ตอนที่แล้วตอนที่ 38 งานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์ [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 40 ก้าวขึ้นสู่สังเวียนเป็นตาย (1) [อ่านฟรี]

ตอนที่ 39 สายตาสังหาร [อ่านฟรี]


ตอนที่ 39 สายตาสังหาร

จะต้องทำเช่นไรดี

ภายในถ้ำ หลินหานมองดูจระเข้โบราณตัวใหญ่มหึมาที่คืบคลานอยู่ตรงกลางหุบเขา รู้สึกว่ามันเป็นปัญหาตึงมือซะเหลือเกิน

ใช้ร่างวิญญาณมังกรทองมาขู่ให้กลัวเหรอ?

วิธีนี้เคยใช้งานไปแล้วหนึ่งครั้งเดียว เกรงว่าจะไม่ได้ผลอีก

กระตุ้นกายาแห่งจักรพรรดิมังกรแล้วโจมตีด้วยกรงเล็บมังกรคราม?

เมื่อมองดูร่างอสูรประหนึ่งขุนเขาของจระเข้โบราณ ทั้งยีงมีเกล็ดสีดำดั่งเทด้วยเหล็กหลอม เย็นยะเยือก ทรงพลัง เขาคงไม่สามารถเปิดทางหนีได้

นี่คือราชาแห่งสัตว์อสูรในป่าหม่างแห่งเมืองต้วนเทียน เกรงว่า ต่อให้เป็นปรมาจารย์ยุทย์ระดับที่เหนือกว่าสัตตะสวรรค์มาสู้เองอาจจะถูกเหยียบย่ำจนกลายเป็นเศษเนื้อ

เมื่อมาถึงจุดนี้ หัวใจของหลินหานเกิดความรู้สึกดั่งไร้หนทาง

หรือเขาไร้วาสนาที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์?

"เอ๋? สถานที่เล็กๆและห่างไกลนี้มีอสูรมารที่มีพลังระดับเทพเจินอู่ด้วยเหรอ? ไม่ใช่สิ ยังไม่ถึงขั้นเทพเจินอู่ แค่มีสายโลหิตอันโหดเหี้ยมของอสูรโบราณ ทำให้ให้กลิ่นอายที่ทรงพลังเท่านั้น หากเอามาเลี้ยงให้ดี ไม่แน่อาจจะเป็นตัวช่วยที่ดี" ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้นในหุบเขา

หลินหานแสดงสีหน้าตกใจจึงรีบเก็บคลื่นพลัง แล้วมองไปที่ด้านนอกด้วยเนตรนภาแห่งนักพรตวิญญาณ

แต่ต่อจากนั้นเพียงชั่วครู่ สายตาของหลินหานตะลึง

เขามองเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมเหล็กสีดำเมื่อม มาปรากฏตัวที่กลางหุบอย่างฉับพลันโดยที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร ราวกับผีที่ปรากฏตัวขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่า

เดินบนท้องฟ้า?

หัวใจของหลินหานตะลึงพรึงเพลิดยิ่งกว่าแต่ก่อน

ในความรู้ความเข้าใจของเขา แม้แต่ปรมาจารย์ยุทย์ที่ทรงพลังที่สุดยังไม่สามารถบินได้อย่างอิสระจริงๆ จึงไม่ต้องพูดเลยว่าจะเดินย่ำกรายบนท้องฟ้า

ปรมาจารย์ยุทย์ อย่างมากสุกคืออาศัยแรงลมแล้วร่อนไปในอากาศ

แต่นั่นไม่ใช่การบินที่แท้จริง

แต่ในขณะนี้ มนุษย์ชุดเหล็กลึกลับผู้นี้สามารถเยื้องย่างอยู่ในอากาศ ยืนอยู่บนอากาศได้

นี่เป็นวิชาอะไร? !

ในเวลานี้ อากาศสั่นสะเทือน

ทันใดนั้นร่างสีน้ำเงินพุ่งทะยานมาจากระยะไกล เดินบนอากาศเช่นเดียวกัน แล้วไปยืนอยู่ด้านข้างของผู้ชายชุดเหล็ก

เป็นผู้หญิงอายุประมาณยี่สิบปี ใบหน้างดงาม เยื้องย่างอย่างสง่างาม แต่งกายชุดสีฟ้า พริ้วไหวอยู่ในสายลม

"ศิษย์น้อง จระเข้โบราณตัวนี้มีสายเลือดไม่ธรรมดา มีเศษเสี้ยวแห่งสายเลือดของสัตว์อสูร เจ้าจับจับมันได้ บางทีเอามาเป็นลี้ยงสัตว์เลี้ยงดูให้ถึงระดับเทพเจินอู่"

ชายในชุดเหล็กมีร่างกายสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาดุจดวงดาวระยิบระยับ ชุดเหล็กสีดำที่สวมบนร่างกายนั้นเปล่งประกายแวววาวเย็นยะเยือกในมือถือขวานด้ามยาว เผยจิตสัหารที่น่าขนลุก ประหนึ่งโลหิตสามารถกลืนกินสิ่งมีชีวิตจำนวนมหศาล สะกดพลังโบราณอันน่าสยองขวัญ

"กลิ่นอายไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ข้าจะลองดู"

ผู้หญิงในชุดสีฟ้ายิ้มอย่างงดงาม ก่อนจะเยื้องย่างออกมาหนึ่งก้าว

นางลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือศีรษะของจระเข้โบราณ ยืนอย่างผึ่งผาย ความงามที่มีเสน่ห์ดึงดูด เส้นผมดกดำปล่อยสยาย ผิวขาวนวนเนียนดั่งหิมะ ราวกับว่าแค่เป่าลมก็สามารถระเบิดสามารถแตกได้

ในขณะนี้ ดวงตาทั้งสองของนางประกายแวววาว กดมือเปล่าไปทางด้านล่าง

ในพริบตานี้ ร่างกายของจระเข้โบราณที่หมอบคลานอยู่ใจกลางหุบเขาเกิดการสะดุ้ง  ดวงตากลมโตสีเลือดดั่งระฆังทองสัมฤทธิ์คู่แสดงให้เห็นถึงความกลัวอย่างลึกซึ้ง

"ขึ้นมา!"

ทันใดนั้น ริมฝีปากของผู้หญิงชุดสีฟ้าขยับเบาๆ มือขาวเนียนเหมือนหยกสีขาวของเปิดกระเป๋าที่ทอแสงวิบวับที่เอว

ฮู!

กระเป๋านั้นพุ่งออกมาในทันใด โดยมีจระเข้โบราณที่อยู่ข้างใต้ซึ่งกำลังส่งเสียงคำรามอย่างหวาดกลัว ดั่งมีลมกระโชก พร้อมกันนั้นจรเข้ตัวใหญ่มหึมาดั่งภูเขาก็หดเล็กลงทันทีและในที่สุดก็ถูกใส่ลงในกระเป๋า

"วิชากำราบอสูรของศิษย์น้องดูจะช่ำชองยิ่งขึ้น" ชายในชุดเหล็กยิ้ม

จากนั้นทั้งสองก็เปลี่ยนเป็นดั่งสองลำแสงทะยานออกไป

หายไปจากหุบเขาในพริบตาเดียว

แครก!

ในเวลานี้ มีเหงื่อเย็นๆ หยดลงมาจากใบหน้าของหลินฮัน

ในนาทีสุดท้าย หลินหานเห็นได้อย่างชัดเจน ก่อนที่ชายในชุดเหล็กจะออกไปได้หันมามองทางด้านที่ตัวเองอยู่ สายตาที่ล้ำลึกนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา

เขาค้นพบว่าตัวตนของหลินหาน!

ในขณะนั้น หลินหานเปรียบเสมือนเตกลงสู่อเวจจีขุมที่เก้า เห็นทะเลศพกองภูเขาของศพ คลื่นเลือดหมื่นหลี้

ทว่า ในที่สุดชายในชุดเหล็กก็จากไปในที่สุด

หลินหานรู้ว่า บางทีในสายตาของชายชุดเหล็กที่ลึกลับและทรงพลังนั้น เขาเป็นเพียงมดตัวเล็ก ๆ

เขาไม่จำเป็นต้องมาแยแสแค่มดตัวหนึ่ง

แต่กระนั้น หัวใจของหลินหานไม่มีความรู้สึกอันดีต่อผู้ชายที่อยู่ในชุดเหล็กนั้นเลย ตอนนี้ถ้าเขาไม่ก้าวสู่นักพรตวิญญาณชั้นหนึ่ง และมีเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทองปกป้องอยู่ในโลกแห่งจิต เกรงว่า แค่สายตาที่ธรรมดาเรียบง่ายนั้น ก็สามารถทำลายวิญญาณและเจตจำนงของเขาได้

เมื่อคิดได้ดังนี้ อารมณ์ของหลิหานก็เงียบงัน

ไม่ว่าจะเป็นการเดินบนอากาศ หรือการที่ผู้หญิงชุดสีฟ้าใช้กระเป๋าใส่จระเข้โบราณไป หรือชายหนุ่มชุดเหล็กที่เพ่งมองด้วยสายตาก็มีอำนาจที่น่ากลัว รวมถึงคำพูดจากปากของทั้งสอง "ขอบเขตระดับเทพเจินอู่"  สิ่งเหล่านี้เกินความเข้าใจที่หลินหานมีต่อวิชายายุทย์ในปัจจุบัน

ชายหนุ่มและหญิงสองคนนี้ อาจจะมีตบะที่เหนือกว่าปรมาจารย์ยุทย์ไม่รู้ตั้งกี่เท่า

ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังเยาว์วัย

พวกเขามาจากไหน ทำไมถึงมีพลังที่น่ากลัวและน่าเหลือเชื่อเช่นนี้?

ในเวลานี้ หลินหานนึกถึงภาพคราเขายอมรับการสืบทอดจากจักรพรรดิมังกรแห่งไท่กู่ พร้อมเกิดแผ่นดินไหวสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน

ดูเหมือนว่า หนังสือโบราณกล่าวไว้ไม่ผิด

การฝึกฝนของจอมยุทย์ ไม่ได้จำกัดอยู่ที่วิสัยทัศน์ทางโลกอีกต่อไป แต่เป็นการดำรงอยู่ที่ทรงพลังซึ่งสามารถทำลายแผ่นดินได้อย่างแท้จริง

"ฮู!"

หลินหานถอนหายใจ แต่ไม่ได้รู้สึกถอดใจ

เขามีแต่จะตื่นเต้นยิ่งขึ้น

แม้ว่าชายหนุ่มหญิงสองคนนั้นจะน่ากลัวและเขาในตอนนี้ไม่สามารถเอื้อมถึง แต่ด้วยเคล็ดวิชาจักรพรรดิมังกร  หลินหานรู้ดีว่าตราบใดที่เขาพยายามฝึกฝนอย่างหนัก จะต้องมีสักวันหนึ่ง ที่เขาจะเป็นเหมือนชายหญิงลึกลับสองคนนั้น สามารถเดินบนอากาศ ยืนอยู่ที่สูง เหลือบมองปุถุชนเบื้องล่าง

หลินหานสงบใจที่ฮึกเหิมลง จนกลับมาเยือกเย็นได้ในพริบตา

ผู้หญิงชุดสีฟ้าจับจรเข้โบราณไปแล้ว วิกฤตของเขาถูกคลี่คลายในทันที

"ปัง"

หลินหานเสิรมความแข็งแกร่งแก่ร่างกาย กระแทกออกจากถ้ำ

เขาเบิกเนตรนภาแห่งนักพรตวิญญาณ

หากมีนักพรตวิญญาณคนอื่นๆอยู่ที่นี่ จะมองเห็นวดวงตากลมโตอันเยือกเย็นในสภาวะวิญญาณ เนตรแห่งนภา ขยายออกมาจนครอบคลุมหลินหาน ขยายจนสูงถึงท้องฟ้า เพิ่มวิมสัยทัศน์การมองเห็นในมุมกว้างขึ้นแก่หลินหาน

เพียงครู่หนึ่ง หลินหาทางออกเจอ เขาจึงรีบรุดออกไปนอกป่าห่างของเมืองต้วนเทียน

ปกติจะใช้เวลาครึ่งวันในการเดินทางจากป่าหม่างสู่เมืองต้วนเท่ยน

แต่ในตอนนี้ หลินหานต่างจากในอดีตแล้ว

"กายาหงส์สง่า" ของเขาได้ตระหนักรู้ถึงขอบเขตสมบูรณ์ ทำให้วิ่งได้ว่องไว หลินหานวิ่งไปเหมือนสายลม ร่างของเขาเหมือนมังกร รวดเร็วอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ไม่กี่ชั่วโมงเขาได้มาถึงเมืองต้วนเทียน

ตลอดทาง จิตของหลินหานก็ปรากฎซ้ำๆถึงสายตาน่ากลัวที่ชายเหล็กลึกลับจ้องมาที่เขา

ในสายตานั้นดูเหมือนว่าจะมีจิตสังหารที่แกร่งกล้า

ทักษะนี้อยู่เหนือระดับของวิทยายุทย์ทั่วไป

นั่นคือพลังที่อาจเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณและเจตจำนง

วิญญาณ?

ดวงตาของหลินหานเป็นประกายในทันใด “ถ้าข้าใช้เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทองเพื่อทำความเข้าใจหลักการของสายตาสังหารนั่น บางทีข้าอาจจะเรียนรู้วิธีฆ่าทางวิญญาณและเจตจำนงค์ได้”

เขาไม่ใช่คนลังเลไม่แน่นอน

เมื่อพูดว่าทำก็จะทำ!

ในขณะที่หลินหานอยู่บนถนน เขาก็เริ่มเข้าสู่โหมดการทำสู่ความเข้าใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด