ตอนที่แล้วGE172 ทำพันธะสัญญา ปีกวายุอัสนี [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE174 เจ้าไม่คู่ควร [ฟรี]

GE173 ไสหัวไป [ฟรี]


ยามราตรีเมืองชูโหว่

หนิงฝานและเจี่ยเซียวใช้อาคมเคลื่อนย้ายมุ่งหน้าไปยังเมืองต่างๆ

ด้วยที่ทั้งสองเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม จึงได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ

ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำมีหยกสวรรค์ติดตัวไม่มาก พวกมันจึงพยายามเลี่ยงข่ายอาคมเคลื่อนย้าย เพราะไม่อยากเสียหยกสวรรค์เป็นจำนวนมาก

แต่หนิงฝานและเจี่ยเซียวนั้นต่างไป ทั้งสองมีสถานะสูงส่ง เมื่อร้องขอใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้าย เจ้าเมืองต่างๆก็ไม่กล้าปฏิเสธ นั่นทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำหลายคนได้อานิสงค์ไปด้วย

หนิงฝานและเจี่ยเซียวใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายนับร้อย กระทั่งข้ามผ่านระยะทางกว่าล้านลี้ได้ในเวลา 6 วัน… ยามนี้ทั้งสองมาถึงภูเขาจูซาน

เมื่อทั้งสองมาถึง ทั้งสองตกตะลึงกับภาพที่เห็น

เพราะรอบข้างภูเขาจูซาน มีศพของอสูร ผู้เชี่ยว และอาวุธที่เสียหายกองเป็นพะเนิน กินพื้นที่ไปไกลกว่าหลายพันลี้ โลหิตไหลนองรายกับสายน้ำเชี่ยวกราด เมืองที่อยู่รอบข้างเขาจูซาน อสูรได้บุกทำลาย ผู้คนในเมืองโดนกินไม่เหลือแม้แต่กระดูก

ผู้คนที่ตายไปนับรวมได้ราวแสนคน ในจำนวนนั้น มีผู้เชี่ยวชาญหลายพันคนที่ตกตาย

หากปล่อยให้การบุกจู่โจมนี้ลุกลาม ทางตอนเหนือลามไปถึงทางตะวันตกของแคว้นจินคงได้ถูกพวกมันยึดครองไปจนหมด… หากเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น ผู้คนหลายล้านคงตกตาย

แม้เคยประสบกับการฆ่าล้างสังหารมามากมาย แต่ภาพเบื้องหน้าหนิงฝานยังอดตกตะลึงไม่ได้

หนิงฝานเศร้าใจ แต่นั่นคือชะตากรรมของผู้ฝึกตน

มนุษย์นั้นต้องการเพียงอาหารเติมกระเพาะ ต้องการเตียงนอนอบอุ่น… ชีวิตก็มีเพียงเท่านั้น แต่การรุกรานของปีศาจ ทำให้วิถีชีวิตเหล่านั้นหายไป

จากภาพที่เห็น หนิงฝานและเจี่ยเซียวคิดเห็นต่างกัน

ภาพความตายของผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เจี่ยเซียวเศร้าหมองและเริ่มหวาดกลัว

แต่หนิงฝานกลับคิดว่า อสูรเหล่านั้นเป็นอันตรายร้ายแรง หากพวกมันหลุดรอดจากที่นี่ไปได้ เมืองอื่นๆจะถูกทำลาย ผู้คนจำนวนมากจะถูกสังหาร

ในระหว่างทางที่มา เจี่ยเซียวได้บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงเมือง 3 แห่งที่ถูกอสูรทำลาย

เมืองที่ตั้งอยู่รอบนอกเขาจูซานถูกทำลาย ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นเขตอันตรายร้ายแรง ท่านเสวี่ยที่เพิ่งมาเยือนได้รับบาดเจ็บกลับไป ทำให้ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มทั้งหมดต้องรั้งอยู่ และเป็นกำลังหลักที่ต้านรับการบุกของอสูร รวมถึงการโต้กลับพวกมัน

ดูเหมือนจิงสั่วและชู่ซวนเชียนสื่อจะถูกโยกย้ายมาคุ้มกันที่นี่ด้วย ไม่รู้ยามนี้ทั้งสองจะเป็นยังไงบ้าง

หนิงฝานและเจี่ยเซียวมาถึงรอบนอกของเขาจูซาน ยามนี้ยังคงมีอสูรบุกจู่โจม แต่พวกมันมีจำนวนไม่มากนัก ในขณะเดียวกัน สัมผัสเทพของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณก็กวาดผ่านมายังหนิงฝานและเจี่ยเซียว

สัมผัสเทพของคนผู้นั้นคือท่านเสวี่ย

การที่ท่านเสวี่ยยังรั้งอยู่ แสดงว่าสถานการณ์เลวร้ายเป็นอย่างมาก

เจี่ยเซียวอยากจะขึ้นเขาจูซาน แต่หนิงฝานปฏิเสธ

“สหายเต๋าเจี่ย ท่านขึ้นเขาไปพบผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มคนอื่นๆก่อนเถอะ ข้าจะไปหาสหายก่อน...”

“สหายเต๋าซัว สถานะการณ์ยามนี้ร้ายแรงอย่างที่สุด อย่าได้เสียเวลาอีกเลย...”

หนิงฝานไม่ได้ใส่ใจกับคำกล่าวของเจี่ยเซียว เขาเหยียบย่างรุ้งหิมะไปยังกำแพงเมืองรอบนอกของเขาจูซาน

เจี่ยเซียวทำได้เพียงส่ายหน้า มันรู้ว่าสหายของหนิงฝานอยู่ที่นี่

ดังนั้นมันจึงเลือกไปพบท่านเสวี่ยก่อน...

เขาจูซาน คือภูเขาขนาดใหญ่ที่ทอดยาวกว่าพันลี้ มีเมืองขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนยอดเขาและรอบข้าง

อสูรที่บุกจู่โจม เข้าสังหารผู้เชี่ยวชาญอย่างโหดเหี้ยม แม้พวกมันจะเป็นอสูรในขอบเขตเปิดเส้นชีพจร หรือประสานวิญญาณ พวกมันปีนป่ายกำแพงเมือง บุกจู่โจมอย่างไม่หวาดกลัว

สัตว์อสูรบิน บนิข้ามผ่านกำเมืองสูงใหญ่ จู่โจมผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้ารักษากำแพงเมือง

นอกจากนี้ยังมีอสูรที่วิ่งเข้าจู่โจมข่ายอาคมเมืองโดยตรง กัด แทะ ข่วน ตะปบ เพื่อสร้างความเสียหาย แต่เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่คุ้มกันก็จะสังหารพวกมัน เพราะไม่อย่างนั้น พวกมันจะระเบิดตัวเอง สร้างความเสียหายร้ายแรงกับข่ายอาคม หรือไม่ก็ทำให้ผู้เชี่ยวชาญตกตายไปพร้อมกัน… พวกมันอาศัยกลยุทธ์เอาจำนวนเข้าสู้

ยามนี้ข่ายอาคมป้องเมืองเสียหายไปกว่า 3 ใน 10 ส่วน แม้จะมีหยกสวรรค์คอยเติมพลังงาน แต่ก็ยากจะฟื้นฟู

มีอสูรในขอบเขตแก่นทองคำบางตัวที่กลายร่างเป็นมนุษย์ บุกจู่โจมสังหารผู้เชี่ยวชาญบนกำแพงเมือง หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำขึ้นไป ก็ไม่มีผู้ใดต้านทานพวกมันได้

ยามนี้ชู่ซวนเชียนสื่อรับมือกับสงครามบนกำแพงเมือง สีหน้านางยังคงสงบ ในมือถืออาวุธคู่กายที่อาบโชกไปด้วยโลหิตอสูร

การจู่โจมเพียงครั้งเดียวสามารถสังหารอสูรในขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้น แต่เมื่อจู่โจมต่อเนื่องไม่กี่กระบวนท่า อสูรในขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงสุดก็ถูกสังหาร

แต่ด้วยพวกมันมีจำนวนมากเกินไป นางจึงเลี่ยงความกังวลไม่ได้

ยิ่งนานไปยิ่งรับมือพวกมันได้ยาก หากเป็นเช่นนี้ อีกไม่นานแคว้นจินคงถูกทำลาย

แต่นั่นก็เป็นเพียงความกังวล ไม่ได้บั่นทอนจิตใจของนางแม้แต่น้อย

เพราะเมื่อถึงอาการบาดเจ็บของหนิงฝานที่นางได้เห็น ความกังวลเหล่านั้นก็หายไป

“นี่คือเส้นทางของการฝึกตน… หากไม่สังหารก็ถูกสังหาร”

นางไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้ นางกลับคิดถึงมันอย่างไม่รู้ตัว

นางกระชับวงแหวนจักรวาลแน่น สะบัดโลหิตอสูรที่อาบโชกออก แล้วทะยานเข้าจู่โจมเหล่าอสูรที่ถาโถม

อสูรร่างมนุษย์ในขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงสุด 4 ตนเข้ารุมล้อมนาง

การรับมือกับพวกมันทั้ง 4 ทำให้นางสิ้นเปลืองปราณไปมาก

หากนางประมาทแม้เพียงนิด การจู่โจมของพวกมันจะเข้าถึงตัว

“แย่แล้ว!”

ดวงตานางเบิกกว้าง แม้นางจะพยายามจะใช้ปีกผีเสื้อของนาง ใช้ย่างก้าวพริบตาหลบหนี แต่ปราณของนางเหลือน้อยเกินไป จึงไม่อาจหลบการจู่โจมได้พ้น

แต่ในชั่วพริบตานั้น รอบบริเวณนั้นกว่าพันจ้างได้ถูกแช่แข็ง อสูรทั้งหมดในบริเวณกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง ก่อนแตกเป็นเสี่ยงๆ

หมัดทะลายน้ำแข็ง

อสูรร่างมนุษย์ทั้ง 4 ยังไม่ตาย พวกมันกระอักโลหิตคำโต ก่อนเร่งทะยานถอน

ในขณะที่นางกำลังตกตะลึง ร่างของนางก็เข้าไปอยู่ในอ้อมอกของคนผู้หนึ่ง!

กลิ่นอายของคนผู้นี้ช่างคุ้นเคย... รอยยิ้มช่างคุ้นเคย… แววตาช่างคุ้นเคย...

“ขอโทษที่มาช้า!”

เมื่อกล่าวจบ เงาร่างของคนผู้นั้นแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงสีดำหายไป

อสูรร่างมนุษย์ทั้ง 4 แตกตื่นอย่างที่สุด เพราะผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มปรากฏตัว!

พวกมันหลบหนีสุดชีวิต แต่ไม่อาจตามความเร็วหนิงฝานได้ทัน!

ลำแสงสี่สายเข้าปะทะร่าง

อัสนีฟาดฝ่าร่างของพวกมันจนไม่อาจขยับ!

หมัดทะลายน้ำแข็งแช่แข็งร่าง!

เท้าย่ำร่างพวกมันจนแตกสลาย!

พลังของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม ทำให้ผู้เชี่ยวชาญบริเวณนั้นตกตะลึง

“ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มมาช่วยเราแล้ว!”

“น่าแปลก ทำไมผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มไม่ได้รักษาท่านเสวี่ย… หรือเพราะท่านเป็นห่วงชีวิตพวกเรา”

ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ไม่รู้ว่าหนิงฝานเป็นใคร แต่ฉากที่ช่วยชีวิตพวกมัน ได้สลักลึกลงไปในใจ

“เจ้ามาที่นี่ทำไม? อาการบาดเจ็บของเจ้าเป็นยังไงบ้าง?” นางโผเข้าหาหนิงฝาน แม้นางรู้ว่าเป็นสิ่งไม่ควร แต่นางไม่อาจห้ามใจเมื่อได้เห็นใบหน้าที่ซีดขาวของหนิงฝาน

“ข้าไม่เป็นไรหรอก...” หนิงฝานส่ายหน้า ที่ใบหน้าเขาดูซีดเซียว เพราะเขาใส่แก่นโลหิตในการทำพันธะสัญญากับปีกวายุอัสนี

หนิงฝานไม่อยากกล่าวให้มากความ เขาจึงประครองร่างนางเหยียบย่างนภาไป

ยามนี้หนิงฝานไม่ได้คิดล่วงเกินนาง เพราะในใจของเขา อัดแน่นไปด้วยเจตนาสังหาร

เขานำขวดโอสถโลหิตหลอมออกมา แล้วกินมันเข้าไปทั้งหมด!

เจตนาสังหารที่อัดแน่น และฤทธิ์ของโอสถคลั่ง จะถูกผลาญไปการสังหาร

“ตาย!”

สัมผัสกระบี่สีดำทมิฬ กวาดผ่านรอบข้างกว่าพันลี้

อสูรในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มนับหมื่น อสูรในขอบเขตประสานวิญญาณนับร้อย อสูรในขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้นนับ 10 ตายภายใต้สัมผัสกระบี่!

แสงสีดำกวาดผ่านรอบภูเขาจูซาน โลหิตจำนวนมหาศาลพุ่งกระฉูด

อสูรในขอบเขตแก่นทองคำขั้นกลางหวาดกลัวและหลบหนีสุดชีวิต เหล่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่อยู่บนเขาตกตะลึง และเร่งใช้สัมผัสเทพค้นหาต้นตอที่มา

“สัมผัสกระบี่ของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม! สหายเต๋าผู้นั้นทรงพลังนัก! หรือจะเป็นผู้เชี่ยวชาญแคว้นอื่นที่มาช่วยเหลือแคว้นจิน?”

“อาจจะเป็นผู้ที่ราชาแคว้นจินแต่งตั้งให้เป็นเจ็ดแม่ทัพแห่งแคว้นจิน… ซัวหมิง?”

อสูรที่รุกราน ถูกสยบด้วยการสังหารของหนิงฝานผู้เดียว!

รวดเร็ว… รวดเร็วเกินไปแล้ว! หากเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น อย่างน้อยต้องเวลา 1 ชั่วยามจึงสังหารอสูรจำนวนนี้ได้... แต่หากจะสังหารให้เร็วขนาดนี้ อย่างน้อยต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง

การสังหารอสูรของหนิงฝานกลายเป็นที่จับตาของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มจำนวนมาก

เพียงพริบตา แต้มการสังหารของหนิงฝานพุ่งสูงถึง 119,762 แต้มในพริบตา

แม้วิชากระดูกยักษ์ของหนิงฝานยังไม่บรรลุขอบเขต แต่ร่างกายของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นเป็น 15 จ้างได้ อีกไม่นานคงทะลวงขอบเขต

ฤทธิ์โอสถโลหิตหลอมที่กินเข้าไปเมื่อครู่ จางหายไปกับการสังหารในพริบตา!

“ได้แต้มเร็วกว่าที่ข้าคิดไว้มาก!” แววตาหนิงฝานเป็นประกาย เขาสามารถหาแต้ม 3 แสนสำหรับ 3 คนได้ไม่ยาก

ด้วยความแข็งแกร่งระดับหนิงฝาน การหาแต้มได้หลายล้านในช่วงเวลา 3 เดือนไม่ใช่เรื่องยาก

บางที แต้มระดับนั้นอาจแลกเป็นสมบัติชั้นยอดกับราชาแคว้นจินได้

“เจ้าหรือซัวหมิง?” เสียงสายหนึ่งสะท้อนก้องไปทั่วนภา เป็นเสียงของท่านเสวี่ย!

“ผู้เยาว์ซัวหมิงคารวะท่านเสวี่ย!” หนิงฝานสั่นสะท้านกับแรงกดดันของอีกฝ่าย

และดูเหมือนมันจะต้องการแก่นปราณเยือกแข็งมาก

“ไม่ต้องมากพิธี เข้ามาพบข้าเดี๋ยวนี้”

น้ำเสียงของท่านเสวี่ยดูเรียบเฉย แต่ก็แฝงด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

เท่าที่มันเห็น หนิงฝานเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญกึ่งแก่นทองคำ และมีดาราอัสนีในครอบครอง

นอกจากนี้ มันยังเห็นโลหิตอสูรที่ไหลเวียน และเห็นกระดูกเงินภายในร่าง

สิ่งที่มันประหลาดใจที่สุดคือเพลิง แม้หนิงฝานจะเป็นผู้เชี่ยวชาญวิชาน้ำแข็ง แต่มันกลับสัมผัสได้ถึงเพลิงอย่างชัดเจน

“เด็กผู้นี้ไม่มีแก่นปราณน้ำแข็ง… แต่มีเพลิงปีศาจทมิฬ! ในโลกพิรุณมีผู้ครอบครองเพลิงชนิดนี้อยู่ 11 คน แต่เพลิงของเด็กคนนี้ต่างออกไป… กลิ่นอายที่ได้ทำให้ข้านึกถึงคนผู้หนึ่ง!”

เมื่อมันขบคิดและแน่ใจ สีหน้ามันก็แปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่แห่งวิหารพิรุณ การที่สีหน้าของมันจะแปรเปลี่ยนเช่นนี้ ช่างหาได้ยาก แม้มันเผชิญหน้ากับขุนพลอสูร มันยังไม่ตกใจเช่นนี้

“เพลิงนี่… ไม่ผิดแน่ กลิ่นอายของหานหยวนจี๋! ไม่ผิดแน่ นี่เป็นเพลิงของหานหยวนจี๋ ข้าเคยเห็นมัน ไม่ผิดแน่… ไม่ผิดแน่!”

ยามนี้หนิงฝานกำลังขบคิดวิธีรับมือท่านเสวี่ย แต่เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกลับเริ่มหวาดกลัว

เพราะกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากเพลิงปีศาจทมิฬ ได้ส่งคำเตือนมายังตัวมัน

“ไสหัวไป!”

คำเตือนนี้ทำให้จิตใจของท่านเสวี่ยสั่นสะท้าน

แม้กลิ่นอายนั้นไม่ได้ทรงพลังมากนัก แต่กลับทำให้ท่านเสวี่ยรู้สึกราวกับตนเป็นเพียงมดปลวก

และนั่นคือความต่างชั้นระหว่างมนุษย์กับเซียน… เซียนที่แท้จริงในแดนสวรรค์

ความคิดที่จะช่วงชิงเพลิงปีศาจ ได้หายไปจากความคิดของมัน

หนิงฝานไม่รู้ว่า การที่หานหยวนจี๋ผู้เป็นอาจารย์  ได้มอบเพลิงปีศาจทมิฬให้นั้น ก็เพื่อเป็นการปกป้องตัวเขา

ชายชราปกป้องโดยที่หนิงฝานไม่รู้ตัว เมื่อเพลิงปีศาจทมิฬหายไปจากตน ชายชราก็แก่ตัวลงอย่างรวดเร็ว เพราะในเพลิงปีศาจทมิฬนั้น ได้แฝงไปด้วยพลังเซียนของชายชรา

ชายชราเป็นกังวลอยู่เสมอว่าหนิงฝานจะถูกผู้เชี่ยวชาญระดับสูงกว่าสังหาร จึงได้มอบเพลิงปีศาจทมิฬให้

ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของชายชรา แต่ในระดับผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขึ้นไป จะรู้จักชื่อเสียงของชายชราเป็นอย่างดี

ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก ไม่มีผู้ใดไม่รู้จักชายชรา!

การปกป้องคุ้มครองของผู้เป็นอาจารย์นั้น ไม่จำเป็นต้องกล่าวเป็นคำพูด ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวอธิบาย แต่เป็นการกระทำที่คงอยู่เช่นนั้นเรื่อยมา

ศิษย์ของหานหยวนจี๋ แม้เป็นเทพกษัตริย์โลกพิรุณก็ไม่กล้าแตะต้อง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด