ตอนที่แล้ว74 พระเจ้าอวยพร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป76 เราควรจะยืนหยัดต่อต้านความอยุติธรรม

75 ความลึกซึ้งของเต๋านั้นมีเอกลักษณ์และพิเศษ


75 ความลึกซึ้งของเต๋านั้นมีเอกลักษณ์และพิเศษ

 

“เธอคือพี่สาวของฉัน” หวังเย้าพูดกับอินทรีย์ด้วยรอยยิ้ม

 

อินทรีย์กระพือปีกและสงบลง แสดงให้เห็นว่ามันเข้าใจ

 

“นายถึงกับเลี้ยงอินทรีย์เลยเหรอเนี้ย!” หวังรุ่ยมองไปที่อินทรีย์และพูดด้วยความประหลาดใจ

 

“เปล่า มันบาดเจ็บ และผมแค่ช่วยมันไว้” หวังเย้าอธิบาย

 

“แล้วผ้าพันแผลล่ะ?”

 

“ผมพันมันเอง”

 

“นายพันแผลให้มันได้ด้วยเหรอ?”

 

“ใช่ มันต่อต้านในตอนแรก แต่ตอนนี้ดีแล้ว” หวังเย้ายิ้ม

 

เขาเกือบจะได้รับบาดเจ็บในตอนที่เขาพยายามจะพันแผลให้มันครั้งแรก

 

“นายทำได้ยังไงกัน?” หวังรุ่ยถามด้วยความสงสัย หวังรุ่ยคิดว่าอินทรีย์ตัวนี้มันคิดว่าหวังเย้าคือเจ้านายของมัน เธอเคยเห็นคนที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่หลายคน แต่นี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคนที่เลี้ยงอินทรีย์ ถึงแม้จะเคยเห็นในอินเตอร์เนตมาแล้วก็ตาม

 

“ทำให้มันรู้ถึงความดีในจิตใจของเรา”

 

“ความดี?” หวังรุ่ยงุนงง จากนั้นเธอจึงยิ้มให้กับอินทรีย์

 

“เจ้าอินทรีย์ ให้ฉันจับตัวแกแล้วฉันจะเอาเนื้อให้แกนะ” เธอยื่นมือออกมาในตอนที่พูดกับมัน

 

อินทรีย์สยายปีกและจ้องเขม่งไปที่หวังรุ่ย มันเปิดปากออก

 

โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง ซานเซียนเห่าใส่หวังรุ่ย

 

“เอ ซานเซียน นายต้องการอะไรเหรอ?”

 

“พี่ ผมคิดว่าพี่ไม่เข้าใจ” หวังเย้านวดขมับ เขาคิดว่าพี่ของเขากำลังทำเรื่องงี่เง่าอยู่

 

“อะไร? ฉันก็แสดงความดีแล้วไง!”

 

“พี่กำลังล้อเล่นอยู่รึไง? ขนาดซานเซียนยังรู้เลยว่าพี่กำลังเสแสร้งอยู่น่ะ พี่คิดว่าสัตว์พวกนี้โง่หรือไง? พี่เป็นนักแสดงที่แย่มาก พี่ยังต้องฝึกอีกเยอะ”

 

“ก็ได้ แสดงความใจดีของนายให้ฉันเห็นหน่อย พลีสส”

 

“เห้อ ก็ได้” หวังเย้ายิ้มและเข้าไปใกล้อินทรีย์ เขาไม่ได้พูดอะไรเลย แค่ยื่นมือออกไปและจับไปที่ขนของมัน อินทรีย์ไม่ได้ต่อต้านหรือทำร้ายเขา กลับกันมันกำลังพอใจกับการลูบของหวังเย้า หวังรุ่ยงุนงง

 

“เห็นไหม มันง่ายมาก”

 

หวังรุ่ยลองอีก แต่ก็ไม่สามารถทำให้มันลดการป้องกันใส่เธอได้ หวังเย้าให้อาหารมันและเปลี่ยนผ้าพันแผลให้มันมาหลายวัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนแปลกหน้าคนหนึ่งจะทำให้สัตว์ป่าพวกนี้ยอมรับได้ในทันที

 

ในที่สุด หวังรุ่ยก็หมดความอดทนและยอมแพ้ เธอจึงไปที่กระท่อม

 

“เสริฟชาให้ฉันด้วย”

 

“โอเค”

 

“ชาอย่างดี ชาดำฉีเหมินชั้นดีกับกลิ่นหอมๆ” หวังรุ่ยพูด “มันเป็นชาที่ดีจริงๆ” ถึงแม้ว่าฉันจะดื่มมันหลายครั้งแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ดื่ม

 

“เห้อ ทุกคนควรจะได้ดื่มชาดีดีเพื่อดื่มด่ำกับชีวิต พวกคนรวยนี้แตกต่างจากเราจริงๆ ฉันไม่ได้หมายถึงนายนะ” เธอแย้งน้องชายในตอนสุดท้าย

 

“จงมองแต่สิ่งที่ดี ไม่มองสิ่งที่ไม่ดี” หวังเย้าพูดกับตัวเองเบาๆ เขากำลังพูดถึงพี่สาวที่หน้าไม่อายของเขา

 

“ทำไมนายถึงอ่านหนังสือพวกนี้ทุกวัน?” หวังรุ่ยหยิบหนังสือขึ้นมาจากโต๊ะ—จวงจื้อ

 

“พวกมันคือสมบัติของผม” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“สมบัติ? สมบัติแบบไหน? บ้านทองคำหรือสาวงาม?” หวังรุ่ยอ่านหนังสือและเห็นว่ามีแต่บทความโบราณของจีนอยู่ด้านใน เธอประทับใจกับบทความบางบทในนั้น

 

“มันคือศิลปะของเต๋า” หวังเย้าพูด

 

“ฉันรู้จักบางบท แต่มันคือตัวหนังสืออะไร?” หวังรุ่ยมองน้องชายของเธอด้วยความประหลาดใจ “นายโดนล้างสมองเพราะหนังสือพวกนี้รึเปล่า?”

 

“ผมไม่เข้าใจมันทั้งหมดหรอก แต่ผมรู้สึกได้ถึงความสงบจากหนังสือ ผมเรียนบางอย่างจากมันได้” หวังเย้าอธิบาย

 

“ฉันว่านายต้องถูกทำให้งมงายอยู่แน่” หวังรุ่ยพูด “เราไม่อ่านหนังประเภทนี้ ฉันควรจะเผามัน” หวังรุ่ยหอบหนังสือทั้งหมดขึ้นมาในตอนที่เธอพูด

 

“ไม่ ห้ามทำนะ!” หวังเย้าหงุดหงิด

 

“พวกมันมีแค่เรื่องของความเข้าใจและความสงบ!” หวังรุ่ยโต้ตอบ

 

“พี่ เลิกวุ่นวายได้แล้ว รีบกลับบ้านแล้วไปทำกับข้าวได้แล้ว” หวังเย้าแย้งหนังสือกลับมาและผลักหวังรุ่ยออกไปจากกระท่อม

 

ทันใดนั้น เธอก็จ้องไปที่หวังเย้าด้วยดวงตาเปล่งประกาย

 

“พี่ต้องการอะไร?” ทันใดนั้นหวังเย้าก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ไม่ดี

 

“ฉันได้ยินมาจากแม่ว่า นายสามารถขว้างหินโม่ที่หนัก 50กิโล ได้ง่าย แสดงให้ฉันดู” หวังรุ่ยตื่นเต้น

 

ใช่เลย! เขาติดกับแล้ว

 

“โชคร้าย ที่นี่ไม่มีหินโม่”

 

“นายโยนก้อนหินก็ได้นี่” หวังรุ่ยไม่ยอมแพ้ ในสายตาของเธอ นี้มันเจ๋งกว่ากายกรรมและละครสัตว์ซะอีก

 

“ไม่มีหิน”

 

“ไม่มีเลยเหรอ?” หวังรุ่ยมองไปรอบๆและเจอเข้ากับหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง มันมีขนาดทั่วๆไป แต่ไม่สามารถขยับได้ด้วยคนแค่สองคน “ก้อนนั้นล่ะ”

 

“หินก้อนนั้นมันฝังอยู่ในดิน เสียใจด้วย” หวังเย้าพูด

 

“นายก็ลองดูสิ เร็วเข้า” หวังรุ่ยพยายามผลักหินก้อนนั้นด้วยความตื่นเต้น แต่หินนั้นฝังลึกอยู่ในดิน เธอจึงขยับมันไม่ได้เลย

 

หวังเย้าเดินไปที่ก้อนหินแล้วยกมือขึ้น เขาสูดลมหายใจเข้าเพื่อเดินพลังฉี เขาตะโกน “ห่ะ” หวังรุ่ยกลัวแต่หินยังอยู่เหมือนเดิม

 

“เห็นไหม ผมบอกแล้ว ผมขยับมันไม่ได้”

 

“เห้อ! นายทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ งั้นฉันกลับละ” หวังรุ่ยร็สึกผิดหวัง “ทันใดนั้นเธอก็หยุดเดิน”นายกลับบ้านแล้วทานข้าว หลังจากนั้นก็แสดงพลังของนายให้ฉันดู”

 

หวังเย้าถอนหายใจ

 

เธอสมควรที่จะเป็นโสด เพราะมีแต่ความคิดแย่ๆแบบนี้

 

เมื่อพี่ของเขากลับไปแล้ว เขาก็กดหินและเคลื่อนพลังฉีไปที่มัน เขาพยายามกดลงไปที่จุดนั้น แล้วหินก็แตก และเขาก็ตัดลงตรงกลางได้อย่างง่ายดาย ทิ้งไว้เพียงเศษหินกระจายไปทั่ว

 

หวังเย้าดึงมือกลับช้าๆ

 

หลักธรรมชาตินั้นลึกซึ้งอย่างยิ่ง

 

มื้อกลางวัน หวังรุ่ยยังจำได้ดี และบังคับให้หวังเย้าแสดงพลังของเขา สุดท้ายเธอก็ถูกพ่อแม่ดุเอา

 

“ถ้าเกิดคนอื่นรู้เข้าจะทำยังไง? น้องชายของลูกอาจจะถูกมองว่าเป็นสัตว์ประหลาด หรืออาจจะโดนแจ้งตำรวจจับ?!” จางซิวหยิงพูด

 

“ดูลูกสิ ลูกอายุเกือบจะ 30 แล้วแต่ยังทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ ลูกดูงี่เง่าและไม่เรียบร้อยเลย ใครจะอยากแต่งงานกับลูกกัน?!”

 

เมื่อถูกดุ หวังรุ่ยก็เงียบไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด