ตอนที่แล้วGE182 สะบั้นแส้มังกร [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE184 นางต้องไม่เป็นอะไร [ฟรี]

GE183 แคว้นสมุทร [ฟรี]


เมืองใต้ดิน สถานที่ของข่ายอาคมเคลื่อนย้าย ถูกทำลายจนพินาศ

หยุนโร่วเหว่ยจ้องมองซากข่ายอาคมและเมือง ความกังวลปรากฏขึ้นในใจ

เขาต้อง...ไม่ตาย

“คาดไม่ถึงว่าขุนพลอสูรจะลอบจู่โจมข่ายอาคมเคลื่อนย้าย… ดูเหมือนแม่ทัพซัวหมิงคงไม่ได้ตายเพราะขุนพลอสูร แต่ตายเพราะข่ายอาคมเคลื่อนย้าย...” เจี่ยเซียวถอนหายใจ

“ไม่… เขาไม่ตาย เขาไม่ตายแน่นอน...” หยุนโร่วเหว่ยขบริมฝีปาก ความกังวลเพิ่มพูน...

แคว้นสมุทร ทุ่งดอกไม้สีชมพู...

เมืองยี่โถว เมืองที่อยู่ใกล้ทะเลมากที่สุด ห่างจากทะเลพันลี้ มีทุ่งดอกไม่บานสะพรั่ง

ภายในเมือง มีขุมกำลังที่ทรงพลังที่สุด คือ ‘วิหารนักพรต’

สิ่งที่ขึ้นชื่อที่สุดในเมืองคือเรือล่องสวรรค์ และสระที่ช่วยยกระดับพลัง ‘สระวิญญาณ’

สระวิญญาณตั้งอยู่บนตำแหน่งจองเส้นชีพจรพิภพ ที่นั่นมักจะมีสตรีผู้งดงาม บ้างสวมชุดอาบน้ำ บ้างเปลือยเปล่าลงแช่สระ

ยามนี้เฉินเสวี่ยสภาพไม่สู้ดี

ในข่ายอาคมเคลื่อนย้าย หนิงฝานได้ประทับตราวิญญาณกับมัน แล้วนำมันเข้ากระเป๋าเพื่อรักษาชีวิต

ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายภายในเมืองยี่โถวเปล่งแสง หนิงฝาน และเฉินเสวี่ยปรากฏตัว

แม้เมืองแห่งนี้จะงดงาม แต่หนิงฝานไม่มีเวลาให้ชื่นชม

ยามนี้หนิงฝานอำพรางว่าตนเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง แต่สภาพยังบาดเจ็บสาหัส

เฉินเสวี่ยเองก็ไม่ต่างกัน เพราะร่างเนื้อของมันถูกทำลาย

การปรากฏตัวของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม 2 คน ทำให้วิหารนักพรตเป็นกังวล

ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มสตรี 3 คนเหยียบย่างนภามา พวกนางไม่กล้าประมาท

แต่เมื่อสัมผัสได้ว่าหนิงฝานและเฉินเสวี่ยบาดเจ็บ พวกนางจึงคลายความกังวล

แต่การที่ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มบาดเจ็บได้ขนาดนี้ ก็ทำให้พวกนางสงสัย

พวกนางสวมอาภรณ์ในรูปแบบของแคว้นสมุทร หนึ่งในพวกนางคือสตรีในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขึ้นกลาง อีกสองคนที่เหลือเป็นผู้เชี่ยวชาญในดวงจิตแรกเริ่มขึ้นต้น ทั้งสามดูเหมือสตรีที่แต่งงานแล้ว

ตามธรรมเนียมของเมืองยี่โถว ผู้เชี่ยวชาญสตรีจะได้อาศัยอยู่ภายในเมือง ส่วนบุรุษต้องอาศัยอยู่นอกเมือง มีเพียงบุรุษที่เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มเท่านั้นที่จะเข้ามาในเมืองได้

“สหายเต๋าทั้งสองมาจากแคว้นจินงั้นหรือ?” สตรีในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง กล่าวถามหนิงฝานอย่างสุภาพ นางสังเกตุเห็นว่าหนิงฝานเป็นผู้นำกลุ่ม

“ข้ามีนามว่าซัวหมิง ส่วนนี่สภายเต๋าเฉินเสวี่ย ส่วนนี่ก็จิงสั่วและชู่ซวนเชียนสื่อ เป็นสหายเต๋าของข้าเช่นกัน… เมื่อยามที่พวกข้าเดินทางมา เกิดความผิดพลาดบางอย่าง ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บเช่นนี้ ช่างขายหน้าเสียจริง” หนิงฝานยิ้มเล็กน้อย พลางโยนความผิดให้ข่ายอาคม

“อะไรนะ! ข้ายอาคมผิดพลาด! หรือส่วนป้องกันพลังมิติจะผิดพลาด?”

นางประหลาดใจ ยามนี้ผู้มาเยือนเบื้องหน้าบาดเจ็บจากพลังมิติ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณก็ยากจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้

การที่พวกหนิงฝานรอดออกมาจากข่ายอาคมเคลื่อนย้ายได้นับเป็นโชคดี สตรีสองคนมองหนิงฝานด้วยแววตากังวล แต่มีสตรีอีกนางที่มองหนิงฝานอย่างเกี้ยวพา

นั่นเป็นธรรมชาติของสตรีเมืองนี้

“สหายเต๋าบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ ในเมืองยี่โถวของข้ามีสระวิญญาณ ที่จะช่วยให้สหายเต๋าฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว… เห็นแก่สหายเต๋าเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม เราจะยกเว้นให้เข้าเมืองเป็นกรณีพิเศษ”

“ขอบคุณ… แต่เรื่องอาการบาดเจ็บนั้นเรื่องเล็ก พวกข้าอยากไปทะเลไร้สิ้นสุดทันที สหายเต๋าพอจะช่วยหาเรือล่องสวรรค์ให้พวกข้าได้หรือไม่?”

“อะไรนะ! สหายเต๋าบาดเจ็บขนาดนี้ยังจะเดินทางไปทะเลไร้สิ้นสุด! ยามนี้เรือล่องสวรรค์ยังไม่ว่าง ต่อให้มี พวกนั้นคงไม่กล้าพาท่านไปเสี่ยงชีวิต”

สตรีทั้งสามนำหนิงฝานและคนอื่นๆเข้าเมือง พลางแนะนำเรื่องราวต่างๆของเมืองให้ เมืองยี่โถวมีเรือล่องสวรรค์อยู่ทั้งหมด 10 ลำ เรือที่ออกไปยังไม่กลับมา เร็วสุดที่จะกลับมาคือ 1 เดือนข้างหน้า

ต่อให้ไม่บาดเจ็บ แค่มีแผลเล็กน้อยก็ไม่มีใครยอมไปทะเลไร้สิ้นสุด เพราะนั่นอันตรายและไม่อาจประมาท

เหตุผลที่เรืองล่องสวรรค์รวดเร็ว เพราะมันต้องใช้หลบหนีจาอันตรายในท้องทะเล ความเร็วของเรือนั้นเกือบเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง

ที่สำคัญ ในทะเลไร้สิ้นสุด ยังมีอสูรที่ทรงพลังอย่าง ‘เผ่าเงือก’ อาศัยอยู่

นอกจากเผ่าเงือกแล้วยังมีเผ่าฉลาด พวกมันมีสายตาที่เฉียบคม และมีประสาทการดมกลิ่นโลหิตที่ไม่ธรรมดา ผู้ที่ขึ้นเรือล่องสวรรค์นั้น ไม่มีผู้ใดกล้าฝึกฝนและประมาท เพราะแม้เป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูง ก็ยังถูกพวกมันฉีกเป็นชิ้นๆได้ในพริบตา

การที่มีผู้บาดเจ็บขึ้นเรือล่องสวรรค์ไปจึงเป็นอันตรายอย่างมาก แม้จะเป็นอาการบาเจ็บภายใน แต่ใครจะกล้ากล่าวว่าจะไม่กระอักโลหิตออกมา แล้วชักนำเผ่าเงือก

ดังนั้นแล้ว หนิงฝานจึงต้องรอ

การรั้งรอเพียงเล็กน้อยไม่นับเป็นอันใด และการพักรักษาตัวที่สระวิญญาณนับเป็นตัวเลือกที่ดี

หนิงฝานและจิงสั่วลงแช่สระวิญญาณ เฉินเสวี่ยทำหน้าที่คุ้มกัน

ที่หนิงฝานไม่ปล่อยจิตวิญญาณของเฉินเสวี่ยไป เพราะหนิงฝานมีความคิดบางอย่าง

หากจะปล่อยจิตวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มไป สู้เอามาทำวัสดุหลอมสร้างอาวุธเพื่อให้อาวุธทรงพลังขึ้น หรือจะนำมาช่วยในการปรุงโอสถ ที่จะทำให้คุณภาพของโอสถอยู่สูงขึ้น และยิ่งหากนำไปใช้ในการสร้างศพ ศพที่ได้ก็จะทรงพลังมากขึ้นเช่นกัน

แม้จะถูกหนิงฝานช่วยชีวิต แต่ไม่ได้รับอิสระกลับมา ทำให้มันรู้สึกว่าอนาคตกำลังมืดมน

“สหายเต๋าเฉินไม่ต้องกังวล สหายเต๋าซัวต้องปล่อยเจ้าไปแน่...” จิงสั่วที่แช่อยู่ในสระวิญญาณยิ้มพลางกล่าว

“เป็นไปไม่ได้… สหายเต๋าซัวเป็นคนเลือดเย็น ที่ไม่สังหารข้าทิ้งก็ดีขนาดแล้ว เขาจะปล่อยข้าไปได้ยังไง...” เฉินเสวี่ยถอนหายใจ

“เดี๋ยวจะมีสตรีช่วยเหลือท่าน...” จิงสั่วหัวเราะ

ยามนี้หนิงฝานเองก็อยู่ในสระวิญญาณ เขานั่งพิงห้อนก้อนหนึ่ง ร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้าอย่างที่สุด

การที่เอาตัวรอดจากขุนพลอสูรมาได้ หนิงฝานต้องทุ่มทั้งปราณ กำลังกาย และพลังใจไปจนหมดทุกสิ่ง ทำให้อาการบาดเจ็บของเขาร้ายแรงเป็นอย่างมาก

แต่สระวิญญาณแห่งนี้ก็ช่วยให้เขาผ่อนคลายลงช้าๆ

หนิงฝานประหลาดใจกับสระวิญญาณแห่งนี้มาก นับว่ามันเป็นสมบัติรักษาชั้นยอดเลยก็ได้

ด้วยความเร็วของการรักษา กว่าเรือล่องสวรรค์จะมาคงฟื้นฟูได้ราวๆ 7 หรือ 8 ใน 10 ส่วน

“น่าเสียดายที่ต้องแยกกัน...” หนิงฝานยิ้มพลางส่ายหน้า

รอบสระวิญญาณจะมีข่ายอาคมระดับสูงป้องกันสัมผัสเทพ ยิ่งสระวิญญาณสระใดมีคุณภาพสูง ข่ายอาคมที่คุ้มกันก็ยิ่งสูง… สระวิญญาณที่หนิงฝานแช่อยู่เป็น 1 ใน 3 สระที่ดีที่สุดของเมือง ที่มีไว้สำหรับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม  แต่ถึงอย่างนั้น ในเมืองก็มีแต่สตรี หนิงฝานจึงไม่คิดว่าควรจะมีข่ายอาคมป้องกัน

ภายในสระอบอวนไปด้วยไอน้ำ ชู่ซวนเชียนสื่อผลักประตูเข้ามา เรือนร่างห่มคลุมด้วยผ้าสำหรับอาบน้ำ ใบหน้าแดงก่ำ

นางได้รับการต้อนรับในฐานนะคนรักของหนิงฝาน และตามธรรมแล้ว คนรักต้องอาบน้ำด้วยกัน

เมื่อครั้งที่ขุนพลอสูรจู่โจม แม้หนิงฝานจะต้านรับพลังของอีกฝ่ายเพียงลำพัง แต่นางก็ได้รับผลกระทบจากการปะทะจนบาดเจ็บ จึงต้องรักษาตัวเช่นกัน

ด้วยเหตุนั้น นางจึงต้องมาแช่สระวิญญาณร่วมกับหนิงฝาน

“ข้าก็นึกว่าใคร ที่แท้เป็นสหายเต๋าชู่ซวน” หนิงฝานยิ้มพลางกล่าว แต่นั่นกลับทำให้นางหน้าแดงถึงหู

“เลิกจ้องได้แล้ว ข้าอาย! แต่ดูเหมือนสระวิญญาณจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บเจ้าได้ดีมาก แบบนั้นข้าก็สบายใจ”

นางเดินมาข้างสระ ไม่ได้ถอดผ้าอาบน้ำออก และยังไม่ลงแช่

ตอนนี้นางอายจนทำอะไรไม่ถูก ถึงเหล่าสตรีของเมืองยี่โถวจะมองว่านางและหนิงฝานเป็นคู่รัก แต่แท้จริงแล้วทั้งสองเป็นเพียงสหาย เหตุใดต้องมาอาบน้ำร่วมกันเช่นนี้

“ถ้าสหายเต๋าชู่ซวนลำบากใจ ไม่ต้องเอาผ้าอาบน้ำออกก็ได้ เพราะแค่ในน้ำในสระสัมผัสกาย ปราณธรรมชาติจำนวนมากจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บ และทำให้สดชื่น… แต่ถ้าหากสหายเต๋าอยากเอาผ้าอาบน้ำออก ข้าจะหันหน้าหนีไม่มองก็ได้”

“ไม่มีทาง!” นางมองหนิงฝานที่แกล้งหลับตา เขายังคงแอบหลี่ตามองนาง นางหวนคิดถึงเรื่องที่หนิงฝานเคนช่วยเหลือนางจนทำให้ได้สัมผัสกาย นางยิ่งอายจนน่าแดงก่ำ

แต่สุดท้าย นางก็ตัดสินใจลงสระ

เพียงแต่ยังไม่ถอดผ้าอาบน้ำ ยามนี้นางและหนิงฝานนั่งห่างกันเพียงหนึ่งจ้าง จากสีหน้าของนางดูเหมือนอยากจะกล่าวบางสิ่ง

“เจ้าคงอยากจะขอให้ข้าปล่อยเฉินเสวี่ยไปใช่มั้ย?” หนิงฝานยิ้ม นางเป็นผู้รักความยุติธรรม หากนางเห็นหนิงฝานหลอมวิญญาณของเฉินเสวี่ยไปเป็นสมบัติวิญญาณ นางคงโกรธมาก

“อืม… สหายเต๋าเฉินเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มฝ่ายธรรม ข้าได้ยินมาว่าเขาเป็นคนดี… แล้วก็...”

นางกำลังจะกล่าวต่อ แต่หนิงฝานขมวดคิ้วและยกมือขึ้น

“ปล่อยก็ได้… แต่ข้าไม่อยากได้ยินเจ้ากล่าวชื่นชมบุรุษใดอีก...”

หนิงฝานเองก็ไม่อาจทำร้ายเฉินเสวี่ย เพราะอีกฝ่ายสุภาพกับเขา

แต่ปล่อยก็ปล่อย...

หลังจากกล่าวกับนาง สติของหนิงฝานก็เริ่มเลือนลาง ก่อนจะพิงศิลาหลับไป

การเดินทางข้ามผ่านทั้ง 4 แคว้น และการฆ่าล้างสังหารมามากมาย ทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยอย่างที่สุด

นางมองหนิงฝานพลางตำหนิตนเอง เพราะนางมักจะสร้างปัญหาให้หนิงฝานเสมอ

นางอยากพูดคุยกับหนิงฝานให้มาก เพราะอีกเพียงไม่กี่วัน นางก็ต้องแยกกับหนิงฝานแล้ว

คำที่นางอย่างพูดที่สุด… คืออย่าไปจากนาง

เมื่อหนิงฝานหลับสนิท นางก็ถอนหายใจ ดูเหมือนนางจะไม่มีโอกาสได้กล่าวแล้ว

“เจ้ามักจะออกหน้ารับปัญหาให้ข้าเสมอ… ไปทะเลไร้สิ้นสุดครั้งนี้ เจ้าคงก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว”

นางลุกยืน เดินเข้าหาหนิงฝานและนั่งลงจนกายเกือบสัมผัสกัน

นางปลดผ้าอาบน้ำ สองแขนที่ขาวนวลนำร่างหนิงฝานที่หลับสนิทเข้าสู่อ้อมอก

แม้นางจะอับอายอย่างที่สุด แต่นางไม่ยอมปล่อยหนิงฝาน และกอดเขาอย่างแนบแน่น

ด้วยที่หนิงฝานเหน็ดเหนื่อยจนแทบหมดแรง สิ่งที่เขารู้สึกได้ยามนี้คือ ใบหน้าสัมผัสกับบางสิ่งที่นุ่มละมุน และมีกลิ่นหอม

สายลมพัดพา ไอน้ำลอยวน เสริมให้บรรยากาศดูผ่อนคลายยิ่งขึ้น

ใกล้ถึงเวลาที่ต้องแยกจาก แต่ละคนล้วนต้องเดินไปตามเส้นทางของตน

“หวังว่าเจ้าจะจดจำข้าไว้...”

นางกล่าวกระซิบอย่างแผ่วเบา

จากนั้นก้มลงจูบริมฝีปากหนิงฝานอย่างอ่อนโยน

หวังว่าเจ้าจะสลักข้าไว้ในใจ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด