ตอนที่แล้วบทที่ 97 สะกดข่มสมบรูณ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 99 กวาดทุกคนที่ต่ำกว่าระดับห้า

บทที่ 98 เอาชนะกั่วเซี่ย


บทที่ 98

เอาชนะกั่วเซี่ย

ในพื้นที่อันกว้างขวาง กั่วเซี่ยและหลี่ฟู่เฉินอยู่ห่างกันประมาณ 10 เมตร

หนึ่งคืออัจฉริยะที่ไม่เคยมีมาก่อนในตระกูลเซี่ย ผู้มีโครงกระดูกระดับ 4 ดาวอันไม่ธรรมดา

อีกหนึ่งเป็นคนจากตระกูลหลี่ที่มีสถานะต่ำต้อย แต่เขาพึ่งพาความรู้สึกอันเฉียบแหลมของตัวเองในการบรรลุทุกสิ่งที่เขามีในขณะนี้

การต่อสู้ระหว่างสองคนนี้มีความหมายที่สำคัญมาก

แม้แต่กระทั้งการแสดงออกของกั่วหยี่หลงและหลี่เทียนชิก็กลายเป็นจริงจัง

“หลี่ฟู่เฉิน เรื่องเกี่ยวกับการยกเลิกการหมั้น ข้าไม่ได้เสียใจ ชะตากรรมของข้า ข้าจะเป็นคนควบคุมเอง ไม่มีใครสามารถจัดการกับชะตากรรมของข้าได้” กั่วเซี่ยกล่าวอย่างสงบ

หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ “กล่าวตามความจริง ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยชอบเจ้าอยู่แล้ว สิ่งที่ข้า หลี่ฟู่เฉินปรารถนา ข้าจะหาวิธีรับมันมาด้วยวิธีการของตัวเอง ข้าไม่ต้องการความเมตตาจากคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการแต่งงาน”

“เจ้าไม่เคยชอบข้า?”

ไม่รู้ว่าทำไม หลังจากได้ยินคำกล่าวนี้ ลมหายใจของกั่วเซี่ยก็กลายเป็นติดขัด

เธอมั่นใจในความสามารถและรูปลักษณ์ของเธออย่างมาก ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอยังเด็กเกินไป คนเธอไม่เคยอยู่ในสายตาของเธอเลย กลับไม่ชอบเธอเหมือนกัน แม้ว่ามันจะเป็นคนอื่น พวกเขาก็คงจะรู้สึกไม่สบายใจ

“เนื่องจากเป็นเช่นนี้ การต่อสู้ครั้งนี้จะแก้ไขข้อพิพาททั้งหมดของเรา!” หายใจเข้าลึกๆ ในสายตาของกั่วเซี่ยก็เหลือแต่เจตนาการต่อสู้ที่บริสุทธิ์และไม่มีอะไรอื่นอีก

“เสียใจด้วย การต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นฝ่ายข้าที่ชนะ”

หลี่ฟู่เฉินไม่มีความตั้งใจที่จะชักดาบของตัวเองและมองไปที่กั่วเซี่ยอย่างไม่ใส่ใจ

ด้วยสายตาที่เย็นชาของเธอ กั่วเซี่ยดึงดาบเหล็กสีดำออกมาและพุ่งไปที่หลี่ฟู่เฉินอย่างรวดเร็ว

ระดับการบ่มเพาะของกั่วเซี่ยอาจต่ำกว่ากั่วหยานอยู่หนึ่งระดับ แต่ความสามารถโดยรวมของเธอดีกว่ากั่วหยาน

ไม่เพียงแต่มีเทคนิคลึกลับหยกเงาขั้นกลางระดับเก้าเท่านั้น เธอยังมีทักษะดาบลึกลับขั้นต่ำด้วยเช่นกัน วิชาดาบวารีลี้ลับขั้นสมบรูณ์ย่อย

นอกจากนี้ ร่างกายพายัพประจัญบานเมฆาของเธอก็อยู่ในขั้นสมบรูณ์ ทำให้เธอมีความแข็งแกร่งทางกายภาพอยู่ที่ 7000 กิโลกรัม

ด้วยปัจจัยทั้งสามนี้ มันจึงอนุญาตให้เธอเอาชนะระดับที่สามหรือสี่ของขอบเขตต้นกำเนิดตามค่าเฉลี่ยได้อย่างง่าย ซึ่งนั้นก็เป็นศิษย์ภายในชั้นสาม

และกั่วหยานก็เป็นเพียงศิษย์ชั้นในขั้นสาม

ท่ามกลางฝูงชนที่อยู่ที่นี่ มีเพียงกั่วเซี่ยและหลี่ฟู่เฉินเท่านั้นที่เป็นศิษย์ชั้นในขั้นหนึ่ง จำนวนศิษย์ชั้นในขั้นสองเองก็ไม่ได้มากและนับได้เดียวมือเพียงข้างเดียว

“คลื่นน้ำลี้ลับ!”

ด้วยการแกว่งดาบ อากาศก็สั่นสะเทือน เมื่อน้ำปรากฎขึ้นกลางอากาศ สร้างระลอก

ทักษะดาบของกั่วเซี่ยนั้นงดงามเป็นพิเศษและไม่มีทางที่จะหยุดได้

“หยกแดงหลอมหิมะ!”

ด้วยการทุ่มพลังทั้งหมดของกั่วเซี่ย หลี่ฟู่เฉินจึงเริ่มลงมือ

ฝ่ามือถูกส่งออกไป แสงจ้าของฝ่ามือทำให้ทุกอย่างภายในไม่กี่เมตรเปลี่ยนเป็นสีแดง

สุ้ม!

เมื่อใบดาบของกั่วเซี่ยปะทะกับฝ่ามือของหลี่ฟู่เฉิน มันก็เป็นเหมือนดวงอาทิตย์ที่ละลายหิมะ เมื่อดาบสำแดงพลัง ต่อมาก็ถูกกัดเซาะอย่างรวดเร็ว

“นี้ไม่ดีแล้ว”

การแสดงออกของกั่วเซี่ยเปลี่ยนไป มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลี่ฟู่เฉินใช้ฝ่ามือหยกแดง ทักษะฝ่ามือสีเหลืองขั้นสูง แต่เมื่อถูกใช้โดยหลี่ฟู่เฉิน พลังของวิชาฝ่ามือหยกแดงก็เกินความคาดหมายอย่างมาก

เปลี่ยนท่าทางดาบของเธอ กั่วเซี่ยเร่งเร้ารับมือด้วยดาบเป็นพันวัล

“รับฝ่ามือของข้า!”

หลี่ฟู่เฉินระเบิดฝ่ามืออีกครั้ง พลังฝ่ามือก็เหมือนเตาเผาไหม้ บังคับให้กั่วเซี่ยหนีกลับไปอย่างต่อเนื่อง

“เทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับระดับที่สิบ?” หลี่เทียนชิรู้สึกสับสน

ส่วนใหญ่ของตระกูลหลี่ได้รับการฝึกฝนทั้งเทคนิคเปลวเพลิงและเทคนิคเปลวเพลิง หลี่เทียนชิอยู่ระดับที่สิบเอ็ดของเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับ เขาจึงรู้สึกได้ถึงความคล้ายคลึงของพลังฉีจากตัวของหลี่ฟู่เฉิน มันเกือบ 80% หรือ 90% ที่คล้ายกับของเขา

นี่ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว

มีข่าวลือว่าหลี่ฟูเฉินมีประสาทสัมผัสที่ยอดเยี่ยม แต่นี่มันมากเกินไป!

“ข้าไม่สามารถปล่อยให้เขาชนะกั่วเซี่ยได้” ใบหน้าของกั่วหยี่หลงเย็นชา

กั่วเซี่ยเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลกั่ว ความพ่ายแพ้ของกั่วเซี่ยจะเข้าจัดการกับขวัญกำลังใจของตระกูลกั่ว เขาจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

“กั่วเหยา เจ้าจะต้องเคลื่อนไหวในช่วงเวลาที่สำคัญ หากมีโอกาส ข้าไม่รังเกียจหรอกหากเจ้าจะทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส” กั่วหยี่หลงกระซิบกั่วเหยา

เขาที่เป็นผู้นำของตระกูลกั่ว ไม่เหมาะสำหรับงานนี้ มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการที่จะให้กั่วเหยาจัดการกับมัน

“ไม่ต้องกังวล” กั่วเหยาหัวเราะเสียงเย็น

ฟังบทสนทนาของทั้งสอง กั่วเผิงก็หัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็นเช่นกัน

“ใช้ทักษะฝ่ามือกดดันกั่วเซี่ย หลี่ฟู่เฉินผู้นี้อาจกลายเป็นบากหนามในอนาคต”

ตระกูลหยานที่ไม่กังวลในตอนแรก แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นจริงจัง

ไม่ว่าโครงกระดูกที่หลี่ฟู่เฉินมีจะเป็นยังไง ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับอัตราการเติบโตของเขา มันเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ ตระกูลหยางนั้นมีข้อพิพาทที่ไม่ดีกับตระกูลหลี่มานานแล้ว เมื่อหลี่ฟู่เฉินเติบโตมากเกินไป เขาอาจจะทำตระกูลหยางก็ตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

แม้ความเป็นไปได้อาจจะต่ำ หรือถ้าหากเขาไม่บรรลุขอบเขตปฐพี เขาก็จะไม่สามารถข่มขู่ตระกูลหยางได้ แม้จะมีพรสวรรค์ของหลี่ฟู่เฉิน ไม่ว่าเขาจะสามารถบรรลุขอบเขตปฐพีหรือไม่ สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง มันก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้

ขณะนี้เอง ตระกูลหยางพัฒนาความเป็นศัตรูต่อหลี่ฟู่เฉินอย่างแข็งแกร่งขึ้น

ในเวทีต่อสู้ กั่วเซี่ยกัดริมฝีปากของเธอและหลบอยู่ตลอดเวลา

หลี่ฟูเฉินที่ใช้ทักษะฝ่ามือในการสะกดข่มเธอ สิ่งนี้ทำให้ตาของเธอพร่ามัว

ในตอนแรก เธอไม่คิดว่าจะเดินมาอยู่เส้นทางเดียวกับหลี่ฟูเฉินอีกครั้ง

เธอไม่เคยคิดเลยว่าสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับเธอ

การดำรงอยู่ของหลี่ฟูเฉินทำให้ความเชื่อมั่นที่เธอเคยมีเปลี่ยนไป

“ต้องชนะ!”

โคจรเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับ หลี่ฟู่เฉินว่งฝ่ามือออกไปอย่างรุนแรง พลังฝ่ามือที่สว่างไสว เข้าไปปะทะกับดาบของกั่วเซี่ย

เลือดสดไหลออกมาจากปากขณะที่ดาบเหล็กสีดำของกั่วเซี่ยตีกลับออกไป ขณะที่เธอกำลังจะพ่ายแพ้...

“หลี่ฟู่เฉิน ความสามารถในการต่อสู้ของเจ้าค่อนข้างดี ให้ข้า กั่วเหยา ให้คำแนะนำกับเจ้า”

ในขณะนี้เอง เงาก็ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้ากั่วเซี่ยและส่งฝ่ามือไปที่หลี่ฟู่เฉิน

“น่ารังเกียจ”

“ไร้ยางอาย”

หลี่เทียนชิและหลี่จิ่นซิ่วสถบ พวกเขาไม่เคยคิดว่าตระกูลกั่วจะใช้วิธีการที่ไร้ยางอายและเล่ห์เหลี่ยมเช่นนั้น

แต่มันเกิดขึ้นเร็วเกินไปและพวกเขาก็ไม่สามารถให้การสนับสนุนได้ทันเวลา พวกเขาสามารถเป็นได้แต่เพียงพยานเท่านั้น

แสงเย็นชาส่องเข้ามาในดวงตาของหลี่ฟู่เฉิน เขาไม่ได้หลบหนีหรือยอมแพ้ ขณะนั้นเองเขาส่งฝ่ามือเข้าไปปะทะกับกั่วเหยา

บูม!

เหมือนสายฟ้าในพายุฝนฟ้าคะนอง

พลังฉีที่น่ากลัวแผ่กระจายออกไป และพื้นดินจากตรงนั้นยุบลงไปสามนิ้ว

พวกเขาสองคนก้าวถอยหลังไปคนละ 7 ถึง 8 ก้าว ในแต่ละก้าวจะทิ้งรอบประทับลึกเอาไว้ที่พื้น

“สิ่งนี้ เป็นไปได้อย่างไร…” กั่วเหยาถูกทำให้ตกใจ

เขาเป็นจอมยุทธ์ขอบเขตต้นกำเนิดระดับห้า แต่เขาก็ไม่สามารถทำร้ายหลี่ฟู่เฉินได้

กั่วเหยาไม่ได้เป็นคนเดียวที่ประหลาดใจ

หลี่เทียนชิและหลี่จิ่วซิ่วต่างก็ประหลาดใจและยินดีเช่นกัน

“กั่วเหยา ใครขอให้เจ้าเข้ามาแทรกแซง? ไปให้พ้น!” การแสดงออกของกั่วเซี่ยเต็มไปด้วยความโกรธ

เมื่อได้ยินกั่วเซี่ย ใบหน้าของกั่วเหยากลายเป็นไม่พอใจ

มันเป็นที่ดีที่เขาไม่ได้ทำร้ายหลี่ฟู่เฉินอย่างจริงจัง แต่เขาก็ได้รับการตำหนิจากกั่วเซี่ย

ไม่มีสิ่งใดที่เขาถูกโปรดปราน

เขาตะลึงไปครู่หนึ่งและไม่รู้จะตอบสนองยังไง

ควบคุมความโกรธของเธอ กั่วเซี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดกับหลี่ฟู่เฉิน “ข้ายอมรับว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นฝั่งข้าที่พ่ายแพ้”

จบคำพูดของเธอ เธอหันและจากไปทันที ไม่สนใจคนจากตระกูลกั่วทั้งหมด

‘สำหรับตอนนี้ เจ้าและข้าไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป’ หลี่ฟู่เฉินคิดอยู่ในใจ ต่อจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา

เขาไม่พอใจที่เอาชนะกั่วเซี่ยไปทั้งๆ แบบนี้ สิ่งที่เขาแสวงหาคือจุดสูงสุดของโลกการต่อสู้ ไม่สำคัญว่าจะเป็นกั่วเซี่ยหรือหยูเหวินเทียนหรืออัจฉริยะอื่นๆ คู่แข่งของเขาคือตัวเขาเอง และตราบใดที่เขาค้นหาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ มันก็คงจะมีวันหนึ่งที่เขาไปถึงจุดสูงสุดและมองลงมาจากสวรรค์ทั้งเก้า

ในระหว่างการแสวงหาความยิ่งใหญ่นี้ ใครก็ตามที่กล้าขัดขวางเขา เขาจะไม่มีความเมตตาและกำจัดพวกมัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด