ตอนที่แล้วตอนที่ 15 - พรสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17 - คนเถื่อน

ตอนที่ 16 - ฝึกฝนการสู้รบ


ตอนที่ 16 ฝึกฝนการสู้รบ

-------------------------

ตอนที่ 16 ฝึกฝนการสู้รบ

ตอนกลางคืน ที่โรงแรมแกรนด์ในเมืองตงหนิง

สถานที่แห่งนี้ถือเป็นสถานที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดในเมืองตงหนิง เพื่อที่ฉลองให้กับการที่น้องสาวผ่านการทดสอบชาวยุทธฝึกหัด แม่ของเขาที่ปกติจะเป็นคนขี้งก แต่ในครั้งนี้ยอมจ่ายหนักเสียที

ครอบครัวของลุงใหญ่เฉินต้าหลง นอกจากลูกพี่ลูกน้องคนที่เพิ่งจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ทุกคนต่างก็มากันหมด บรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก

ญาติของเฉินโจวอี้มีน้อย ตั้งแต่เกิดมาเขาก็ไม่เคยเห็นหน้าปู่กับย่า คนรุ่นพ่อก็มีแค่ลุงใหญ่คนเดียวเท่านั้น สำหรับญาติฝั่งแม่ มีพี่น้องอยู่ไม่กี่คน แต่เป็นเพราะเรื่องบางอย่าง ทำให้ไม่ได้ไปมาหาสู่กันแล้ว

" ตระกูลเฉินอันเก่าแก่ของเรามีชาวยุทธฝึกหัดแล้ว ช่างเป็นข่าวดีจริงๆ " ตอนที่ลุงใหญ่เฉินต้าหลงเข้ามา เขาได้มอบกล่องไม้ดูมีมูลค่าสูงให้แก่น้องสาวของเขาด้วย

" ขอบคุณค่ะลุง " เฉินซิงเยว่รับกล่องไม้มา พอดูเธอก็พูดด้วยความตื่นเต้นว่า " ว้าว นี่เป็นดาบโลหะผสมจากร้านชี่อู้ฟางนี่คะ "

เฉินโจวอี้มองอย่างอิจฉา ราคาของอาวุธเหล็กกล้ามีความแตกต่างกันมาก ที่ราคาถูกหน่อยก็ราวๆ 1000-2000 หยวน ที่ราคาแพงก็มีถึงราคาหลายแสนหยวน มีแม้กระทั่งราคาหลายล้าน แต่ร้านชี่อู้ฟางเป็นบริษัทที่ผลิตอาวุธอาวุธเหล็กกล้าของแบรนด์ระดับกลางและแบรนด์ระดับสูง

ต่อให้เป็นดาบที่ราคาถูกที่สุด ราคาอย่างน้อยเลยก็คือหลักหมื่นขึ้นไป

ในประเทศจีนมีการควบคุมการถือครองอาวุธที่เข้มงวดมาก อย่างมีดดาบที่เป็นอาวุธยาว ทำได้มากสุดคือเก็บสะสมไว้ แต่นี่ไม่รวมถึงพวกชาวยุทธฝึกหัด ขอแค่ลงทะเบียนเป็นชาวยุทธฝึกหัด ก็จะมีสิทธิ์ในการถือครองอาวุธ

" สิ้นเปลืองเกินไปแล้วพี่ " เฉินต้าเหว่ยรีบพูดขึ้น

" นี่จะเรียกว่าสิ้นเปลืองได้อย่างไร ซิงเยว่ผ่านการทดสอบชาวยุทธฝึกหัด นี่ไม่ใช่เรื่องดีของครอบครัวนายหรอ " ภรรยาของลุงใหญ่ที่แต่งหน้าบางๆ จับมือของเฉินซิงเยว่อย่างสนิทสนมแล้วพูดขึ้น ขณะที่พูดขึ้นก็ชี้นิ้วไปที่เฉินโจวอี้ด้วย " โจวอี้ หลานเองก็ต้องสู้ๆ นะ ปีนี้จะต้องสอบเกาเข่าแล้ว "

เฉินโจวอี้อยู่ดีๆ ก็งานเข้า เขาหัวเราะเจื่อนๆ "ผมกำลังพยายามอยู่ครับ "

....

ครั้งนี้เฉินโจวอี้ยังคงมองดูน้องสาวของเขาเป็นจุดสนใจในงานเลี้ยงเหมือนเดิม ดูเจิดจ้าแพรวพราว แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไร นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่มีความรู้สึกอิจฉาเลย แถมเขายังรู้สึกยินดีกับเธอด้วยใจจริง

เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว และมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นด้วย

....

วันอาทิตย์ ที่ห้องฝึกซ้อมในศูนย์กลางการฝึกอบรมศิลปะการต่อสู้ของเด็กและเยาวชน

เสาไม้เรียบง่ายแต่ละอันถูกจัดวางเรียงไว้เป็นแถว นักเรียนทุกคนแต่ละคนทยอยทำท่า 'ก้าวพื้นฐาน' รอบๆ เสาเป็นรูปตัวเอส

" คนต่อไป หลินเฟิง ! "

" คนต่อไป เฉินโจวอี้ "

พอพูดถึงเฉินโจวอี้ เสียงของครูสาวคนสวยหยุดไปชั่วคราว อดไม่ได้ที่จะเหลียวมองเขาแวบหนึ่ง

เฉินโจวอี้รอสักพัก เห็นหลินเฟิงที่อยู่ด้านหน้าปะทะกับเสาไปจนเกือบจะถึงจุดสิ้นสุด เขาถึงจะก้าวไปด้านหน้า ฝีเท้าของเขาราวกับปีศาจ ร่างกายของเขาไม่อยู่กับร่องกับรอย ก้าวไปซ้ายทีขวาที

ไม่มีการไตร่ตรอง และไม่มีการหยุดชะงักใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งกระบวนท่าเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ ลื่นไหลราวกับเส้นโค้งอันราบเรียบ

หลังจากกลับมา เฉินโจวอี้ถูกกลุ่มนักเรียนล้อมรอบ

" พี่เฉินเก่งจังเลย ฉันคิดว่าเทียบได้พอๆ กับคุณครูเลยนะ " วัยรุ่นคนหนึ่งที่มีสิวเต็มหน้าพูดขึ้นด้วยความชื่นชม

" ใช่แล้ว เกือบจะรู้สึกเหมือนดูวีดีโอของคุณครูเลย "

" ยังไกลกันเยอะ ! " เฉินโจวอี้ยิ้มพลางส่ายหัว

นี่ไม่ใช่การถ่อมตัว แต่ที่จริงแล้วยังไกลกันอยู่มาก บางทีคนอื่นอาจจะมองไม่ออก แต่สำหรับตัวเขาที่ในทุกๆ วันจะเข้าสู่จิตใจและความคิดของครูสาวคนสวยนี้ ยังรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่างที่อยู่ภายใน

ร่างกายของเขายังขาดการฝึกฝนอย่างเคี่ยวเข็ญ ยังขาดความชำนาญ การเคลื่อนที่ของกล้ามเนื้อระหว่างที่ก้าวเดินยังไม่ค่อยราบเรียบ ยังต้องฝึกฝนและทำให้ลื่นไหลมากกว่านี้

หลินเฟิงที่มองเฉินโจวอี้อยู่ไกลๆ แอบกำหมัดแน่น

ในเดือนนี้ แฟนสาวของเขา กัวเชี่ยนเชี่ยนสนิทสนมกับเฉินโจวอี้มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อก่อนเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แฟนสาวของเขาก็เป็นแบบนี้ เวลาคุยกับใครก็มักจะคุยอย่างเปิดเผย อีกอย่างสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ตัวเขาเองทั้งหล่อกว่า เท่กว่าเฉินโจวอี้ตั้งเยอะ

ส่วนกัวเชี่ยนเชี่ยนแฟนสาวคนนี้ของเขา เขาเองก็เป็นคนเริ่มจีบก่อน

แต่เขากลับค่อยๆ รู้สึกถึงความกดดัน แม้ว่าจะต้องเป็นศัตรูกัน เขาเองจะต้องยอมรับพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้อันน่ากลัวของอีกฝ่ายให้ได้

หลายต่อหลายครั้ง เช่นเดียวกับกระบวนท่าใหม่ๆ ตอนที่ฝึกฝนก็แค่กระแทกๆ แต่พอถึงคาบเรียนถัดไป อีกฝ่ายกลับฝึกได้อย่างสบายๆ ความชำนาญของท่าเหล่านั้นดูเหมือนกับฝึกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

คนแบบนี้ ทำให้รู้สึกไร้พลังจริงๆ

" แปะๆๆ "

ครูสอนเสริมปรับมือขึ้นพลางพูดว่า " ทุกคนทำได้ดีมาก อธิบายได้ว่าสามารถทำท่าพื้นฐานได้แล้ว ตอนนี้พวกเรามาลองฝึกการต่อสู้ดู "

ท่ามกลางนักเรียนเกิดเสียงฮือฮาดังขึ้น สีหน้าทุกคนดูตื่นเต้นเมื่อได้ยินประโยคนั้น

เฉินโจวอี้เองก็เป็นแบบนั้น เรียนวิชาดาบเพื่อมาใช้ในการต่อสู้ วันนี้นับว่าได้สัมผัสมันแล้ว

" เอาหล่ะ ทุกคนมาสวมชุดป้องกันและหยิบดาบที่ใช้สำหรับการฝึกกันเถอะ ! "

ชุดป้องกันประกอบไปด้วยหน้ากาก เสื้อตัวสั้นด้านใน เสื้อเกราะ เกราะแขน กางเกงและถุงมือ ไม่เพียงแต่ดูหนาเตอะ เวลาสวมยังลำบากอีกด้วย

แต่จะไม่ทำแบบนี้ก็ไม่ได้ การต่อสู้ของจริงเป็นอะไรที่ค่อนข้างอันตราย แม้ว่าจะไม่ใช่ชาวยุทธฝึกหัด ขอแค่เป็นคนที่เคยเรียนวิชาดาบมาบ้าง ต่างก็สามารถระเบิดแรงออกมาได้เกินกว่าจินตนาการ

วิธีการออกแรงที่แม่นยำ ทำให้ร่างกายคนอ่อนยวบยาบเหมือนเต้าหู้ ไม่ต้องใช้ดาบจริงก็ได้ แค่ตะเกียบหนึ่งอัน แท่งไม้หนึ่งแท่ง หรือแม้แต่กิ่งไม้หนึ่งกิ่งก็สามารถฆ่าคนธรรมดาได้อย่างง่ายดาย

หลังจากที่ออกแรงอย่างเยอะ เฉินโจวอี้ในที่สุดก็ใส่ชุดป้องกันเสร็จ เขาหยิบดาบที่ใช้สำหรับการฝึกขึ้นมาหนึ่งด้าม เป็นดาบพลาสติก ใบมีดเรียว ค่อนข้างดูนุ่มนวล ต่อให้แทงลงบนร่างที่เปลือยเปล่า ก็ไม่แรงถึงกับฆ่าฟันกันได้

ครูสาวคนสวยที่อยู่อีกด้านเปลี่ยนเป็นชุดป้องกันแล้วเหมือนกัน ดูเหมือนว่าเธอเตรียมจะลงสนาม " ตอนนี้ครูจะแบ่งทีมให้ กัวเหวินหลงสู้กับเฉินไฉ่เลี่ยง "

" เหวินหย่าสู้กับเฉายวินยวิน "

" เฟิงหลินคู่กับเซี่ยเซียงชิง "

....

" สำหรับเฉินโจวอี้ เธอต้องมาฝึกกับครู "

" ครับ คุณครู ! " เฉินโจวอี้รีบพูดขึ้น ในใจของเขาเต้นตึกตัก มันไม่ใช่ความรู้สึกอะไรต่อครูสาวคนสวย

ในมิติแห่งความทรงจำ เขาดูมามากพอแล้ว เข้าใจร่างกายทุกส่วนของเธอ ซึ่งเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเท่าไร

เขาแค่รู้สึกตื่นเต้น เป็นความตื่นเต้นที่ได้สู้รบของจริง ทำให้เขารู้สึกถึงความเดือดพล่าน

" คุณครูโปรดชี้แนะด้วยครับ ! " เขาพูดตามบทในโทรทัศน์

ทันใดนั้นเขารู้สึกราวกับว่าเห็นรอยยิ้มเลศนัยของอีกฝ่ายผ่านหน้ากาก ยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไร เขาก็รู้สึกเห็นดาวในอากาศ อีกฝ่ายใกล้เขามาในพริบตาเดียว ดาบยาวแทงมาราวกับสายฟ้าฟาด

" พลั่กๆๆ "

ตรงตำแหน่งหัวใจ ช่วงท้องและหน้ากากของเขา ราวกับประทัดระเบิด มันสั่นสะเทือนไปหมด เขาถอยหลังออกไปโดยไม่ตั้งใจ

" เธอพูดมากเกินไปแล้ว ถ้าหากอยู่ในสถานการณ์ต่อสู้ของจริง เมื่อกี้เธอคงตายไปแล้ว " เธอพูดเสียงเรียบ มุมปากแสยะยิ้มเล็กน้อย

บางครั้งนักเรียนที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ กลับไม่ค่อยทำให้คนชื่นชอบสักเท่าไร เขาอาจทำให้การสอนของเธอดูไร้ค่า แม้แต่ทำให้เธอต้องสงสัยในชีวิต

แต่ระดับของพวกนักเรียนของเธอยังคงเป็นระเบียบเรียบร้อย

เผชิญหน้ากับความคิดที่ไม่พอใจของคุณครู เฉินโจวอี้ไม่รู้สึกรู้สาอะไร เขารีบแก้ไขทัศนคติของคุณครูทันที " ครับ คุณครู ! "

ครั้งนี้เขาทำงานอย่างหนักเพื่อให้ดูตื่นตัวมากยิ่งขึ้น สายตาเปล่งประกาย น่าเสียดายที่มันยังคงไร้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการพยายามโจมตีหรือการหลบ การโจมตีของครูสาวคนสวยเหมือนเงา ราวกับว่ามีการคิดล่วงหน้าไว้

เฉินโจวอี้ถูกแทงมาเป็นเวลานานกว่าหนึ่งนาทีเต็มๆ ร่างกายของเขาดูปวกเปียกและมึนงง เกือบจะสงสัยว่าตัวเองเคยไปทำอะไรให้ครูสาวคนสวยโกรธหรือเปล่า

ในที่สุดเธอก็หยุด เธอถอนหายใจออกมายาวๆ

" รู้ไหมว่าทำไมครูถึงโจมตีเธอได้ ? "

" เพราะคุณครู คุณเป็นชาวยุทธฝึกหัด มีปฏิกิริยาตอบโต้เร็ว มีความแข็งแกร่งมากกว่า " เฉินโจวอี้พูดประจบอย่างเงียบๆ

" นี่ก็แค่อีกด้านหนึ่ง เธอรู้ไหมบนโต๊ะไพ่ คนแบบไหนโด่งดังที่สุด ? "

" คนรวยครับ ! " เฉินโจวอี้คิดแล้วจึงพูด ทันใดนั้นในใจของเขาก็เกิดความคิดหนึ่งทันที ที่ไหนได้คุณครูชอบเล่นไพ่นี่เอง

" เอ่อ พวกมือใหม่ต่างหากเล่า " ครูสาวรีบตอบ

" คนแบบนี้มักจะเปิดเผยความรู้สึกบนใบหน้า พอได้ไพ่ดี ก็จะตื่นเต้นมากๆ พอได้ไพ่ไม่ดี ก็จะทำหน้าหงอย คนแบบนี้ไม่นานก็ถูกคนอื่นมองออก เดิมพันสิบครั้งก็แพ้สิบครั้ง "

เฉินโจวอี้ตอบโต้ในทันที " ที่ครูจะพูด คือหมายความว่าก่อนที่ผมจะโจมตี ผมได้เปิดเผยความตั้งใจของผมออกมาใช่ไหมครับ "

" สายตาของเธอเอาแต่จดจ้องอยู่กับเป้าหมายที่เธอจะโจมตี ขอแค่เป็นคนที่มีประสบการณ์มามาก ก็จะสามารถเห็นถึงความคิดและทิศทางการโจมตีของเธอได้อย่างง่ายดาย จึงสามารถหลบหลีกได้เพื่อหาโอกาสในการโจมตีล่วงหน้า "

เป็นแบบนี้นี่เอง ทันใดนั้นเฉินโจวอี้ก็รู้สึกมีความกระตือรือร้นอย่างฉับพลัน

" งั้นวิธีที่ถูกต้องควรทำยังไงครับ ? "

" สำหรับเธอแล้ว สิ่งที่ง่ายที่สุดคือการแสดงสีหน้าเรียบเฉย ใช้สายตาคอยสังเกต ซ่อนความคิดของเธอไว้ ทางที่ดีอย่าเผยความตั้งใจของตัวเองออกมา "

" ตอนนี้มาลองอีกรอบ ! "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด