ตอนที่แล้วบทที่ 186 - เส้นทางที่ฉันเลือกเดิน (3) [05-08-2019]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 188 - เส้นทางที่ฉันเลือกเดิน (5) [11-08-2019]

บทที่ 187 - เส้นทางที่ฉันเลือกเดิน (4) [08-08-2019]


บทที่ 187 - เส้นทางที่ฉันเลือกเดิน (4)”

 

ยูอิลฮานกับนายูนาที่ได้จบลงด้วยแผนฆ่าสิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้ออกมาจากโลกอื่นและกลับไปเตรียมตัวที่โลกในทันที พวกเขาได้ทิ้งโน๊ตไว้ที่คฤหาสน์แผ่นหนึ่ง

ข่าวการตายของเทวดาตกสวรรค์อาจจะไปถึงศูนย์หลักของพวกมันในเวลาไม่นาน เมื่อข่าวไปถึงพวกมันจะต้องตัวสั่นด้วยความกลัวและลดขอบเขตการกระทำลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่นี้พวกมันก็ยังจะลดการโผล่ตัวที่โลกของเขาและโลกอื่นๆที่มีการเชื่อมต่อด้วย การกระทำของยูอิลฮานจะส่งผลออกไปอย่างต่อเนื่อง

เหตุผลที่เขาพยายามจะฆ่าทูตสวรรค์เในตอนแรกก็เพราะเรื่องข้างต้นนั่นด้วย แต่ในตอนนี้ที่เขารู้ว่าไม่เพียงแต่เจ้าพวกนั้นจะเป็นแหล่งค่าประสบการณ์ที่ดี เขาก็ยังจะได้ทั้งร่างกายแล้วก็หินพลังเวทย์ด้วย ดังนั้นเขาก็เลยคิดขึ้นมาว่าเขาจะพลาดโอกาสนี้ไปไม่ได้

สิ่งที่ยิ่งทำให้เขายิ่งมั่นใจมากขึ้นไปอีกก็คือฉายา 'ไม่อาจเอื้อม' ที่เขาเพิ่งจะได้รับมา เจ้าพวกที่มี 'ขอบเขต' ที่สูงกว่าเขาก็คือสิ่งมีชีวิตตั้งแต่คลาส 4 ขึ้นไปจะทำให้พลังทั้งหมดของเขาเพิ่มขึ้น 20% ดังนั้นตอนนี้เขาก็ไม่ต้องลังเลอะไรแล้ว

"ตามปกติแล้วคนที่ได้ฉายานี้จะยินดีที่ฆ่าคลาส 4 ได้ง่ายขึ้นแต่ไม่ว่ายังไงก็คงไม่มีทางที่จะไปคิดฆ่าสิ่งมีชีวิตชั้นสูงล่ะน้า~"

[เธอก็น่าจะรู้ดีนี่ว่าอิลฮานไม่นับว่าปกติอีกต่อไปแล้ว]

ตามปกติแล้วพวกสิ่งมีชีวิตชั้้นสูงจะไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็นในโลกระดับต่ำ เหตุผลที่ยูอิลฮานได้เจอกับเทวดาตกสวรรค์นั่นก็เพราะว่ามีข้อมูลรั่วไหลออกไปให้พวกนี้ผ่านทูตสวรรค์ที่ทรยศเลยทำให้เทวดาตกสวรรค์โผล่ออกมา ยูอิลฮานก็ไม่ได้รู้ว่าพวกนี้มีแผนจะติดต่อเขาทำไม แต่พวกนั้นกำลังจะรอยูอิลฮานอยู่แน่นอน พวกมันจะทำอะไรงั้นหรอ? ตรวจดูระดับพลังของฉัน? บอกอะไรบางอย่างกับฉัน? เตือนฉัน?

ไม่ว่าจะยังไงฉันก็ไม่สนสักนิด ยูอิลฮานก็แค่ต้องอัดพวกมันทั้งหมด

หลังจากยูอิลฮานได้ไปโลกอื่นมาอีก 4 แห่ง เขาก็ได้เจอกับเทวดาตกสวรรค์เป็นครั้งที่ 2

"เจอแล้ว"

"ฉันไม่เห็นเจอเลย~"

[ถ้าพวกมันถูกเธอเจอ พวกมันก็ไม่นับเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงแล้ว]

เทวดาตกสวรรค์ดูจะไม่ได้รับการแจ้งว่าเพื่อนของเขาได้ตายไปแล้วเลย เขายังคงรอยูอิลฮานอยู่รอบๆประตูมิติ ในทันทีที่ยูอิลฮานเห็นเขา ยูอิลฮานก็ไม่ได้เข้าไปทำลายวงเวทย์แต่ยูอิลฮานได้ไปล่ามอนสเตอร์รอบๆ 100 ตัวก่อนจะเริ่มการซุ่มโจมตี

[ฉันรู้สึกได้ถึงบางอย่าง... อั๊ก!?]

"นายได้ตายไปแล้ว!"

[ติดคริติคอล!]

การโจมตีต่อเนื่องติดกัน 9 ครั้งได้เกิดคริติคอลหลายต่อหลายครั้ง ข้อความพวกนี้คือสิ่งที่ยูอิลฮานชอบที่สุด

[อั๊ก!? เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน...!]

"เฮ้ เฮ้ พอแค่นี้แหละ คำแบบนี้เพื่อนนายเคยพูดมาแล้ว"

[แก... เห็นฉัน!]

"ก็นายมันอ่อนอะ"

เขาได้พยายามจะฆ่ายูอิลฮานด้วยพลังเฮือกสุดท้าย แต่ว่ามันก็ไม่มีทางที่ยูอิลฮานจะโจมตีอยู่แล้วหากว่าเขาอาจจะถูกสวนกลับได้

[อ๊าาา ไอ้สารเลว...!]

"ปล่อยให้ฉันพักเถอะนะ เดี๋ยวฉันจะส่งคนอื่นตามไปเจอด้วยแล้วกัน"

[ก่อนหน้านั้นฉันจะฆ่าแก.... ฆ่า!!!]

การโจมตีของเทวดาตกสวรรค์นั้นเฉียบขาดและถึงตายได้เลย แต่ว่าต่อใหเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่มีพลังมากขนาดฉีกผืนฟ้าข้ามทะเลได้ก็ตาม หากอวัยวะเวทย์ของพวกเขาถูกทำลายไปแล้วก็ไร้ประโยชน์ ไม่ว่าเขาจะพยายามรวบรวมพลังในร่างยังไงก็ไม่เกิดผลอะไรขึ้น

[ยังไงก็ตามมันสายไปแล้ว... แกมาช้าไปแล้ว!]

เพราะแบบนี้นี่คือการโจมตีสุดท้ายที่เทวดาตกสวรรค์ทิ้งเอาไว้จนทำให้ยูอิลฮานรู้สึกรำคาญ เนื้อหาของคำพูดนี้ก็คล้ายๆกับเทวดาตกสวรรค์คนแรกที่เขาฆ่า แต่ว่าในครั้งนี่มากกว่าหน่อยแล้วก็แตกต่างเล็กน้อยด้วย

แม้ว่ายูอิลฮานจะรู้ว่าถามออกไปก็ไม่ได้อะไรแต่เขาก็เลือกถามออกไป

"แล้วอะไรที่สายเกินไป..."

[อั๊ก!]

คำตอบกลับก็มีแค่นี้ เทวดาตกสวรรค์ได้สำลักเลือดสีดำออกมาจนตายลงไป ยังไงก็ตามแม้ว่ายูอิลฮานจะทำการล่าสำเร็จแต่สีหน้าเขาก็ไม่ได้สดใสขึ้นมา

[คุณได้รับค่าประสบการณ์]

[สกิลหอกไร้วิถีได้เพิ่มเลเวลเป็นเลเวล 86]

[สกิลยมทูตได้เพิ่มเลเวลเป็นเลเวล 90]

[ฆ่าคลาส 5 1/1]

"ชิ ฉันโดนเล่นเข้าแล้ว"

ยูอิลฮานได้บ่นออกมาอย่างไม่พอใจทั้งๆที่เก็บร่างกายเทวดาตกสวรรค์ไป

"เจ้านี่มันมีความสามารถในการพูดล่อเหยื่อต่างไปจากคนแรกเลยแหะ ฉันตกใจจริงๆ"

"ฉันยิ่งตกใจกับปฏิกิริยาของนายมากกว่า"

"จากความจริงที่มันทำให้ฉันเตรียมอะไรไมได้เลยทั้งๆที่มันได้ทิ้งข้อมูลที่เป็นรูปธรรมไว้ให้ฉัน ฉันให้คะแนนเจ้านี่ 79 คะแนนเลย"

จากสีหน้าที่ค่อนข้างเคร่งเครียดของยูอิลฮานทำให้นายูนาที่อยากจะถามว่าอีก 21 คะแนนหายไปไหนได้แต่ห้ามตัวเองเอาไว้ ยูอิลฮานได้ขบริมฝีปากหลังจากเลาะกระโหลกเปิดสมองดูแล้วไม่เจอกับหินพลังเวทย์

"ดวงของฉันไม่ได้ดีเลยสักนิด เอ๊ะ? ฉันอยากจะวิวัฒนาการสกิลภาษาเหมือนกันแล้วสิ..."

[คงมีแต่นายเท่านั้นแหละที่ทั้งๆอยู่ในคลาสที่ 3 แต่กลับอยากจะได้หินพลังเวทย์คลาส 5 มากๆน่ะ]

"เอาล่ะ ถ้างั้นก็รีบไปโลกอื่นกันดีกว่า! พวกมันก็น่าจะใกล้รู้ตัวแล้ว นับจากนี้คงต้องแข่งกับเวลาแล้ว"

"อ่า ถึงแบบนั้นเราก็ยังต้องทำลายวงเวทย์ก่อนน้า~"

ด้วยปีกเสียงเพรียกแห่งการล่มสลายกับสกิลกระโดดได้ทำให้ยูอิลฮานกับนายูนาได้ใช้เวลา 25 นาทีในการเข้ามาในโลกและทำลายวงเวทย์ หากเป็นคนอื่นๆเวลาที่เร็วที่สุดก่อนจะกลับไปที่โลกก็คือ 4 วันแล้ว พอมาลองคำนวนง่ายๆแล้วยูอิลฮานเร็วกว่าคนอื่นๆถึง 180 เท่า

ยังไงก็ตาม 25 นาทีที่กำลังพูดถึงกันนี้คือเวลาโดยเฉลี่ยเท่านั้นดังนั้นถึงเทียบกันไปก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ด้วยความเร็วของยูอิลฮานนี้ต่างทำให้คนอื่นๆต้องกลับไปทบทวนตัวเองว่าพวกเธอมัวทำอะไรกันอยู่ในเวลา 2 ปี

นายูนาได้สร้างโล่แลถถามขึ้นมาแม้ว่าตอนนี้เธอจะอยู่บนอ้อมแขนยูอิลฮานที่บินอยู่บนท้องฟ้าด้วยความเร็วที่สูงมากๆ

"นายสร้างอาร์ติแฟคแบบนี้ได้ยังไงกัน? การบินด้วยความเร็วแบบนี้มันต้องใช้มานาที่มหาศาลมากเลยนะ แต่ว่าดูแล้วนายดูจะไม่ได้เสียมานามากเท่าไหร่เลย"

"ในตอนเริ่มบินมันก็กินมานาของฉันอยู่แหละ แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้น เจ้าอาร์ติแฟคนี่น่ะมันต้องการความสามารถของผู้ใช้มากกว่า หืม ฉันเดาว่าน่าจะเป็นการเชี่ยวชาญสกิลการต่อสู้ระยะประชิดแล้วก็สกิลกระโดดล่ะมั้ง"

"เห~ เป็นแบบนี้นี่เอง"

นายูนาได้ตัดสินใจว่าจะไม่ถามอไรอีกแล้ว แน่นอนว่าที่เป็นแบบนี้เพราะว่าอาร์ติแฟคนี้มีประสิทธิภาพมากๆและใช้มานาเพียงน้อยนิดนี้จำเป็นต้องเชี่ยวชาญสกิลถึง 2 อย่างเป็นพื้นฐาน.... แต่แม้แต่เธอได้ไปใช้ชีวิตในโลกอื่นถึง 10 ปีเธอก็ยังไม่มีสักสกิลเดียวที่เชี่ยวชาญเลย

แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็ยังเป็นเพราะว่าสกิลคลาสที่เธอได้รับมามีระดับสูงอยู่แล้วซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากๆอยู่แล้วที่จะฝึก แต่ว่าเมื่อนำมาเทียบกันดูแล้วสถานะของยูอิลฮานก็ยังผิดปกติไปอยู่ดี

ไม่ว่าคนๆหนึ่งจะมีศักยภาพหรือแข็งแกร่งยังไงก็น่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะข้ามขีดจำกัดของเวลาใช่ไหมล่ะ? สายตาที่เธอมองไปที่ยูอิลฮานได้หรี่เล็กลง

"นายยังมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกฉันใช่ไหม?"

"ฉันไม่มีอะไรจะบอกเธอ"

"นายไม่ยอมลดการระวังตัวเลยนะ"

[นี่แหละอิลฮานของฉัน]

"เขาไม่ใช่ของเธอหรอกนะคุณป้า!"

[คุณป้า!?]

ยูอิลฮานได้กังวลว่ากองทัพจรัสแสงจะสังเกตุเห็นว่ายูอิลฮานได้ฆ่าเทวดาตกสวรรค์ไปแล้วสองคน แต่จริงๆแล้วถึงแม้ว่าเขาจะไปจัดการวงเวทย์มาแล้วสิบโลกเวลาก็เพิ่งจะผ่านไปแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

เทวดาตกสวรรค์ที่อยู่ในฝั่งกองทัพจรัสแสงนั่นจะมาเจอกันเฉพาะการประชุมเป็นระยะเท่านั้นซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะจัดขึ้นในวันสองวัน เพราะแบบนี้ทำให้สมาชิกทุกๆคนที่เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงส่วนใหญ่จะตัดสินแก้ไขเรื่องส่วนใหญ่ด้วยการกระทำของตัวเอง

แถมจะมีใครกันที่ไปคิดว่าหนึ่งในพวกเขาจะถูกสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำซุ่มโจมตีในโลกระดับต่ำ นี่ไม่ใช่ว่ากองทัพจรัสแสงหละหลวมแต่ว่าเป็นตัวยูอิลฮานต่างหากที่อยู่เหนือกว่าจินตนาการของพวกเขา

ยังไงก็ตามยูอิลฮานก็ยังคงเร่งรีบจัดการเคลียร์โลกต่างๆในเวลาเฉลี่ย 25 นาที

"พวกเราจะไม่เจอเลยจริงดิ?"

[พวกเราไม่เจอจริงๆนั่นแหละ มันไม่มีทางที่เทวดาตกสวรรค์จะเคลื่อนไหวกันแบบพร้อมเพรียงขยันขันแข็งอยู่แล้ว]

"แต่ว่าทำไมฉันถึงไม่เจอเทวดาตกสวรรค์เลยล่ะ! ทั้งๆที่ฉันอยากจะเจอพวกมันมากขนาดนี้!"

[พวกมันก็มีอะไรต้องทำเหมือนกับที่สวรรค์ก็มีเรื่องยุ่งๆหลายอย่างนั่นแหละ จริงๆแล้วกองกำลังของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงทุกๆฝ่ายก็เป็นแบบนี้แหละ]

ยูอิลฮานได้หันไปมองรอบๆทันทีหลังจากที่เขาได้ทำลายวงเวทย์อันที่ 17 ไป เขาไม่อาจจะสัมผัสได้ถึงตัวตนของเทวดาตกสวรรค์ได้เลยสักคน เขารู้สึกโกรธจนต้องบ่นออกมาทั้งๆที่มองดูซากวงเวทย์ที่เหลืออยู่

"แถมฉันยังไม่รู้ด้วยว่าพวกมันจะใช้วงเวทย์นี่ทำอะไร ไม่ว่าฉันจะทำอะไรกับมันฉันก็ไม่เห็นจะรู้สึกได้ถึงอันตรายจากวงเวทย์เลย"

"นั่นมันก็เพราะนายทำลายมันไปในทันทีไงล่ะ ถ้าไม่ใช่แบบนั้นมันจะปล่อยควันแปลกๆแล้วก็ยิงมานาออกมาจนเกิดความวุ่นวายขึ้นทุกแบบนั่นแหละ หากว่าไม่มีมิลอยู่ด้วยแม้แต่ฉันกับมิเรย์ยังต้องลำบากกันเลย

"วงเวทย์มันมีฟังก์ชั่นเยอะขนาดนั้นเลย?"

ดวงตายูอิลฮานได้เป็นประกายออกมา วงเวทย์ที่สร้างขึ้นเพื่อกระตุ้นเวทย์ให้เกิดผลอะไรบางอย่างในระดับโลกยังจะมีการป้องกันหลายด้านแบบนี้ด้วย? แล้วก็สิ่งมีชีวิตชั้นสูงก็ไม่อาจจะสร้างวงเวทย์ได้ด้วยเพราะว่ามีข้อจำกัดอยู่เนี้ยนะ?

"...มันมีฟังก์ชั่นแบบนั้นจริงดิ?"

"อิลฮาน?"

ยังไงก็ตามมันเป็นปกติที่เขาจะถามแบบนี้ออกมา

"วงเวทย์ที่มีความสามารถในการโจมตีที่มากมายแบบนี้ มันยังมีฟังก์ชั่นซ่อนอยู่อีกงั้นหรอ? วงเวทย์พวกนี้ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากมนุษย์หรืออะไรที่คล้ายๆกันเนี้ยนะ"

"แต่ว่าก็ต้องมีการช่วยจากกองทัพจรัสแสงแล้วก็กองทัพปีศาจแห่งการทำลายแหละน้า~ ถึงในความเป็นจริงมันจะไม่เป็นไปตามที่ฉันคิดก็เถอะนะ"

ใช่แล้ว แน่นอนว่าด้วยไหวพริบของนายูนามันไม่มีทางที่เธอจะไม่สงสัยถึงฟังก์ชั่นที่แท้จริงของวงเวทย์นี่

"ยังไงก็ตามถ้ามันไม่มีฟังก์ชั่นอื่นซ่อนอยู่อีกมันก็จะไร้ความหมายไปเลย มันจะแค่ปล่อยมานาออกมาสวนกลับผู้ที่โจมตีมัน ถ้ามันมีแค่นี้จริงๆมันไม่มีทางที่จะสร้างความเสียหายให้กับโลกเราได้เลย~"

"แต่ว่าถ้าหากว่าพวกมันตั้งใจให้เราสังเกตุเห็นวงเวทย์นี่แต่แรกล่ะ? หากว่าความตั้งใจของพวกมันคือการทำให้ผู้คนในโลกเรา 'เคลื่อนไหว' ซักอย่างล่ะ?"

"นั่นมันก็ยิ่งไร้ความหมายอีกนะ สิ่งเดียวที่ฉันคิดได้คือการกัดกันเราจากโลกเนี้ยนะ แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆบนโลกจะแหกสามัญสำนึกแบบนายนะ การเสียผู้เชี่ยวชาญไม่กี่คนบนโลกไปไม่ได้ทำให้โลกต้องเจอจุดจบซะหน่อยนี่ ในตอนนี้ไม่เพียงแต่จะมีผู้ใช้พลังจำนวนมากอยู่บนโลกเราเท่านั้นนะ เรายังมีผู้สนับสนุนจากโลกอื่นๆอีกมากด้วย"

"อ๊าา"

ยูอิลฮานได้แต่ถอนหายใจออกมาเพราะเขาไม่อาจจะหาข้อสรุปได้เลย ถ้าเขารู้ว่าวงเวทย์นี้ถูกสร้างขึ้นมาจากผู้หญิงใหญ่และมันจะทำให้โลกตกอยู่ในอันตรายเขาก็แค่จะทำลายวงเวทย์นี่ไปง่ายๆ แต่ว่าในตอนนี้ที่เขาเริ่มจะสงสัยมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะคิดไปในทางอื่น

นอกไปจากนี้สิ่งที่ทำให้เขาหนักใจที่สุดเลยก็คือความจริงที่ว่าทูตสวรรค์ทั้งสองคนที่เขาได้ฆ่าลงไปต่างก็พูดประมาณว่า 'มันสายเกินไปแล้ว' สายเกินไป? อะไรสายเกินไปล่ะ? การทำลายวงเวทย์จำนวนมากมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดแผนของพวกมันงั้นหรอ? หรือว่าวงเวทย์เป็นแผนตัวล่อแล้วยังมีแผนอื่นซ่อนอยู่อีก?

มันเป็นไปไม่ได้มากๆที่คำพูดของเทวดาตกสวรรค์จะผิด นี่มันก็เพราะว่าคำพูดของพวกมันไม่ได้ชักจูงให้ใครทำอะไร แต่เป็นเพียงคำประกาศถึงสถานการณ์ที่เป็นไปแล้ว

ให้เทียบก็คล้ายๆกับหมากรุกที่รุกฆาตไปแล้ว ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะทำอะไรสถานการณ์ก็ไม่เปลื่ยนไปแล้ว มีก็เพียงแค่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบอย่างสิ้นเชิงแล้วเท่านั้นที่จะมีคำแบบนี้พูดออกมา คนที่ได้ยินคำพวกนี้ก็จะรู้สึกแย่อย่างอดไม่ได้ เหมือนกับที่ยูอิลฮานกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้

"อ๊าาา นี่มันน่ารำคาญมากๆ"

"แล้วไม่อยากให้ฉันจูบนายหน่อยหรอ?"

"อย่ามาพูดไร้สาระเหมือนเลียร่าสิ"

"อ่า โทษที"

[พวกนายทั้งสองคนอยากโดนตบใช่ไหม?]

การคิดเรื่องนี้จบไว้เพียงเท่านี้พอแล้ว ในตอนนี้เขาจะต้องทำสิ่งที่ทำได้ให้ดีที่สุดก่อน ยูอิลฮานได้ถอนหายใจและกางปีกเสียงเพรียกแห่งการล่มสลายออกมา เขาได้ยื่นแขนออกไปข้างหน้าทำให้นายูนากระโดดเข้ามาในอ้อมแขนของเขาทั้งๆที่หน้าแดงทันที

"นี่มันทำให้ใจฉันเต้นนะ"

"ฉันไม่ได้มีแรงจูงใจซ่อนแบบนั้น ไม่ต้องห่วงหรอก"

"นี่มันยิ่งแย่เลยนะ!"

ยูอิลฮานได้กระโดดขึ้นไปทั้งๆที่อุ้มเธออยู่ในทันที ในตอนนี้เองได้มีความคิดหนึ่งโผล่ขึ้นมาจนเขาต้องถามขึ้น

"ฉันสงสัยมานานแล้วนะว่าเธอกำลังใช้น้ำหอมอะไรกัน?"

"โอ้"

นายูนาที่รู้สึกแย่ลงไปในตอนที่ได้ยินว่าเขาไม่มีแรงจูงใจซ่อนเร้นแบบนั้น แต่จู่ๆคำถามนี้ได้ทำให้เธอยิ้มขึ้นมา

"ฉันไม่ได้ใช้น้ำหอมเลยนะ กลิ่นตัวฉันหอมสินะ?"

"ฮึ่ม โกหก"

ยูอิลฮานได้ส่งเสียงขึ้นจมูกและหันหน้าไปทางอื่น นายูนาได้คิดว่านี่มันน่าขำมาก ในด้านการชมคนอื่นๆนี่น่ารักทั้งพ่อทั้งลูกเลยสินะ เธอได้กระชับร่างกายกอดแขนยูอิลฮานแน่นจนทำให้เขาบ่นออกมา

"ถอยไป"

"ถ้าฉันถอยไปฉันก็ตายสิ ฉันจะอยู่แบบนี้แหละ"

เลียร่าที่ดูอยู่ตลอดเวลาได้พูดขึ้นมาทันทีด้วยเสียงที่น่าขนรุก

[นายูนา ฉันหวังว่าเธอจะรีบๆกลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงนะ ใช่แล้วเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้เลย... ก่อนที่เลือดที่ปะทุขึ้นในตัวฉันจะเย็นชืดไปซะก่อน]

ยูอิลฮานก็ไม่ได้ชอบนายูนาเป็นพิเศษ แต่ในวินาทีนี้เขาได้ตัดสินใจจะปกป้องเธอจากเงื้อมมือของเลียร่าในตอนที่เธอกลายเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด