ตอนที่แล้วตอนที่ 37 ไม่อยู่ในสายตา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 39 ถ้ำมังกรลับแล

ตอนที่ 38 ผนวกตระกูล


ในขณะนั้น สายตาของผู้คนที่จ้องมองไปที่ฉู่ชิงหยุนได้เปลี่ยนแปลงไป และไม่คิดว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มอายุสิบหกปี บุคลิกที่เด็ดขาดของเขามีมากกว่าใครหลายคนที่อยู่ที่นี่ซะอีก

"ผู้นำตระกูลไป๋ ผู้นำตระกูลหู และผู้นำตระกูลซุน แล้วพวกเจ้าล่ะ?" ฉู่ชิงหยุนพูดออกมาขณะจ้องมองผู้นำตระกูลทั้งสามคน

ร่างของผู้นำตระกูลทั้งสามคนเริ่มสั่นเทาและรีบพูดตอบรับทันทีว่า "ผู้นำตระกูลฉู่ นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด พวกข้า..."

ก่อนที่พวกเขาจะได้พูดจบ พวกเขารู้สึกว่าโลกทั้งใบกำลังหมุน หัวของพวกเขาลอยขึ้นไปในอากาศและตกลงบนพื้น

ตุบ ตุบ ตุบ!

ร่างของพวกเขาทั้งสามคนล้มลงกับพื้น โลหิตที่พุ่งออกมาจากลำคอทำให้ฝูงชนรู้สึกหวาดกลัวมาก และไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเมื่อเห็นผู้นำตระกูลทั้งสามคนตายด้วยน้ำมือของฉู่ชิงหยุน

พวกเขาไม่อาจอธิบายอารมณ์ที่รู้สึกในปัจจุบันออกมาได้ ตอนแรกพวกเขาเป็นกลุ่มคนที่มากันหลายคนและคิดว่าการจะสังหารฉู่ชิงหยุนแลกกับผลึกเพลิงวิญญาณนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก

แต่ในปัจจุบัน ผลลัพธ์กลับตาลปัตรไปหมด!

ฉู่ชิงหยุนสามารถสังหารฉู่ผิงเทียนและผู้นำตระกูลอีกสี่คนได้อย่างไม่ลังเล ฉากดังกล่าวพวกเขาไม่มีวันลืมเด็ดขาด

"ผู้นำตระกูลฉู่ ตระกูลหยางของพวกข้ารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการกระทำของพวกเรา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกข้ายินดีที่จะเป็นคนรับใช้ของท่าน ได้โปรดไว้ชีวิตของพวกเราด้วย" ผู้นำตระกูลหยางรีบกล่าวขณะคุกเข่าลงกับพื้น

"ตระกูลเจิ้งของพวกข้าเองก็เช่นกัน และพวกข้ายินดีที่จะเป็นวัวและม้าให้กับผู้นำตระกูลฉู่!"

โดนปกติแล้ว เหล่าผู้นำตระกูลนั้นจะมีความหยิ่งยโสในตัวเอง แต่ตอนนี้พวกเขาทุกคนกำลังคุกเข่าต่อหน้าฉู่ชิงหยุนพร้อมกับร้องขอความเมมตา

พวกเขาตระหนักดีว่าด้วยความช่วยเหลือของปรมาจารย์พิษเหยียน ทำให้จุดอ่อนของตระกูลฉู่กลายเป็นจุดแข็ง และในอนาคตอันใกล้ ตระกูลฉู่จะต้องเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดและพลิกโฉมเมืองซีเฟิงได้อย่างแน่นอน

เนื่องจากฉู่ชิงหยุนไม่ต้องการเป็นพันธมิตรกับพวกเขา เช่นนั้นพวกเขาก็ยินดีที่จะเป็นคนรับใช้ของฉู่ชิงหยุนเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองและตระกูลของพวกเขา

ปรมาจารย์พิษเหยียนหันไปมองฉู่ชิงหยุน แต่เห็นฉู่ชิงหยุนยักคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงเหน็บแนมว่า "ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเจ้า พวกเจ้าคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นคนรับใช้ของข้าอย่างนั้นรึ?"

คนพวกนี้มีระดับพลังที่แตกต่างกัน แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดมีระดับพลังอยู่ที่ระดับจิตวิญญาณขั้นสี่เท่านั้น เขาจะใช้ประโยชน์อะไรได้ มีแต่เสียเวลาเปล่าเท่านั้น

ทันทีที่พวกเขาได้ยินคำพูดของฉู่ชิงหยุน สีหน้าของพวกเขาเริ่มดูโศกเศร้า และเมื่อพวกเขานึกถึงการตายที่น่าหวาดกลัวของหลินฉงเตาและคนอื่นๆแล้ว มันทำให้หัวใจของพวกเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้น

ความกลัวที่ก่อตัวขึ้นในใจนั้นแรงกล้ามาก ทำให้สีหน้าของพวกเขาซีดขาวราวกับศพ

"แต่……"

ในขณะที่ทุกคนตกอยู่ในความสิ้นหวัง เสียงที่ไม่แยแสของฉู่ชิงหยุนได้ดังขึ้นมาทำให้ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายไปด้วยความหวังและจ้องมองไปที่เขาอย่างใจจดใจจ่อราวกับกลัวว่าจะพลาดคำพูดที่เขาพูดออกมา

"แต่ถ้าพวกเจ้ายินดีที่จะรับใช้ฉู่หู่ในฐานะเจ้านาย ข้าจะพิจารณาเรื่องของพวกเจ้าอีกที" ฉู่ชิงหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส และทำให้ฝูงชนรู้สึกประหลาดใจ ฉู่หู่คือใคร? คนรับใช้ตัวเล็กที่อยู่ด้านข้างฉู่ชิงหยุนอย่างนั้นรึ?

ฉู่หู่เองก็ตกใจและรู้สึกสับสนเล็กน้อย

พวกเขาเป็นจอมยุทธที่แข็งแกร่งจากหลายเมือง และมีหลายคนที่เป็นถึงผู้นำตระกูล พวกเขามีอำนาจพลังมากมายอยู่ในมือ แต่ต้องเป็นคนรับใช้ของเจ้าเด็กนี่?

"อะไร? หรือว่าพวกเจ้าไม่ต้องการ?" น้ำเสียงของฉู่ชิงหยุนกลายเป็นเย็นชาและปรมาจารย์พิษเหยียนก้าวเท้าออกไปข้างหน้าทันทีพร้อมที่จะลงมือทุกเมื่อ มันทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่ามีมีดที่มองไม่เห็นกำลังจ่ออยู่ที่ลำคอของพวกเขา

ผู้นำตระกูลมองหน้ากันไปมา สีหน้าของพวกเขาดูลังเล แต่ท้ายที่สุด พวกเขาก็ถอนหายใจออกมาและก้มหัวให้กับฉู่หู่

"คารวะนายท่าน..." ฉู่หู่รู้สึกว่ามันเป็นเหมือนกับความฝันและหันไปพูดกับฉู่ชิงหยุนด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน "น..นายน้อย..."

ฉู่ชิงหยุนยิ้มให้และพูดว่า "ที่ข้าให้คนพวกนี้แก่เจ้ามันเป็นเพราะข้าเชื่อมั่นในความสามารถของเจ้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทุกเรื่องภายในตระกูลฉู่และเรื่องภายนอกตระกูลฉู่ ข้าจะให้เจ้าเป็นคนจัดการทั้งหมด"

ฉู่หู่รู้สึกว่าเขามีภาระที่หนักอึ้ง แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณฉู่ชิงหยุน

มันทำให้เขารู้สึกว่าฉู่ชิงหยุนไว้วางใจเขามากแค่ไหน นี่ทำให้ฉู่หู่แทบจะหลั่งน้ำตาออกมาและรีบพูดตอบกลับทันทีว่า "นายน้อย ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!"

เมื่อเห็นฉากที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง จิตใจของเหล่าผู้นำตระกูลเริ่มหวั่นไหวเช่นกัน

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดและการกระทำของฉู่ชิงหยุน และรู้สึกว่าเขาจะต้องประสบความสำเร็จบางอย่างที่ยิ่งใหญ่มากในอนาคต

ฉู่ชิงหยุนเชื่อมั่นในตัวฉู่หู่ถึงขั้นให้พวกเขาเป็นคนรับใช้ของเขา มันจะต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน

ด้วยเหตุนี้ เหล่าผู้นำตระกูลต่างๆเริ่มที่จะผ่อนคลาย และคิดว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอับอายเท่าไรที่ต้องรับใช้ฉู่หู่ และอาจนำผลประโยชน์มากมายมาสู่ตระกูลของพวกเขาก็เป็นได้

ความคิดดังกล่าวของพวกเขา ในอนาคตอันใกล้จะกลายเป็นจริงอย่างแน่นอน และเหล่าผู้นำตระกูลพวกนี้ เมื่อใดที่พวกเขาคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ พวกเขาจะต้องขอบคุณการตัดสินใจของตัวเองในวันนี้อย่างแน่นอน

ฉู่ชิงหยุนไม่ต้องกังวลกับเรื่องภายในและเรื่องภายนอกตระกูลอีกต่อไป งานทุกอย่างเขาได้ให้ฉู่หู่เป็นคนจัดการแล้ว

เมื่อพวกเขากลับไปถึงตระกูลฉู่ และแพร่กระจายข่าวเรื่องความร่วมมือกับตระกูลต่างๆ ทำให้ตระกูลฉู่เดือดพล่าน สีหน้าของพวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยความสุขและเริ่มจัดงานเลี้ยงฉลอง

เดิมทีพวกเขาเองก็เป็นห่วงเหมือนกันว่าตระกูลฉู่จะสร้างความเกลียดชังให้กับตระกูลอื่นหรือไม่ แต่ตอนนี้ภายใต้การนำของฉู่ชิงหยุน มีหลายตระกูลกลับมาจงรักภักดีกับตระกูลฉู่อีกครั้ง

มันไม่มีการกล่าวเกินจริงแต่อย่างใดที่จะพูดว่าตระกูลฉู่ในปัจจุบันร่ำรวยและมั่งคั่งมากในระดับที่น่าหวาดกลัว!

คืนนั้น ผู้คนในเมืองฉู่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะแห่งความสุข ทุกครัวเรือนเปิดไฟสว่างเจิดจ้าทำให้เมืองดูมีชีวิตชีวาเป็นอย่างยิ่ง

แต่ฉู่ชิงหยุนไม่ได้เข้าร่วมงานเฉลิมฉลอง หลังจากที่เขากลับมาถึงที่พัก เขากลับไปในห้องและเก็บตัวฝึกฝนทันที

"ตอนนี้ฉู่ผิงเทียนและคนอื่นๆก็ตายไปหมดแล้ว ในที่สุดตระกูลฉู่ก็อยู่ภายใต้การดูแลของข้าอย่างสมบูณ์ ในอนาคตด้วยการบริหารของปรมาจารย์พิษเหยียนและฉู่หู่ ข้าเชื่อว่าตระกูลฉู่สามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงในเมืองซีเฟิง"

เมื่อคิดเช่นนั้น มันเหมือนกับฉู่ชิงหยุนได้ยกภูเขาออกจากอก

สำหรับตระกูลฉู่แล้วเขาวางแผนมากมายหลายแผน แต่ไม่คิดเลยว่าเพราะการกระทำที่โง่เขลาของฉู่ผิงเทียนจะช่วยทำให้เขาประหยัดเวลาได้มากขึ้น และผนวกหลายตระกูลได้ในคราวเดียว

ตอนนี้ ฉู่ชิงหยุนสามารถปล่อยวางเรื่องต่างๆภายในตระกูลฉู่ได้แล้ว และสามารถจดจ่อกับสิ่งที่เขาต้องการทำได้เต็มที่

เขายื่นฝ่ามือออกไปและมีผลไม้สีแดงที่มีขนาดเท่ากำปั้นปรากฏอยู่ในมือของฉู่ชิงหยุน

ผลไม้นี้มีรูปร่างที่แปลกประหลาด และให้ความรู้สึกอบอุ่น ราวกับว่ามันถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงที่มองไม่เห็น มันคือผลแก่นแท้แห่งเพลิงนั่นเอง

ฉู่ชิงหยุนไม่ลังเล เขาอ้าปากกินมันทันทีและนั่งขัดสมาธิเพื่อเริ่มดูดซับพลังบริสุทธิ์ของผลแก่นแท้แห่งเพลิง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด