ตอนที่แล้วตอนที่ 291 ท่าจะไม่ดีแล้ว เราถูกล้อม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 293 ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้ขาดแคลนสมบัติประจำชาติ

ตอนที่ 292 ได้รับการคุ้มครองยิ่งกว่าฮองเฮา


เฟิงเฉินหยูไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาการบาดเจ็บหรือไม่ แต่เมื่อนางเห็นทหารองครักษ์ล้อมรอบคฤหาสน์สิ่งแรกที่นางคิดคือ “ไม่มีอะไรเกิดกับท่านพ่อใช่หรือไม่ ?”

ยิ่งนางคิดเช่นนี้หัวใจของนางเต็มไปด้วยความกลัว นางไม่สามารถหยุดตัวเองได้ นางพยายามลงจากรถม้า แต่นางไม่รู้ว่านางต้องการวิ่งหนีหรือคลานเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อบอกเฟิงจินหยวนให้วิ่งหนี ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดนางก็ทำได้แค่คลาน ทันใดนั้นนางก็ล้มลงกับพื้น

เฟิงเฉินหยูร้องไห้ทำให้คนขับรถม้าตกใจ ซึ่งไม่มีเวลามาแยกแยะความแตกต่างระหว่างนายกับบ่าวรับใช้ และไปช่วยนาง แต่ก่อนที่เขาจะไปถึงเฟิงเฉินหยู อีกคนก็ตกจากรถม้า บ่าวรับใช้ตกลงมาทับเฟิงเฉินหยูโดยตรง ซึ่งทำให้เฟิงเฉินหยูเจ็บและมันเกือบจะฆ่านาง

คนขับรถคุกเข่าต่อหน้าทั้งสอง และคำนับกับคนที่อยู่ด้านล่าง “เซียงเอ๋อ ถ้าเจ้าไม่ลุกขึ้น เจ้าจำทับคุณหนูใหญ่ !”

เซียงเอ๋อร้องไห้เสียงดังยิ่งกว่าเฟิงเฉินหยู นางรู้ว่านางตกลงมาทับคุณหนูใหญ่ แต่นางไม่สามารถขยับได้ ! เมื่อเห็นคุณหนูใหญ่ตกจากรถม้านางก็พยายามคลานออกมาเช่นกัน ใครจะรู้ว่านางจะลื่นล้ม และล้มทับคุณหนูใหญ่ ! นางจะจบลงด้วยการฆ่าคุณหนูใหญ่หรือไม่?

เมื่อคิดเช่นนี้นางก็พยายามรวบรวมพลัง นางกัดฟันและทนความเจ็บปวด นางกลิ้งตัวออกจากร่างของเฟิงเฉินหยู

อย่างไรก็ตามเฟิงเฉินหยูไม่มีเวลาโต้เถียงกับนาง ด้วยน้ำหนักที่ออกจากร่างกายของนาง นางคลานไปข้างหน้าอย่างหมดหวัง คลานไปหาหัวหน้าองครักษ์ เกาะขาและถามด้วยเสียงแหบแห้งและเหนื่อยล้า “เกิดอะไรขึ้นกับท่านพ่อหรือไม่ ? เจ้ามาตรวจค้นตีคฤหาสน์หรือไม่ ?”

ทหารองครักษ์สั่นด้วยความกลัวและต้องการแกะนางออกโดยไม่รู้ตัว แต่เขาถูกคนขับรถม้ากอดขาของเขา “ท่านเตะนางไม่ได้ นี่คือคุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิงของเรา !”

ทหารองครักษ์นั้นสะดุ้งตกใจกับคุณหนูใหญ่ของตระกูลเฟิง เขาเคยได้ยินว่านางเป็นสาวงามล่มเมือง ? ทำไมนางถึงดูเหมือนภูตผีที่ชั่วร้าย? สำหรับคนขับรถม้าของตระกูลเฟิง สถานการณ์แบบนี้คืออะไร ทำไมต้องกอดขาใครซักคน ?

ในขณะที่ทหารองครักษ์นอกคฤหาสน์เฟิงรวมตัวกันรอบ ๆ และเสียงร้องเป็นระเบียบ

ไม่นานต่อมาเฟิงจินหยวนก็พาทุกคนในตระกูลเฟิงรีบออกมาอย่างรวดเร็ว ทหารองครักษ์ที่คนขับรถม้ากอดขาเขา เมื่อเห็นพวกเขาออกมา ดังนั้นเขาจึงตะโกนว่า “ใต้เท้าเฟิง!”

เฟิงจินหยวนตื่นตกใจ นี่คือรองผู้บัญชาการทหารจงสุ่ยใช่หรือไม่ เขามาทำอะไร

“ใต้เท้าเฟิง !” จงสุ่ยรีบกล่าว “ท่านช่วยบอกบ่าวรับใช้มาช่วยคุณหนูใหญ่และบ่าวรับใช้คนนี้ลุกขึ้นได้หรือไม่ ? ให้เขากอดขาข้าอยู่เช่นนี้ มันดูไม่เหมาะสม !”

เมื่อนั้นจึงทำให้เฟิงจินหยวนสังเกตเห็นคนไม่กี่คนที่อยู่บนพื้น และเขาก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ “ลุกขึ้นเร็ว”

แต่จิตใจของเฟิงเฉินหยูนั้นหม่นหมองเล็กน้อยจากเหตุการณ์ในวันนี้ ได้ยินเสียงของเฟิงจินหยวน นางคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น ดังนั้นนางจึงอดไม่ได้ที่จะก้มหัวและกรีดร้อง “อย่าจับข้า ! อย่าจับข้า ! มันเป็นปัญหาของท่านพ่อ ! มันเป็นปัญหาของท่านพ่อ ! อย่าจับข้า !” ในขณะที่กรีดร้องเสียงดัง ในที่สุดนางก็แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และจำได้ว่านางควรจะเตือนเฟิงจินหยวน “ท่านพ่อรีบหนีไปเร็ว ! วิ่งหนีไปเร็วเจ้าค่ะ ! ตราบใดที่ขุนเขายังเขียวขจี อย่าได้กลัวไม่มีฟืนเผา !”

ใจของเฟิงจินหยวนกำลังระเบิดออกมา ในขณะที่เขาผลักบ่าวรับใช้จากด้านข้างของเขา “พานางเข้าไปข้างใน !”

ใครจะกล้า ! เมื่อมองไปไร้ความช่วยเหลือ เขาหันไปมองฮูหยินผู้เฒ่าซึ่งตอนนี้ใบหน้ามีสีแดงสดเพราะความโกรธ นางรีบสั่งยายจาว “ไปเรียกคนมาพาพวกเขาไปเร็ว”

ยายจาวรีบโบกมือเรียกบ่าวรับใช้ที่แข็งแรง พวกเขาอุ้มเฟิงเฉินหยูและเซียงเอ๋อเข้าไปข้างใน แม้แต่คนขับรถม้าก็ยังถูกลากเข้าไปด้วย

เฟิงเฉินหยูยังคงกรีดร้องอย่างสิ้นหวัง “ท่านพ่อ ! ท่านพ่อต้องไม่ตาย ! ท่านพ่อต้องไม่ตาย !”

“เจ้าคนต่ำช้า !” หัวของเฟิงจินหยวนกำลังจะแตก เขาทั้งโกรธและผิดหวัง ดูเหมือนว่าบุตรสาวคนโตคนนี้จะไม่สามารถเยียวยาได้

“องค์หญิงแห่งมณฑลจี่อัน” จงสุ่ยรู้สึกเขินอายอย่างแท้จริง ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินว่าบรรดาฮูหยินและคุณหนูของตระกูลใหญ่นั้นเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม เจ้าแผนแผนการและชิงดีชิงเด่นกัน และเมื่อพวกเขาเริ่มต่อสู้มันค่อนข้างน่าตื่นเต้น ดังนั้นเมื่อเขามาถึงตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง เหตุใดจึงเห็นตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาคิดไว้ คุณหนูใหญ่ของตระกูลเฟิง…เป็นคนงี่เง่าใช่ไหม เขามองเฟิงหยูเฮงเพื่อขอความช่วยเหลือ “ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ต่ำต้อยผู้นี้ได้รับคำสั่งจากฝ่าบาทให้มาคุ้มครององค์หญิงขอรับ”

เฟิงหยูเฮงคิดมานานแล้วว่าฮ่องเต้จักรพรรดิจะส่งคนมาปกป้องนาง แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะมาเร็ว นางไม่รู้จักแม้แต่บุคคลนี้ และกำลังจะถาม อย่างไรก็ตามเฟิงจินหยวนได้แนะนำเขาก่อน “อาเฮง นี่คือรองผู้บัญชาการทหาร ฮ่องเต้ส่งเขามาเพื่อปกป้องเจ้า นี่ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ความสำคัญที่เจ้ามีต่อพระองค์”

เฟิงหยูเฮงพยักหน้าเบา ๆ กล่าวว่า “ข้าสร้างความลำบากแก่รองผู้บัญชาการทหาร คฤหาสน์องค์หญิงแห่งมณฑลของข้าอยู่ถัดจากคฤหาสน์เฟิง ข้าจะให้หวงซวนพาท่านไป” ในขณะที่นางพูดแบบนี้ นางมองหวงซวน และหวงซวนก็พาจงสุ่ยไปที่คฤหาสน์ขององค์หญิงแห่งมณฑลทันที

เฟิงจินหยวนและฮูหยินผู้เฒ่ายังคงรอการสนทนาเล็กน้อยกับจงสุ่ย พวกเขาจะต้องให้คำอธิบายเกี่ยวกับความโกลาหลก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าเฟิงหยูเฮงจะส่งเขาออกไปด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า แต่พวกเขามาเพื่อคุ้มครองเฟิงหยูเฮง เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเฟิงหยูเฮงก่อนหน้านี้ จะดีที่สุดสำหรับพวกเขาที่จะไม่ล่วงเกินผู้หญิงคนนี้

ดังนั้นทุกคนจึงติดตามเฟิงจินหยวนกลับไปที่เรือนโบตั๋น

เฟิงจินหยวนได้บอกทุกคนในคฤหาสน์เกี่ยวกับการกระทำของเฟิงหยูเฮงในงานเลี้ยง ตอนนี้มันไม่ใช่แค่ฮูหยินผู้เฒ่าที่เริ่มประจบประแจงเฟิงหยูเฮงเท่านั้น แม้แต่ฮันชิที่ชอบสร้างปัญหาเสมอเริ่มปักหลัก นางรู้ว่าเฟิงหยูเฮงเป็นคนที่ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานมากที่สุด หากนางต้องการที่จะต่อต้านเฟิงหยูเฮงนั่นจะเท่ากับการต่อต้านฮ่องเต้ แค่คิดถึงการถูกตัดหัวก็ทำให้นางกลัวที่จะทำอะไร ไม่เพียงแต่นางไม่ต้องการที่จะต่อต้านเฟิงหยูเฮง นางไม่ต้องการแม้แต่จะสนใจเรื่องของเฟิงเฉินหยู ในขณะนี้ฮันชิก็อยากจะรู้เรื่องหนึ่ง “ท่านพี่ ทำไมคุณหนูสี่ถึงไม่กลับมาพร้อมกับทุกคน ?”

เฟิงจินหยวนจ้องมองอย่างโกรธเคืองเมื่อได้ยินเรื่องนี้และพูดว่า “ถ้าบุตรในท้องของเจ้าเป็นเดรัจฉานเหมือนนังสารเลวเฟิงเฟินได มันน่าจะดีกว่าที่จะฆ่ามันตอนนี้ !”

ครั้งนี้มีการพูดไม่เพียงแต่ฮันชิไม่สามารถยอมรับได้ แม้แต่อันชิขมวดคิ้ว

บิดาของนางสาปแช่งนาง คุณหนูสี่ทำอะไรผิด ?

แต่เฟิงจินหยวนไม่ต้องการที่จะพูดถึงเฟินไดแม้แต่น้อย เขาถามเฟิงหยูเฮง “ทำไมพี่ใหญ่ของเจ้าถึงถูกลงโทษ ?”

เฟิงหยูเฮงยักไหล่ “พี่ใหญ่ทำตุ๊กตาคุณไสยสาปแช่งพระสนมเซียน และองค์ชายใหญ่เป็นคนค้นพบตุ๊กตานั้น”

“อะไรนะ?” ทุกคนตกตะลึงอีกครั้ง เฟิงเฉินหยูเป็นบ้าไปแล้วหรือ ?

ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้มีความหวังในตัวของเฟิงเฉินหยูอีกต่อไป แต่การสาปแช่งพระสนมเป็นเรื่องใหญ่ นางเป็นห่วงว่าจะส่งผลกระทบต่อตระกูลเฟิงหรือไม่ ดังนั้นนางจึงถามว่า “แล้วพระสนมเซียนพูดอะไรนอกเหนือจากการลงโทษหรือไม่ ?”

เฟิงหยูเฮงตอบว่า “จากสถานะของพระสนมเซียนในพระราชวัง ท่านย่าคิดว่าเรื่องนี้จะแก้ไขได้ด้วยการลงโทษหรือไม่ ?”

ทุกคนเงียบไป

“แต่ไม่ต้องกังวล” นางพูดต่อ “หลานสาวขออภัยในนามของตระกูลเฟิงแล้ว พระสนมเซียนยินดีที่จะให้อภัยพี่ใหญ่คราวนี้ แต่…” นางจ้องมองที่เฟิงจินหยวน “แต่สิ่งที่จะส่งผลกระทบอย่างแท้จริงต่ออนาคต และความมั่งคั่งของตระกูลเฟิงไม่เคยเป็นเด็กผู้หญิงเลย ท่านพ่อเป็นคนที่มีความสำคัญในตระกูลเฟิงใช่หรือไม่ ?”

สีหน้าของเฟิงจินหยวนจมลงเล็กน้อย หลังจากคิดมาระยะหนึ่งแล้ว ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจและกล่าวกับฮูหยินผู้เฒ่า “หลังจากวันที่ 15 ลูกจะส่งตัวเฟิงเฉินหยูไปอยู่กับแม่ชีนอกเมืองหลวงขอรับ”

ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้า “ดีเหมือนกัน บุตรสาวแบบนี้เก็บไว้ที่บ้านก็น่าเศร้าใจเช่นกัน”

เพียงแค่ไม่กี่คำ อนาคตของเฟิงเฉินหยูก็ถูกตัดสิน แม้ว่าเฟิงเฉินหยูจะไม่ได้รับความนิยมมากในคฤหาสน์ แต่วันนี้ยังคงเป็นวันแรกของปีใหม่ สำหรับสิ่งที่จะกล่าวถึงในวันแรกของปีใหม่ทำให้ผู้คนรู้สึกว่านี่เป็นข้อห้ามเล็กน้อย แต่เมื่อพวกเขาคิดเกี่ยวกับกริยาท่าทางของเฟิงเฉินหยูต่อหน้าคฤหาสน์ และวิธีที่นางกรีดร้องโวยวายเกี่ยวกับการตายและไม่ตาย การรักษาคนวิกลจริตแบบนี้ที่บ้านจะทำให้เกิดคฤหาสน์วุ่นวายมาก

สำหรับเฟิงเฉินหยูจะอยู่หรือจะไปนั้นคนอื่นไม่มีความเห็น แต่ฮันชิตัวสั่นเล็กน้อย นางเห็นมันเมื่อพูดถึงเฟิงเฟินได ความโกรธบนใบหน้าของเฟิงจินหยวนก็ไม่น้อยไปกว่าตอนที่เขาพูดถึงเฟิงเฉินหยู ตอนนี้มีการตัดสินใจแล้วว่าเฟิงเฉินหยูจะถูกส่งไปที่อารามแม่ชี แล้วเฟิงเฟินไดล่ะ ?

ทันใดนั้นนางก็รู้อะไรบางอย่าง เฟิงเฟินไดไม่กลับมาแล้ว… นางคงไม่ถูกส่งไปใช่หรือไม่ ?

“ท่านพี่” ด้วยความตกใจนางไม่มีเวลากังวลว่าจะถูกดุด่า นางเริ่มร่ำไห้และถามเฟิงจินหยวน “ท่านพี่ส่งเฟินไดไปที่ไหนเจ้าค่ะ ? เฟินไดไม่สามารถทำอะไรบางอย่างเช่นสาปแช่งพระสนมของจักรพรรดิได้ !”

“พอ!” ฮูหยินผู้เฒ่าเกลียดการฟังฮันชิพูด แม้ว่านางจะตั้งท้องทายาทของตระกูลเฟิง นางก็ไม่ชอบฟังสิ่งที่ฮันชิพูด “แม้แต่เฟิงเฉินหยูก็จะถูกส่งออกไปหลังจากการฉลองสิ้นปีใหม่ จินหยวนจะสามารถทำอะไรเพื่อเฟินได! การดูแลเด็กในท้องของเจ้านั้นสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด หากนางไร้ประโยชน์ ไม่ว่าจะดีหรือเลว เจ้าจะสามารถให้กำเนิดบุตรที่สามารถดูแลเจ้าในวันที่เจ้าแก่ตัวลงได้ !”

คำพูดเหล่านี้รุนแรงมากแล้ว ฮันชิเริ่มร้องไห้ แต่นางก็หยุดอย่างรวดเร็ว นางเอามือทั้งสองไปวางที่ท้องของนาง นางร้องไห้อย่างเงียบ ๆ

เฟิงจินหยวนมองนางและไม่ได้ช่วยปลอบโยนใด ๆ  แต่รู้สึกหงุดหงิด จากนั้นเขามองไปที่จินเฉิน แม้ว่านางจะอายุน้อยที่สุดและสวยที่สุด แต่ภูมิหลังของนางก็เป็นแค่บ่าวรับใช้ นางสามารถดูแลผู้คนได้แต่นางไม่สามารถสนทนากับแขกได้ สำหรับอันชิ นางอดทนมาตลอดและเขาไม่เคยเห็นนางยิ้ม อนุของเขาเหล่านี้ก็ยิ่งไม่เป็นที่ชื่นชอบอย่างแท้จริง ในคฤหาสน์ที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ จริง ๆ แล้วเขาไม่สามารถหาใครซักคนที่มีใจที่จะคุยด้วย เฟิงจินหยวนรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

บรรยากาศภายในห้องหดหู่ เฟิงจินหยวนและฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้พูดและไม่มีใครอยากพูดอะไรเลย ทุกคนกำลังสงสัยว่าใครควรทำลายความเงียบนี้ จากนั้นพวกเขาได้ยินเฟิงจื่อหรูที่นั่งข้างเฟิงหยูเฮงจู่ ๆ ก็พูดว่า “เมื่อท่านพ่อไปรับข้า ท่านพ่อบอกว่าพรุ่งนี้จะมีแขกมาเยี่ยมที่คฤหาสน์ไม่ใช่หรือขอรับ แขกผู้มีเกียรตินี้มาจากไหน ?”

ฮูหยินผู้เฒ่าตื่นตกใจ “แขกผู้มีเกียรติ ?”

เฟิงจินหยวนถอนหายใจสองสามครั้งจากนั้นกล่าวว่า “เป็นอย่างนี้ ราชทูในปีนี้จากเฉียนโจวเป็นองค์หญิงใหญ่คังอี้และองค์หญิงรุ่ยเจีย ข้าได้เชิญองค์หญิงทั้งสองให้เพลิดเพลินกับงานเลี้ยงที่คฤหาสน์เฟิงขอรับ”

“นี่…” ฮูหยินผู้เฒ่าสับสนเล็กน้อย “องค์หญิงแห่งเฉียนโจวหรือ ?”

เฟิงจินหยวนพยักหน้า “ขอรับ”

ฮันชิพูดต่ออย่างรวดเร็ว “มาคฤหาสน์ของเราเพื่ออะไร ?”

ฮูหยินผู้เฒ่ากระแทกไม้เท้าในมืออย่างรุนแรง “เจ้าเป็นแค่อนุ หากแขกมาที่คฤหาสน์ของเรา เจ้าจะเสนอหน้าไม่ได้ ได้ต้อนรับราชทูตคือความโชคดีของคฤหาสน์ของเรา ข้าจะต้องดูแลการจัดเตรียมงานเลี้ยงด้วยตัวเอง !”

คืนนั้นเฟิงจินหยวนไม่ได้ไปที่ห้องของอนุ ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาก็หมดความสนใจในการแสดงความโปรดปรานต่ออนุเหล่านี้ แม้ว่าจินเฉินจะให้ม่านซีมาเชิญเขา 3 ครั้ง เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะไป

เขาอยู่ในห้องการศึกษาของเขาเพียงลำพังในตอนกลางคืน ในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวเล็กน้อยข้างหลังเขาในขณะที่มีผู้คุ้มกันลับอยู่

เขาหันหลังกลับ และถามว่า “เจ้าได้ข่าวมาหรือไม่ ?”

ผู้คุ้มลับพยักหน้า “ที่เรือนตงเซิงของคุณหนูรอง นอกจากทหารองครักษ์ 100 นายก็มีผู้คุ้มกันลับอยู่หลายคน นอกจากทหารองครักษ์ของฮ่องเต้แล้ว ยังมีทหารองครักษ์จากองค์ชายเจ็ดและองค์ชายเก้าด้วยขอรับ”

เฟิงจินหยวนสูดหายใจเข้าอย่างแรง มันจะไม่มากไปกว่าการคุ้มครองฮองเฮาหรือ !

“เช่นนั้น” ผู้คุ้มกันลับยังคงรายงานต่อ “องค์ชายสามส่งจดหมายมาให้ด้วยขอรับ” ผู้คุ้มกันลับส่งจดหมายให้เฟิงจินหยวน

เฟิงจินหยวนรับมันอย่างรวดเร็ว เขารีบเปิดอ่านและก็ต้องตกใจอย่างยิ่ง ซวนเทียนเย่ต้องการให้เขาขโมยวิธีการหลอมเหล็กหรือ ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด