ตอนที่แล้วตอนที่ 37 เก็บเกี่ยวได้อย่างมหันต์ [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 39 สายตาสังหาร [อ่านฟรี]

ตอนที่ 38 งานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์ [อ่านฟรี]


ตอนที่ 38 งานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์

ภายในถ้ำ หลินหานหลับตาอยู่ แล้วยืนอยู่ด้านหน้าก้อนหินขนาดใหญ่

ในครานี้ เขาได้ลืมตาขึ้น

"บูม"

สสารถ่องแท้ที่น่าสะพรึงกลัวกระหน่ำออกจากจุดตันเถียน หลั่งไหลออกมา แล้วเข้าไปในแขนข้างหนึ่งของหลินหาน

ฮู!

เกือบจะในขณะนั้น แขนทั้งแขนของเขาขยายตัวมากกว่าสองเท่า ชุดสีเขียวปริขาด กล้ามเนื้อผุดขึ้นเป็นมัดมัด แขนเป็นสีเขียวเข้ม

แขนทั้งหมดเฉกเช่นเทด้วยเหล็กหลอมเหลว ทั้งเย็นเยียบและแข็งกล้า!

"กรงเล็บมังกรคราม!"

หลินหานตะโกนเสียงดังในทันใด เขาเขาโบก "แขนมังกร" และตบก้อนหินยักษ์ด้านหน้าตัวเองทันที

"ตู้มมมม"

เสียงตูมตามขนาดใหญ่ดังขึ้น แขนเป็นสีเขียวสลัวจนจรดปลาย ฝ่ามือราวกับกรงเล็บมังกร แข็งแรงและทรงพลัง ระเบิดหินก้อนใหญ่ให้กลายเป็นก้อนเล็กๆโปรยปราย

"ทรงพลังอย่างน่ากลัว! ทั้งที่พึ่งตระหนักได้ถึงระดับออณูสัมฤทธิ์เท่านั้น"

เมื่อดูภาพนี้ หลินหานเองก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นๆ

หากกรงเล็บนี้โจมตีลงไป เกรงว่าต่อให้เป็นผู้มีฝีมือในยุ่ทธิ์ฉะสวรรค์ขั้นก่อเกิด ก็จะถูกฆ่าตายเพราะตัวเขาทันที

แต่ทว่า แค่การโจมตีเท่านี้ กลับทำให้หลินหานสิ้นเปลืองสสารถ่องแท้ในร่างกายถึ1ใน3ส่วนในพริบตา

ถ้าเป็นจอมยุทย์ทั่วไป เกรงว่าจะสิ้นเปลืองสสารถ่องแท้ยิ่งกว่านี้

ในเรื่องนี้ หลินหานแอบรู้สึกกลัวอย่างในใจ แต่แล้วจู่ๆเขาก็มีความคิดที่บ้าบิ่น

ถ้ากระตุ้นกายาจักรพรรดิมังกรไปด้วย ภายใต้สภาวะที่สามารถเพิ่มความพลังต่อสู้ได้สามเท่า แล้วค่อยโจมตีด้วย"กรงเล็บมังกรคราม" ไม่รู้ว่าจะสามารถต่อสู้กับยุทย์ฉะสวรรค์ขั้นสูงสุดได้หรือเปล่า หรือกระทั่งการปะทะกับปรมาจารย์ยุทย์

อย่างไรก็ตาม หลินหานยังไม่มีความกล้าที่จะลองความคิดที่บ้าบิ่นนี้

เพราะหากกระตุ้นกายาจักรพรรดิมังกรแล้วโจมตีสังหารด้วย "กรงเล็บมังกรคราม" กลัวว่าต่อให้มีพลังมังกรและสสารถ่องแท้ในร่างกายตัวเองมากมายเพียงใด เมื่อถึงตอนนั้นจะถูกใช้หมดไปในพริบตา

กายาจักรพรรดิมังกร และวิชายุทย์กึ่งสูงสุดอย่าง"กรงเล็บมังกรคราม" ซึ่งเป็นไพ่ตายในมือสองใบ สามารถกล่าวได้ว่าเป็นอาวุธสังหารที่เกร่งที่สุดของหลินหานในตอนนี้

แม้ว่าเส้นทางนักพรตวิญญาณจะเป็นความลับ แต่ขอบเขตในปัจจุบันยังต่ำเกินไป ไม่สามารถปลดปล่อยพลังสังหารที่รุนแรงอะไรได้ อย่างมากสุดก็เป็นแค่พลังช่วยเสริมเท่านั้น

เมื่อคิดได้ถึงจุดนี้ หลินหานจึงดึงดาบสนิมออกมา

สำหรับหลินหาน วิถีดาบก็เป็นอาวุธสังหารที่รุนแรง อีกอย่าง มันสิ้นเปลืองสสารถ่องแท้น้อยมาก

อย่างไรก็ตาม เคล็ดวิชากระบี่ปลิดชีพสังหารมีระดับสูงเกินไป มันเป็นวิชายุทย์ขั้นสูงสุดโดยแท้จริง 2วันมานี้หลินหานใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำความเข้าใจกรงเล็บมังกรคราม ส่วนเคล็ดวิชากระบี่ปลิดชีพสังหาร หลินหานพึ่งจะเข้าใจในระดับที่สอง นั่นคือ  "รูปแบบเฉือนตัดนภา"

ทว่า แค่เมื่อครู่ก็สิ้นเปลืองพลังวิญญาณจำนวนมาก ในที่สุดหลินหานเริ่มใช้เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทอง มาวิเคราะห์ส่วนที่เหลือของเคล็ดวิชากระบี่ปลิดชีพสังหาร

ดาบรูปแบบที่สี่ "รูปแบบขยี้นภา" เมื่อใดที่สามารถตระหนักเข้าใจได้ มันจะระเบิดพลังสะเทือนท้องฟ้าได้อย่างแน่นอน

จากเนื้อหาที่ได้วิเคราะห์ จึงทราบว่าเคล็ดวิชากระบี่ปลิดชีพสังหารรูปแบบที่สี่ แทบจะเป็นข่ายความคิดแห่งวิชาดาบที่แท้จริง

ในเวลานี้ หลินหานเพ่งจิตมองไปที่จุดตันเถียน ที่นั่น มีหม้อหลอมลวงตาหนึ่งซึ่งกำลังดูดกลืนพลังปราณฟ้าดินโดยรอบทุกเวลาทุกนาที เพื่อนำมาให้เขาใช้ต่อ

นับตั้งแต่การกลั่นเลือดมังกรหยดนั้น หลินหานก็ได้รับความสามารถในการเพิ่มความเร็วในการดูดกลืนถึงสามเท่า

ดังนั้น ความเร็วในการฝึกฝนของเขาจึงเร็วกว่าปกติถึงสามเท่า

เวลาเพียงสองวัน แต่หลินหานที่อยู่ที่นี่ กลับสามารถฝึกตนเทียบเท่าการฝึกตนหกวันเต็มๆ

นี่จึงทำให้สสารถ่องแท้ในของเขาเพิ่มพูนหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ เกือบจะถึงจุดสูงสุดของยุทย์ปัญจสวรรค์ขั้นสูงสุด อีกเพียงแค่ก้าวเดียวก็สามารถก้าวข้ามสู่ยุทย์ฉะสวรรค์

“ด้วยพลังและทักษะของข้าในปัจจุบัน ต่อให้เทียบกับคนในทำเนียบภายในก็น่าจะเป็นตัวตนอันดับต้นๆ หากได้ประจัญหน้ากับหลินต้วนเจี้ยนผู้นั้น คงทำให้อีกฝ่ายเลือดสาดบนสังเวียนเป็นตายได้บ้าง!” หลินหานครุ่นคิดอย่างเงียบบๆ ดวงตาเผยเศษเสี้ยวจิตสังหาร

การถูกดูหมิ่นในวันนั้น เขายังจดจำฝังใจถึงวันนี้

ในวันนั้น ในสายตาของหลินต้วนเจี้ยนมองเขาเป็นดั่งมดก็ไม่ปาน อยากจะฆ่าก็ฆ่า อยากจะปล่อยก็ปล่อย

แต่ตอนนี้ ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

การโดนเหยียดหยาม ไม่ใช่สิ่งที่พึงหวังอีกต่อไป

"รรรรรรรรร!"

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้มีเสียงร้องคำรามดังมาจากข้างนอก ทำให้หลินหานสื่อสีหน้าที่ดูน่าเกลียดเล็กน้อย

สัตว์อสูรราชาของป่าหม่างแห่งเมืองต้วนเทียน จระเข้โบราณตนนั้น หลายวันมานี้มันไม่มีความตั้งใจที่จะจากไปเลย ดูเหมือนมันตั้งใจจะปักหลักอยู่ที่นี่จริงๆ

สิ่งนี้ทำให้หลินหานกร่นด่าจากในหัวใจของเขา

"วันนี้เป็นวันที่งานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์ของทำเนียบภายในจะเริ่มขึ้น แต่ข้าถูกอสูรร้ายที่น่าเกลียดบีบคั้นจนต้องมาหลบอยู่ในถ้ำมืดไร้แสงตะวันแบบนี้... ไม่ได้! ข้าต้องหาวิธีออกไป งานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์ ข้าจะพลาดไม่ได้!"

หลินหานขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ดำดิ่งอยู่กับความคิด ...

……

ณ ตระกูลหลิน แห่งเมืองต้วนเทียน

ศิษย์ทั้งทำเนียบภายในและทำเนียบภายนอกต่างพาตื่นเต้นดีใจ

เพราะวันนี้มันเป็นวันที่งานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์อันยิ่งใหญ่ที่สุดจะเริ่มต้นขึ้น

งานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์ แม้นจะเรียกเป็นงานเลี้ยงน้ำชา แต่ทุกคนรู้ว่านี่เป็นวันที่เหล่าศิษย์อัจฉริยะของทำเทียบภายใจจะแลกเลือดกัน

ศิษย์ทำเนียบภายนอกที่เข้ารอบ 25คนสุดท้ายต่างตั้งหน้าตั้งตารอ หมายมั่นที่จะชิงตำแหน่งศิษย์ทำเนียบภายใน 50 ที่นั่ง

หากประสบความสำเร็จ นั่นหมายถึง ตำแหน่งของเจ้าในตระกูลจะสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด

เงินตรา อำนาจ สถานะ ... ทั้งหมดนี้จะเปลี่ยนแปลง

ณ สังเวียนเป็นตายของศิษย์ทำเนียบภายใน

ด้านหน้า มีคนใหญ่คนโตและระดับสูงของตระกูลจำนวนมากมาร่วมชม

ชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมตัวใหญ่  ร่างกายสูงล่ำกำยำ ดวงตาเปล่งบารมี นั่งตรงที่ใจกลาง มองบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายที่อยู่เบื้องล่าง  ราวกับตัวเองเป็นองค์กษัตริย์

ส่วนเบื้องหน้าสังเวียนเป็นตาย มีบรรดาศิษย์ภายในซึ่งเเข็งแกร่งและเก็บตัวลึกลับในยามปกติ แต่ละคนได้มายืนอยู่เป็นประจักษ์แก่คนในตระกูลนับไม่ถ้วน

อย่างเช่น หลินกู่เทียนผู้เป็นศิษย์อันดับหนึ่งแห่งทำเนียบภายใน และเป็น"หนึ่งในห้าผยอง"แห่งเมืองต้วนเทียน หลินยู่ศิษย์อันดับสอง หลินต้วนเจี้ยนศิษย์อันดับสาม เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อบรรยากาศของงานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์เริ่มเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มีคนมากมายพูดบ่นพึมพำ

"เจ้าหลินหานนั่น ทำไมยังไม่มาอีก?" หลินหรูเหยียนผู้มีรุปโฉมสง่างาม แต่ในเวลานี้ดวงตาคู่งามกวาดมองไปรอบๆด้วยความสงสัย

"คิดไม่ถึงว่าหลินหานจะไม่มา?" ด้านหน้าสังเวียนเป็นตาย หลินต้วนเจี้ยนมองหาร่างของหลินหานไม่เจอ จึงเผยให้เห็นความชั่วร้ายในดวงตา "เจ้าหนูนั่น คงไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะถูกข้าฆ่าหรอกนะ เลยหนีออกจากตระกูลไปแล้ว? ถ้ารู้อย่างงี้ ฆ่าทิ้งตั้งแต่วันนั้นก็แล้วไป! "

ในเวลานี้ ทางด้านของบรรดาศิษย์ทำเนียบภายนอก

ศิษย์ทั้งหลายที่มีอันดับต้นๆ อย่าง หลินเทียน หลินซา หลินเหยียน ต่างเผยสีหน้ากังวลเล็กน้อย

หลินหานไม่มาทำให้พวกเขารู้สึกกระสับกระส่าย

ท้ายที่สุดแล้ว หลินหานได้กลายเป็นเสาหลักและความเชื่อทางจิตวิญญาณในหัวใจของเหล่าศิษย์ทำเนียบภายนอก ถ้าเขาไม่ปรากฏตัวในงานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทย์ครั้งนี้ ศิษย์ทำเทียบภายนอกทุกคนประหนึ่งรับการโจมตีอย่างใหญ่หลวง

หนีไปโดยไม่ต่อสู้?

หลายคนส่ายหัว

พวกเขาชัดเจนว่าหลินหานไม่ใช่คนเช่นนั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลินเหยียน เขารู้ว่าหลินหานเป็นบุคคลประเภทที่ "ยอมหักไม่ยอมงอ" จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหนีไป

“หลินซา เจ้าไปดูยังสถานที่อยู่ของสหายหลินหานหน่อย จะต้องหาเขาให้เจอ” หลินเหยียนนพูดกับชายที่มีใบหน้าเย็นชาซึ่งอยู่ด้านข้างเขา

"ขอรับ!"

หลินซาพยักหน้าแล้วหันหลังเดินออกไป

นับตั้งแต่ที่เขาพ่ายแพ้ต่อหลินหานในหนึ่งการโจมตีตอนที่ไปลงทะเบียน แถมหลินหานยังเป็นตำนานที่ไร้พ่ายในทำเนียบภายนอก ทำให้ในหัวใจของหลินซาหมดสิ้นความโกรธความเกลียด จะมีก็แต่ ความนับถือ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนที่ลั่วเฟยหยุนผู้เป็นอัจฉริยะแห่งตระกูลผู้นำมาทำร้ายศิษย์ทำเนียบภายนอกจำนวนมาก แต่พอหลินหานมาถึง เขาก็แข็งแกร่งอย่างกำแหง บีบคั้นจนลั่วเฟยหยุนต้องชดใช้ต่อหน้าทุกคน

สิ่งนี้ทำให้ใจของหลินซาเต็มไปด้วยความนับถือต่อหลินหาน และเเฝงด้วยความชื่นชมและความเคารพ

ในความเป็นจริง อย่าว่าแต่หลินซาเลย แม้แต่ศิษย์ทำเนียบภายนอกคนอื่นๆต่างถูกหลินหานทำให้ยอมจำนน ไม่ว่าจะเป็นด้านความแข็งแกร่งหรือนิสัยใจคอ

ในเวลานี้ คนที่กระหยิ่มยิ้มย่องที่สุด น่าจะบรรพบุรุษชายวัยกลางคนที่มีหน้าตาดุร้าย นั่งอยู่เก้าอี้ระดับสูงของตระกูลซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก

เขาคือหลินป้าเตา

"เจ้าสวะหลินหานนั่น คงตายอยู่ในปากของสัตว์อสูรแห่งราชาตนนั้นไปแล้ว การที่เจ้านั่นมาอยู่ที่นี่ต่างหากจึงจะเป็นเรื่องน่าแปลกใจ... " สายตาของหลินป้าเตาเย็นชา ยิ้มแย้มอย่างมุ่งร้าย

"ทำไมหลินหานยังไม่มาอีก" ที่นั่งชั้นบนสำหรับระดับสูงของตระกูล มีอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังประหลาดใจจากการที่หลินหานไม่มา

บุคคลนั้น เป็นผู้อาวุโสที่เป็นพิธีกรในงานประลองของศิษย์ทำเนียบภายนอก

ยามนี้ ดวงตาของเขาเผยความสงสัย "หรือมีอะไรเปลี่ยนแปลง? ถ้าเขามา เขาอาจจะคว้าอันดับหนึ่งในสาม ... "

......

ภายในถ้ำที่อยู่ในหุบแขาของป่าหม่างแห่งเมืองต้วนเทียน

หลินหานกำลังครุ่นคิดอย่างหนักเพื่อหาหนทางที่จะหนีไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด