ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0043 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0045 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0044 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ

สารบัญ จอมเวทอหังการ

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 44 : วิถีกระดูก

หยางฉีเย่ว์ดึงตัวฉินหยุนเข้ามาสนทนา เพราะนางเคยได้ยินชื่อเยี่ยนชิงหยูมาก่อน และนางทราบว่าเขาแข็งแกร่งมาก

นางหันมองกลุ่มคนก่อนกล่าว “ฉินหยุน ด้วยพรสวรรค์ระดับเจ้า เจ้าสามารถสำเร็จเรื่องราวยิ่งใหญ่ได้มากมายแม้ไม่ได้เข้าร่วมสถาบันยุทธ์ใดก็ตาม”

ฉินหยุนกล่าว “อาจารย์โปรดเชื่อในตัวข้า! ข้าไม่ใช่คนที่กระทำอันใดตามอำเภอใจ แต่ที่ทำก็เพื่อให้ผู้อื่นได้ทราบว่าท่านไม่ได้กำลังปกป้องปีศาจร้าย และนักเรียนของท่านนั้นยอดเยี่ยมเพียงใด!”

น้ำเสียงของเขาสงบทว่าก็ประกอบไปด้วยความอหังการในตนเอง

เมื่อหยางฉีเย่ว์เห็นว่าฉินหยุนตั้งใจแน่วแน่ทั้งยังมีความมั่นใจ นางถอนหายใจออกเล็กน้อยก่อนปล่อยมือ เพื่อยินยอมให้เขาเดินขึ้นลานประลองยุทธ์!

พระยาเยี่ยนยิ้มแทบไม่หุบขณะกล่าว “เจ้าเพียงต้องอดทนสักหนึ่งชั่วโมง ภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ไม่ยินยอมให้มีการยอมรับความพ่ายแพ้หรือร้องขออื่นใดแต่อย่างใด! จะเป็นหรือตายล้วนเป็นสวรรค์ตัดสินแล้ว!”

ตอนนี้เอง เขาหันมองยังปรมาจารย์เว่ยและกล่าวคำ “เพื่อให้เป็นไปอย่างยุติธรรมที่สุด ข้าขอให้ปรมาจารย์เว่ยสร้างค่ายกล เพื่อไม่ให้ผู้ใดเข้าหรือออกจนกว่าหนึ่งชั่วโมงจะผ่านพ้น!”

ทันใดนี้เอง ฝูงชนพลันระเบิดเสียงฮือฮาดังสนั่น!

เยี่ยนชิงหยูหาได้กระโดดพรวดจากที่นั่งขึ้นมา กลับกัน เขาเพียงหย่อนกายลงที่ลานประลองประหนึ่งใบไม้บางเบาที่ร่วงโรยลงมา วิชาเคลื่อนไหวของเขาเพียงเท่านี้ก็นับว่ามากพอเรียกคำชมเชยจำนวนไม่น้อยได้แล้ว

อีกฝ่ายสวมใส่ชุดสีคราม ใบหน้านั้นหล่อเหลา คิ้วเป็นริ้วสวยงาม ทั้งยังมีดวงตาเป็นประกายดังหมู่ดาว ดวงตาคู่นั้นตอนนี้เต็มไปด้วยความเดียดฉันท์ขณะสำรวจมองฉินหยุน

ปรมาจารย์เว่ยทำการปักธงขนาดเล็กจำนวนหนึ่งเอาไว้รอบลานประลอง ไม่ช้าค่ายอาคมจึงติดตั้งแล้วเสร็จ

เมื่อพระยาเยี่ยนและกลุ่มข้าราชบริพารเฒ่าพบว่าเรื่องราวสำเร็จได้ด้วยดี สีหน้าพวกเขาล้วนยินดียิ่ง พวกเขากระทั่งหัวเราะออกจากใจขณะดื่มฉลองกันเอง พวกเขากำลังยินดีที่จะได้เห็นฉินหยุนตายต่อหน้าต่อตา

เยี่ยนหยุนเองก็สุขใจไม่น้อยขณะมองฉินหยุนด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความอาฆาต นางยิ้มกล่าวหันไปถามคนข้างกาย “พี่คุน ฉินหยุนจบสิ้นแล้วใช่ไหม?”

“ชิงหยูนับเป็นพี่ชายเจ้า เจ้าไม่ทราบพละกำลังของเขาหรือ? สถาบันยุทธ์ชิงเสวียนคือสถาบันยุทธ์ระดับเสวียน นักเรียนของสถาบันนั้นล้วนมีพรสวรรค์น่าพรั่นพรึง ไม่มีทางที่ฉินหยุนที่มีพลังเพียงขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้าจะสามารถรับมือได้! ต่อให้มันอยู่ระดับที่หก ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่ามันจะไม่ได้รับบาดเจ็บหากเผชิญหน้ากับพี่ชายของเจ้า!” เว่ยเสวียนคุนเผยรอยยิ้มยินดีเช่นกัน ฉินหยุนคือบุคคลที่เขาเกลียดเข้ากระดูกดำ เขาต้องการเห็นอีกฝ่ายตายอย่างน่าสังเวช

สีหน้าของผู้อำนวยการเคร่งเครียดทั้งยังเย็นเยือก เขานำเอานาฬิกาทรายสำหรับเวลาหนึ่งชั่วโมงออกมาพร้อมพลิกกลับด้าน จากนั้นจึงประกาศเริ่มการประลองยุทธ์นับจากที่ทรายเม็ดแรกร่วงหล่น!

แน่นอนว่าเรื่องราวครั้งนี้แทบไม่อาจนับเป็นการประลองยุทธ์ เพราะพละกำลังของเยี่ยนชิงหยูและฉินหยุนแตกต่างกันเกินไป!

ตราบเท่าที่ฉินหยุนสามารถอดทนได้ถึงชั่วโมงและไม่ใช้วิชาปีศาจใดออกมา ทุกคนจะเชื่อว่าเขาคือผู้บริสุทธิ์!

เยี่ยนชิงหยูคือคนของตระกูลเยี่ยน เขาย่อมต้องเชี่ยวชาญก้าวกลืนเมฆาเป็นอย่างดี ทันทีเมื่อได้สัญญาณเริ่ม เขาพลันพุ่งตัวประหนึ่งแสงวูบไหว กระทั่งเกิดภาพติดตาลากเป็นทางยาวตามมา!

เมื่อเขาอยู่ห่างจากฉินหยุนราวสองเมตร ฝ่ามือนั้นยกขึ้นขณะปล่อยลมพายุออก พลังภายในของเขาผสมผสานอยู่ภายในลมพายุขณะพุ่งทะยานเข้าหาฉินหยุน

“เร็วมาก เร็วกว่าเราอีก!” เมื่อฉินหยุนเห็นเยี่ยนชิงหยูเริ่มโจมตี เขาพลันตระหนัก โดยทันที เขากัดฟันแน่นขณะพยายามต่อต้าน แต่ว่ามันไม่มีที่ให้เขาได้หลบพ้น

ลมพายุคล้ายมีดเข้าเชือดเฉือนร่างกายเขา มันเชือดผ่านไปมานับไม่ถ้วนเป็นผลให้เกิดรอยฉีกขาดตามเสื้อผ้าเขาหลายแห่ง

โชคยังดีที่เขาย้ายพลังภายในไปสะสมไว้ตามกล้ามเนื้อ จึงเป็นผลให้มันเกิดการแน่นตัวขึ้นเพื่อต้านทานพลัง ไม่เช่นนั้นร่างของเขาคงเต็มไปด้วยบาดแผลแล้ว

แม้เขาสกัดไว้ได้ แต่ก็ยังโดนกดดันจนต้องถอยแทบติดกำแพงสายลมที่เกิดขึ้นเพราะค่ายอาคม

พระยาเยี่ยนเริ่มหัวเราะเสียงดังออกขณะกล่าวด้วยสีหน้าอันชอบธรรม “ชิงหยูครอบครองวิญญาณยุทธ์กระบี่ เพียงใช้มือเขาก็สามารถปลดปล่อยปราณกระบี่ออกมาได้ ตอนนี้เพื่อกดดันฉินหยุนให้ปลดปล่อยวิชาปีศาจออกมา เขารู้ว่าควรลงมือที่ระดับใด เขาจะไม่ลงมือสังหารฉินหยุนในทันที เพราะหากไม่เช่นนั้นผู้คนจะไม่เชื่อ!”

พลังขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หกสามารถใช้กำลังภายที่อันทรงพลังออกมาได้ ทว่าเยี่ยนชิงหยูยังไม่ได้ใช้ออกมา

“เจ้าทำเสี่ยวหยุนบาดเจ็บ ตอนนี้ข้าจะให้เจ้าได้ชดใช้เป็นสิบเท่าที่นางโดน!” เยี่ยนชิงหยูแค่นเสียงขณะไหวมือ เขาส่งคลื่นลมหมุนรุนแรงพัดเข้าหาทางฉินหยุน

หลังร่างฉินหยุนโดนสายลมปกคลุมไว้ เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ของมีคมกำลังกรีดผ่านร่างกายราวกับเข็มนับไม่ถ้วนทิ่มแทง เขาแทบทนไม่ไหวจนต้องร้องออกด้วยความเจ็บปวด

ถัดจากนั้น เยี่ยนชิงหยูพลันสับฝ่ามือออกปลดปล่อยปราณกระบี่คมกล้าออกมา

ลำแสงกระบี่นี้ปกคลุมพื้นที่เอาไว้ขณะพวกมันทำหน้าที่ทิ่มแทงเข้าใส่กระดูกเขาราวเข็มนับพัน ความเจ็บปวดนี้เป็นผลให้ฉินหยุนต้องกรีดร้องอย่างน่าสังเวช!

เยี่ยนหยุนหัวเราะคิกคักขณะเว่ยเสวียนคุนเผยสีหน้ายินดีทั้งยังยกไวน์ขึ้นจิบ

เหล่าข้าราชบริพารเฒ่าอดยิ้มยินดีจนปากแทบกว้างถึงหูไม่ไหว พวกเขาล้วนคิดว่าฉินหยุนไม่ช้าต้องจบสิ้นแล้ว พวกเขาอดยินดีกันไม่ได้จริง ๆ!

หยางฉีเย่ว์กำหมัดเอาไว้แน่นขณะเห็นเรื่องราวดำเนินไป ใบหน้าของนางเย็นเยือก ฟันนั้นกัดกันแน่นจนแทบแตก คลื่นแห่งความโกรธเกรี้ยวกำลังสุมในใจนางเปี่ยมล้น!

“เหอะ!”

เมื่อเยี่ยนชิงหยูได้เห็นว่าฉินหยุนไร้พลังต่อกรเพียงใด เขาจึงต่อยเข้าที่ท้องของอีกฝ่ายด้วยฝ่ามือ ด้วยการโจมตีหนักหน่วงเล็งที่ตันเถียน ร่างฉินหยุนปลิวกระเด็น ร่างนั้นปะทะกับกำแพงค่ายอาคมทั้งยังกระอักเลือดออกมา!

โดยทันที ผู้คนหลายพันในลานกว้างต่างร้องอุทานอย่างตระหนกตกใจ!

บางคนรู้สึกเสียดาย บางคนรู้สึกตื่นเต้น และบางคนรู้สึกว่านี่ไร้เหตุผลสิ้นดี

ด้วยฝ่ามือของเยี่ยนชิงหยูหนักหนา ทั้งฉินหยุนไม่อาจตั้งการป้องกันขึ้นได้ พลังธาตุภายในตันเถียนของเขาได้รับความเสียหายรุนแรงแล้ว!

ทุกคนต่างรู้สึกว่าต่อให้อีกฝ่ายไม่ตาย แต่ร่างกายท่อนล่างก็อาจต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียงแล้ว

เด็กหนุ่มอายุสิบห้าที่ครอบครองขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า เขากลับต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ฝูงชนไม่น้อยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป

หยางฉีเย่ว์รับชมเรื่องราวด้วยสีหน้าไร้อาการแล้ว ฝ่ามือที่โจมตีเข้าเมื่อครู่เป็นผลให้ใจของนางแทบสลาย แต่หลังจากได้เห็นฉินหยุนค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนก็ค่อยทำให้นางถอนหายใจโล่งอกได้บ้าง

นางทราบว่าฉินหยุนมีร่างกายภาพที่แข็งแกร่งทรงพลัง เขากระทั่งแช่กายในสระราชสีห์สวรรค์ได้ถึงสิบวัน หลังผ่านการฝึกอีกหลายครั้ง ความแข็งแกร่งนั้นไม่มีทางถูกโค่นล้มได้โดยง่าย!

ได้เห็นฉินหยุนยืนขึ้น บรรดาผู้ชมต่างลอบร้องอุทานกันออกมา!

เรื่องนี้ชวนประหลาดใจเกินไปแล้ว!

“ดี มาดูกันว่าเจ้าจะทนได้แค่ไหน!” สีหน้าของเยี่ยนชิงหยูแปรเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก ขณะที่เห็นอีกฝ่ายยืนหยัดกายขึ้นนี้ไม่ต่างอะไรกับโดนยั่วยุ พลังภายในคล้ายกระบี่ก่อตัวขึ้นตวัดผ่านจนเกิดพายุหมุนรุนแรง มันยกร่างของฉินหยุนขึ้นกลางอากาศ

ร่างฉินหยุนตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยลำแสงกระบี่พุ่งผ่านไปมาราวกับถูกเถาองุ่นมีหนามห่อหุ้มร่างกายเอาไว้ ลำแสงกระบี่เหล่านั้นคิดทะลวงผ่านกระดูก ไม่ว่าจะร่างกายหรือกระดูกพวกมันล้วนมีอำนาจทะลุทะลวง!

“อดทนไว้!” แม้ฉินหยุนเจ็บปวดรุนแรง แต่สติของเขายังกระจ่างชัด เขาเร่งร้อนใช้วิชาหยางสีดำเริ่มทำการหมุนวนพลังธาตุแห่งที่สอง จากนั้นจึงกลั่นพวกมันขึ้นเป็นพลังภายในให้ไหลเวียนทั่วร่างกาย

ตอนนี้เขามั่นใจได้ว่าพลังภายในของตนยังไม่ได้แตกสลาย

ฉินหยุนควบคุมพลังภายในให้ไหลผ่านร่างกายขณะผสานรวมกับลำแสงกระบี่ทิ่มแทงกระดูกให้รวมตัวกันก่อนจะบังคับให้พวกมันเข้าถึงกระดูกของเขาเพื่อเป็นการบำรุงหล่อเลี้ยง!

ก่อนหน้านี้หยางฉีเย่ว์เคยกล่าวเอาไว้ ว่าหนทางรวดเร็วที่สุดซึ่งจะควบแน่นวิถีกระดูกได้นั้นคือกระตุ้นร่างกาย!

ตามปกติเขาจำเป็นต้องใช้วัตถุที่มีสรรพคุณทางยาอันล้ำค่าและเลือดของสัตว์ปีศาจระดับสูงเพื่อทำการหลอมรวมเป็นโอสถเหลว จากนั้นจึงค่อยแช่ร่างกายในโอสถเหล่านั้น

ฉินหยุนไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะหาทางแช่บ่อโอสถล้ำค่านั้นได้ ดังนั้นเขาจึงเหลือแต่วิธีนี้ให้เลือกใช้

เขามองที่เยี่ยนชิงหยูขณะกัดฟันอดทนอย่างเงียบงัน “อย่าได้วางใจไป ข้ากำลังใช้ปราณกระบี่ของเจ้าหลอมวิถีกระดูกขึ้น!”

ตู้ม!

เยี่ยนชิงหยูยังคงกดดันฉินหยุนหนักอย่างต่อเนื่องด้วยปราณกระบี่ มันทุบตีเข้าใส่ร่างของฉินหยุนไม่ต่างอะไรกับกระสอบทรายเพื่อทำลายมันให้พังอย่างต่อเนื่อง พละกำลังของเขาตอนนี้ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น

ทุกคนที่รับชมเรื่องราวอยู่คล้ายด้านชาไปตามกัน!

สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวไม่ใช่วิธีการทรมานของเยี่ยนชิงหยู แต่เป็นร่างกายอันแข็งแกร่งของฉินหยุน!

ทุกครั้งที่ฉินหยุนโดนการโจมตีรุนแรง ทุกคนจะคิดว่าเขาต้องล้มแน่นิ่งกับพื้น

แต่แล้ว เขากลับสามารถฝืนสังขารลุกขึ้นยืนได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า!

ด้วยเจตจำนงแรงกล้าถึงระดับนี้ เป็นผลให้หลายคนรู้สึกชื่นชมเขาจากใจ!

หยางฉีเย่ว์กำมือที่ขาวราวหยกแก้วของนางเอาไว้แน่น ภายในใจนั้นเปี่ยมไปด้วยบาดแผล นางรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจทุกครั้งที่เห็นเรื่องราวดำเนินไป

นางจะไม่เห็นได้อย่างไรว่าฉินหยุนกำลังหลอมวิถีกระดูก? ทว่าเรื่องนี้มันโหดร้ายจนเกินไป นางไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงแต่รับชมและเป็นกังวลว่าฉินหยุนจะประสบกับอุบัติเหตุใดระหว่างกระบวนการหรือไม่

เหล่าข้าราชบริพารเฒ่าที่ก่อนหน้านี้ยินดีพลันเคร่งเครียด เรื่องราวไม่ได้เป็นไปอย่างที่พวกเขาคิดเสียแล้ว!

4.5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด