ตอนที่แล้วราชันย์เร้นลับ 53 : ผู้สดับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปราชันย์เร้นลับ 55 : นิมิต

ราชันย์เร้นลับ 54 : ลูกค้าดูดวงคนแรก


ราชันย์เร้นลับ 54 : ลูกค้าดูดวงคนแรก

 

เมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของไคลน์ แอนเจลิก้าเริ่มสัมผัสได้ว่า สิ่งที่เธอเข้าใจอาจยังไม่ถูกต้อง

 

“ไม่ใช่หรือคะ? มิสเตอร์กลาซิสระบุว่า คุณสามารถบ่งชี้ความผิดปรกติเกี่ยวกับปอดของเขาอย่างง่ายดายเพียงสำรวจด้วยตาเปล่า…”

 

เสียงเธอค่อยลงจนกระทั่งเงียบไป

 

สำรวจตาเปล่า? หว่างคิ้วคล้ำน่ะหรือ?

 

ไคลน์เข้าใจสถานการณ์ทันที มันกล่าวพลางอมยิ้ม

 

“มิสเตอร์กลาซิสคงเข้าใจผิดไป”

 

ขณะชายหนุ่มกำลังจะโกหกแอนเจลิก้าว่านั่นเป็นเพียงการเดาสุ่ม แต่เมื่อฉุกคิดว่าตนยังไม่มีลูกค้าดูดวงแม้แต่รายเดียว สมองของมันเริ่มประมวลผลอย่างหนัก

 

เพื่อให้เป้าหมายสวมบทบาทเป็นนักทำนายบรรลุผล ไคลน์ตัดสินใจโกหกคำโต

 

“ผมระบุได้จากการทำนายครับ”

 

“ทำนาย? แต่มิสเตอร์กลาซิสบอกว่าคุณแค่สำรวจด้วยตาเปล่า นั่นก็เป็นการทำนายหรือคะ?”

 

แอนเจลิก้าไต่ถามน้ำเสียงฉงนปนทึ่ง

ไคลน์อมยิ้ม มันแจกแจง

 

“ในฐานะสมาชิกสโมสร คุณคงรู้จักศาสตร์ดูดวงด้วยลายมือใช่ไหม?”

 

บนโลกเก่า ศาสตร์ดูลายมือไม่เพียงนิยมในอาณาจักรคลั่งอาหาร แต่อินเดียและทวียุโรปก็มีศาสตร์ดูดวงที่คล้ายคลึงกัน ทว่า ในโลกที่เต็มไปด้วยผู้วิเศษ การทำนายด้วยลายมือไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก

 

“เคยได้ยินค่ะ แต่คุณไม่ได้ดูลายมือเขา… หรือว่าแอบดูโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว?”

 

แอนเจลิก้ายังคงแสดงสีหน้าเคลือบแคลง

 

“ผมอ่านจากลักษณะใบหน้าแทนครับ”

 

ไคลน์โกหกอย่างต่อเนื่อง

 

“เป็นศาสตร์ที่มีพื้นฐานคล้ายคลึงการดูลายมือมาก”

 

“งั้นหรือคะ?”

 

แอนเจลิก้ายังคงฉงน

 

เพื่อจะพัฒนาตัวเองบนเส้นทางนักทำนาย ไคลน์ไม่มีทางเลือกมากนัก มันแสยะยิ้มพลางแสดงสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะเลื่อนปลายนิ้วขึ้นมาสัมผัสหว่างคิ้วสองหน

 

เพียงแค่จ้องมอง แสงออร่าของแอนเจลิก้าก็บ่งบอกทุกสิ่ง ช่วงศีรษะสีม่วง ช่วงแขนขาสีแดงสด ช่วงลำคอสีฟ้าคราม…

 

ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ เว้นแต่บางจุดที่หมองกว่าปรกตินิดหน่อย แต่นั่นสามารถเกิดได้จากภาวะเหนื่อยล้าตามปรกติ

 

ถัดมา ไคลน์เพ่งมองไปยังสีของอารมณ์และได้พบกับแสงส้มผสมกลมกลืนแดงและฟ้า หมายถึงอบอุ่น ตื่นเต้น และครุ่นคิด

 

ดีจัง… เมื่อตระหนักว่าสตรีเบื้องหน้ามีสุขภาพแข็งแรงและอารมณ์ปรกติ ไคลน์เตรียมจะออกจากเนตรวิญญาณ แต่ทันใดนั้น มันเหลือบเห็นความมืดอันเข้มข้นหลบซ่อนอยู่ในส่วนลึกสุดของสีอารมณ์

 

แถมยัง… สีขาวของอารมณ์ยังจางกว่าคนปรกติค่อนข้างมาก แสดงถึงการขาดแรงจูงใจเพื่อพัฒนาตัวเอง

 

ไคลน์พลางฉีกยิ้มกว้าง

 

“มิสเตอร์โมเร็ตติ คุณกำลังอ่านสีหน้าของดิฉันหรือคะ?”

 

เมื่อเห็นสุภาพบุรุษหนุ่มในชุดดำเบื้องหน้าเงียบงันและเอาแต่จ้องมอง แอนเจลิก้าเริ่มสัมผัสถึงความผิดปรกติ เธอไต่ถามด้วยน้ำเสียงสงสัยเจือกังวล

 

ไคลน์ไม่ตอบกลับทันที ตรงกันข้าม มันแอบสัมผัสหว่างคิ้วตนเองสองครั้งเบาๆ พร้อมกับแสร้งทำสีหน้าใคร่ครวญ

 

ขณะแอนเจลิก้าเริ่มกระสับกระส่าย ชายหนุ่มกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน

 

“มาดามแอนเจลิก้าครับ ในบางครั้ง ความเศร้าและความเจ็บปวดไม่ควรถูกเก็บงำไว้ในใจนานเกินไป”

 

ทันใดนั้น นัยน์ตาสาวงามพลันเบิกโพลงพร้อมกับริมฝีปากที่อ้ากว้าง แต่เธอมิได้กล่าวสิ่งใดต่อ

 

หล่อนเอาแต่จ้องมองไคลน์ที่สวมหมวกทรงกึ่งสูงและมีบรรยากาศคล้ายนักวิชาการอย่างไม่กระพริบตา

 

เสียงอันลุ่มลึก อบอุ่น และเป็นกันเองของชายหนุ่มดังแว่วข้างหู

 

“คุณควรไปออกกำลังกายบ้างนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา ตีเทนนิส หรือกิจกรรมอื่นที่เรียกเหงื่อ ในบางครั้ง ปล่อยให้น้ำตาไหลไปตามธรรมชาติโดยไม่ฝืนหยุด ในบางครั้ง ลองปล่อยตัวปล่อยใจตะโกนให้สุดเสียง พรั่งพรูอารมณ์ที่สุมในอกออกไปให้หมด

 

“แบบนั้นจะดีกับสุขภาพของคุณมากกว่า”

 

เมื่อไคลน์กล่าวจบ แอนเจลิก้าพลันตัวแข็งทื่อประหนึ่งรูปปั้น ร่างกายลุกยืนขึ้นเองโดยไม่รู้ตัว

 

เธอพยายามกระพริบตาถี่ๆ พร้อมกับก้มหน้าครุ่นคิด ก่อนจะเงยขึ้นมากล่าวกับไคลน์

 

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ…”

 

“ดูเหมือนวันนี้จะมีสมาชิกเยอะนะครับ”

 

ไคลน์รีบเปลี่ยนบทสนทนา ราวกับไม่เคยทำนายสิ่งใดให้แอนเจลิก้า ชายหนุ่มชำเลืองมองไปทางประตูห้องประชุมที่อยู่สุดทางเดิน

 

“บ่ายวันอาทิตย์… อย่างน้อยห้าสิบคน”

 

เสียงแอนเจลิก้าค่อนข้างแหบพร่า เธอกล่าวสั้นห้วนโดยเน้นเพียงคำสำคัญ

 

หล่อนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะได้สติกลับคืนประหนึ่งวิญญาณประทับร่าง

 

“จะรับกาแฟหรือชาดีคะ?”

 

“ชาดำซิบป์”

 

ไคลน์พยักหน้าเบาๆ  มันบรรจงถอดหมวกและเดินตรงไปตามทาง

ในวินาทีที่ชายหนุ่มหายลับเข้าไปในห้องประชุม แอนเจลิก้าถอนหายใจยาวอย่างช้าๆ

 

 

ห้องประชุมของสโมสรพยาการณ์มีขนาดค่อนข้างใหญ่ กว้างกว่าห้องเรียนของไคลน์สมัยมัธยมราวสองเท่าเห็นจะได้

ในคราวก่อน มีสมาชิกเพียงห้าถึงหกคนที่นั่งเรียนด้านใน ส่งผลให้ให้ดูโหวงเหวงพิกล แต่มาวันนี้ หมอดูหลายสิบกำลังนั่งกระจัดกระจายไปตามจุด ทุกคนช่วยเติมเต็มห้องประชุมกว้างขวางให้สมบูรณ์

 

แสงแดดส่องเข้ามาด้านในผ่านมุขหน้าต่างสองสามบานริมผนัง สมาชิกส่วนใหญ่ หากไม่สนทนาเสียงค่อยด้วยกันเองก็จะตั้งคำถามแก่เฮเนส·วินเซนต์ผู้รับหน้าที่บรรยาย บางส่วนนั่งทบทวนบทเรียนตามลำพังและฝึกฝนศาสตร์ทำนาย บางส่วนนั่งดื่มชากาแฟไปพร้อมอ่านหนังสือพิมพ์โดยไม่รบกวนผู้ใด

 

ฉากเบื้องหน้าทำให้ไคลน์หวนนึกถึงช่วงเวลาสมัยเรียนบนโลกเก่า จุดที่แตกต่างคือเสียงเอะอะโวยวายซึ่งดังมากกว่า มิได้เงียบสงบและเปี่ยมด้วยบรรยากาศผู้ดีเหมือนกับห้องประชุมแห่งนี้

 

ชายหนุ่มกวาดสายตามองรอบ แต่ก็ไม่พบใบหน้าที่คุ้นเคยอย่างเอ็ดเวิร์ดหรือกลาซิส ด้วยเหตุนี้ มันเดินไปหยิบหนังสือทำนายบนชั้นวางด้วยท่าทางไม่รีบร้อน หามุมสงบนั่งลง ก่อนจะใช้มือพลิกหน้ากระดาษเปิดอ่านอย่างผ่อนคลาย

 

เพียงไม่นาน แอนเจลิก้าเดินถือถ้วยชาเข้ามาและวางลงบนโต๊ะตรงหน้า

 

ขณะหล่อนกำลังรีบเดินกลับ เธอเหลือบเห็นมิสเตอร์โมเร็ตติปลดโซ่เงินแววาวออกจากข้อมือซ้าย สุดปลายโซ่มีบุษราคัมแท้สีเหลืองทองห้อยอยู่

 

เขาคิดจะทำอะไร?

แอนเจลิก้าลดฝีเท้าลงและชำเลืองมองการกระทำไคลน์ด้วยใจจอจ่อ

 

ชายหนุ่มถือโซ่เงินด้วยมือซ้ายและปล่อยให้ปลายบุษราคัมลอยเหนือถ้วยชาชิบป์ อีกนิดเดียวก็จะสัมผัสกับของเหลวด้านล่าง

 

ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ไคลน์หรี่ตาลงและเปลี่ยนบรรยากาศรอบตัวให้เงียบงัน

 

บุษราคัมเริ่มขยับเบาๆ ไปพร้อมกับโซ่เงินในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา

 

เมื่อเห็นเช่นนี้ แอนเจลิก้าพบว่ามิสเตอร์โมเร็ตติช่างลึกลับซับซ้อนและเต็มไปด้วยปริศนา

 

“ชาดำที่คุณชงมีคุณภาพดีมาก”

 

ไคลน์กล่าวเสียงเบาหลังจากลืมตาขึ้นและอมยิ้ม …มันจงใจให้แอนเจลิก้าเห็นพฤติกรรมเมื่อครู่ทั้งหมด!

 

หากต้องการได้ลูกค้าดูดวง การแนะนำจากปากแอนเจลิก้าคือสิ่งสำคัญยิ่งยวด!

 

ในมือต้องการสวมบทบาทเป็นนักทำนาย ไคลน์จำเป็นต้องงัดลูกไม้ทั้งหมดออกมาใช้ โดยเฉพาะการแสดงให้อีกฝ่ายประจักษ์

 

“ใช่ค่ะ มิสเตอร์เฮเนสมักจู้จี้เรื่องคุณภาพชาเสมอ”

 

แอนเจลิก้ากล่าว สีหน้ายังคงเจือความทึ่ง

 

ไคลน์พันลูกตุ้มวิญญาณกลับเข้าที่เดิมรอบข้อมือ ถัดมาเป็นการชูถ้วยชาที่มีลวดลายดอกไม้ขึ้น มันแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะหันไปมองแอนเจลิก้าและขยิบตาแสดงมารยาบุรุษ

 

 

แอนเจลิก้าเดินกลับมานั่งประจำตำแหน่งในห้องรับแขก แต่เธอไม่มีอารมณ์จะอ่านนิตยสารอีก หล่อนนั่งเหม่ออยู่เช่นนั้น มองออกไปยังจุดห่างไกล ไม่มีใครทราบได้ว่ากำลังคิดสิ่งใด

 

เป็นอยู่นานจนกระทั่งใครบางคนออกแรงเคาะบานประตูไม้ แอนเจลิก้าได้สติกลับมาและรีบมองไปยังทางเข้า ภาพที่เห็นคือสุภาพสตรีเลอโฉมในเดรสสีฟ้าอ่อน

 

หญิงสาวปริศนาถอดหมวกที่ติดกับผ้าคลุมข่ายออก สีหน้าของเธอสงบนิ่งแต่เจือความเศร้าโศกไว้หลายส่วน

“สายันห์สวัสดิ์ค่ะ คุณสุภาพสตรี ต้องการจะเข้าร่วมสโมสรพยากรณ์ หรือต้องการดูดวงคะ?”

 

แอนเจลิก้าไต่ถามชัดถ้อยชัดคำ

 

“ดูดวงค่ะ”

 

สตรีปริศนามีคู่นัยน์ตาที่งดงามแต่อัดแน่นด้วยความเศร้า เธอกัดริมฝีปากเล็กน้อยขณะตอบ

 

แอนเจลิก้าส่งภาษากายให้หล่อนนั่งลงบนโซฟ้าพร้อมกับอธิบายขั้นตอนการดูดวงของสโมสรพยากรณ์โดยละเอียด

 

เธอหยิบอัลบัมรูปภาพขึ้นมาวางและเปิดกางออก

 

“เลือกใครก็ได้ค่ะ”

 

ด้วยท่าทีท้อแท้ สตรีเดรสฟ้าใช้มือบรรจงพลิกหน้าอัลบัมพลางมองสำรวจ แต่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ซึ่งมีจำนวนสมาชิกค่อนข้างมาก ตัวเลือกของหมอดูจึงมหาศาล ส่งผลให้เธอออกอาการไม่พอใจ

 

“ช่วยแนะนำให้หน่อยได้ไหม? จากบรรดาหน้าเหล่านี้”

 

เธอชี้ไปยังหน้าบริเวณกึ่งกลางอัลบัม ซึ่งหมายถึงหมอดูที่คิดค่าบริการในช่วงกลาง คือแพงกว่าสี่เพนนี แต่ถูกกว่าสองซูล

 

แอนเจลิก้าหยิบสมุดอัลบัมกลับไปและกวาดสายตามองราวสองสามนาที ก่อนจะเรียบเรียงคำตอบ

 

“ฉันขอแนะนำสุภาพบุรุษท่านนี้”

 

สตรีเดรสฟ้าสีหน้าเศร้าสร้อยชำเลืองสายตามองปลายนิ้วแอนเจลิก้า หล่อนได้พบหมอดูที่มีชื่อว่า ‘ไคลน์·โมเร็ตติ’

 

“มิสเตอร์โมเร็ตติเพิ่งเข้าสโมสร… ผลการทำนายจะเชื่อได้จริงหรือ?”

 

เธอถามสีหน้ากังวล

 

แอนเจลิก้ารีบผงกศีรษะหนักแน่น

 

“สมาชิกท่านอื่นและตัวดิฉันเองได้เห็นพ้องต้องกันว่า มิสเตอร์โมเร็ตติเป็นหมอดูที่เก่งกาจ หากไม่เพราะเพิ่งเข้าร่วมสโมสร ค่าบริการของเขาคงไม่มีทางถูกขนาดนี้แน่”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ”

 

สตรีหน้าเศร้าผงกศีรษะ

 

“เลือกมิสเตอร์โมเร็ตติค่ะ”

 

“กรุณารอสักครู่นะคะ”

 

แอนเจลิก้าเก็บอัลบัมและเดินไปที่ห้องประชุมใหญ่

 

เธอเข้าไปหาไคลน์พลางกล่าวด้วยเสียงกระซิบกระซาบ

 

“มิสเตอร์โมเร็ตติ มีลูกค้าต้องการใช้บริการดูดวงค่ะ คุณจะใช้ห้องไหน?”

 

ได้ผลทันตาเห็น…

 

‘ธรุกิจ’แรกของตนมาถึงจนได้สินะ ไคลน์วางถ้วยชาลงและพยักหน้าอย่างสุขุม

 

“ห้องบุษราคัม”

 

“ค่ะ”

 

แอนเจลิก้าเดินนำไคลน์ไปยังห้องบุษราคัมก่อนจะเปิดประตูออก

 

ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับประตู บนโต๊ะมีอุปกรณ์สำหรับดูดวงหลายชนิดวางเรียงราย หลังจากรอไม่ถึงนาที สตรีในเดรสฟ้าอ่อนเดินเข้าห้องมาด้วยสีหน้าหดหู่และเศร้าหมอง

 

ฉวยโอกาสที่หล่อนกำลังปิดประตู ชายหนุ่มรีบแตะหว่างคิ้วสองครั้ง

 

สีเหลืองที่ช่องท้องหม่นหมองไปสักหน่อย… สีห้วงอารมณ์มีความมืดเจือปนในปริมาณมาก หลักๆ จะเป็นความกังวลและกระสับกระส่าย ไคลน์พิจารณาครู่หนึ่งก่อนจะเอนหลังพิงเบาะ มันแอบเลื่อนมือขึ้นแตะหว่างคิ้วเพื่อออกจากภาวะเนตรวิญญาณ

 

“สวัสดีค่ะ มิสเตอร์โมเร็ตติ”

 

สตรีเดรสฟ้าอ่อนนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

 

“สายัณห์สวัสดิ์ครับ ผมควรเรียกคุณว่าอย่างไรดี?”

 

ไคลน์ไต่ถามตามมารยาท มิได้หวังคำตอบสักเท่าไร

 

ในฐานะนักรบคีย์บอร์ด มันทราบดีกว่าผู้คนจำนวนมากไม่ต้องการใช้ชื่อจริงสำหรับดูดวง

 

“เรียกแอนนาก็ได้ค่ะ”

 

แอนนาถอดหมวกที่ติดกับตาข่ายวางลงบนตัก เธอจ้องมองไคลน์ด้วยสีหน้าคาดหวังผสมเคลือบแคลง ก่อนจะกล่าว

 

“ดิฉันต้องการทำนายเกี่ยวกับสถานการณ์ของคู่หมั้นที่เดินทางไปยังทวีปใต้ในเดือนมีนาคมเพื่อเจรจาธุรกิจ เขาส่งโทรเลขหาครอบครัวและฉันครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่สามของเดือนก่อน ใจความระบุว่ากำลังจะโดยสารเรือกลับ แต่ก็ไร้วี่แววหลังจากผ่านไปยี่สิบวัน

 

“ในตอนแรก ดิฉันเชื่อว่าการเดินทางอาจล่าช้าเพราะสภาพอากาศอันเลวร้ายของ‘ทะเลคลั่ง’ แต่จวบจนปัจจุบัน เวลาได้ล่วงผ่านมานานกว่าหนึ่งเดือน เรือโดยสารที่เขานั่งกลับ อัลฟัลฟ่า ก็ยังไม่จอดเทียบท่าเรือเอ็นมาร์ทสักที”

มหาสมุทรที่กั้นแบ่งทวีปเหนือและใต้ออกจากกันมีชื่อว่า‘ทะเลคลั่ง’ ขึ้นชื่อด้านความโหดร้ายของสภาพอากาศและกระแสน้ำเชี่ยวกราก หากไม่เพราะจักรพรรดิโรซายริเริ่มส่งคนออกค้นหาเส้นทางเดินเรือที่ปลอดภัย อาณาจักรทวีปเหนือและทวีปใต้ก็คงยังไม่เข้าสู่ยุคล่าอาณานิคมเฉกเช่นปัจจุบัน อย่าว่าแต่เทคโนโลยีส่งโทรเลขข้ามทวีปเลย

 

ไคลน์จ้องมองลูกค้าคนแรกในอาชีพนักทำนายของตนครู่หนึ่ง ก่อนจะไต่ถาม

 

“คุณต้องการให้ผมทำนายด้วยวิธีใด?”

 

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร - เสาร์

ติดตามผู้แปลได้ที่ : www.facebook.com/bjknovel/

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด