ตอนที่แล้ว69 คำชมจากสาวงาม การเติบโตของสมุนไพร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป71 ความงมงายในอดีต กลับกลายเป็นเงียบงันดั่งสายน้ำ

70 สวนที่เต็มไปด้วยความเขียวขจี ห้องที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่เต้นรำ


70 สวนที่เต็มไปด้วยความเขียวขจี ห้องที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่เต้นรำ

 

“แล้วทำไมนายถึงปฎิเสธเธอ? นายโง่รึเปล่า?” หวังหมิงเปาเบิกตากว้าง

 

“ฉันบอกเธอไปว่าฉันจะเลี้ยงเธอวันอื่น มันอันตรายเกินไปที่จะต้องกลับขึ้นไปบนเนินเขาในตอนกลางคืน” หวังเย้าตอบอย่างใจเย็น

 

“เฮ้อ นายนี่มัน! ฉันไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว!” หวังหมิงเปาพูด

 

หลังจากที่บอกลาหวังหมิงเปา หวังเย้าได้จอดรถไว้ที่บ้านก่อนที่จะกลับขึ้นไปบนเนินเขา

 

“อินทรีย์นี่มาจากไหนเหรอ?” จางซิวหยิงถามทันทีที่เธอเห็นหวังเย้า

 

“ผมขอโทษที่ลืมบอกเรื่องอินทรีย์ไป หวังว่ามันคงจะไม่ทำให้แม่กลัวนะครับ” หวังเย้าพูด เขาลืมบอกแม่ของเขาเรื่องอินทรีย์ไปเลย

 

“ไม่เป็นไรจ๊ะ ซานเซียนก็อยู่กับแม่ที่นี่” จางซิวหยิงพูด “แล้วเกิดอะไรขึ้นกับปีกของมันเหรอ?”

 

“มันได้รับบาดเจ็บแล้วตกลงมาที่แปลงสมุนไพร ในตอนนี้มันเลยบินไม่ได้ ผมก็เลยใส่ยาสมานแผลให้กับมันครับ” หวังเย้าพูด

 

“อ้อ แล้วลูกซื้ออพาร์ทเมนต์รึยัง?” จางซิวหยิงถาม

 

“ซื้อแล้วครับ ผมซื้อเอาไว้ห้องหนึ่งอยู่บนชั้นสาม” หวังเย้าพูด

 

“ขนาดเท่าไหร่เหรอ?”

 

“130 ตารางเมตรครับ”

 

“นั้นมันอพาร์ทเมนต์ขนาดใหญ่นี่! มันราคาเท่าไหร่กัน?”

 

“ประมาณ 800,000 หยวนครับ” หวังเย้าตอบ

 

“มันแพงมาก!” จางซิวหยิงตกตะลึง

 

“มันไม่ได้แพงขนาดนั้นหรอกครับ 800,000 หยวนนี้ยังไม่พอที่จะซื้อห้องขนาด 20 ตารางเมตรในปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้ได้เลยนะครับ ที่นั้นราคาของอสังหาริมทรัพย์แพงกว่านี้มาก!” แม้แต่หวังเย้าก็คิดว่า เขาคงไม่สามารถซื้ออพาร์ทเมนต์ในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ได้

 

“แม่ไม่ชอบเมืองใหญ่หรอก เมืองที่มีแต่มลพิษจนแทบจะมองไม่เห็นพระอาทิตย์ในตอนกลางวัน มีแต่คนล้มป่วยแบบนั้น” จางซิวหยิงพูด

 

“จริงครับ ผมชอบหมู่บ้านของเรามากกว่า เรามีทั้งภูเขา ทะเลสาบและป่าไม้” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม

 

เขากลายเป็นชอบการใช้ชีวิตอยู่นอกเมืองแบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

 

“ใช่ และมันคงจะดีมากถ้าแม่มีหลานสักคน!” จางซิวหยิงพูด

 

“โอ้ นี่ก็จะวันเสาร์แล้ว ไม่รู้ว่าพี่จะกลับมาบ้านรึเปล่า?” หวังเย้ารีบเปลี่ยนประเด็นในทันที เขาอยากจะให้แม่สนใจเรื่องของพี่สาวของเขามากกว่า

 

“เธอบอกว่าจะกลับมา” จางซิวหยิงพูด

 

“โอเค งั้นผมจะไปรับเธอเอง!” หวังเย้าพูด

 

“ดีแล้ว ลูกควรจะเข้าเมืองบ่อยๆ ในเมืองมีสาวๆอยู่เยอะแยะเลย!” จางซิวหยิงพูด

 

“รู้แล้ว รู้แล้ว แม่ครับมันได้เวลาทำมื้อเย็นแล้วนะครับ กลับบ้านดีดีนะครับ” หวังเย้าพูด

 

หวังเย้าต้องใช้ความพยายามพอสมควรกว่าจะส่งแม่ของเขากลับไปได้ เขาเดินไปดูอินทรีย์ แล้วจึงเทน้ำแร่โบราณให้มันดื่ม และไม่ได้เจือจางมันด้วยน้ำเปล่าเลย

 

น้ำวิเศษนี้น่าจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นได้ คล้ายกับซานเซียน อินทรีย์ดูเหมือนจะรู้เช่นกันว่าน้ำนี้ไม่ใช่น้ำธรรมดา มันดื่มน้ำลงไป

 

เอาจริงๆแล้ว นี้เป็นครั้งแรกที่หวังเย้าได้เห็นอินทรีย์กำลังดื่มน้ำ มันดูตลกที่ได้เห็น หวังเย้าอยู่กับอินทรีย์สักพักก่อนที่จะกลับเข้าไปในกระท่อม

 

เขาชงชาให้ตัวเอง และนำคัมภีร์ออกมา

 

เมื่อมองไปที่แปลงสมุนไพรที่เขียวขจีของตัวเอง มันทำให้เขารู้สึกสงบ

 

บนเนินเขาแห่งนี้นั้นเงียบสงบ

 

หวังเย้าเริ่มท่องคัมภีร์ ซานเซียนฟังเขาท่องอยู่เงียบๆที่ด้านนอกกระท่อม อินทรีย์ขยับปีกไปมาเป็นครั้งคราว

 

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆและเงียบสงบ

 

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง

 

หวังเย้ากลับบ้านไปทานมื้อค่ำกับครอบครัวของเขา และพบว่าพ่อของเขาไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไหร่

 

“เกิดอะไรขึ้นครับพ่อ?” หวังเย้าถาม

 

“ปู่(น้องชายของปู่)ของลูกรู้สึกไม่สบาย เขาเลยไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดู และหมอได้ตรวจพบว่าเขาเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้ายแล้ว” จางซิวหยิงพูด

 

หวังเย้าเงียบไป

 

เขากำลังคิดถึงปู่ของเขา เขาเป็นชายที่มีรูปร่างผอม มักจะยิ้มแย้มอยู่เสมอ เขาชอบที่จะสูบบุหรี่และจิบไวน์ ย่าของเขานั้นจากไปนานแล้ว ทิ้งให้ปู่ต้องกลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียว หลังจากที่ลูกๆของเขาโตขึ้น ปู่ของเขาไม่ต้องการที่จะย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง เขาเลือกที่จะอยู่ในหมู่บ้านทำสวนและเลี้ยงแกะเหมือนเดิม เขามักจะมาที่บ้านของหวังเย้าอยู่บ่อยๆ ตอนนี้เขาอายุ 70 กว่าปีแล้ว หวังเย้าเพิ่งจะเจอเขาต้อนแกะเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง

 

“หมอบอกเกี่ยวกับอาการของเขาว่าเป็นยังไงบ้างครับ?” หวังเย้าถาม

 

“จะบอกอะไรได้อีก? มันคือมะเร็ง พวกเขาจะทำอะไรได้?” จางซิวหยิงพูด

 

พ่อของเขาไม่มีความสุขเพราะเรื่องนี้ เพราะยังไงคนที่ป่วยก็คืออาของเขาเอง

 

“พรุ่งนี้ลูกเข้าไปในเมืองกับพ่อได้ไหม?” หวังเฟิงฮวาถาม

 

“ได้ครับ” หวังเย้าพูด

 

หวังเย้ากลับขึ้นไปบนเนินเขาหลังจากมื้ออาหาร เขายังคงคิดเกี่ยวกับปู่ของเขา

 

มะเร็งคล้ายกับโทษประหารสำหรับคนทั่วไป เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรักษาให้หายได้

 

สำหรับผู้ป่วยมะเร็งบางคน พวกเขาสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวได้ แต่ก็ต้องทุกข์ทนกับความทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ

 

จะมีสูตรยาวิเศษหรือสมุนไพรรากตัวไหนในระบบที่จะใช้รักษามะเร็งได้บ้างรึเปล่านะ?

 

หวังเย้าเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมา แต่เขาก็ไม่สามารถหาสูตรยาหรือสมุนไพรรากตัวไหนที่จะใช้รักษามะเร็งได้เลย และเขาไม่ได้ยินเสียงหรือคำตอบจากระบบเช่นกัน

 

บางทีอาจจะเป็นเพราะเลเวลของฉันต่ำไป

 

เช้าวันต่อมา หวังเย้าตื่นแต่เช้าไปทำงานในแปลงสมุนไพร แม่ของเขาขึ้นมาบนเนินเขาในตอน 9 โมงเช้าเพื่อเฝ้าแปลงสมุนไพรให้กับเขา เขาได้ขับรถเข้าไปในเมืองพร้อมกับพ่อของเขาเพื่อไปเยี่ยมปู่

 

เขาได้ซื้อของขวัญสำหรับปู่ก่อนที่เขาจะไปโรงพยาบาล หวังเย้าไม่ได้เจอปู่ของเขามาสักพักแล้ว

 

ที่โรงพยาบาล ปู่ของเขาดูอ่อนแอ อ่อนแรงและผอมบาง อาและน้าของเขานั้นนั่งอยู่ติดกับเตียงผู้ป่วย พวกเขาดูโศกเศร้า

 

“บางทีเราควรจะส่งพ่อไปที่โรงพยาบาลในเมืองเว่ย ที่ที่มีอุปกรณ์การรักษาที่ดีกว่านี้” อาคนหนึ่งของเขาพูดขึ้น

 

“มันก็ไม่ต่างกันหรอก” อาอีกคนพูดขึ้น

 

บรรยากาศภายในห้องนั้นดูอึมครึม

 

พ่อของหวังเย้านั้นเป็นคนเงียบๆ ในสถานการณ์แบบนี้เขายิ่งเงียบกว่าเดิม เขาถามอาการของอาของเขาเสร็จแล้วก็เงียบไป เขาจะเงยหน้าขึ้นมองชายชราที่นอนอยู่บนเตียงเป็นพักๆเท่านั้น

 

ปู่ของหวังเย้านั้นเสียไปเมื่อ 3ปีที่แล้ว ปู่ของเขามีพี่น้องอยู่สองคน คนที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลนั้นเป็นน้องชายคนเล็ก ส่วนน้องชายอีกคนนั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นแล้ว

หวังเย้าอยากจะช่วย แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง

 

บางทีซุปเป่ยหยวนอาจจะได้ผล ดวงตาของหวังเย้าเปล่งประกาย

 

พวกเขาทั้งสองไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลนานนัก ญาติๆก็เดินไปส่งพวกเขากลับไป

 

หวังเย้าพบกับถงเว่ยโดยบังเอิญที่บริเวณล็อบบี้ของโรงพยาบาล

 

“ไฮ หวังเย้า นายมาทำอะไรที่นี่เหรอ?” ถงเว่ยถาม

 

“พ่อกับฉันเรามาเยี่ยมญาติน่ะ” หวังเย้าพูด

 

“สวัสดีค่ะ คุณลุง” ถงเว่ยหันไปหาพ่อของหวังเย้าด้วยรอยยิ้ม

 

“สวัสดี” หวังเฟิงฮวายิ้มให้เธอ เขาดูมีความสุขที่ได้เห็นถงเว่ย

 

“เช้านี้นายว่างรึเปล่า?” ถงเว่ยถาม

 

“เอ่อ ฉันต้องไปส่งพ่อที่บ้านน่ะ” หวังเย้าพูด

 

“ไม่ต้องหรอก! พ่อจะนั่งรถบัสกลับเอง ลูกอยู่ต่อเถอะ!” หวังเฟิงฮวาพูดในทันที

 

“งั้นเราทั้งหมดไปกินข้าวด้วยกันดีไหมคะ? ฉันเลี้ยงเอง” ถงเว่ยพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“ขอบคุณนะ แต่ฉันต้องไปจริงๆ” หวังเย้าพูด “โอเคครับพ่อ เดี๋ยวผมขับรถไปส่งพ่อขึ้นรถบัสนะครับ”

 

“ฉันรู้ว่าป้ายรถบัสอยู่ที่ไหน” หวังเฟิงฮวาพูด

 

“ให้ผมไปส่งเถอะ” หวังเย้าพูด

 

“แล้วฉันจะโทรหานะ” ถงเว่ยพูด

 

“โอเค เข้าใจแล้ว” หวังเย้าพูด

 

หวังเย้าจึงขับรถไปส่งของเขาที่ป้ายรถบัส หลังจากที่บอกลาถงเว่ยแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด