ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0044
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0046

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0045


ตอนที่ 45 : ออร่าวิญญาณพลังธาตุ

พละกำลังร่างกายของฉินหยุนที่เผยให้เห็น เป็นผลให้เหล่าข้าราชบริพารเฒ่าแตกตื่นจนกระทั่งรู้สึกอิจฉา

หากเขาสามารถรอดพ้นหนึ่งชั่วโมงมาได้จริง แผนการของข้าราชบริพารเฒ่าเหล่านี้ก็ล้มเหลวแล้ว

“นี่คือผลของการแช่กายในสระราชสีห์สวรรค์ถึงสิบวันงั้นหรือ? สิบวันแห่งความทรมานในสระราชสีห์สวรรค์ พอนึกย้อนแล้ว เขาอดทนมาได้อย่างไรกัน?” ติงเทียนฉวนกล่าวกับตนเองเสียงเบา

ทว่ามันก็ดังพอให้ผู้อื่นที่ได้ยินเกิดอาการสั่นกลัว

ทุกคนต่างทราบกันดีว่าเยี่ยนชิงหยู ผู้ซึ่งกำลังบดขยี้ฉินหยุนคล้ายบ้าคลั่งผู้นั้น ก็ได้เข้าสู่สระราชสีห์สวรรค์เช่นเดียวกัน แต่แล้ว เพียงหนึ่งวันเขาก็คลุกคลานออกมาสภาพย่ำแย่ กระทั่งว่าแทบตายอยู่ภายในนั้น!

ตามข่าวลือหนาหู ฉินหยุนเดินออกมาพร้อมหยางฉีเย่ว์ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน!

เยี่ยนชิงหยูเดิมทีคิดว่าใช้เวลาไม่นานก็น่าจะทำให้ฉินหยุนยอมรับด้วยกำลังได้ เขายังเชื่อว่าต่อให้ฉินหยุนไม่ได้ฝึกฝนวิชาของปีศาจ เขาก็ต้องไม่มีทางทนอยู่เฉยเพราะไม่อาจทนรับต่อความเจ็บปวด

แต่แล้ว ฉินหยุนตอนนี้ไม่เผยสัญญาณสิ่งที่เขาคิดเอาไว้เลย อีกฝ่ายมีสีหน้าแน่วแน่ขณะกัดฟันกล้ำกลืนความเจ็บปวดทั้งหมดลงไป!

ส่วนที่น่าสะพรึงที่สุดคือทุกครั้งที่โดนบดขยี้จนมีสภาพไม่ต่างอะไรกับก้อนโคลน เขาจะลุกขึ้นยืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจตนาการไม่ยินยอมนี้เป็นผลให้หลายผู้คนประทับใจได้!

“ไม่ยอมรับ!” ฉินหยุนคำรามเสียงนี้ลั่นภายในใจขณะคลุกคลานยืนขึ้นอย่างยากลำบาก

เยี่ยนชิงหยูกลับกลายเป็นโกรธขึ้ง เขาหันสายตามองพระยาเยี่ยนที่ยืนอยู่ด้านล่างของลานประลอง ไม่ช้าเขาจึงได้เห็นพระยาเยี่ยนพยักหน้าให้เป็นการยอมรับ

ภาพฉากที่เห็นเป็นผลให้หยางฉีเย่ว์ตึงเครียดขึ้นมา ทางด้านติงเทียนฉวนและผู้อำนวยการจางก็เช่นกัน! พวกเขารับรู้ได้ว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร และพวกเขาจะไม่ยินยอมให้ฉินหยุนต้องถูกทำลายที่นี่!

หลังเยี่ยนชิงหยูได้รับการยินยอม เขาจึงเตรียมใช้วิชาทรงพลังทั้งหมดเข้าโจมตีฉินหยุนอย่างไม่ปราณีอีกต่อไป

ชั่วเวลานี้ นาฬิกาทรายยังเหลืออีกกว่าครึ่งที่ยังไม่ร่วงหล่น!

หลังฉินหยุนลุกขึ้นยืน เยี่ยนชิงหยูคำรามร้องดังพร้อมลำแสงกระบี่ยิงออกก่อเกิดเป็นกระบี่สั้น!

“กำลังภายใน!” ใครคนหนึ่งร้องอุทานเสียงดังจนเป็นผลให้ฝูงชนเกิดเสียงฮือฮา

กระบี่สั้นเหล่านั้นก่อเกิดขึ้นจากกลุ่มก้อนกำลังภายใน!

กำลังภายในที่แข็งแกร่งสามารถทะลวงผ่านได้แม้เหล็กกล้า และกระทั่งป่นขยี้ภูเขาสักลูกหนึ่งก็สามารถกระทำ!

กำลังภายในคือพลังทรงอำนาจที่สามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่ออยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก มีเพียงต้องฝึกฝนสามมหาวิถีก่อนเท่านั้นถึงสามารถควบคุมกำลังภายในให้เป็นหนึ่งได้!

กระบี่สั้นกำลังภายในถูกปลดปล่อยเล็งเข้าที่ท้องของฉินหยุน!

“อั่ก!” ฉินหยุนคำรามร้องขณะร่างปลิวกระเด็น เขาตอนนี้นอนกองกับพื้นขณะร่างกระตุก!

ขณะที่หยางฉีเย่ว์คิดพุ่งกายเข้าไป นางได้เห็นดวงตาคู่นั้นของฉินหยุน มันกำลังหดแน่นเพราะความเป็นปวด ราวกับสิ่งนี้คือตัวจุดประกาย ทำให้นางคิดเข้าไปหยุดยั้งเรื่องราวครั้งนี้โดยทันที!

หลังจากกระบี่สั้นกำลังภายในปักเข้าที่ตันเถียนของฉินหยุน กำลังภายในนั้นไม่ได้รับความเสียหายจากพลังธาตุสั่นไหว กลับกัน มันถูกพลันธาตุสั่นไหวดูดกลืนเข้าไป!

หลังพลังธาตุสั่นไหวดูดกลืนกำลังภายในแปลกปลอม มันเริ่มสั่นสะเทือนรุนแรง!

ฉินหยุนคิดว่าพลังธาตุตอนนี้กำลังจะแตกสลายเพราะกำลังภายในที่โจมตีเข้ามา แต่เขากลับต้องประหลาดใจ กระบี่กำลังภายในกลับโดนพลังธาตุดูดกลืน แรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นทั่วร่างของเขาทั้งยังลงลึกถึงไขกระดูก

เขารู้สึกราวกับทุกส่วนในร่างกำลังจะแตกออกเป็นชิ้น

เมื่อมันเริ่มกระบวนการแตกออก พลังธาตุทั้งสองจึงปลดปล่อยพลังปราณเพื่อเข้ารักษาอาการบาดเจ็บอย่างรวดเร็ว!

กระบวนการนี้สร้างความเจ็บปวดมหาศาล แต่ฉินหยุนกลับรู้สึกตื่นเต้นยินดี!

มันเป็นเพราะเขาได้เห็น ว่าพลังธาตุทั้งสองในตันเถียนกำลังหมุนวนด้วยความเร็วสูง บางครั้งเดี๋ยวก็ใหญ่ขึ้น บางครั้งก็เล็กลง หลังผ่านกระบวนการ ฉับพลันพวกมันขยายตัวออก ราวกับพวกมันกำลังหายใจเข้าออก!

“ออร่าวิญญาณพลังธาตุ!”

ฉินหยุนกลับกลายเป็นตื่นเต้นยินดี มีเพียงเมื่อฝึกพลังภายในถึงขั้นสมบูรณ์แล้วเท่านั้นถึงจะมีสิ่งนี้เกิดขึ้น

หากเป็นเคล็ดวิชาระดับสูง กว่าจะสามารถปลดปล่อยพลังธาตุและพลังจิตได้ก็ต้องถึงขั้นสูงเสียก่อน

ออร่าวิญญาณพลังธาตุสามารถทำให้พลังธาตุหายใจเข้าออก ยามเมื่อมันหายใจ ความเร็วหมุนวนจะเพิ่มขึ้น เป็นผลให้พลังธาตุสามารถปลดปล่อยและดูดกลืนพลังปราณได้มากขึ้น

อาจกล่าวได้ว่า แม้ผู้คนที่อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปดหรือเก้า ก็ไม่ใช่ว่าสามารถจะครอบครองออร่าวิญญาณพลังธาตุได้ แต่ฉินหยุนสามารถ!

เยี่ยนชิงหยูเดินเข้าหาฉินหยุนและแค่นเสียงใส่ “เจ้าลุกขึ้นยืนไม่ได้อีกแล้วงั้นสิ?”

เขาพลันก้าวเหยียบที่แผ่นหลังของฉินหยุน

แน่นอนว่าฉินหยุนไม่ได้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เหตุผลก็เพราะพลังธาตุของเขากำลังสั่นสะเทือน เขาในตอนนี้กำลังส่งคลื่นกำลังภายในสู่ทุกส่วนของร่างกายเพื่อบำรุงหล่อเลี้ยงเลือดเนื้อและกระดูก นี่คือปมของวิถีหลอมกระดูกซึ่งถูกคลายออก!

“จงบอกข้ามา เจ้าได้ฝึกฝนวิชาของปีศาจหรือไม่?” เยี่ยนชิงหยูเอ่ยถามเสียงเย็น

อย่างกะทันหัน หยางฉีเย่ว์ตะโกนขึ้น “หากฉินหยุนตายและเจ้าไม่อาจยืนยันได้ว่าเขาฝึกฝนวิชาปีศาจ เช่นนั้นข้า หยางฉีเย่ว์จะทำให้พวกเจ้าต้องชำระความด้วยเลือดต่อให้ข้าต้องใช้ชีวิตนี้เข้าแลก!”

เสียงเย็นเยือกของนางมาพร้อมกับเจตนาฆ่าฟันที่แทงทะลวงลึกถึงกระดูกผู้คน มันกระทั่งปกคลุมทั่วทั้งลานประลองยุทธ์เอาไว้!

เป็นผลให้ทุกคนในที่นี้ต่างรู้สึกเย็นเยือกจับใจ!

“สถาบันยุทธ์ฮัวหลิงของเราไม่เคยปล่อยให้นักเรียนต้องเผชิญหน้ากับความตายต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ ตัวข้าก้าวขึ้นสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าแล้ว ดังนั้นข้าจะกระทำอย่างสุดกำลังเพื่อไม่ให้มันผู้ใดก็ตามที่ข่มเหงนักเรียนข้าที่นี่มีชีวิตรอดกลับออกไป!”

น้ำเสียงของผู้อำนวยการแม้ไม่ดังมาก แต่มันมากพอให้ทุกคนสั่นกลัว!

ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า พละกำลังนี้หมายถึงสิ่งใด? ไม่มีใครในที่นี้ทราบ ทว่ามันมากพอให้พวกเขาหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด!

หากฉินหยุนตายต่อหน้า และไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเขาฝึกฝนวิชาของปีศาจ พระยาเยี่ยนและคณะจะต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดัน จากทั้งหยางฉีเย่ว์และผู้อำนวยการจาง!

โดยเฉพาะหยางฉีเย่ว์ ระดับพลังของนางคือขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า หากนางยอมเสี่ยงชีวิตเข้าแลก ถึงตอนนั้นยากจะบอกได้แล้วว่านางจะก่อการได้น่าสะพรึงเพียงใด

นอกจากนี้ นางยังเป็นศิษย์ของสถาบันยุทธ์เทียนเสวียน

เยี่ยนชิงหยูเผชิญหน้ากับแรงกดดันมหาศาลแล้ว

ย้อนกลับไป เหล่าผู้อาวุโสบอกแก่เขาว่าให้กดดันฉินหยุนใช้วิชาปีศาจออกมา หรือไม่ก็ทำให้มันยอมรับว่าฝึกฝนวิชาพวกนั้น!

แต่แล้ว ฉินหยุนตอนนี้ยังอดทน เขาไม่แม้แต่จะใช้วิชาใดออกมา กระทั่งยอมรับก็ไม่!

เยี่ยนชิงหยูไม่อาจสังหารฉินหยุน หาไม่แล้วเขาและเหล่าผู้อาวุโสจะไม่มีชีวิตรอดกลับไป!

หากปล่อยให้หนึ่งชั่วโมงผ่านพ้น จะเป็นการยืนยันว่าฉินหยุนหาได้ฝึกวิชาของปีศาจ พระยาเยี่ยนและบรรดาข้าราชบริพารเฒ่าต้องคุกเข่าขออภัยต่อหน้าฉินหยุน!

เยี่ยนชิงหยูกัดฟันแน่นขณะปลดปล่อยคลื่นกำลังภายในอีกหนึ่งระลอก!

กระบี่กำลังภายในแทงทะลุเข้าร่างของฉินหยุนจากแผ่นหลัง

ครั้งนี้ก็เป็นเช่นครั้งก่อนหน้า กำลังภายในถูกพลังธาตุสั่นไหวดูดกลืนก่อนจะกระจายมันออกสู่ทุกส่วนของร่างกายเพื่อหล่อเลี้ยงบำรุงกล้ามเนื้อและกระดูก!

ฉินหยุนตระหนักถึงสถานการณ์ตอนนี้ได้ เยี่ยนชิงหยูไม่กล้าลงมือสังหารเขา ไม่เช่นนั้นกว่าครึ่งของคนที่นี่ต้องตายพร้อมกับมัน!

กระทั่งปรมาจารย์เว่ยก็ไม่อาจหลีกหนีความตายพ้น!

เจตนาฆ่าฟันเย็นยะเยือกของหยางฉีเยว์และผู้อำนวยการจางปกคลุมทั้งลานประลองยุทธ์แห่งนี้จนสิ้น

คล้ายกับว่าหากฉินหยุนสิ้นชีวิตเมื่อใด พวกเขาก็พร้อมจะล่าล้างสังหารทุกคนที่นี้ให้กลายเป็นสายธารโลหิต!

บรรยากาศที่โดนกดดันรุนแรงเป็นผลให้หลายคนยากหายใจ

ตอนนี้ราตรีกาลมาเยือนแล้ว ดวงดาวและดวงจันทร์ต่างโดนบดบังโดยเมฆหนา เป็นผลให้กลายเป็นคืนที่มืดมิด

ภายในลานฝึกวิชายุทธ์ของสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง ไม่มีใครกล้าดื่มกินอะไรอีก พวกเขาเพียงแต่หลั่งเหงื่อเย็นทั่วแผ่นหลังขณะจ้องมองทรายภายในนาฬิกาทราย!

บนลานประลองยุทธ์ เยี่ยนชิงหยูทำได้เพียงโจมตีฉินหยุนต่อไปด้วยกำลังภายใน

ฉินหยุนยังไม่ปริปากยอมรับว่าตนฝึกฝนวิชาของปีศาจ และไม่ยอมใช้วิชาปีศาจใดโจมตีตอบโต้ ทั้งยังไม่สลบแต่กลับอดทนต่อความเจ็บปวด!

หนึ่งชั่วโมงเกือบจะผ่านพ้นแล้ว หากฉินหยุนรอดจนถึงตอนนั้น พระยาเยี่ยนและเหล่าข้าราชบริพารเฒ่าจำต้องคุกเข่าต่อหน้าฉินหยุนยอมรับความผิดพลาดครั้งนี้!

มันคือการคุกเข่าต่อหน้าเด็กน้อยผู้หนึ่งต่อหน้าผู้คนนับพัน!

แม้พระยาเยี่ยนและกลุ่มข้าราชบริพารเฒ่าจะเป็นจิ้งจอกเฒ่าผู้โฉดชั่ว พวกเขาก็ไม่เคยคิดว่าฉินหยุนจะมีความมุ่งมั่นแรงกล้าถึงขนาดนี้ มันเป็นเพราะหากเป็นพวกเขาจะไม่มีความมุ่งมั่นเช่นนี้แน่ ดังนั้นพวกเขาจึงมองข้ามความเป็นไปได้นี้ไป

บรรดาผู้ที่ตกอยู่ในกำมือของพวกเขาในอดีตที่ผ่านมา ไม่ว่าจะดื้อรั้นเพียงใด พวกมันไม่เคยอดทนต่อทัณฑ์ทรมานและโดนบีบบังคับให้สารภาพแม้ไม่ได้กระทำ แต่แล้ว การกระทำนั้นคล้ายไม่ได้ผลในคราวนี้

ฉินหยุนฝึกฝนอย่างยากลำบากมาตลอดทั้งห้าปี เป็นผลให้เขามีความมุ่งมั่นแรงกล้าเหนือผู้ใด เป็นความมุ่งมั่นอันแข็งแกร่งสมกับที่เป็นสายเลือดราชวงศ์!

เขาในตอนนี้ยังคงหายใจ และยังปลดปล่อยพลังภายในต่อเนื่องเพื่อไหลผ่านไปทั่วทั้งร่าง อย่างน่าประหลาด เส้นสายสีทองคำอ่อนจางเริ่มก่อเกิด ราวกับมันกำลังเชื่อมโยงกระดูกทั้งหมดของเขาเข้าด้วยกัน

“นี่คือวิถีกระดูก?” ฉินหยุนที่กำลังนอนอยู่กับพื้นตอนนี้ รู้สึกถึงมันได้ด้วยจิตวิญญาณ เพียงความรู้สึกนี้ก็มากพอให้เขาได้ตื่นเต้นยินดีแล้ว

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด