ตอนที่แล้วGE186 ตอบแทนด้วยร่างกาย [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE188 ทะลวงแก่นทองคำ (1) [ฟรี]

GE187 วิหารสาบสูญ หอคอยโอสถ [ฟรี]


เรือลอยลำเทียบท่า หนิงฝานป้องมือจางลาคนบนเกาะมุกหยกฟ้า

ตอนนี้จิงสั่วสมควรถึงเกาะเผิงไหลแล้ว...

เรือลำที่หนิงฝานโดยสารกลับนั้นแตกต่างจากเรือล่องสวรรค์ แม้จะช้ากว่าแต่ก็ปลอดภัยกว่าเช่นกัน

หนิงฝานยืนบนดาษฟ้าเรือ ผมดำขลับต้องลมไสว

อีกไม่นานเขาจะได้ไปเยือนเกาะเผิงไหล!

สิ่งที่เป็นอุปสรรคกับตนเองมากที่สุด คือการทะลวงแก่นทองคำ

“ข้าต้องทะลวงแก่นทองคำ...”

แววตาหนิงฝานเด่ดเดี่ยว

แก่นทองคำ ดวงจิตแรกเริ่ม ตัดวิญญาณ… เส้นทางที่ต้องก้าวผ่าน

หนึ่งเดือนผันผ่าน

สองเดือนล่วงเลย

เมื่อเข้าเดือนที่ 3 เกาะขนาดใหญ่ก็ปรากฏไกลออกไป!

เมื่อเข้าไปใกล้ หนิงฝานเงยหน้ามอง เกาะแห่งนี้สูงเสียดฟ้า ดูยิ่งใหญ่และมั่งคั่ง

ทะเลไร้สิ้นสุดส่วนนอก มี 10 นิกาย 3 เกาะที่เป็นขุมกำลังที่ทรงพลังที่สุด เกาะเผิงไหลแห่งนี้ เป็นเกาะที่มีขนาดเท่าแคว้นหนึ่ง

แม้เกาะแห่งนี้จะใหญ่โต แต่สิ่งที่ทำให้หนิงฝานตกตะลึงคือ เกาะแห่งนี้ไม่ได้เกิดจากดิน แต่เกิดจากซากของเต่าขนาดยักษ์!

ไม่รู้ว่าเต่าตัวนี้ตายมาแล้วกี่ปี แต่ร่างของมันได้กลายเป็นโครงกระดูก และกลายเป็นแหล่งกำลังปราณจนแคว้นจินไม่อาจเทียบ

หากบ่มเพาะพลังที่นี่ จะก้าวหน้าได้รวดเร็วกว่าทั่วไปหลายเท่า บนเกาะ หนิงฝานเห็นหอคอยสีดำขนาดยักษ์สูงเสียดฟ้า

วิหารสาบสูญ!

ในที่สุดก็มาถึง

เมื่อเรือใกล้ถึงฝั่ง หนิงฝานทะยานออกจากเรือ ขึ้นเยียบเกาะเป็นคนแรก

เกาะแห่งนี้งดงาม นกกระเรียนดำบนโผบิน ไร้ซึ่งข่ายอาคมป้องกัน เพราะเกาะแห่งนี้เป็นแหล่งชุมนุมของผู้เชี่ยวชาญไร้สังกัด

ที่ทางเข้าเกาะ มีคชสารขนาดใหญ่ราวกับภูเขาให้โดยสาร มีสิ่งก่อสร้างบนหลังของมันให้ผู้คนขึ้นไป

แม้ร่างกายของมันจะดูเทอะทะ แต่ความเร็วในการเคลื่อนที่กลับรวดเร็วเท่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม

แม้เกาะแห่งนี้จะไม่มีข่ายอาคมป้องกัน แต่มีผู้เชี่ยวชาญของวิหารสาบสูญเป็นผู้ดูแล โดยมีกฏห้ามไม่ให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับต่ำกว่าดวงจิตแรกเริ่มบินในเกาะ

ดังนั้นการเดินทางในเกาะจึงจำเป็นต้องโดยสารสัตว์อสูร เพราะหากเดินเท้า ต่อให้หลายสิบปีคงเดินไม่ถึงวิหารสาบสูญ

บนเกาะมีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงหลายคน หากหนิงฝานอำพรางว่าตนคือผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง หากผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นมองออกคงกลายเป็นปัญหาใหญ่

ดังนั้นหนิงฝานถอนวิชาลับสัมผัสลวง กลิ่นอายกลับคืนชอบเขตประสานวิญญาณ จากนั้นจ่าย 500 หยกสวรรค์เพื่อโดยสารคชสาร

บนหลังคชสาร หนิงฝานนั่งอยู่บนม้านั่งตัวหนึ่ง มีผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจรคอยดูแลด้วยความเคารพ

“ผู้อาวุโสเพิ่งเคยมาเกาะเผิงไหลเป็นครั้งแรกหรือ? หากท่านมอบหยกสวรรค์พิเศษให้ข้า 1 ก้อน ข้าจะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆของเกาะนี้ให้ท่านฟังอย่างละเอียด”

“แค่หยกสวรรค์ก้อนเดียวเองหรือ...” หนิงฝานยิ้มและนำหยกสวรรค์ออกมาให้นาง แล้วฟังนางบอกเล่าสิ่งต่างๆ

บนเกาะเผิงไหล มีขุมกำลังใหญ่อยู่ 3 แห่ง… อันดับแรกคือ วิหารสาบสูญ เป็นขุมกำลังที่มาจากแดนสวรรค์ ส่วนขุมกำลังอีก 2 แห่งคือขุมกำลังที่อยู่บนเกาะอยู่แล้ว

นั่นคือ ‘วังไผ่ฟ้า’ ขึ้นชื่อเรื่องการทำสุรา

อีกหนึ่งคือนิกายกระถางโอสถ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างกระถางปรุงโอสถ

การมีทั้งสามขุมกำลังนี้อยู่ ทำให้เกาะเผิงไหลคือเกาะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในส่วนนอกของทะเลไร้สิ้นสุด

หากต้องการกระถางปรุงโอสถ ให้ไปหานิกายกระถางโอสถ หากต้องการสุราให้ไปหาวังไผ่ฟ้า แต่หากต้องการยกระดับพลัง ให้ไปหาวิหารสาบสูญ… ยามนี้ ที่วิหารสาบสูญมีนักปรุงโอสถอยู่มากมาย ดังนั้นที่นั่นจึงมีโอสถหลายชนิดวางขาย หากผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มต้องการโอสถผันแปรที่ 5 ย่อมไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาซื้อ

“สถานที่แห่งนี้เปรียบได้กับสรวงสวรรค์ของข้า… ไม่รู้ว่าหยกสวรรค์ที่มีจะพอหรือเปล่า...”

ตอนนี้หนิงฝานมีหยกสวรรค์ราว 8 ล้าน เป็นจำนวนที่ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตขั้นกลางพึงมี

แต่หากจะใช้หยกสวรรค์จำนวนนี้เพื่อขอใช้สถานที่ฝึกฝนที่ดีที่สุด เกรงว่าจะไม่พอ

ภายในวิหารสาบสูญมีหอคอยสีเงินขนาดใหญ่อยู่

หอคอยแห่งนั้นมีด้วยกัน 7 ชั้น ชั้นแรกเป็นชั้นที่ช่วยเร่งเวลาให้เร็วกว่าโลกภายนอก 2 เท่า เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆกระทั่งชั้นที่ 7 มีความเร็วประมาณ 128 เท่า

หอคอยชั้นที่ 1 จำกัดไว้เพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม ชั้นที่ 2 เป็นของผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ ชั้น 3 เป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ ถัดจากนั้นขึ้นไปจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ขอบเขตพลังสูงชั้นขึ้นไปอีก

การจำกัดสิทธิ์เช่นนี้ มีการบังคับใช้อย่างชัดเจน

แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีข้อยกเว้นอยู่… วิหารสาบสูญชื่นชอบนักปรุงโอสถ นักปรุงโอสถจะได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดี เช่นหากเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 แม้ยังไม่บรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม ก็สามารถใช้วิหารชั้น 4 ได้

หากเป็นระดับพลังของหนิงฝานในยามนี้ อย่างมากเขาก็ขึ้นแค่ชั้น 2 ของวิหารเท่านั้น

หากเข้าร่วมในสถานะนักปรุงโอสถ… หนิงฝานอาจเข้าได้ถึงชั้น 5 ซึ่งฝึกฝนเพียง 1 จะเท่ากับโลกภายนอก 32 วัน

หากฝึกฝนฝนนั้น 100 ปี จะเทียบเท่ากันโลกภายนอก 3200 ปี… แต่ไม่มีผู้ใดจ่ายไหว

เพราะมันแพงจนเกินไป!

ภายในหอคอยแห่งนั้น แต่ละชั้นจะมีความเร็วของเวลาต่างกันเป็นเท่าทวีในแต่ละชั้น

ค่าใช้จ่ายสำหรับชั้นแรก 1 ปี 100 หยกสวรรค์

ชั้นสอง 1 ปี 1000 หยกสวรรค์

ชั้นสาม 1 ปี 10,000 หยกสวรรค์

ชั้นสี่ 1 ปี 120,000 หยกสวรรค์

แต่สำหรับชั้นห้า 1 ปีต้องจ่าย 960,000 หยกสวรรค์

ก่อนหน้านี้มีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มบางคนเข้าใช้ชั้นที่ 2 เพื่อฝึกฝน แต่ด้วยเป็นการเอาเปรียบ วิหารสาบสูญจึงได้ตั้งกฏระดับพลังของแต่ละชั้นขึ้น

เมื่อสตรีในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มบอกเล่าเรื่องราวต่างๆเสร็จ นางก็จากไปด้วยความเคารพ

ยามนี้หนิงฝานเหลือเวลาไม่มาก ยิ่งใช้หอคอยชั้นสูงได้เท่าไหร่ยิ่งดี แต่ด้วย 8 ล้านหยกสวรรค์ที่มี คงเพียงพอให้ใช้ได้แค่ 8 ปีเท่านั้น

32 เท่าของ 8 ปี คือ 256 ปี ซึ่งเป็นเวลาที่อายุขัยของหนิงฝานแทบจะหมด หากเขาไม่อาจสร้างจิตวิญญาณอีกส่วนที่ตัดผ่าไปได้ เขาจะต้องตาย

แต่หากในช่วง 256 ปีนี้ เขาสามารถทะลวงขอบเขตแก่นทองคำได้ อายุขัยเขาจะเพิ่มอีก 500 ปี

สิ่งสำคัญที่ควรทราบของวิหารสาบสูญคือ มันแค่ช่วยให้เวลาเดินเร็วขึ้นเท่านั้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโชคชะตาใดๆ

ต่อให้มาวิหารสาบสูญ แต่ไม่อาจทะลวงแก่นทอคำได้ก็ไร้ความหมาย

ต่อให้มาวิหารสาบสูญ แต่ไม่อาจทะลวงแก่นทองคำได้ก็ไร้ความหมาย

“จิงสั่วต้องใช้เวลา 100 ปีในการทะลวงขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม… มันสมควรใช้วิหารชั้น 3 เป็นเวลา 10 ปี ส่วนข้าต้อใช้ชั้น 5 เป็นเวลา 8 ปี… แต่สิ่งแรกต้องทำคือ ทำให้วิหารสาบสูญรู้ว่าข้าเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5”

ผ่านไป 10 วัน หนิงฝานโดยสารคชสารไปจนถึงจุดจอดแรก

ผ่านไปอีก 15 วันหนิงฝานก็ไปถึงจุดจอดที่สอง

ผ่านไปอีก 1 เดือน ในที่สุดหนิงฝานก็มาถึงจุดหมาย ‘เมืองเต่าทมิฬ’

หนิงฝานจากเมืองหนิงมาได้เกือบ 2 ปีแล้ว

ยามนี้เขาอายุได้ 20 ปี

การที่ฝึกฝนและยกระดับตนเองมาได้ระดับนี้ด้วยอายุเพียงเท่านี้ นับเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างที่สุด

เมืองเต่าทมิฬ เขตแดนปกครองของวิหารสาบสูญ

ใจกลางเมืองมีสิ่งก่อสร้างคล้ายหอคอยสีดำสูงหมื่นจ้าง นั่นคือวิหารสาบสูญ… ฝั่งทางทิศตะวันออก ทิศตะวันตก เหนือ และใต้ของวิหารสาบสูญ มีหอเคยไม่สูงมากอยู่ 4 แห่ง ชื่อของพวกมันคือ ‘หอคอยโอสถ’

หากผู้ใดจะเข้าร่วมในฐานะนักปรุงโอสถ คนเหล่านั้นต้องมาลงชื่อที่หอคอยโอสถ และเข้ารับการทดสอบ

“ข้าต้องการตรานักปรุงโอสถ!”

หนิงฝานเข้าไปยังหอคอยโอสถใต้ และได้พบกับสตรีในขอบเขตประสานวิญญาณขั้นกลางที่งดงาม

“โปรดแจ้งชื่อของท่าน เพื่อเข้ารับการทดสอบ”

“ข้าแซ่ ‘ซัว’ ชื่อ ‘หมิง”

“ไม่ทราบว่าท่านซัวเป็นนักปรุงโอสถระดับใด หากเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 2 ข้าสามารถทดสอบท่านได้ แต่หากเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ข้าต้องเรียกผู้อาวุโสมา” นางกล่าวถลางมองสำรวจหนิงฝาน

ด้วยเพราะระดับพลังของนางยังไม่สูง สายตาจึงไม่เฉียบคม

แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับหนิงฝานที่มา ส่วนมากเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 2 บ้างก็มี 3 มาให้เห็น

การเข้ารับการทดสอบและเข้าร่วมกับวิหารสาบสูญนั้น นอกจากจะได้ตำรับโอสุแล้ว ยังจะได้รางวัลอีกมากมาย

หลังจากนางจ้องมองหนิงฝานอยู่นาน นางก็ตัดสินใจ

บุรุษผู้นี้ยังเยาว์มาก สมควรเป็นเพียงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 2… แม้ใบหน้าจะปลอมแปลงได้ แต่อายุกระดูกไม่สามารถทำได้ นางเองก็มีอายุมากว่า 100 ปีแล้ว แต่ในหน้ากลับไม่ต่างจากสตรีอายุ 20 ปี

“ช่วยตามผู้อาวุโสของเจ้ามาด้วยเถอะ ระดับการปรุงโอสถของข้า เจ้าไม่อาจทดสอบได้...” หนิงฝานยิ้มเล็กน้อย

“หรือท่านซัวจะเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3? ข้าทำให้ท่านเสียเวลาแล้ว ข้าไม่น่าถามคำไร้สาระเลย...”

แววตาของเป็นประกาย อายุเพียง 20 ปี แต่เป็นถึงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 มีเพียงขุมกำลังใหญ่บางแห่งเท่านั้นที่เพาะสร้างคนระดับนี้

ยามนั้นเอง นางกลับมองหนิงฝานด้วยสายตาแปลกๆ

“ข้ามีนามว่า ‘ย่าหลาน’ หากท่านซัวยังไม่มีสตรีข้างกาย ข้าขออาสาเป็นให้ท่าน”

“ฮ่าฮ่า ขออภัยแม่นาง ข้ามีอยู่แล้ว”

“ช่างน่าเสียดาย...”

นางกล่าวออกมาโดยไม่อาย เพราะโลกของผู้ฝึกตนก็เป็นเช่นนี้

หากอีกฝ่ายเป็นถึงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ต่อให้โดนประณามว่าไร้ยางอาย ขอเพียงได้อยู่ข้างกายก็นับว่าคุ้มค่า

“เช่นนั้นข้าจะไปเชิญผู้อาวุโสโม่มาพบท่าน… ผู้อาวุโสโม่คือนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 แต่ผู้อาวุโสโม่อาจเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวไปบ้าง ท่านซัวเองก็คอยระวังท่าทีเอาไว้”...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด