ตอนที่แล้วบทที่ 187 - เส้นทางที่ฉันเลือกเดิน (4) [08-08-2019]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 189 - เส้นทางที่ฉันเลือกเดิน (6) [13-08-2019]

บทที่ 188 - เส้นทางที่ฉันเลือกเดิน (5) [11-08-2019]


บทที่ 188 - เส้นทางที่ฉันเลือกเดิน (5)”

 

2 ปีที่ผ่านไปมันยังเร็วมากเกินไปที่จะใช้สองมือนับจำนวนคนที่มีเลเวลมากกว่า 80 แต่ว่าด้วยสถานการณ์ที่เปลื่ยนแปลงไปหลังจากเกิดมหาภัยพิบัติขั้นที่ 2 ขึ้นรวมกับการที่มีการติดต่อเข้ากับคนจากโลกอื่นๆได้ทำให้คนบนโลกได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพราะเหตุนี้ทำให้พวกเขาได้เปิดปประตูมิติไปสู่โลกอื่นได้อย่างมากมาย

เรื่องพวกนี้มีส่วนช่วยอย่างมากที่ทำให้โลกเปลื่ยนแปลงไปในทางที่ถูกต้อง ในเวลาเดียวกันก็นำความเจริญมาสู่แวนการ์ด กังนัมแล้วก็เกาหนี แต่ในเวลาเดียวกันนี้เรื่องพวกนี้ก็นำความลำบากมาให้เช่นกัน

"คนบนโลกแข็งแกร่งขึ้นมากจริงๆ ฉันไม่เคยรู้ว่าก่อนเลยว่าพวกเขาได้เชื่อมต่อกับโลกอื่นกันมากกว่า 30,000 หมื่นโลกไปแล้ว"

"พวกเรารู้สึกแทบจะบ้าตลอดสองปีที่ผ่านมานี้เลย~ พวกเขาจะเปิดช้าๆก็ได้นี่ แล้วก็นะดูเหมือนเราจะห้ามพวกเขาไม่ให้เปิดประตูมิติก็ดูจะไม่ได้ด้วย"

"เธอก็ไม่เห็นพูดอะไรเลยนี่ในตอนที่เปิดประตูมิติไปเบร์ย่าเพื่อสร้างวิหารน่ะ"

นายูนาได้ถอนหายใจออกมากับคำตอบของยูอิลฮาน

"ถ้าฉันดูเหนื่อย นายก็ควรจะมากอดฉันอุ่นๆหรือไม่ก็ลูบหัวฉันสิ!"

"ต่อให้เธอจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม คนที่เหนื่อยมากที่สุดก็คือฉันอยู่ดี ไม่มีใครจะแย่งตำแหน่งนี้ไปจากฉันได้"

"ว้าว!"

ยูอิลฮานมั่นใจว่าพวกกองทัพจรัสแสงจะต้องมีแผนอย่างอื่นอีกแน่ แต่ว่าถึงรู้ไปก็ไได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรกับมันได้ ดังนั้นเขาก็เลยตั้งสมาธิไปกับการจัดการทำลายวงเวทย์ก่อนเป็นอย่างแรก ผลที่ได้ออกมาก็มันเป็นไปได้สำหรับพวกเขาที่จะทำลายวงเวทย์มากกว่า 150 อันภายในเวลาแค่ 3 วัน

วงเวทย์มันมีบันทึกอยู่ภายในทำให้ตอนที่เขาทำลายวงเวทย์ ยูอิลฮานก็จะได้รับเศษเสี้ยวบันทึกมาทีล่ะนิด ยิ่งเวลาผ่านไปเขาก็ยิ่งตีความเข้าใจในวงเวทย์ได้มากยิ่งขึ้น

แต่ถึงแบบนั้นในตอนนี้เขาก็ตีความมันออกมาได้แค่ในด้านของเวทย์ที่จู่โจมผู้โจมตี วัสดุและเวลาที่ใช้ในการสร้างวงเวทย์ เมื่อเทียบกับคังมิเรย์และคนอื่นๆที่ไม่มีความคืบหน้าเลยตลอดสองปี นี่เป็นความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่มาก เขาคิดว่าความรู้ในด้านวิศวกรรมเวทย์ของเขาก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวในเรื่องนี้ด้วย

"วงเวทย์พวกนี้มันไม่ใช่สิ่งที่จะติดตั้งได้ในเวลาแค่วันสองวันนะ ต่อให้คนๆนั้นจะร่วมมือกับเทวดาตกสวรรค์ พวกนั้นก็ไม่น่าจะกู้คืนวงเวทย์มาได้ในเวลาสั้นๆ"

"โชคดีจังเลยน้า~"

[ถ้าเป็นอิลฮานตามปกติ เขาก็คงจะไปนอนพักสบายๆหลังจากอัดพวกคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว เขานี่อดทนมากเลยนะ]

ยูอิลฮานได้แต่ส่งเสียงขึ้นจะจมูกกับคำพูดของเธอและตอบกลับไป

"ที่ฉันปล่อยพวกนั้นเอาไว้ก็เพราะว่าฉันไม่มีเวลาไงล่ะ เดี๋ยวพอฉันมีเวลาหลังจากฉันสอบสวนพวกนี้แล้วฉันก็จะอัดให้หมดเลย"

"ดีเลยที่ได้ทำเรื่องต่างๆให้เรียบร้อย"

[ดูเหมือนว่าอีกไม่นานเดี๋ยวหลุมศพได้เต็มแน่เลย]

นับตั้งแต่ที่เขาจัดการเทวดาตกสวรรค์สำเร็จเป็นคนแรกก็ผ่านมาแล้วหนึ่งสัปดาห์ นับจากตอนนั้นยูอิลฮานก็ได้จัดการฆ่าทูตสวรรค์คนอื่นอีกสองคนระหว่างไปทัวร์โลกต่างๆ

แน่นอนว่าเขาไม่ได้รับหินพลังเวทย์เพิ่มขึ้นมาเลย แต่ว่าแค่ได้รับร่างของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงมาก็น่าพอใจมากแล้ว เพราะแบบนี้เขาจะสามารถสร้าง 'รากฐาน' ของอาวุธอเนกประสงค์ที่เขาใฝ่ฝันได้

"แต่ว่าถ้าไม่มีปีกพวกนี้ก็เหมือนมนุษย์เลยนะ นายกำลังจะเอาศพพวกเขาไปทำอะไรอะ?"

"เธออยากจะบอกอะไรน่ะ ฉันก็แค่เอาศพไปชำแหละปีก หนัง เนื้อ กล้ามเนื้อ เลือดแล้วก็ดูว่าเอาไปใช้ทำอะไรได้ไง"

"แต่พวกเขาดูเหมือนมนุษย์...?"

"แล้วมันต่างยังไงหรอ?"

"...ไม่มีอะไรหรอก~ โทษทีๆ~"

ยังไงก็ตามยูอิลฮานไม่อาจจะมีความสุขกับการล่าสิ่งมีชีวิตชั้นสูงไปได้ตลอดกาล เขาได้ตระเวนไปทั่วโลกต่างๆอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าเขากลับไม่เจอเทวดาตกสวรรค์เลยสักคน เอาเถอะหากว่าพวกกองทัพจรัสแสงยังไม่รู้ตัวทั้งๆที่สมาชิกของพวกเขาตายไปสี่คน กลุ่มพวกนั้นก็คงจะมีปัญหาแล้ว

หลังจากนั้นทุกๆอย่างได้เป็นไปตามที่ยูอิลฮานคิดเอาไว้ พวกเทวดาตกสวรรค์ไม่ได้โผล่ออกมาให้ยูอิลฮานได้เห็นเลย ทุกๆอย่างได้เป็นไปตามที่ยูอิลฮานต้องการแต่ว่าแน่นอนก็มีคนๆหนึ่งที่ไม่พอใจ

"ถ้าพวกนั้นไม่กลัวกันสักนิดก็คงจะดีกว่านี้"

[ถ้าพวกนั้นไม่กลัวนายก็คงจะไล่ล่าพวกมันต่อล่ะสิ]

"อิลฮาน หยุดหาเทวดาตกสวรรค์แล้วไปโลกอื่นกันดีกว่า~"

เมื่อความคาดหวังที่จะได้เจอเทวดาตกสวรรค์ได้หมดลงไปแล้วก็ได้ทำให้การทำลายวงเวทย์กลายเป็นเรื่องที่น่าเบื่อขึ้นมา นายูนาก็ยังชินกับความเร็วในการบินของยูอิลฮานไปแล้ว แถมเธอยังพัฒนาขึ้นมาถึงขนาดออกแรงให้กำลังใจออกมาในตอนที่ยูอิลฮานเร่งความเร็วขึ้น

"เย้ ไปเลย ไป๊!!!"

"เธอยังอยากจะให้ฉันไปเร็วกว่านี้อีก?"

"อ๊า เร็วกว่านี้อีกหรอ~?"

แน่นอนว่าเธอยังห่างไกลกับการจะไล่ตามยูอิลฮานทัน

***

วันเวลาได้ผ่านไปราวกับกระพริบตา ยูอิลฮานกับนายูนาได้ไปสู่โลกใหม่ๆเพื่อทำลายวงเวทย์ และในระหว่างที่บินอยู่หากเป็นไปได้เขาก็จะค้นหาสิ่งมีชีวิตชั้นสูงไปด้วย กระบวนการนี้ได้เกิดขึ้นมาซ้ำๆจนเวลาผ่านไปเกือบจะครบเดือนแล้ว

แถมนี่ยังเป็นเพียงสัปดาห์แรกที่เขาคิดว่าการเปลื่ยนแปลงครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นจากการที่เขาล่าเทวดาตกสวรรค์ไป ตอนนี้กองทัพจรัสแสงและกองทัพปีศาจแห่งการทำลายได้รู้ตัวแล้วว่าได้มีสิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้ตกตายภายใต้เงื้อมมือของยูอิลฮาน พวกเขาทั้งสองฝ่ายได้หยุดการกระทำทุกอย่างพร้อมๆกันในทันทีราวกับว่าพวกเขาได้ยอมแพ้กับเรื่องบนโลกไปแล้ว

นอกไปจากนี้พวกยูอิลฮานยังได้ไปเจอกับโลกไม่มีวงเวทย์เลยเช่นกัน บางทีอาจจะเพราะว่าพวกคนที่ทำงานภายใต้เทวดาตกสวรรค์ได้หยุดการทำงานลงเพราะสูญเสียก่อนนำไปก็ได้ หรือไม่บางทีอาจจะเพราะว่าพวกเขาตั้งใจหยุดทำเพราะยูอิลฮานยังคงเอาแต่ทำลายวงเวทย์ ยูอิลฮานไม่รู้ว่าเป็นในแบบไหนแต่ไม่ว่ายังไงนี่ก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้น

'ฉันคงต้องใช้นาฬิกาทรายแห่งการเวลาสักเดี๋ยวแล้วล่ะมั้ง'

ยูอิลฮานยังคงมีศพของเทวดาตกสวรรค์อยู่สี่คนในช่องเก็บของเขา แม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจว่าจะใช้ร่างกายของเทวดาตกสวรรค์ทำอะไรได้ แต่ว่าแค่คิดว่าเขาจะเอามาลองทำอะไรได้บ้างมันก็ทำให้ใจเขาเต้นแล้ว ยูอิลฮานเป็นพวกวิปริตมาตั้งแต่ต้นแล้ว

"อิลฮาน~"

เสียงที่ไพเราะของนายูนาได้กระทบเข้ามาในหูของยูอิลฮาน หลังจากได้จัดการทำลายวงเวทย์ในโลกที่ไม่รู้ว่าเป็นโลกที่เท่าไหร่แล้วอย่างปลอดภัย พวกเขาก็กำลังจะกลับไปที่โลกด้วยการบินที่ไม่คำนึงถึงความรู้สึกและความปลอดภัยของผู้โดยสารเลยสักนิด

"ทนอีกนิดเดี๋ยวพวกเราก็จะถึงแล้ว"

"ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น"

นายูนาได้ชี้ไปที่ประตูมิติที่พวกเขากำลังไปกัน ประตูมิติ? ยูอิลฮานได้แต่สงสัยแล้วเมื่อเขามองไปเขาก็ได้รู้ว่าประตูมิติกำลังหดตัวลงไป

"ฉันคิดว่าพวกเราไปไม่ทันแล้วนะ"

"ย๊ากกกก!"

น่าจะต้องมีคนกำลังส่งมานามาจากอีกฝั่งหนึ่งสิ! ไม่ เดี๋ยวนะ หากว่าประตูมิติไม่ได้รับมานาเพราะว่าเหตุผลแปลกๆอย่างการที่ทุกคนบนโลกกำลังตายล่ะ ประตูมิติก็ไม่น่าจะปิดตัวลงได้เพราะว่ายูอิลฮานทำทุกอย่างไม่ได้นานขนาดนั้นนี่!

แน่นอนว่าเขาก็ยังคงกลับไปที่โลกได้ด้วยผลของฉายา 'กบที่กระโดดพ้นกำแพง' แต่ว่าหากเป้าหมายมันไม่ใช่แค่นั้นล่ะ?

ยูอิลฮานได้เร่งความเร็วของเขาจนถึงขีดสุดด้วยการสร้างคลื่นกระแทกและกระโดดในทันที นายูนาก็คิดเอาไว้แล้วทำให้เธอสร้างโล่ขึ้นมาในทันที แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ไม่อาจจะมองตรงไปได้อีกเพราะแรงกดดันที่มหาศาล

"ย๊ากกกกกกก!"

"กรี๊ดดดดดด!"

ความเร็วนี้มันมากกว่าที่สายตาจะมองทันเสียอีก! ยูอิลฮานได้พุ่งเข้าไปในศูนย์กลางของประตูมิติทันอย่างน่าทึ่งและเข้าได้เข้าไปในประตูมิติก่อนที่จะปิดลงอย่างสวยงาม

แม้ว่าจะมีอันตรายจากการกระแทกกับพื้นหลังจากไปถึง แต่เขาก็สามารถจะลดความเร็วลงและหยุดลงที่เบาะรองสุดนิ่มที่อยู่ตรงหน้าเขา

"ฟู่"

ยูอิลฮานได้มองไปรอบๆในทันทีที่เอาหน้าถอนออกมาจากเบาะเสร็จ ฉากที่เห็นก็คือฉากของโลกของเขาแน่นอนเรื่องนี้ได้ทำให้เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

"ปลอดภัย!"

"ออกมาแล้ว!"

นายูนาที่เกือบจะต้องเจอกับความตายไปชั่วขณะได้ตะโกนออกมา

ยังไงก็ตามยูอิลฮานไม่ได้ฟังเธอเลย เขารู้สึกแปลกๆเมื่อมองดูรอบๆตัว

"นี่มัน.... เกิดอะไรขึ้น...?"

"เฮ้ นายนี่เปลื่ยนเรื่องได้... หือ?"

นายูนาที่กำลังจะบ่นออกมาก็ยังรู้สึกตัวว่ามีบางอย่างแปลกๆ รอบๆตัวเธอไม่มีคนอยู่เลย

นี่มันหมายความว่าพวกคนอื่นๆทั้งหมดตายไปจากการต่อสู้งั้นหรอ? ไม่สิ นี่มันดูเหมือนว่ามนุษย์ถูกลบออกไปจากโลกนี้เลยมากกว่า

"ฉันรู้สึกเหมือนเดจาวู..."

[ไม่มีทาง มันไม่น่าจะเป็นไปได้... เยี่ยม เวลาที่ไหลอยู่บนโลกยังคงปกติอยู่]

ยูอิลฮานได้นึกย้อนไปถึงในตอนที่เขาถูกทิ้งไว้คนเดียว โลกที่หยุดนิ่ง ผู้คนที่หายไป ในส่วนลึกของเขาหวาดกลัวการต้องอยู่คนเดียวในสถานการณ์แบบนี้...

มันเป็นเรื่องพันปีมาแล้วแต่ความทรงจำตอนนั้นของเขายังชัดเจน ยูอิลฮานได้แต่กอดนายูนาที่อยู่ในอ้อมแขนเขาแน่นมาขึ้นจนนายูนาส่งเสียงออกมา

"นายจะกอดฉันแน่นๆก็ได้นะ"

"ฟู่"

ตามปกติแล้วยูอิลฮานคงจะหาเรื่องแก้ตัวไปแล้ว แต่ในคราวนี้เขาได้ถอนหายใจออกมาเพราะคำพูดของเธอ ในตอนนี้เลียร่ารู้สึกได้ถึงบางอย่างและตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส

[เข้าใจแล้ว จากระลอกคลื่นมานาในชั้นบรรยากาศของโลกมันดูเหมือนว่าจะเกิดมหาภัยพิบัติขั้นที่ 3 ขึ้นมา บางทีที่คนที่นี่หายไปก็น่าจะเป็นเพราะพวกเขาหลบไปที่โลกอื่นก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา บางทีนี่ก็เป็นเตุผลที่ทำให้ประตูมิติหายไปอีกด้วย!]

ยูอิลฮานได้ยกระดับสัมผัสของเขาขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินแบบนี้ แต่จริงๆแล้วเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย ในปัจจุบันนี้มานาในชั้นบรรยากาศได้มีความเข้มข้นถึงขีดสูงสด ตกผลึกออกมา ระเหยออกมา ระเบิดขึ้นและรวบตัวเข้าหากันใหม่ แค่มานาพวกนี้เฉยๆก็ทำอันตรายคนที่มีเลเวลต่ำได้แล้ว!

[มหาภัยพิบัติขั้นที่ 3 นี่มันบ้าอะไรกัน นี่มันดูแย่ยิ่งกว่าขั้นที่ 4 อีกนะ... ถึงแบบนั้นมันก็ยังไม่ถึงระดับขั้นที่ 5 ชู่ววว โลกนี้มันบ้าไปแล้ว!]

"ดูเหมือนว่ามหาภัยพิบัติจะกำลังเกิดขึ้นมาแล้ว.... แต่เดี๋ยวนะ ประตูมิติที่กำลังปิดลงเป็นเพราะมหาภัยพิบัติขั้นที่ 3 จริงๆหรอ?"

ยูอิลฮานได้แต่สงสัย

กำลังปิดลง? ประตูมิติเนี้ยนะ? ประตูมิติที่เชื่อมต่อไปยังโลกที่มีวงเวทย์ที่เทวดาตกสวรรค์ได้ติดตั้งเอาไว้?

"ถ้างั้นพวกมันจะใช้วงเวทย์พวกนั้นทำอะไรกับโลกอีกล่ะ?"

[ไม่มีเลย]

"..."

"..."

ความเงียบได้ปกคลุมไปทั่ว ใช่แล้ว ไม่มีอะไรเลย วงเวทย์พวกนั้นจะสร้างความเสียหายได้ยังไงล่ะในเมื่อการเชื่อมต่อได้ถูกตัดไปแล้ว ผ่านกำแพงมิติแล้วทำอะไรงั้นหรอ?

"...แล้วพวกมันจะทำวงเวทย์พวกนั้นเพื่ออะไรกัน?"

[บางทีพวกมันอาจจะคิดไม่ถึงว่าประตูมิติจะปิดตัวลงก็ได้นะ]

ยูอิลฮานกับเลียร่าได้แต่มองกันเองอย่างสงสัย ยังไงก็ตามได้มีเสียงหนึ่งเรียกพวกเขาขึ้น

"อิลฮาน"

มันไม่ใช่ใครอื่นที่เรียกเขาแต่เป็นนายูนาที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของยูอิลฮาน

"ดูเหมือนว่าคำพูดของนายจะถูกต้องซะแล้วสิ"

"อะไรนะ? หือ...!"

ยูอิลฮานได้ตกตะลึงไปหลังจากจ้องไปที่เธอ ร่างกายของเธอกำลังหายไปอย่างช้าๆ

มันราวกับว่าเธอกำลังหายตัวไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด