ตอนที่แล้วตอนที่ 234 การว่าจ้าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 236 แทรกซึม 2

ตอนที่ 235 แทรกซึม 1


หานเซี่ยวนำโทรศัพท์ออกห่างหูเขาก่อนแคะหูเขาและกล่าวอย่างไม่มีความสุข“ลดเสียงคุณลงหน่อย”

“ทำไมเธอไม่ปรึกษากับฉัน?”เบนเน็ตกล่าวด้วยความโกรธ“เธอเป็นตัวแทนของตาข่ายมืด การเข้าร่วมสงครามหมายถึงการสูญเสียความเป็นกลางของเรา ผลกระทบเบื้องหลังสิ่งนี้...”

หานเซี่ยวปิดลำโพงและกวาดตามองทหารรับจ้างที่แอบฟังด้วยคำเตือน ที่นั่งมุมเขาอยู่ตรงข้ามทุกคน ดังนั้นทุกคนจึงมองเห็นใบหน้าหานเซี่ยว พวกเขาสับสนว่าต้องทำยังไง

ฉินหยวนคือคนแรกที่ตอบสนอง เขารีบหยิบที่อุดหูขึ้นมาและยัดใส่หู คนอื่นเห็นและเข้าใจ ดังนั้นพวกเขาจึงทำตาม

จากนั้นหานเซี่ยวก็เปิดลำโพง และเบนเน็ตก็พูดจบพอดี เขาแทบไม่ได้ยินอะไร แต่ก็ยังคงตอบเหมือนฟังอยู่ตลอดเวลา

“..ดังนั้น อย่าเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้”เบนเน็ตกล่าว“องค์กรต้นกำเนิดจะต้องแพ้อย่างแน่นอน ไม่ว่าเธอจะมีความแค้นอะไร เธอก็ไม่จำเป็นต้องสะสางด้วยตัวเอง”

“นี่เป็นเรื่องส่วนตัว”หานเซี่ยวตอบ

“ใช่สิ!มันจะไม่ใช่เรื่องส่วนตัวได้ยังไง?!”เบนเน็ตตะโกน

“ยังไงองค์กรต้นกำเนิดก็ไม่อาจดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว”หานเซี่ยวกล่าว“ไม่ใช่ว่านี่เป็นโอกาสงั้นหรอ?การยืนเป็นกลางไม่สำคัญในตอนนี้ ไม่ต้องเป็นห่วง”

“...นี่เธอไม่ได้ฟังการวิเคราะห์ของฉันเลยใช่ไหม!”เบนเน็ตตกตะลึง

จิ๊ รู้แล้วงั้นหรอ หานเซี่ยวเขย่าโทรศัพท์อย่างรวดเร็วและขยับออกห่างพลางตะโกน“ฮัลโหล...ผมอยู่บนเครื่อง..สัญญาณไม่ดีเลย..”

“หยุดโกหก...”

หานเซี่ยวตัดสาย

เบนเน็ตย่อมไม่พอใจอย่างแน่นอน ดังนั้นหานเซี่ยวจึงลอบขอโทษในใจ

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ทำเพราะเบนเน็ตไม่พอใจ ปัจจัยภายนอกไม่มีทางกำหนดการกระทำเขาได้ เขาจะทำตามความคิดตัวเองเท่านั้น

นอกจากนี้ หานเซี่ยวรู้ดีว่าตาข่ายมืดไม่จำเป็นต้องรักษาตัวให้เป็นกลางอีกต่อไป หากองค์กรต้นกำเนิดถูกทำลาย ตาข่ายมืดก็จะเป็นรายต่อไป

ตาข่ายมืดมักดูไร้อันตรายเสมอ แต่ไม่มีใครมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะคงอยู่ต่อไปในอนาคต

ในชีวิตก่อนหน้าเขาตอนจบเวอร์ชั่น1.0 6ประเทศได้แสดงเจตนาคุกคามตาข่ายมืด ตอนนี้องค์กรต้นกำเนิดพบเจอกับภัยทำลายล้างล่วงหน้า2ปีและ6ประเทศก็ยังไม่ได้รับความเสียหาย พวกเขาอาจคุกคามตาข่ายมืดเร็วกว่าเดิม

ในเวลานั้น ผู้บัญชาการมังกรดาราก็เดินเข้ามา โบกแล็บท็อปและกล่าว“อีก8ชั่วโมงเราจะไปถึงอแนเดรีย ปลายทางคือท่าเรือวิหคพเนจรทางฝั่งใต้ นี่เป็นสถานการณ์พื้นฐานของสนามรบทางใต้และภารกิจบางอย่าง เอาไปดูกัน”

หลังเขาพูดจบ ทุกคนก็มองเขาอย่างสับสน

ผู้บัญชาการตกตะลึงเล็กน้อย ควรจะมีคนมารับแล็บท็อปไปจากเขาสิ?

ฉินหยวนตระหนักถึงบางอย่าง เขารีบบอกคนอื่นให้ถอดที่อุดหูและกล่าวอย่างงุ่มง่าม“เอ่อ ช่วยพูดอีกครั้งได้ไหมครับ”

หลังผ่านไปสิบนาที ทุกคนก็มีแล็บท็อปในมือและกำลังศึกษาข้อมูล

หานเซี่ยวกล่าวขึ้น“เอาแผนที่สนามรบทั้งหมดพร้อมอาณาเขตขององค์กรต้นกำเนิดและรูปแบบพื้นฐานของพวกเขามาให้ผม”

ผู้บัญชาการตอบรับ

แผนที่อาณาเขตและแผนผังศัตรูไม่ใช่ความลับ เขาได้รับคำสั่งให้เอาใจปีศาจทมิฬตามความสมเหตุสมผล

เหตุผลที่มังกรดาราปฏิบัติกับเขาอย่างดีเพราะตัวตนของหานเซี่ยว ในแง่ของเกม มันเป็นเพราะเขามีแต้มความสัมพันธ์และแต้มตำนานมากพอ

ข้อมูลเป็นเหตุที่หานเซี่ยวเลือกมาด้วยวิธีนี้ มันไม่ง่ายที่จะบุกเข้าสนามรบ และหากเขาบุ่มบ่ามไปโดยไม่รู้กลยุทธ์ของศัตรู เขาอาจตกอยู่กลางวงล้อม ข้อมูลที่6ประเทศมีเยอะมาก และมันก็สะดวกสำหรับเขาที่จะคิดแผนดำเนินงาน

“ทหารจำนวนมากใกล้กับสำนักงานใหญ่ ทั้งทางบกและอากาศล้วนถูกปิดตาย..”

สำนักงานใหญ่องค์กรต้นกำเนิดมีหลายฐาน แกนกลางจริงๆคือป้อมปราการที่ป้องกันการระเบิด จะซ่อนลึกอยู่ใต้ดินในใจกลางของฐานเหล่านี้ นั่นคือเป้าหมายของหานเซี่ยว

หานเซี่ยวตระหนักว่ามีช่องโหว่เล็กๆมากมายในการวางระบบขององค์กรต้นกำเนิด ซึ่งดูเหมือนจะเป็นโอกาสให้เขาบุกเข้าไป ช่องโหว่เหล่านี้ไม่ชัเจน แต่ก็ไม่ได้ปิดบัง

แปลก หานเซี่ยวลูบคาง ดวงตาเขาเป็นประกาย

...

เครื่องบินขนส่งจอดลงบนแอนเดรีย ประตูห้องโดยสารเปิด และกลิ่นฝุ่นของบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสงคครามก็โชยเข้าจมูก เรือรบจำนวนนับไม่ถ้วนจอดอยู่บนทะเลไกลออกไปและเสียงของใบพัดเฮลิคอปเตอร์ก็ดังอยู่ตลอดเวลา มีรอยไหม้จากการต่อสู้แถวชายฝั่งบนท่าเรือนี้ ทหารมังกรดาราเดินกันให้ควัก

หานเซี่ยวลงเครื่องพร้อมคนอื่น สิ่งที่ตามมาคือขั้นตอนต่างๆซึ่งกินเวลาสองชั่วดมง ในที่สุดทหารรับจ้างก็ข้ามตาข่ายเหล็ก ขึ้นรถขนส่งทหารและเข้าสู่สนามรบผ่านถนน รถกำลังมุ่งหน้าไปแนวหน้าที่กำลังสู้กับองค์กรต้นกำเนิด

หลังลงเครื่อง หานเซี่ยวก็ไม่หยุดเคลื่อนไหว เขารู้สึกได้ถึงบรรยากาศตึงเครียดในสนามรบ บางครั้งเขาเห็นผู้ลี้ภัยในชุดมอมแมมและถอยหนีภายใต้การนำของทหาร คนเหล่านี้คือคนเร่ร่อนในแอนเดรีย ชีวิตพวกเขาแย่พอแล้วและสงครามก็ทำให้มันเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม

ผลกระทบของสงครามยุคเก่ายังทำร้านแอนเดรีย มลภาวะทางรังสีรุนแรงมาก ดังนั้นพืชและสัตว์จึงหาได้ยาก ผู้ลี้ภัยหลายคนมีรอยแผลสีเหลืองดำบนผิวและบางคนก็มีเนื้องอก

พวกเขาลงรถเมื่อมาถึงจุดหมาย ฉินหยวนเดินเข้าหาหานเซี่ยวก่อนที่ผู้บัญชาการจะมาถึง

“ปีศาจทมิฬ เราหวังว่าคุณจะเป็นผู้นำเรา”

เหล่าทหารรับจ้างให้ความเคารพต่อพลัง ตำแหน่งของหานเซี่ยวไม่อาจกังขา การต่อสู้เป็นกลุ่มนับว่าปลอดภัยสุดบนสนามรบและมันก็เป็นสัญชาตญาณที่ต้องติดตามผู้แข็งแกร่ง

หานเซี่ยวโบกมือ หยิบอุปกรณ์เขาขึ้นมาและจากไป

ฉินหยวนตกตะลึง เขารีบตะโกน“คุณจะไปไหน?นั่นเป็นทางออกสนามรบ ภารกิจเราคือ..”

เสียงของหานเซี่ยวดังขึ้น“ฉันไม่สนใจภารกิจ ฉันชอบฉายเดี่ยว”

ทุกคนมองหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้

ไม่จำเป็นที่เขาต้องร่วมมือกับใคร เขาสามารถทำมันได้คนเดียว

..

ไม่กี่วันต่อมา...

ดวงอาทิตย์ได้แผดเผาพื้นของเมืองมิกะ ซึ่งเดิมเคยเป็นอาณานิคมของคนเร่ร่อน มันได้กลายเป็นสนามรบขนาดเล็ก สิ่งปลูกสร้างขนาดเล็กล้วนถูกทำลาย ปลอกกระสุนเกลื่อนพื้น ยังมีเปลวไฟที่ยังไม่ดับซึ่งปล่อยควันำดออกมา

“ฟู่ ฟู่..”

เสียงลมหายใจดังจากด้านหนังอาคารที่พังลงมาครึ่งหนึ่ง ยอดมนุษย์สองสามคนในชุดมังกรดารากำลังซ่อนหลังกำแพงและเฝ้าดูอย่างระมัดกระวัง พวกเขาคือนักสู้ ด้วยมาตรฐานบ่มเพาะของอความารีน นักสู้นับว่าสร้างได้ง่ายสุดเทียบกับสายอื่น

“หัวหน้า สถานการณ์ย่ำแย่มาก องค์กรต้นกำเนิดมีจำนวนมากกว่าเรา พวกมันมีคน200คน ยอดมนุษย์7คนและสุดยอดทหาร15นาย เรามีแค่11คนเท่านั้นและยังอยู่แยกกันอีกด้วย”

“ฉันได้ร้องขอกำลังเสริมไปแล้ว”ฟางหยุนกล่าวเสียงต่ำ“เจ้าหน้าที่แผนก13จะให้การสนับสนุน แต่เราต้องถ่วงเวลาให้ได้สักชั่วโมง”

“หนึ่งชั่วโมง...ยังมีกลุ่มพวกเหนือมนุษย์บัดซบในหมู่สัตรูอีก พวกมันยากจะรับมือ”

ในเวลานั้น เสียงปืนกลกังขึ้นจากระยะไกล เสียงกรีดร้องดังขึ้นแต่ก็หายไปในวินาทีต่อมา

ยังมีกลุ่มผู้ลี้ภัยที่หนีไม่สำเร็จและซ่อนด้วยความกลัว องค์กรต้นกำเนิดกังวลว่าคนของมังกรดาราอาจปลอมเป็นผู้ลี้ภัย ดังนั้นพวกเขาจึงฆ่าทุกคน

“ด้วยผู้ลี้ภัยเหล่านี้ มันจะถ่วงเวลาให้เราได้บ้าง”

ความสมเพชปรากฏในดวงตาฟางหยุน แต่ก็จำต้องพยักหน้าเห็นด้วย ในเวลานี้ พวกเขาต้องใช้ทุกอย่างเพื่อปกป้องตัวเอง สนามรบห้ามมีความเห็นใจ และพวกเขาก็ไม่มีเวลาไปดูแลกลุ่มผู้ลี้ภัย

ไม่มีความยุติธรรมในสงคราม

ในเวลาเดียวกัน บนชั้นสองของอาคาร หานเซี่ยวได้เปลี่ยนหน้าเขาและสวมเสื้อคลุมมอมแมมเพื่อปลอมตัวเป็นผู้ลี้ภัย เขายืนอยู่ข้างหน้าต่างและมองออกไปเพื่อสังเกตการณ์ด้านนอก

สนามรบเป็นเป้าหมายที่เขาตัดสินใจหลังค้นหาอยู่หลายวัน แผนเขาคือฆ่าสมาชิกองค์กรต้นกำเนิที่นี่ เปลี่ยนใบหน้าและปลอมตัว ซึ่งจะช่วยให้แทรกซึมได้ง่ายขึ้น เขาเคยใช้วิธีนี้มาก่อน และก็จะใช้มันอีกครั้ง การหาตัวเขาในสนามรบแสนวุ่นวายนี้ก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร

ความเสี่ยงในการบุกเข้าสำนักงานใหญ่มากเกินไปและจุหมายจองหานเซี่ยวก็คือสำนักงานใต้ดิน ซึ่งยากกว่าเดิมหลายเท่า การแทรกซึมโดยการเปลี่ยนใบหน้าและตัวตนย่อมปลอดภัยและฉลาดกว่าเดิม แม้เขาจะถูกเปิดโปง พวกมันก็ไม่รู้ตัวตนเขาและเขายังสามารถเปลี่ยนเป็นใบหน้าอื่นและแทรกซึมต่อไปได้

ในเวลานั้นเอง เสียงถีบประตูก็ดังมาจากด้านล่าง กลุ่มคนได้เข้ามาตรวจค้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด