ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0060
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0062

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0061


ตอนที่ 61 : โทสะของนักล่ามังกร

หากมีการประลองระหว่างสิบอันดับแรก มันจะต้องถูกจัดขึ้นที่ลานประลองใหญ่ที่สุด นามของลานประลองตรงกลางคือ แดนยุทธ์มังกรซ่อนเร้น

ฉินหยุนยืนอยู่บริเวณอัฒจันทร์หมายเลขหนึ่งขณะมองร่างงดงามของชี่เม่ยเหลียน เขานึกย้อนกลับไปถึงความทรงจำครั้งยังเด็กที่เกือบจะลืมเลือน แต่แล้วขณะนั้นเอง ใครบางคนได้ถองเข้าใส่สีข้างของเขาจนดึงสติที่หลุดลอยกลับคืน

“เอ่อ... คือ...” เขาหันมองชายคนหนึ่งสวมหน้ากาก กระนั้นก็จดจำได้ว่านี่เป็นหยางฉีเย่ว์ที่ปลอมตัวมา

“เจ้าจ้องมองอะไร?!” หยางฉีเย่ว์หัวเราะซุกซน นางสวมใส่หน้ากากสีขาวปิดบังทั้งใบหน้า ทั้งยังสวมใส่ชุดคลุมสีขาวและหมวกไผ่สาน นับว่าเป็นการปิดบังตัวตนจนแทบจำไม่ได้

ฉินหยุนเพียงยิ้มโดยไม่กล่าวคำใดตอบ เพราะมีผู้คนรายล้อม เขาจึงไม่ค่อยสะดวกจะพูดสักเท่าใดนัก

หลังกรรมการตะโกน “เริ่มได้!” การประลองระหว่างเจ้าหญิงทั้งสองแห่งจักรวรรดิเทียนชี่จึงเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

ชี่เสวี้ยเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวก่อนด้วยความดุดันยิ่ง ราวกับนางพร้อมจะทำอะไรก็ได้เผื่อฉีกหน้าคู่ต่อสู้ให้แหลกเป็นชิ้น เท้าของนางตอนนี้กำลังดุดันพุ่งเข้าหาอีกฝ่าย ด้วยการเคลื่อนไหวดุดันนี้เป็นผลให้หลายคนต่างต้องขมวดคิ้ว

ฉินหยุนเองก็ตระหนกยามได้เห็น เขารู้สึกได้ถึงความเกลียดชังที่นางมีต่ออีกฝ่ายอย่างรุนแรง นอกจากนี้พวกนางทั้งคู่ยังเป็นเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิเทียนชี่!

คงมีแต่เพียงเขาที่เข้าใจความลึกล้ำของเรื่องราวนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ปกติสามัญมากภายในราชวงศ์ หากไม่ใช่เพราะสร้อยข้อมือวิญญาณเทวะเก้าตะวันที่เปลี่ยนแปรสถานการณ์ตัวเขา ตอนนี้เขาคงตายอย่างอนาถที่ชายแดนไปนานแล้ว

ชี่เม่ยเหลียนกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อยขณะหลบการโจมตีของชี่เสวี้ย ใบหน้างดงามของนางคล้ายทอดถอน ชี่เสวี้ยเป็นพี่สาว แต่แล้วนางกลับใช้วิชายุทธ์โหดเหี้ยมโจมตีใส่นางตั้งแต่เริ่ม

“ฝีมือยุทธ์ของชี่เม่ยเหลียนเหมือนจะโดนสะกดข่มทุกทาง การโจมตีทุกครั้งของชี่เสวี้ยคล้ายศึกษามาดีแล้วเพื่อสะกดข่มนาง” หยางฉีเย่ว์เองก็รู้สึกขุ่นเคืองขณะแค่นเสียงเบา

ฉับพลันนั้นเองก็มีคนตะโกนขึ้น “มารดาของชี่เม่ยเหลียนเป็นหญิงรับใช้ในพระราชวัง มารดาขององค์หญิงชี่เสวี้ยคือนางสนมหลัก ลูกคณิกาอย่างชี่เม่ยเหลียนนับว่าห่างไกลกับองค์หญิงชี่เสวี้ยมากนัก”

“เพราะชี่เม่ยเหลียนมีกลิ่นคาวของหญิงรับใช้ มารดานางยังไม่มีอำนาจใด ไม่แปลกใจเลยที่ฝีมือยุทธ์นางจะอ่อนด้อยเพียงนี้”

“ชี่เสวี้ยน่าจะชนะไม่ยาก!”

กลุ่มคนที่พูดคุยกันนี้คือบรรดาศิษย์ของสำนักมีชื่อเสียง ฉินหยุนไม่อยากยุ่งเกี่ยวแต่ก็พอจะบอกได้ว่าคนกลุ่มนี้เอ่ยตะโกนขึ้นเพื่อเอาอกเอาใจชี่เสวี้ย

กระทั่งว่ามีศักดิ์เป็นองค์หญิง ทว่ามารดาของนางคือหญิงรับใช้ในพระราชวัง สถานะของนางในพระราชวังจึงค่อนข้างถูกดูแคลน

นอกจากนี้ มารดาของชี่เม่ยเหลียนยังเสียชีวิตไปนานยิ่ง มันจึงเป็นเรื่องยากอย่างมากที่นางจะเติบโตขึ้นได้ในสภาพแวดล้อมเช่นนั้น!

เมื่อได้ยินหลายคนพูดคุยถึงมารดาของนาง ชี่เม่ยเหลียนยิ่งอารมณ์ย่ำแย่ ทั้งยังต้องเผชิญหน้าการโจมตีดุดันของชี่เสวี้ย นางทำได้เพียงยอมรับแล้ว “ข้า...”

แต่แล้วขณะที่นางกำลังจะเริ่มกล่าว ฝ่ามือของชี่เสวี้ยพลันยื่นออกปลดปล่อยกระแสพลังภายในเย็นเยือกของน้ำแข็งและหิมะ ทั้งสองเปรียบเสมือนดาบอันเหี้ยมโหดที่เย็นเยือก มันคิดแทงเข้าใส่ร่างของชี่เม่ยเหลียน

ชี่เม่ยเหลียนเตรียมยอมรับความพ่ายแพ้อยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่ได้ตั้งท่วงท่าป้องกันแต่อย่างใด นางไม่คิดว่าชี่เสวี้ยจะโหดเหี้ยมได้ถึงขนาดคิดลงมือสังหารนาง

ทุกผู้คนต่างได้เห็นว่าเด็กสาวใสซื่อผู้หนึ่งกำลังร่างปลิวกระเด็นโดยพลังภายในน้ำแข็งและหิมะที่รุนแรง พวกเขาทำได้เพียงลอบถอนใจ ในศึกคนในราชวงศ์ ไม่มีใครกล้าเข้ายุ่ง ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นยั่วยุขั้วอำนาจใดสักฝ่ายเข้า

ฉินหยุนพลันรู้สึกโกรธแค้นขณะกระโจนกายออกเข้าไปคว้าชี่เม่ยเหลียนซึ่งกระเด็นออกนอกลานประลองยุทธ์ พร้อมกันนั้น เขาโคจรกระแสพลังอบอุ่นของพลังภายในอัคคีสีทองม่วงเข้าช่วยเหลือนางรักษาอาการบาดเจ็บ

ชี่เสวี้ยตอนนี้เคลื่อนตัวลงจากลานประลองยุทธ์คิดโจมตีบุปผางามผู้นี้ตั้งแต่ไกลด้วยฝ่ามือที่ปลดปล่อยคลื่นกำลังภายในล้นทะลัก

ฉินหยุนเร่งรีบปล่อยบอลระเบิดพลังภายในรุนแรงออก!

หลังจากพลังภายในของชี่เสวี้ยแตกกระจายด้วยพลังภายในของเขา พลังภายในนั้นกลับกลายเป็นเปลวเพลิงลุกท่วมปกคลุมชี่เสวี้ยเอาไว้เผาไหม้นางจนสภาพน่าสังเวช

นางทำได้เพียงถอนตัวอย่างโกรธแค้น หากก่อเรื่องมากกว่านี้จะกลายเป็นละเมิดกฎ

ก่อนหน้า ชี่เม่ยเหลียนมักให้ความสนใจชายหน้ากากเพราะนางรู้สึกคุ้นเคยกับสายตาคู่นั้น

นางตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดฉินหยุนขณะมองดวงตาอย่างใกล้ชิด เมื่อนางรู้สึกถึงคลื่นพลังภายในอบอุ่น นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกยินดี

“เป็นท่าน พี่หยุน!” ชี่เม่ยเหลียนกล่าวเสียงเบาก่อนหลับตาหมดสติไป

หลังจากฉินหยุนรับชี่เม่ยเหลียนไว้ในอ้อมแขน เขาเร่งรีบออกจากลานประลองยุทธ์มังกรซ่อนเร้นกลับไปยังโถงหลักของตำหนักจารึกเทวะ หยางฉีเย่ว์ก็ตามเขากลับไปพร้อมกัน

“ข้าจะดูแลนางต่อเอง เจ้าต้องเข้าสิบอันดับแรกโดยเร็วแล้วสั่งสอนบทเรียนนางสารเลวชี่เสวี้ยนั่น!” ทันทีเมื่อเห็นโฉมงามที่อาภัพอย่างชี่เม่ยเหลียนได้รับบาดเจ็บ หยางฉีเย่ว์โกรธจัดอย่างรุนแรง

สีหน้าของฉินหยุนดำมืดขณะพยักหน้ารับ หมัดของเขากำเอาไว้แน่นจนแทบส่งเสียงปริแตกออกให้ได้ยิน

ที่ลานประลองยุทธ์มังกรซ่อนเร้น ทุกผู้คนต่างสนทนากันเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหน้ากากและชี่เม่ยเหลียน

ยามเมื่อฉินหยุนกลับมาถึง เขาได้ยินข่าวลือมากมายจนยิ่งโกรธแค้น ทั้งหมดเป็นชี่เสวี้ยจงใจกุข่าวลือขึ้นเพื่อกดดันความรู้สึกของชี่เม่ยเหลียน

ยามเมื่อฝูงชนเห็นชายหน้ากากกลับมาถึง พวกเขาเร่งร้อนปิดปากเงียบไม่พูดกล่าวสิ่งใด พวกเขาเกรงว่าตนอาจต้องพบเจอชายหน้ากากในลานประลอง พวกเขาเกรงว่าอีกฝ่ายจะโจมตีตนอย่างโหดเหี้ยมหากปากมากที่ตรงนี้

ทันทีเมื่อฉินหยุนกลับมาถึง เขาเริ่มท้าประลองนัดต่อไปโดยทันที ผู้โดนท้าประลองคือศิษย์จากจักรวรรดิเทียนชี่ นามนั้นคือตู้หาน อีกฝ่ายเป็นชายอายุเพียงยี่สิบ!

เขาจดจำตู้หานได้ เพื่อให้ชี่เสวี้ยจดจำตนเองได้ เขาถึงขั้นพูดกล่าววาจาไร้มูลความจริงเบื้องหลังของชี่เม่ยเหลียนไปทั่วลานประลองยุทธ์!

ตู้หานเมื่อขึ้นบนลานประลองจึงแค่นเสียง “ชายหน้ากาก ความสัมพันธ์เจ้าและนังแพศยาชี่เม่ยเหลียนคือ? ข้าต้องถอดหน้ากากเจ้าออกให้ได้คอยดูเถอะ”

โดยไม่รอให้กล่าวคำจบ กรรมการประกาศดังก้อง “เริ่มได้!”

ฉินหยุนรวบรวมพลังภายในไว้ที่หมัดพร้อมพุ่งปะทะซึ่งหน้ากับตู้หานโดยทันที

“สวะ!” ฉินหยุนคำรามกราดเกรี้ยวขณะปล่อยหมัดด้วยมือทั้งสอง เพียงพริบตา หมัดของเขารัวออกไปกว่าสิบครั้งจนแทบมีสะเก็ดไฟกระเด็นทั่ว

เพียงพริบตา ตู้หานกลับกลายเป็นมีสภาพจดจำไม่ได้ว่าเป็นผู้คนเพราะหมัดระเบิดรัวแรง ทั้งร่างตอนนี้โดนเผาไหม้หลายแห่ง พลังธาตุยังแตกซ่านกระจายหายไม่หลงเหลือ

ทุกผู้คนที่รับชมถึงกับแข็งทื่อหนาวเย็นสันหลัง ตู้หานเมื่อครู่ยังดีอยู่ แต่เพียงพริบตากลับกลายเป็นพิกลพิการ!

ทุกคนต่างทราบว่านี่คือการล้างแค้นของชายหน้ากาก

หลังตู้หานโดนหามออกไป ฉินหยุนจึงท้าประลองนัดต่อไปโดยทันที เขาจะเจาะจงเลือกผู้เข้าร่วมจากจักรวรรดิเทียนชี่เป็นพิเศษ

ยามเมื่อประลอง อีกฝ่ายเมื่อขึ้นบนลาน ราวกับไม่คิดต่อสู้ พวกเขาเร่งรีบยอมรับความพ่ายแพ้ก่อนพุ่งกายออกจากลานประลอง

หากไม่ขึ้นลานประลอง เท่ากับไม่มีค่าควรให้ต้องใส่ใจ!

หลังโดนฉินหยุนท้าประลอง ขุนนางหนุ่มคนหนึ่งของจักรวรรดิเทียนชี่เกือบเสียชีวิตเพราะต้องรับมือโดยไม่มีจังหวะให้แม้จะกล่าวคำว่า “ยอมแพ้”!

หลายสิบคนที่ไม่เป็นบุตรชายก็ศิษย์ของขุนนางดังที่มีชื่อเสียงล้วนถูกฉินหยุนกระทำจนพิการสิ้นในวันเดียว พวกเขาแทบไม่อาจคลานลงจากลานประลองได้ด้วยซ้ำ!

นี่คือความสูญเสียรุนแรงต่อรุ่นเยาว์ของจักรวรรดิเทียนชี่

ผู้สืบทอดตระกูลชนชั้นสูงเหล่านี้คือผู้ที่เหยียดหยามชี่เม่ยเหลียนครั้งก่อนหน้า ผลลัพธ์ที่ได้คือต้องเผชิญหน้ากับเขาโดยตรงจากคำท้าประลองของเขา พวกเขาส่วนใหญ่มักเลือกถอนตัวแทนที่จะเผชิญหน้ากับฉินหยุน!

ชี่เสวี้ยโกรธแค้นขณะรับชมเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อศิษย์ของเทียนชี่ทั้งหมดเหล่านั้นเป็นคนของนาง และเรื่องที่เกิดขึ้นยังเป็นเพราะนาง พวกเขาทั้งหมดล้วนถูกทำให้พิกลพิการ!

หลังผ่านไปไม่กี่วัน ฉินหยุนที่เปี่ยมด้วยโทสะแรงกล้า ในที่สุดก็ขึ้นสู่อันดับที่สิบเอ็ด

วันนี้เข้าท้าประลองอันดับที่สิบ ในที่สุดเขาก็จะได้ก้าวขึ้นสู่สิบอันดับแรก!

บุคคลซึ่งอยู่อันดับสิบนี้เป็นคนของจักรวรรดิเทียนเชี่ยวจากตระกูลหลิน นามหลินหยาง

แม้ฉินหยุนเป็นบุคคลไร้ตัวตน นามแฝงของเขาคือ “นักล่ามังกร” ตอนนี้นามนี้ถึงกับสะท้านสะเทือนทั่วทั้งนครหลวงแล้ว เป็นเพราะเขาจัดการผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หกไปจำนวนมาก!

ชั่วขณะนี้ ฉินหยุนได้ก้าวขึ้นลานประลองยุทธ์ซึ่งใหญ่ที่สุด เขากำลังได้รับความสนใจจากทุกผู้คน

ชายหน้ากากระดับพลังขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้าสามารถโค่นล้มระดับที่หกได้จำนวนมาก และจนกระทั่งถึงตอนนี้ยังไม่เคยพ่ายแพ้ เรื่องราวนี้แทบทำให้ผู้มาใหม่ที่รับฟังแทบไม่มีใครเชื่อ

หลายคนต่างตระหนักว่านอกจากไม่สามารถใช้กำลังภายในได้ พละกำลังของชายหน้ากากและพลังภายในนั้นทัดเทียมได้กับขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก!

ในสถานการณ์เช่นนี้ส่วนใหญ่ก็ต้องเป็นผู้ฝึกตนที่มีวิญญาณยุทธ์ระดับสูง อย่างน้อยก็ระดับแพลทินัม!

หลินหยางก้าวเดินขึ้นบนลานประลอง ชุดที่สวมใส่คือสีน้ำเงินเข้ม ใบหน้าที่ยาวของอีกฝ่ายเปี่ยมด้วยความผ่อนคลาย

เขามองฉินหยุนพร้อมยิ้มอ่อน “ข้ารับชมการต่อสู้ของเจ้ามาหลายนัด ช่างแข็งแกร่งนัก พละกำลังของพลังภายในนั้นทัดเทียมได้ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก แต่เจ้าก็ยังห่างไกลนัก!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด