ตอนที่ 30 - ตอบโต้

ตอนที่ 30 ตอบโต้

-------------------------

ตอนที่ 30 ตอบโต้

ถ้ารู้ตั้งนานแล้วเขาคงไม่ประมาทเลินเล่อแบบนี้หรอก!

เฉินโจวอี้รีบหาเธอทุกที่ ดูเหมือนเขาจะตามหาเธอแทบทั้งเกาะแล้ว ในที่สุดที่ชายหาดเขาก็พบเธอจากเส้นด้ายที่ห้อยลงมาจากบนฟ้า

เธอบินที่ความสูงร้อยกว่าเมตร พยายามบินไปยังทะเลอย่างสุดชีวิต พอเห็นว่าเฉินโจวอี้ตามมา เธอกลัวจนรีบบินสูงขึ้นอีกในทันที

" กลับมา! " เฉินโจวอี้เริ่มเป็นกังวล เขารีบตะโกนพูดภาษาที่ใช้สื่อสารกับเธอด้วยสำเนียงไม่ชัด

เด็กหญิงเปลือกหอยเหลียวมองเฉินโจวอี้ เธอบินไปข้างหน้าต่อโดยไม่หันหัวกลับ

เฉินโจวอี้เริ่มกระวนกระวายใจ เขาใช้วิธีเก่าทันที เขารีบควานหาลูกแก้วหนึ่งลูกจากในกระเป๋าเสื้อ

" หินหยก! " เขาตะโกนเสียงดัง

คำนี้คำเดียวสามารถสื่อสารกับเด็กหญิงเปลือกหอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาถึงจำได้ดีเป็นพิเศษ

เด็กหญิงเปลือกหยุดกลางอากาศ ในใจเกิดความลังเล แต่หลังจากลังเลสักครู่ เธอก็เอาชนะสิ่งล่อใจได้และตัดสินใจบินต่อไป

" มีเยอะนะ! " เขาตะโกน

เขารีบควานหาในกระเป๋าของเขาอย่างรวดเร็ว พบลูกปัดแก้วขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียวอยู่สองสามลูกในช่องว่างของกระเป๋า เขาวางมันไว้บนฝ่ามือของเขา

เด็กหญิงเปลือกหอยลังเลอีกครั้ง เธอหยุดอยู่กลางอากาศเป็นเวลานาน

"อันใหญ่นะ!" เฉินโจวอี้พูดกระตุ้นอีกครั้ง แต่เขายังไม่ได้ซื้อลูกแก้วอันใหญ่มา ต้องออกไปซื้อข้างนอก เขาก็แค่ให้สัญญาลมปากไปก่อนก็เท่านั้น

คำว่า "ใหญ่" คำนี้ ในที่สุดก็สามารถเอาชนะความขัดแย้งครั้งสุดท้ายในใจของเด็กหญิงเปลือกหอยได้ หลังจากที่เธอลังเลอยู่นาน ในที่สุดเธอก็บินลงอย่างช้าๆ

พอเห็นปลายเชือกไนล่อนด้านหนึ่งห้อยลงมา เฉินโจวอี้รีบดึงมันอย่างรวดเร็ว พลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เด็กหญิงเปลือกหอยค่อยๆ บินลงสู่พื้น เธอเบือนหน้าหนี ไม่ยอมมองเขา

เฉินโจวอี้รู้ดี เขารีบย่อตัวลง แล้วเอาลูกแก้ววางไว้บนพื้น

ทันใดนั้นเด็กหญิงเปลือกหอยไม่แม้แต่จะมองบรรดาลูกแก้วเหล่านี้ เธอเอาแต่ตะโกนดังๆ ว่า " อันใหญ่! อันใหญ่! อันใหญ่! "

" อันใหญ่กับผีน่ะสิ! " เฉินโจวอี้พูดอย่างไม่สบอารมณ์ คำว่า "ใหญ่" ในตอนแรกเป็นศัพท์ที่ใช้ในภาษาสนทนาทั่วไป ต่อมามันกลายภาษาจีนกลางไปแล้ว

เขาคว้าตัวของเด็กหญิงเปลือกหอยไว้ แล้วรีบเดินไปอย่างรวดเร็ว

เด็กหญิงเปลือกหอยพยายามดิ้นอยู่ในมือเขาไม่หยุด ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธพูดตะโกนอะไรสักอย่างแต่น่าเสียดายที่เขาฟังไม่รู้เรื่อง

เฉินโจวอี้พาเธอกลับไปยังใกล้ๆ บริเวณปากอุโมงค์มิติ เขาหยิบเอาเชือกและเทปออกมามัดมือมัดเท้าและปิดปากเธออย่างชำนาญ ก่อนจะเอาเธอใส่ลงไปในกระเป๋าเอกสาร

" ยังจะไม่เชื่อฟังกันอีกนะ! "

ก่อนออกจากอุโมงค์มิติ เขาทำการสำรวจเสื้อผ้าของเขา เมื่อพบว่ามันไม่ได้เปื้อนเลือด เขาจึงเดินออกมาจากอุโมงค์มิติ

เดินมาถึงถนน มองดูผู้คนที่พลุกพล่านบนท้องถนน ทันใดนั้นเฉินโจวอี้ก็รู้สึกว่าตัวเองถูกแยกตัวออกมาโลก ก่อนหน้านี้เขากำลังฆ่าคน ความเป็นตายพอกันแต่ในเวลานี้เขากลับรู้สึกสงบสุข

เขาหายใจออก ทันใดนั้นอารมณ์ตึงเครียดในตอนแรกก็หายไปอย่างรวดเร็ว

อันดับแรกเขารีบไปซื้อลูกแก้วขนาดใหญ่หนึ่งกล่อง แล้วกลับโรงแรม

หลังจากกลับมาถึงห้องแล้ว เขาก็ปล่อยเด็กหญิงเปลือกหอยออกมา

เธอปล่อยให้เฉินโจวอี้ปลดปล่อยโซ่ตรวนที่ใช้พันธนาการร่างกายของเธอด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ไม่ขยับเขยื้อนเพราะเธอกำลังโกรธอยู่

เห็นได้ชัดว่าเธอโกรธอยู่ไม่น้อย ผ่านไปสักพักเธอก็หลั่งน้ำตาออกมาเงียบๆ

ในความเป็นจริง ลองมาคิดดูมันก็ใช่ เดิมทีเธอสามารถหลุดพ้นจากอุ้งเล็บของเขาได้ แล้วกลับคืนสู่อิสรภาพ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วเธอก็โง่จนเกินกว่าจะปฏิเสธสิ่งล่อตาล่อใจได้ จนกลับไปตกหลุมพรางของเขาอีกครั้ง ที่สำคัญก็คือไม่เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับการปฏิบัติที่หยาบคายมากขึ้นด้วย

ความโศกเศร้าและความรู้สึกผิดในใจ เป็นธรรมชาติที่ไม่ควรจะเอ่ยถึง

เฉินโจวอี้มองดูเด็กหญิงเปลือกหอย เขาใช้นิ้วมือผลักเธอลงด้วยนิสัยที่ไม่ดี

เธอนอนหน้างายลงบนเตียง มองดูเพดานด้วยใบหน้าที่ด้านชาและจิตใจที่ว่างเปล่า

มองดูอารมณ์หมดอาลัยตายอยากของเธอ เฉินโจวอี้รู้สึกตลก แต่เขาก็ไม่ได้แกล้งเธอต่อ เขายื่นมือออกไปแล้วแกว่งไปมาต่อหน้าเธอ จากนั้นเอาลูกแก้วรูปหัวใจที่มีขนาดใหญ่เท่าหัวของอีกฝ่ายยัดเข้าไปในอ้อมแขนของเด็กหญิงเปลือกหอย

ใบหน้าเล็กๆ ที่ก่อนหน้านี้เอาแต่บูดบึ้งและเต็มไปด้วยน้ำตา ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสดใสทันที เธอมองไปยังเฉินโจวอี้ด้วยความประหลาดใจเป็นอย่างมาก รีบกอดลูกแก้วไว้แน่นไม่ยอมปล่อยมือ

เฉินโจวอี้หัวเราะ เขาหยิบเอารีโมทโทรทัศน์ขึ้นมาเปิดโทรทัศน์ แล้วเปลี่ยนเป็นช่องการ์ตูนและไม่ได้รบกวนเธออีก

....

ตอนนี้เขาต้องการสงบสติอารมณ์ตัวเองสักพัก

ตลอดเวลาที่ผ่านมา บนเกาะก็ไม่ได้มีอันตรายอะไร เขาจึงไม่ได้เตรียมตัวเลยสักนิด

เกาะเล็กๆ ลูกนั้นสำหรับเขาแล้วคือสถานที่ไว้สำหรับฝึกฝน

นอกจากท่อนไม้หนึ่งท่อน และมีดทำครัวหนึ่งเล่มที่นับว่าเป็นอาวุธได้ เขาก็ไม่มีคำตอบอื่นอีกเลย แล้วใครจะไปคิดล่ะว่า บนเกาะที่ว่างเปล่าแห่งนี้จะมีคนเถื่อนเข้ามาได้

แต่การปรากฏตัวของคนเถื่อนทั้งสองคนในวันนี้ได้ทำลายจินตนาการของเขาไปหมดสิ้นแล้ว

เกาะเล็กนั่นไม่ได้ปลอดภัย การปรากฏตัวของคนเถื่อนอธิบายได้ว่าบริเวณใกล้เคียงของเกาะมีแหล่งที่คนเถื่อนอาศัยอยู่ หรือบางทีอาจจะมาจากเกาะใกล้เคียง หรืออาจจะมาจากพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง

วันนี้คนเถื่อนสองคนมาได้ พรุ่งนี้บางทีก็อาจจะมีคนเถื่อนเข้ามาอีก ไม่มีใครกล้ารับประกันหรอก ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย

เฉินโจวอี้ยังไม่กล้าหวังว่าทุกครั้งเขาจะมีโชคดีแบบวันนี้ เขาจะต้องมีการตอบโต้บ้างแล้ว

อย่างน้อยๆ ก็ต้องตอบโต้จนกว่าจะสู้ไม่ได้ เขายังไม่คิดที่จะอยากละทิ้งเกาะบนโลกที่แตกต่างแห่งนี้

โชคดีที่แม้ทางประเทศจะมีมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการถือครองอาวุธแก่ผู้ที่ไม่ใช่ชาวยุทธฝึกหัด ตราบใดก็ตามที่ไม่ได้พกพาอาวุธออกไปโชว์ในที่สาธารณะ ก็คงไม่มีใครสนหรอก

เขารีบหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดเข้าไปดูคลังอาวุธ

นี่คือเว็บไซต์ B2C ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขายอาวุธเหล็กกล้าโดยเฉพาะ

โทรศัพท์มือถือของเฉินโจวอี้เป็นรุ่นเก่า เวลาโหลดหน้าเว็บทีนี่ช้าเป็นเต่าคลานเลย ทำให้เขาต้องรออย่างนานกว่าจะโหลดได้

หลังจากผ่านไปหนึ่งนทีเต็มๆ หน้าเว็บถึงจะโหลดเสร็จ และมันก็แค่ครั้งเดียวเท่านั้น

เขาคิดว่าตัวเองต้องซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ได้แล้ว

เขาค้นหาคันธนูที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 300 ปอนด์ขึ้นไป ในบรรดาอาวุธเหล็กกล้า ถ้าพูดถึงอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าสูง ก็คงต้องเป็นธนูนี่แหละ อาวุธอื่นไม่ว่าจะเป็นอาวุธอะไรก็ตาม ต่างก็ไม่สามารถเทียบมันได้

ในไม่ช้าเขาก็พบว่าเงินของเขาน้อยกว่าที่เขาคิดไว้ ราคาของธนูรบนั้นแพงกว่าดาบมาก แม้แต่คันที่ถูกที่สุดยังมีราคามากกว่า 30,000 หยวนเลย

อีกอย่างธนูรบน้ำหนัก 300 ปอนด์สำหรับเขาแล้ว มันยังเบาเกินไป โดยเฉพาะภายใต้แรงโน้มถ่วงที่สูงถึงสามเท่า มันยิงได้ไม่ไกลเท่าไร ประสิทธิภาพของมันมีจำกัด นอกจากใช้ฝึกในเวลาทั่วไปแล้ว ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมาย

เขาลองคำนวณดู คิดว่าแทนที่จะซื้อธนูหนัก 300 ปอนด์ที่เอาไว้ใช้ฝึก สู้ซื้อคันที่มันเหมาะสมกับความแข็งแรงของเขาจริงๆ จะดีกว่า เขาจึงรีบเลือกคันธนูที่มีน้ำหนัก 500 ปอนด์ขึ้นไปทันที ธนูที่มีน้ำหนักปอนด์แบบนี้ นับว่าใช้ในกองทัพได้เลย

ผลก็คือหน้าเว็บไซต์พึ่งจะโหลดเสร็จ แม้ว่าเขาจะมีการประมาณราคาของคันธนูพวกนี้ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่พอเขาเห็นชุดเลข 0 ที่อยู่ด้านหลังราคาของธนูแต่ละคัน ทำให้เฉินโจวอี้มองด้วยความวิงเวียนตาลาย

หนึ่งแสนห้าหมื่น

นี่คือราคาของคันธนูรบที่ถูกที่สุด แถมยังเป็นเพราะโปรโมชั่นส่วนลด 85% ของวันชาติอีกนะ

ส่วนระดับกลางๆ ก็จะอยู่ที่ประมาณห้าถึงหกแสนหยวน ราคาสูงที่สุดพุ่งไปถึงสี่ล้านหยวน

หลังจากที่ตัวเขาเองขายทองคำได้ถึงหนึ่งแสนหนึ่งหมื่น บวกกับที่แม่ของเขาโอนมาให้อีกหนึ่งหมื่นแปดพันหยวน นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายในช่วงหลายวันมานี้แล้ว เขามีเงินจำนวนมากกว่าหนึ่งแสนสองหมื่น ตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองรวยแล้วนะ

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า แม้แต่ธนูแค่คันเดียวเขายังซื้อไม่ได้เลย

เขาอดไม่ได้ที่จะกดเข้าไปดูรายละเอียดคันธนูที่แพงที่สุด เป็นคันธนูที่มีรูปร่างลายเส้นสวยงาม เต็มไปด้วยรสนิยมแบบ Sci-Fi ตัวธนูผลิตด้วยเส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์นาโนและกระดูกซี่โครงของสัตว์ลึกลับในโลกที่แตกต่าง

ตามคำแนะนำของร้าน กระดูกซี่โครงลึกลับอันนี้ยังคงมีพลังชีวิตอยู่ ดังนั้นความสามารถของมันจะไม่สลายตัวในโลกเหมือนสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว มันแค่ดูเงียบไปแต่ถ้าใช้ในโลกที่แตกต่างล่ะก็ ลูกธนูจะพุ่งตัวไปตามการกลั่นตัวของแสง ความเร็วและพลังของมันจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว

เฉินโจวอี้รู้จักปรากฏการณ์นี้ เช่นเดียวกับสถานการณ์ของเด็กหญิงเปลือกหอยนั่นแหละ ความสามารถของสิ่งมีชีวิตในโลกที่แตกต่างมากมายล้วนแล้วมาจากยีนส์ของเขา สิ่งนี้สามารถทำได้ทั้งสองโลก แค่ความสามารถไม่ชัดเจนก็แค่นั้น

ธนูรบคันนี้ไม่เพียงแต่สามารถดึงลมได้ แต่มันยังทรงพลังมากด้วย แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถซื้อมันได้ ทำได้แค่แอบกลืนน้ำลาย

เขาต้านทานความอยากดูอีกครั้งไว้ แล้วปิดหน้าเว็บทันที

จากนั้นเขาก็หันไปค้นหาตลาดซื้อขายอาวุธมือสอง

ในนี้ราคาถูกลงมามาก แค่ไม่รับรองคุณภาพก็เท่านั้น แต่สำหรับเฉินโจวอี้ผู้ที่มีเงินในกระเป๋าน้อย เขากลับสนใจไม่ได้มาก

เขาเลือกธนูสงครามสภาพดูใหม่ 80% และดาบอัลลอยด์ที่ใช้ในการรบอีกหนึ่งเล่มจากร้านค้าที่มีชื่อเสียง เขาพูดคุยกับฝ่ายบริการลูกค้าไปสักพัก หลังจากที่รับประกันซ้ำๆ ว่าถ้ามีปัญหาสามารถส่งคืนได้ เขาจึงกดสั่งสินค้าทันที

เห็นราคารวมที่หนึ่งแสนห้าพันหยวน เฉินโจวอี้รู้สึกเสียดายอย่างอดไม่ได้ เงินนี้เขาอดเอาเพิ่อไว้ใช้เลย

โชคดีที่เขาหาเงินได้ง่าย จึงไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไร

ยิ่งไปกว่านั้นจากความขยันของเด็กหญิงเปลือกหอย ที่รวบรวมทรายทองคำมาให้เขาอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำ แต่จากการคาดการณ์คร่าวๆ ของเฉินโจวอี้ ตอนนี้มันมีน้ำหนักประมาณครึ่งปอนด์แล้ว