ตอนที่แล้วตอนที่ 1015 สองภารกิจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1017 ความท้าทายของเสี่ยวโม่

ตอนที่ 1016 นิรันดร์ขั้น10โดยสมบูรณ์


ในสองภารกิจที่หลินฮวงมอบหมายให้เสี่ยวโม่ อันแรกอาจยากสำหรับคนธรรมดา แต่หลินฮวงคิดว่ามันควรง่ายสำหรับเขา

แม้เขาจะได้รับมอบหมายให้บ่มเพาะระบบอื่น แต่สำหรับตัวตนระดับจักรพรรดิ มันย่อมง่ายที่จะเลื่อนเป็นผู้หลุดพ้น สิ่งที่ยากคือการการทะลวงผ่านระดับหลุดพ้น การให้เขาบ่มเพาะระบบใหม่คือการฝึกให้เขาเชี่ยวชาญพลังอีกครั้ง เหนือสิ่งอื่นใด เขายังต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับพลังตัวเอง

สำหรับภารกิจสอง หลินฮวงสังเกตผ่านการสนทนาพวกเขาว่าเสี่ยวโม่นั้นถูกปลูกฝังมาแบบผิดดๆ สิ่งที่มีอิทธิพลต่อเขาสุดก็คือการมีปฏิสัมพันธ์กับคน

หากเสี่ยวโม่ยังรักษานิสัยเดิมตอนอยู่กับอีกาม่วง มันคงเป็นผลเสียต่อตัวเขาหรือองค์กรที่หลินฮวงกำลังสร้างในอนาคต

ดังนั้น เจ้าแดงจึงแนะนำให้หลินฮวงทำเช่นนี้ เขาสามารถให้เสี่ยวโม่ไปคุยกับคนธรรมดา ซึ่งจะช่วยให้เขาได้มุมมองและแนวคิดใหม่เกี่ยวกับโลกนี้และทำลายการปลูกฝังแปลกๆของพวกอีกาม่วงได้

เหตุผลที่ทำไมเจ้าแดงถึงแนะนำเช่นนั้นเพราะมันได้ให้สมเสร็จฝันร้ายลอบอ่านความทรงจำของเสี่ยวโม่มา มันทำไปเพื่อป้องกันข้อผิพลาดซึ่งอาจเป็นอันตราย หลังเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเสี่ยวโม่ เจ้าแดงก็ตระหนักว่าเสี่ยวโม่ไร้เดียงสาเพราะเขาอาศัยอยู่แต่ในสภาพแวดล้อมปิดตายมาตลอด

อย่างไรก็ตาม เจ้าแดงได้ซ่อนความจริงที่ว่ามันลอบตรวจสอบเสี่ยวโม่จากหลินฮวง

เคล็ดบ่มเพาะโบราณที่หลินฮวงมอบให้เสี่ยวโม่เรียกว่าเทพไร้ผู้ต้าน มันเป็นเคล๋ดบ่มเพาะซึ่งเกิดเข้ากับร่างกายของเสี่ยวโม่ได้แบบพอดิบพอดี ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีชุดทักษะต่อสู้ชื่อไร้ผู้ต้านอยู่อีกด้วย

นอกจากเคล็ดบ่มเพาะนี้ หลินฮวงยังเลือกทักษะต่อสู้ระยะประชิดนับพันในหัวเขาและแบ่งปันพวกมันกับเสี่ยวโม่

 

“นายจะต้องสนใจแต่เทพไร้ผู้ต้านตลอดหนึ่งเดือน ไม่ต้องสนใจทักษะอื่นยกเว้นไร้ผู้ต้าน ทักษะต่อสู้ที่เหลือคือตัวอ้างอิงของนาย นายสามารถเรียนรู้ได้หากนายเกิดสนใจจริงๆ แต่ควรจัดลำดับความสำคัญให้ดี”

หลังหลินฮวงทำการวางแผนเสร็จ เขาก็ทิ้งเจ้าแดงและแมวป่าไว้ขณะที่เขาห้องบ่มเพาะเพื่อจดจ่อกับการบ่มเพาะ

เขาได้รูปแกะสลักเทพสามอันสุดท้ายมาก่อนหน้าและแม้กระทั่งผสานพวกมันแล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาว่าการสร้างวิญญาณต่อสู้อาจใช้เวลานาน เขาจึงพับเก็บมันไว้ก่อน

ในที่สุดเขาก็มีเวลามาทำมันแล้ว

รูปแกะสลักเทพอันแรกคือผู้แบกโลงศพ

มอนสเตอร์ตนนี้มีกล้ามเนื้อสีแดงปูดทั่วร่าง ร่างมันดูเหมือนอึ่งอ่างที่ถูกตักขึ้นจากหม้อไฟ มันดูเหมือนมนุษย์บ้างแต่หัวมันกลับเหมือนสุนัขและกระทิง มีเขี้ยวแหลมและเขาคล้ายกระทิงบนหัวมัน เท้ามันมีกีบ แต่มือมันกลับมีกรงเล็บแหลมเหมือนปีศาจ

มันมีโซ่ดำหนาสองเส้นด้านหลังหัวไหล่และโลงศพดำก็ถูกโซ่มัดอย่างแน่นหนา โลงศพดูหนักมากวัดจากหลังมันที่งอจากน้ำหนัก

มอนสเตอร์ตนนี้คือโปรตอสขุมนรก แม้กระทั่งแผ่นหินก็ยังประหลาดใจที่เห็นมันในรูปลักษณ์เช่นนี้ มันเป็นครั้งแรกที่แผ่นหินเห็นโปรตอสขุมนรกกลายเป็นรูปแกะสลักเทพ

แผ่นหินได้อธิบายการเลือกวิญญาณแท้จริงให้หลินฮวงฟังแล้วก่อนหน้า

เขาตัดสินใจทำตามคำแนะนำของแผ่นหินซึ่งคือการสร้างผู้แบกโลงศพให้เป็นผีเสื้อมรณะ(เปลี่ยนจากผีเสื้อแห่งความตาย)

ผีเสื้อมรณะเชี่ยวชาญประตูหยินหยาง มีเพียงวิญญาณแท้จริงเช่นมันถึงสามารถเดินทางผ่านระหว่างโลกคนเป็นและคนตายได้อย่างอิสระ

แม้ระดับพลังเริ่มต้นมันจะไม่ถือว่าทรงพลังเทียบกับวิญญาณแท้จริงตนอื่น มันก็ยังมีศักยภาพมาก อ้างอิงจากแผ่นหิน มันนับว่าคุ้มค่าแก่การฝึกในบรรดาวิญญาณแท้จริงที่เชี่ยวชาญกฏแห่งความตาย

หลังค้นหาผีเสื้อแห่งความตายในสารานุกรมวิญญาณแท้จริง หลินฮวงก็ขยี้การ์ดเห็นแจ้งและเข้าสู่สภาวะเห็นแจ้ง

ท้ายที่สุดหลินฮวงก็สร้างผีเสื้อมรณะสำเร็จหลังผ่านไป13วัน จากนั้น เขาก็ผสานรูปแกะสลักเทพอันที่8เขาอย่างเป็นทางการ

หลังพักผ่อนอยู่หนึ่งวันและปรับสภาพร่างกายตัวเอง หลินฮวงก็เข้าสู่การสร้างภาพเสมือนรอบสอง

รูปแกะสลักเทพมาในแบบผู้หญิง

หญิงสาวสวมชุดสีม่วงบางจนเกือบกึ่งโปร่งใส ผิวเธอเหมือนหยกเผยออกมาอย่างคลุมเครือภายใต้ผ้าบาง อย่างไรก็ตาม เธอมีผมยาวสีดำจรดเอวแต่กลับไร้ใบหน้าหรือลักษณะใดๆ เธอดูน่ากลัวมาก

ผมยาวดำเธอเหมือนงูจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีจิตสำนึกเป็นของตัวมันเอง พวกมันขยับโดยไม่มีลมและดูน่าขนลุก

มอนสเตอร์ตนนี้ชื่อปีศาจเส้นผมซึ่งถือเป็นวิญญาณชั่วร้ายในบรรดาโปรตอสและเชี่ยวชาญกฏแห่งผนึก

ตามคำอธิบายของแผ่นหิน มอนสเตอร์ที่มีความเข้ากันได้สูงคืออสรพิษพันธนาการ  มันเป็นวิญญาณแท้จริงที่เชี่ยวชาญการผนึกมาก ตำนานกล่าวกันว่ามันคือบรรพบุรุษของเผ่าเมดูซ่า เผ่าซึ่งครอบครองความสามารถผนึกที่ทรงพลังสุดในบรรดาโปรตอสยังได้รับความสามารถมาจากอสรพิษพันธนาการ

ในไม่ช้า หลินฮวงก็พบอสรพิษพันธนาการในสารานุกรมแท้จริง เขาขยี้การ์ดเห็นแจ้งและเข้าสู่สภาวะเห็นแจ้งอีกครั้ง

การสร้างวิญญาณต่อสู้นั้นกินเวลาถึง12วันเต็ม

หลังพักอีกวัน หลินฮวงก็มองรูปแกะสลักเทพสุดท้ายในร่างเขา

รูปแกะสลักเทพตนนี้ดูเหมือนตุ๊กตาของเล่น มันมีแขนขาสั้นและใบหน้าก็ดูเหมือนตัวตลก หน้าท้องมันทำจากนาฬิกาจักรกล ไม่ได้มีแค่เข็มชั่วโมง แต่ยังมีเข็มนาที เข็มวินาทีและระยะเวลาที่สามารถเห็นได้ และยังเห็นกลไกขนาดใหญ่และเล็กภายใน

มันคือวิญญาณเวลา สายพันธ์พิเศษในบรรดาโปรตอส มอนสเตอร์ตนนี้เชี่ยวชาญกฏแห่งเวลาและมันก็ควบคุมกระแสเวลาได้รวมถึงการหยุดเวลา

วิญญาณที่หลินฮวงอยากสร้างผ่านวิญญาณเวลาตนนี้เรียกว่านาฬิการังสรรค์

ตำนานกล่าวกันว่านาฬิการังสรรค์เช่นนั้นถือเป็นนาฬิกาจับเวลาของโลก ด้วยการเปลี่ยนเข็มชั่วโมงบนนาฬิกา มันสามารถควบคุมได้ทั้งชีวิตและความตายทั้งหมด วิญญาณแท้จริงเช่นมันสามารถควบคุมได้แม้กระทั่งความเร็วของเวลา

นาฬิการังสรรค์อยู่บนหน้าแรกของสารานุกรม หลินฮวงเคยเห็นข้อมูลของมันมากว่าหนึ่งครั้งเมื่อพลิกผ่านสารานุกรม ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็มีโอกาสสร้างมันขึ้นมา

เมื่อเขาบดขยี้การ์ดเห็นแจ้งอีกใบ หลินฮวงก็เริ่มการสรรค์สร้าง

การสร้างวิญญาณแท้จริงตนที่สามกินเวลาถึง18วัน มันคือวิญญารแท้จริงที่เขาต้องใช้เวลาสร้างนานสุดในบรรดาวิญญาณแท้จริง10ตน

หลินฮวงปล่อยลมหายใจยาวอย่างโล่งอกเมื่อเห็นวิญญาณต่อสู้ทั้งสิบของเขา

แต่ทว่า การผสานของวิญญาณต่อสู้ทั้งสิบยังไม่สิ้นสุด

หลินฮวงนำกองคริสตัลวิญญาณออกมาและเริ่มป้อนให้วิญญาณต่อสู้ทั้งสามเขา เขาใช้เวลาเกือบครึ่งวันจนกระทั่งพวกมันเลื่อนเป็นจักรพรรดิทองขาว

เนื่องจากเขาไม่มั่นใจว่าคริสตัลวิญญาณที่เหลือจะพอเลื่อนพวกมันเป็นจักรพรรดิทองม่วง เขาจึงเก็บผีเสื้อมรณะที่อ่อนแอสุดไว้ก่อน

เขานำคริสตัลวิญญษณระดับกึ่งเทพสองก้อนสุดท้ายขึ้นมาและป้อนอสรพิษพันธนาการและนาฬิการังสรรค์ตามลำดับ จากนั้นทั้งคู่ก็เลื่อนเป็นจักรพรรดิทองม่วง

ต่อมา หลินฮวงก็ป้อนคริสตัลวิญญาณที่เหลือให้ผีเสื้อมรณะ เมื่อท้องฟ้ามืด ท้ายที่สุดผีเสื้อมรณะก็เลื่อนเป็นจักรพรรดิทองม่วงหลังกินคริสตัลวิญญาณเขาไปจนเหลือไม่ถึงพันก้อน

ในวินาทีนั้น เมื่อวิญญาณต่อสู้ทั้งสิบของเขาเลื่อนเป็นจักรพรรดิทองม่วงจนหมด สุดท้ายก็เขาก็กลายเป็นนิรันดร์ขั้น10โดยสมบูรณ์

 

ปล.วันนี้ฟรีสองตอนเลย

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด