ตอนที่แล้วบทที่ 107 หญิงทั้งสองตกตะลึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 109 นักสู้ขอบเขตสวรรค์

บทที่ 108 เยาะเย้ยเย็นชา ถากถางแผดเผา


บทที่ 108

เยาะเย้ยเย็นชา ถากถางแผดเผา

พร้อมๆ กับที่สัตว์ปีศาจระดับ 3 หลายตัวที่บุกเข้ามา สถานการณ์ทั้งหมดในสนามรบก็มีการเปลี่ยนแปลงทันที ขณะที่จำนวนผู้ตายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เวลานี้ ยันต์ช่วยเหลือไม่ใช่สิ่งที่น่าเชื่อถืออีกต่อไป

ผู้อาวุโสชั้นนอก และผู้ดูแลชั้นในซึ่งอยู่ในขอบเขตปฐพีก้าวเข้ามาอยู่แนวหน้าเพื่อรับมือกับสัตว์ปีศาจระดับ 3 มีผู้อาวุโสชั้นนอกเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เหลืออยู่เพื่อช่วยเหล่าศิษย์

และด้วยผู้คนมากมายที่ฉีกยันต์ ผู้อาวุโสชั้นนอกจึงไม่มีเวลาเพียงพอที่จะช่วยเหลือพวกเขาทั้งหมด

“นั้นคืออะไร?” จ้าวหมิ๋งเยวี่ยชี้ไปยังฝูงสัตว์ปีศาจที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล พื้นผิวของพวกมันมีทั้งสีเขียวและสีน้ำเงิน

“ปีศาจ” ใบหน้าของเฉินฟางหัวซีดลง

ไม่ว่าจะเป็นปีศาจระดับ 1 หรือระดับ 2 พวกมันทั้งหมดล้วนแล้วแต่น่ากลัว

สัตว์ปีศาจก็คือสัตว์ร้าย สติปัญญาของพวกมันไม่สูงมากนัก แต่ปีศาจมีสติปัญญาที่สามารถเทียบเท่ามนุษย์ได้

นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ความแข็งแกร่งของปีศาจมีอย่างน้อยสิบเท่าจากสัตว์ปีศาจ

ปีศาจระดับ 1 สามารถเอาชนะสัตว์ปีศาจระดับ 1 ได้ทุกชนิด ความสามารถของมันนั้นเหนือกว่าสัตว์ปีศาจระดับ 2 ขั้นต่ำ

ขณะเดียวกันความน่ากลัวของปีศาจระดับ 2 นั้น… พวกมันสามารถเอาชนะสัตว์ปีศาจระดับ 3 ขั้นต่ำได้อย่างง่ายดาย

ด้วยสติปัญญาและพลังที่มารวมกัน ปีศาจจึงกลายเป็นข้อห้ามที่จอมยุทธ์ทุกคนไม่อยากพูดคุย

“งั้นนี้ก็คือปีศาจ? มันสามารถกินเนื้อเพื่อรักษาแผลของตัวเองได้จริงๆ”

หลี่ฟู่เฉินเห็นปีศาจระดับ 1 ได้รับบาดเจ็บ แต่หลังจากนั้นมันก็หยิบศพของจอมยุทธ์ที่อยู่ตรงนั้นขึ้นมากิน ในช่วงเวลาสั้นๆ อาการบาดเจ็บทุกอย่างของมันก็หายเป็นปกติ

“มันสามารถใช้อาวุธได้เหมือนกัน” จ้างหมิ๋งเยวี่ยรู้สึกตกตะลึง

อาวุธที่เหล่าปีศาจใช้ทั้งหมดล้วนเป็นอาวุธหนัก ถ้าไม่ใช่ขวาน ก็เป็นกระบอง แม้ว่าอาวุธเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาไม่ดีและไม่ได้สวยงามเหมือนอาวุธของจอมยุทธ์ พวกมันก็มีข้อได้เปรียบในด้านความแข็งแกร่ง

“ปีศาจมาแล้ว ระวังตัวด้วย”

สู้กับปีศาจ เฉินฟางหัวไม่กล้าชะล่าใจ แม้ว่ามันจะเป็นปีศาจระดับ 1 ก็ตาม

จึก จึก จึก จึก จึก จึก

กลุ่มปีศาจเปล่งเสียงหัวเราะอย่างไร้อารมณ์ ขณะที่พวกมันรีบพุ่งไปยังกลุ่มของหลี่ฟู่เฉิน

“สะพรั้งอนันย์!”

เฉินฟางหัวสูดหายใจลึกๆ และใช้วิชาดาบสะพรั้งอนันย์ ไฟดาบสีแดงอ่อนนับไม่ถ้วนห่อหุ้มปีศาจไว้

ปึส ปึส ปึส…

ครึ่งหนึ่งของปีศาจระดับ 1 ตกตายด้วยกระบวนดาบนี้ของเฉินฟางหัว ส่วนที่เหลือของปีศาจใช้โล่เพื่อป้องกันการโจมตี

“โชคดีที่การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีปีศาจมากนัก ถ้ามันมีมาก ผลลัพธ์จะแย่ยิ่งกว่านี้มาก!” ปากของหลี่ฟู่เฉินสั่น

ต่อสู้ระยะปะชิด

ปีศาจจำนวนมากยังคงอยู่ในกองทัพสัตว์ปีศาจ ล้อมรอบกลุ่มของหลี่ฟู่เฉิน

เช้ง!

มึนเมากับการต่อสู้ ปีศาจตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากร่างของสัตว์ปีศาจ และเข้ามาผ่าหลี่ฟูเฉินโดยใช้ขวาน

ขวานขนาดของมันเท่ากับล้อของเกวียนรถและคาดว่าน่าจะมีน้ำหนักอย่างน้อย 1000 กิโลกรัม แรงจากการผ่าขวานเป็นแรงขนาดมหาศาล แต่หลี่ฟู่เฉินไม่ได้พยายามเบี่ยงเบนขวานนั้นออก เขาส่งปีศาจที่บินกลับเข้าไปในฝูงสัตว์ปีศาจทันที

หลี่ฟูเฉินเงียบไปครู่หนึ่ง ในการต่อสู้ตัวต่อตัว เขาสามารถฆ่าปีศาจระดับ 1 ได้ทันที และปีศาจจะไม่สามารถทำอะไรอย่างการหยุดเขาได้

แต่ในการต่อสู้ระยะประชิด ปีศาจมีไหวพริบอย่างมาก พวกมันจะไม่เข้าสู้แบบตัวต่อตัว แต่ใช้การรบแบบกองโจรแทน

เห็นได้ชัดว่าเฉินฟางหัวและจ้าวหมิ๋งเยวี่ยก็สังเกตเห็นพฤติกรรมนี้ของปีศาจด้วยเช่นกัน

“วิชาดาบสะพรั้งอนันย์!”

เฉินฟางหัวใช้วิชาดาบสะพรั้งอนันย์ซ้ำๆ เพื่อฆ่ากลุ่มสัตว์ปีศาจและกลุ่มปีศาจ ปีศาจระดับ 1 หลายตนยกโล่ขึ้นมาไม่ทันเวลาฉะนั้นจึงถูกผ่าออกโดยเฉินฟางหัว

ด้วยเหตุนี้ การใช้ออกพลังฉีของเธอจึงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเช่นกัน

ด้วยการฝึกฝนของเฉินฟางหัว เธอไม่จำเป็นต้องกินยาสีเหลืองขั้นสูงเพื่อเติมพลังฉี

จ้าวหมิ๋งเยวี่ยเงก็เริ่มเหนื่อยอ่อนแล้วเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เฉินฟางหัวและหลี่ฟู่เฉินช่วยเธอไว้ เธอคงจะตกตายไปแล้วสองสามครั้ง

“หยดทะลวงศิลา”

เมื่อแสงดาบพุ่งออกไป หลี่ฟู่เฉินเจาะทะลุคอของปีศาจระดับ 1 ในเวลาเดียวกัน หลี่ฟูเฉินก็เหวี่ยงมือซ้ายของเขาออกไปและใช้ฝ่ามือเพลิงที่ลุกโชติช่วง ฆ่าสัตว์ปีศาจระดับ 2 ชั้นกลางไปอีกตัว

กลุ่มสามคนของหลี่ฟู่เฉินยังคงอยู่รอดต่อไปได้ แต่สถานการณ์ของกลุ่มเหลาไห่หลงที่มีกันอยู่เก้าคนกลายเป็นย่ำแย่ที่สุด

ชวู… บูม!

ศิษย์ชั้นในสองคนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และฉีกยันต์ขอความช่วยเหลือ

อย่างรวดเร็ว ผู้อาวุโสชั้นนอกมาหาพวกเขาและหิ้วพวกเขาทั้งสองออกไป

ชวู… บูม!

สองคนที่อยู่ในกลุ่มฉีกยันต์ช่วยเหลือเช่นเดียวกัน

ตอนนี้ กลุ่มเก้าคนของเหลาไห่หลงเหลืออยู่ห้าคน

“บ้าเอ้ย ปีศาจพวกนี้มันฉลาดเกินไป” การแสดงออกของเหลาไห่หลงมืดมนลง เขาเป็นอัจฉริยะที่อยู่ระดับหกของขอบเขตต้นกำเนิด อันที่จริงแล้วที่เรื่องมันกลายเป็นยุ่งยากก็เพราะพวกปีศาจระดับ 1

หากเป็นกลุ่มสัตว์ปีศาจระดับ 2 ชั้นต่ำ ตอนนี้เขาก็คงจะไม่หมดหวังแบบนี้

“เหลาชิเซียง หวูชิเหม่ย หลี่ฟู่เฉินอยู่ตรงนั้นกับเฉินฟางหัวชิเจี๋ยและจ้าวหมิงเยวี่ยชิเหม่ย ทำไมเราไม่ไปรวมกลุ่มกับเขา” เกาช่างเทียนแนะนำ

“ใช่ เหลาชิเซียง ท่านคิดว่าอย่างไร?” หวูชิงเหม่ยมองไปยังเหลาไห่หลง

“พวกเขามีจำนวนน้อย แต่ไม่นับเป็นไร หากเราที่จะให้ความช่วยเหลือพวกเขาสักหน่อย” เหลาไห่หลงไม่ยอมรับว่าเขาต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่น

ทั้งสองกลุ่มอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก หลังจากใช้เวลาสักพัก ในที่สุดพวกเขาก็รวมกัน

“ข้าสงสัยว่าทำไมเจ้าถึงกล้าที่จะมาที่ชวูเซี่ย ปรากฎว่าเฉินชิเจี๋ยปกป้องเจ้าอยู่” เหลาไห่หลงวิจารณ์หลี่ฟู่เฉิน

หลี่ฟู่เฉินหัวเราะ “เฉินชิเจี๋ยปกป้องข้าแล้วอย่างไร? ไม่เหมือนกับเจ้าหรอกที่ไม่สามารถปกป้องเพื่อนร่วมกลุ่มของเจ้าได้”

“เจ้า…” การจ้องมองของเหลาไห่หลงกลายเป็นปั่นป่วน

“พอแล้ว ตอนนี้การต้านทานคลื่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เจ้าคงไม่ต้องการฉีกยันต์ช่วยเหลือตอนนี้ ใช่ไหม?!”

เฉินฟาวหัวจ้องมองไปที่เหลาไห่หลง

ยันต์ช่วยเหลืออาจช่วยชีวิตได้ก็จริง แต่หลังจากได้รับการช่วยเหลือ ผลงานทั้งหมดในสนามรบจะไม่เกี่ยวข้องคนผู้นั้นอีกต่อไป เฉพาะผู้ที่รอดชีวิตเท่านั้นที่มีคุณสมบัติในการรับรางวัล

มีสัตว์ปีศาจมากกว่า 100,000 ตัวในสนามรบ มันจะมีแกนปีศาจระดับ 1 จากซากศพสัตว์ปีศาจ 10 ตัว สิ่งนี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างโชคลาภเล็กๆ ให้กับตัวเอง

แต่แน่นอน ว่าต้องหลังจากชนะการต่อสู้ครั้งนี้แล้ว

“ฮึ่ม!” ส่งสายตาเย็นชาไปที่หลี่ฟู่เฉิน เหลาไห่หลงก็ไม่ได้พูดสนทนาอีกต่อไป

เมื่อพวกเขาแปดคนทำงานร่วมกัน พลังการสู้รบของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นทันที แม้ว่าปีศาจและสัตว์ปีศาจจำนวนมากจะมาล้อมรอบพวกเขาไว้ พวกเขาก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

เมื่อการต่อสู้ทวีความรุนแรงมากขึ้น พวกเขาทั้งแปดคนก็เริ่มแสดงความสามารถที่แท้จริงของตนเองออกมา

โดยเฉพาะหลี่ฟู่เฉิน ด้วยการโคจรเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับระดับที่สิบสามของเขา ส่งผลทำให้หวูชิงเหม่ยและเกาช่างเทียนตกใจ เมื่อพวกเขารู้สึกได้ถึงความร้อนมหาศาล

‘ดูเหมือนว่าพัฒการของหลี่ฟู่เฉินจะเร็วมากขึ้นหลังจากที่เขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตต้นกำเนิด’ หวูชิงเหม่ยคิดขณะที่เธอมองไปยังด้านข้าง

แม้ว่าหวูชิงเหม่ยจะชอบสร้างความสัมพันธ์กับอัจฉริยะที่แข็งแกร่ง แต่เธอไม่ได้เป็นคนที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่ว่าจะเป็นชางกวนหง หยูเหวินเทียน หรือเหลาไห่หลง เธอแค่มีความสัมพันธ์ที่ดูคลุมเครือกับพวกเขาเท่านั้น ไม่มีใครที่เธอรู้สึกจริงจังด้วย

หลังจากทั้งหมดแล้ว เธอก็มีโครงกระดูกระดับ 4 ดาวและเธอไม่ได้สิ้นหวังขนาดนั้น

ทีละนิดๆ เธอก็ได้รู้ว่าหลี่ฟูเฉินไม่มีแค่โครงกระดูกธรรมดาๆแน่ และเขาเริ่มคุ้มค่ากับความสนใจของเธอ

“หลี่ฟู่เฉิน มาเปลี่ยนตำแหน่งกัน ตรงนี้มีปีศาจระดับ 1 ที่ฉลาดแกมโกงมาก” หวูชิงเหม่ยเอ่ยขึ้น

“ได้”

หลี่ฟู่เฉินไม่ได้สงสัยใดๆ และเปลี่ยนตำแหน่ง

ปึส!

ด้วยวิชาดาบหยด หลี่ฟู่เฉินสังหารปีศาจระดับ 1 ได้ด้วยกระบวนท่าเดียว

“หลี่ฟู่เฉิน แน่นอนแล้วว่าเจ้าซ่อนความลับไว้มากมาย จากสิ่งที่ข้าเห็น หยูเหวินเทียนเองก็ไม่ได้ดีเท่าเจ้า” ใบหน้าที่ไร้เดียงสาของหวูชิงเหม่ยเผยรอยยิ้ม

ที่ด้านข้าง เกาช่างเทียนดูเศร้าหมอง ไม่ว่าจะเป็นหยูเหวินเทียนหรือหลี่ฟู่เฉิน เขาก็รู้สึกแย่มากอยู่ดี

“นักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่สี่จะแข็งแกร่งได้ขนาดไหนกันเชียว?”

เหลาไห่หลงรู้สึกอิจฉา หลังจากสังเกตเห็นหวูชิงเหม่ยและหลี่ฟู่เฉินที่ดูสนิทสนมกันขึ้นเล็กน้อย เขาโคจรเทคนิคลึกลับหยกเงา และจงใจชนหลี่ฟู่เฉินเพื่อผลักเขาเข้าสู่กองทัพสัตว์ปีศาจ

ตอบสนองตามธรรมชาติ หลี่ฟู่เฉินค้นพบสิ่งที่เขาจะทำทันที และหลบเหลาไห่หลง นั้นจึงทำให้เขาออกไปแทน “ตั้งแต่ที่เหลาชิเซียงนั้นน่ายำเกรงมาก บางทีเจ้าอาจสามารถต่อสู้คนเดียวได้”

“หลี่ฟู่เฉิน ถามหาความตาย!”

หลังจากถูกซุ่มโจมตีจากปีศาจ เหลาไห่หลงก็โกรธและอยากจะเฉือนหลี่ฟู่เฉิน

“เหลาไห่หลง หากเจ้าทำเรื่องไร้สาระอีกครั้งข้าจะเอาเจ้าออกจากกลุ่ม!” เฉินฟางหัวกล่าวอย่างเย็นชา

“ดี ดีมากหลี่ฟู่เฉิน ใช้ประโยชน์จากความโปรดปรานของเฉินชิเจี๋ยในการการไม่แสดงความเคารพต่อข้า รอจนกระทั่งคลื่นสัตว์ปีศาจสิ้นสุดลง ฉันจะชำระหนี้นี้กับเจ้า” เหลาไห่หลงยับยั้งชั่งใจและสังหารปีศาจระดับ 1 ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด