่งกว่าสิ่งที่ควรสำเร็จในยามปกติ”

ฉินหยุนเริ่มคาดหวังต่อผลลัพธ์ที่จะได้รับจากหญ้าหัวใจลึกล้ำ เขามีวิญญาณยุทธ์คู่ รวมทั้งมีพลังธาตุคู่ เพื่อให้ได้ศักยภาพระดับใต้หล้ามาครอบครอง เขาจำเป็นต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับพลังอันน่าสะพรึงของพลังธาตุทั้งสอง

หากเขาฝึกฝนวิถีหัวใจให้ทรงพลังได้ ร่างกายและจิตใจของเขาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ทั้งยังจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องอาการตีบตันได้

“จงรีบกินมันเร็วเข้า!” หยางฉีเย่ว์ยิ้มและกล่าวคำเร่ง

ฉินหยุนคว้าหญ้าหัวใจลึกล้ำก่อนเร่งร้อนเข้าห้องของตนไป

หลังจากกินหญ้าหัวใจลึกล้ำ เขาหลับตาลงและเริ่มขัดเกลามัน ไม่นานจากนั้น เขารู้สึกได้ว่าท้องของตนเริ่มร้อนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

ถัดจากนั้น คลื่นพลังงานร้อนแรงเริ่มพุ่งพรวดเข้าสู่หัวใจของเขา เป็นผลให้หัวใจของเขาเต้นหนักหน่วงมากขึ้น ทั้งยังร้อนแรงมหาศาล

วันและคืนผ่านพ้น ชั่วขณะที่ฉินหยุนลืมตาขึ้น แสงสว่างสีทองพลันวาบออก!

“หัวใจของเราเปลี่ยนเป็นสีทอง!” เขาร้องอุทานหลังสำรวจตนเอง

ไม่เพียงเท่านั้น เส้นโคจรพลังทั้งหมดในร่างของเขายังได้รับการขยายขนาดอย่างมหาศาล ทั้งนี้วิถีกระดูกในร่างกายยังแปรเปลี่ยนเป็นสีทองด้วยเช่นกัน

เส้นโคจรทั้งหมดในร่างของฉินหยุนล้วนเชื่อมต่อไปยังหัวใจสีทอง ทุกครั้งที่หัวใจเต้น เลือดจะถูกสูบฉีดโคจรผ่านหัวใจนั้น

หลังเลือดไหลผ่านหัวใจสีทอง โดยฉับพลัน มันถูกเสริมกำลังขึ้น จากนั้นเลือดที่แข็งแกร่งจึงเริ่มไหลเวียนผ่านร่างกายเพื่อหล่อเลี้ยงบำรุงกล้ามเนื้อและกระดูก

“วิถีหัวใจเชื่อมโยงถึงพลังปราณ มันจะดูดซับพลังปราณและใช้เพื่อทำให้เลือดแข็งแกร่งมากขึ้น!”

“ภายหลังเมื่อเลือดแข็งแกร่ง มันจะไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกายเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกาย จากนั้นจึงค่อยถูกกระดูกซึมซับเข้าไปผ่านทางวิถีกระดูกและเสริมแกร่งให้กระดูก!”

ฉินหยุนพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและได้พบถึงการเชื่อมต่อลึกลับในร่างกาย

หลังฝึกฝนวิถีหัวใจ ตราบเท่าที่หัวใจยังเต้น เขาจะขัดเกลาเลือดตนเองและเสริมกำลังแก่ร่างกายได้เสมอ!

ตอนนี้ที่ขาดคือวิถีวิญญาณ พลังจิตของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลหากฝึกฝนมันได้สำเร็จ

“ด้วยร่างกายตอนนี้ เราสมควรรองรับพลังของกำลังภายในที่ควบแน่นผ่านทางกระบวนท่าอุกกาบาตทลายได้” เขาคิดอยากลอง ทว่าสถานที่ไม่เหมาะสมเท่าใดนัก

ฉินหยุนเมื่อฝึกฝนวิถีหัวใจสำเร็จจึงออกจากห้องเพื่อหาหยางฉีเย่ว์ให้ได้ชื่นชม

เขาเดินมาที่ห้องโถงจึงพบข้อความวางไว้บนโต๊ะ “ข้าอยู่ที่บ้านพักของอาจารย์ติง อ่านแล้วให้รีบมา!”

สีหน้าของฉินหยุนแปรเปลี่ยนเล็กน้อยขณะเกิดความคิดหลายอย่างประดังเข้ามา ถัดจากนั้น เขาจึงเร่งร้อนพุ่งพรวดผ่านประตูมุ่งหน้าสู่บ้านพักของติงเทียนฉวน

ครั้งติงเทียนฉวนและเขาออกล่าสัตว์ปีศาจในเทือกเขาเมฆมังกร พวกเขาถูกโจมตีโดยวานรเงาวายุ ซุยฮ่วย และผู้อื่น...

วานรเงาวายุและซุยฮ่วย ทั้งสองเชื่อมโยงถึงปรมาจารย์เว่ย ทว่าทั้งสองถูกสังหารแล้ว ด้วยเหตุนี้ปรมาจารย์เว่ยที่อาจพบเจออะไรบางอย่างจึงอาจลงมือต่อติงเทียนฉวน...

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด