ตอนที่แล้วGE152 อานุภาพของดาราอัสนี [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE154 หรือเจ้าจะเป็นกระถางขัดเกลาของข้า [ฟรี]

GE153 เจตจำนงค์อสูรระดับ 9 [ฟรี]


ปีศาจบุบผาแดงสร้างกรีบดอกไม้ขึ้นมา พวกมันลอยวนรอบตัว แต่ละกรีบแฝงไปด้วยพลังธรรมชาติที่สามารถกรีดเฉือนผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณได้ ทำให้หนิงฝานขมวดคิ้ว

วิชาเหมือนกับครั้งที่มันจู่โจมเรือเหาะ ยามนั้นหนิงฝานทำลายวิชามันได้ง่าย เพราะระยะห่างที่มันจู่โจมเข้ามานั้นไกล อานุภาพของวิชาจึงอ่อนกำลังลง

นอกจากนี้ อักษรบนหน้าผากของมันดูเหมือนผสานเข้ากับวิชา ทำให้กรีบดอกไม้มีเจตจำนงค์เทพแฝงอยู่ภายใน และเปลี่ยนให้กรีบดอกกลายเป็นสีแดงโลหิต

ปีศาจบุบผาแดงขยับมือ กรีบดอกไม้จำนวนมากเคลื่อนไหวตาม กวาดผ่านไปทั่วหุบเขา บริเวณใดที่ต้องสัมผัสพวกมัน ล้วนถูกทำลาย

นี่คืออำนาจของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม

หนิงฝานสัมผัสได้ถึงอันตราย ยิ่งด้วยเจตจำนงค์เทพที่แฝงอยู่ในกรีบดอกไม้นับล้าน เขายิ่งมั่นใจว่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเป็นผู้สลักอักษรเหล่านั้นไว้

เจตจำนงค์เทพนั้นแตกต่างไปตามตัวบุคคล

แต่หนิงฝานไม่มีเวลาให้ขบคิด เขาชี้นิ้ว สั่งมังกรเพลิงทมิฬมารวมกันเหนือศีรษะ แปรเปลี่ยนเกราะเพลิง 9 ชั้น แต่ละชั้นเหมือนวังวนเพลิงที่ทรงพลัง พวกมันผสานกันกระทั่งกลายเป็นวังวนมังกรเพลิงระดับ 4 อย่างรวดเร็ว

วังวนมังกรเพลิงที่ 4 คือขีดจำกัดของหนิงฝาน หากฝืนใช้วังวนมังกรเพลิงที่ 5 ปราณของเขาจะถูกเผาผลาญไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งหากฝืนใช้วังวนมังกรเพลิงที่ 6 หนิงฝานจะได้รับบาดเจ็บ… ครั้งล่าสุดที่เขาฝืนใช้วังวนมังกรเพลิงที่ 6 ในยามที่สู้กับปีศาจเฒ่า ทำให้เขาเสียแก่นโลหิตไปมาก กระทั่งยามนี้ยังไม่ฟื้นคืน

มังกรเพลิงทั้ง 9 ตัวร่วมผสานเป็นวังวนมังกรเพลิงที่ 4 แต่อานุภาพของมันเกือบเทียบเท่ากับวังวนมังกรที่ 5 หนิงฝานค้นวิธีนี้เพื่อเสริมอานุภาพของวังวนมังกรเพลิง หากมีสัมผัสเทพที่ทรงพลังมากพอ ก็สามารถควบคุมมังกรเพลิงทั้ง 9 ตัวได้… ยามนี้สัมผัสเทพของเขาบรรลุดวงจิตแรกเริ่มจึงทำได้

กรีบดอกไม้นับล้านปะทะกับวังวนมังกรเพลิง อานุภาพการปะทะราวกับทำให้เกิดภัยพิบัติ

แม้ชู่ซวนเชียนสื่ออยู่ไกลจากหุบเขา แต่นางยังหวาดกลัวกับอานุภาพพลัง นางหวังให้หนิงฝานปลอดภัย

ยามนี้ ผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับพลังสูงกว่าดวงจิตแรกเริ่มขึ้นกลาง สัมผัสได้ถึงความปั่นป่วนของปราณที่เกิดขึ้นทางตะวันตกของแคว้น แต่ละคนล้วนสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มกำลังสู้กัน! มีเพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มเท่านั้นที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ได้

หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มคือปีศาจบุบผาแดง แต่อีกหนึ่งเป็นผู้ใด...หรือยังมีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มในแคว้นซ่ง?

หรือจะมีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มจากแคว้นอื่นมาเพื่อกำจัดปีศาจบุบผา?

“หรือจะเป็นคนของวิหารพิรุณ?”

ผู้เชี่ยวชาญแคว้นซ่งประหลาดใจ

พวกมันตัดสินใจจะไปดูว่าผู้ใดกำลังต่อสู้กับปีศาจบุบผาแดง จึงพุ่งทะยานเป็นลำแสงตรงไปยังทางตะวันตกของแคว้นซ่ง

แคว้นซ่งนั้นกว้างใหญ่ไพศาล ต่อให้พุ่งทะยานด้วยความเร็วสูงสุดก็ยังต้องใช้เวลากว่าครึ่งวัน หากไม่มีเหตุที่ต้องไปย่อมไม่ผู้ใดไป

นอกจากนี้ พวกมันแต่ละคนยังมีความแค้นต่อปีศาจบุบผาแดง หากมีโอกาสที่จะสังหาร พวกมันย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือ

พวกมันมีวิธีการเป็นของตน… ชู่ซวนเชียนสื่อมีวิธีการเป็นของตน… และหนิงฝานมีวิธีการเป็นของตน

เมื่อกรีบดอกไม้จำนวนมหาศาลปะทะเข้ากับวังวนมังกรเพลิง สีหน้าหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา มือข้างหนึ่งควบคุมวังวน อีกข้างควบคุมนำแข็ง! รอบนอกของวังวนเพลิงปรากฏเสาน้ำแข็งใหญ่กว่าพันจ้างเข้าจู่โจมปีศาจบุบผา

ปีศาจบุบผาแดงถูกเสาน้ำแข็งแหลมจู่โจม สีหน้ามันซีดขาว โลหิตสีดำไหลรินออกจากร่างโดยไม่น่าเชื่อ

เมื่อมันถูกจู่โจม กรีบดอกไม้ทั้งหมดก็เสียการควบคุม ถูกวังวนมังกรเพลิงชักนำทิศทาง

“เหตุใดมันจึงมีวิชาที่ทรงพลังเช่นนั้น ไหนจะยังมีวิชาขัดเกลาในระดับไร้แบ่งแยกอีก!”

มือขวาของหนิงฝานควบคุมวังวนมังกรเพลิง มือซ้ายใช้วิชาหมัดทะลายน้ำแข็งลอบจู่โจม

วิชาหมัดทะลายน้ำแข็งคือหนึ่งในกระบวนท่าจู่โจมของวิชาขัดเกลาร่างกายของเขา

แต่การควบคุมวังวนมังกรเพลิงและหมัดในเวลาเดียวกันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นั่นก็ได้ผลดี เพราะเขาทำให้ปีศาจบุบผาบาดเจ็บไม่น้อย

หากจะเอาชนะปีศาจบุบผาแดง แค่วังวนมังกรเพลิงย่อมไม่พอ… ยามนี้ร่างกายหนิงฝานเปล่งแสงสีดำ เงาร่างหายไปจากตำแหน่งเดิมในพริบตา หนิงฝานใช้ย่างก้าวพริบตาซัดฝ่ามือเข้าใส่ปีศาจบุบผาแดงโดยไม่ปล่อยให้มันได้หยุดพัก

“ตายซะ!”

ปีศาจบุบผาแดงคาดไม่ถึงว่าผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณอย่างหนิงฝาน มีวิชาที่ทรงพลัง ทั้งยังใช้ก้าวย่างพริบตาได้อย่างไร ที่สำคัญ เพียงฝ่ามือเดียวก็ทำให้มันบาดเจ็บอย่างรุนแรงทันที มันกระอักโลหิตคำโต ร่วงหล่นลงจากนภา กระแทกเข้ากับพื้นจนทำให้เกิดเป็นหลุมลึกหลายจ้าง

ปีศาจบุบผาจ้องมองหนิงฝานด้วยความหวาดกลัว

ไม่ใช่ขอบเขตประสานวิญญาณ… คนผู้นี้ไม่ใช่ขอบเขตประสานวิญญาณอย่างแน่นอน ไม่งั้น คงเป็นไม่ได้ที่จะใช้วิชาที่ทรงพลังเช่นนี้… แต่ถึงอย่างนั้น มันยังไม่มีดวงจิตแรกเริ่ม สมควรใช้ย่างก้าวหริบตาไม่ได้… มันดูถูกหนิงฝานเกินไป

มันคิดว่าหนิงฝานไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง เพราะมันสัมผัสได้เพียงพลังในขอบเขตประสานวิญญาณ ไม่อาจสัมผัสถึงระดับพลังที่แท้จริง

ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง มีวิชาขัดเกลาร่างกายในระดับไร้แบ่งแยก มีหมัดทะลายน้ำแข็งที่ทรงพลังเทียบเท่าวิชาระดับไร้แบ่งแยก ที่สำคัญ เด็กคนนี้ยังครอบครองสัมผัสกระบี่เฉกเช่นจักรพรรดิกระบี่ในโลกกระบี่

เด็กคนนี้เป็นใคร?

ปีศาจบุบผาแดงเดาไม่ออก… แต่สิ่งที่มันรู้คือ มันไม่ควรเป็นศัตรูกับหนิงฝาน

หากมันใช้ไพ่ตายที่ขุนพลอสูรทิ้งไว้ให้มัน มันก็สามารถหลบหนีออกไปจากหุบเขาแห่งนี้ได้

ดังนั้นมันจึงเคลื่อนนิ้วสัมผัสตัวอักษรที่หน้าผาก โคจรปราณส่งไปยังอักษรเพื่อกระตุ้นการใช้งาน แต่ในชั่วลมหายใจนั้น มันหลับหวาดกลัว เพราะมันไม่สามารถโคจรปราณได้!

มีพลังสายหนึ่งแทรกผ่านเข้ามาในร่างของมัน ทำให้มันไม่อาจโคจรปราณได้แม้แต่น้อย

แต่นอกจากปราณในร่างจะไม่อาจโคจร ร่างกายยังอ่อนยวบไร้เรี่ยวแรง

สีหน้ามันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง มันรู้แล้วว่าถูกวิชาเย้ายวนจากหนิงฝาน

ตัวมันก็มีวิชาในลักษณะนี้เหมือนกัน มันอาศัยวิชาเย้ายวน เก็บเกี่ยวพลังจากเหล่าสตรีที่จับมา… ดวงระดับพลังของมัน ต่อให้เป็นวิชาเย้ายวนในระดับดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลางก็ไม่อาจส่งผลกับมันได้ง่ายๆ แต่วิชาของหนิงฝานกับได้ผลกับมันอย่างรวดเร็ว

เหตุผลมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือระดับวิชาเย้ายวนของหนิงฝานไกลเกินกว่าที่ปีศาจบุบผาแดงจะะจินตนาการได้

ดรรชนีคลายหยิน!

ดรรชนีคลายหยินที่เป็นวิชาลับของจักรพรรดิสวรรค์ มีพื้นฐานมาจากวิชาแปลงหยินหยาง… ในวิชาแปลงหยินหยางมีวิชาย่อยอยู่ไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นวิชาที่ใช้กับสตรี นับว่าเป็นภัยกับสตรีอย่างร้ายแรง ยิ่งระดับพลังของผู้ใช้สูงส่ง อานุภาพของวิชาก็ยิ่งสูงขึ้น

เมื่อครั้งที่หนิงฝานเพิ่งบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณ เขาสามารถใช้วิชาแปลงหยินหยาง จึงทดลองใช้ดรรชนีคลายหยินกับหยุนโร่วเหว่ย อานุภาพของวิชาในครั้งนั้นทำให้นางต้องร้องขอความเมตตา

ยิ่งยามนี้หนิงฝานทรงพลังขึ้น ความเข้าใจในวิชาเพิ่มมากขึ้น อานุภาพของวิชาจึงทรงพลัง… และฝ่ามือเมื่อครู่ก็แฝงพลังของดรรชนีคลายหยินไปด้วย ไม่อย่างนั้น ฝ่ามือเมื่อครู่คงสังหารมันไปแล้ว

หนิงฝานไม่ได้อยากสังหารมัน มันเป็นสตรี เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม หากไม่นำมาเป็นกระถางขัดเกลาคงน่าเสียดาย

วิชาแปลงหยินหยางในขอบเขตที่ 2 จำเป็นต้องพึ่งพาสตรีในการทะลวงขอบเขต

อำนาจของดรรชนีคลายหยินแล่นไปทั่วร่างของปีศาจบุบผาแดง แข้งขาอ่อนแรง ทรุดลงกับพื้น ใบหน้าแปรเปลี่ยนอัปลักษณ์ ทั้งโกรธแค้นและอับอาย

“นี่เจ้ากล้าใช้วิชาเย้ายวนกับข้า!”

“ขะ… ข้ายอมแพ้แล้ว ช่วยถอนวิชาของเจ้า แล้วข้าจะยอมรับคำของเจ้า...” ปีศาจบุบผาแดงยอมรับความพ่ายแพ้ แต่หนิงฝานกลับยิ้มอย่างคลุมเครือ

“เจ้ายิ้มอะไร!” แม้ในใจมันจะโกรธแค้น แต่ำยายามสะกดไว้

อานุภาพของดรรชนีคลายหยินทำให้มันไม่อาจใช้ปราณ แต่มันยังเหลือไพ่ตาย คือตัวอักษรที่สลักอยู่บนหน้าผากของมัน

มันแสร้งยอมแพ้เพื่อให้หนิงฝานลงมาที่พื้น เมื่อเข้าใกล้มันเมื่อไหร่ มันจะกระตุ้นอักษรบนหน้าผากเพื่อสังหารหนิงฝานทิ้ง!

แต่มันคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะจ้องมองมันพร้อมด้วยรอยยิ้มอย่างคลุมเครือ ราวกับเข้าใจความคิดของมัน

“เจ้าไม่ใช้อักษรที่หน้าผากหรอกเหรอ… ‘เจตจำนงค์อสูรระดับ 9’ นั่นหน่ะ! แค่ใช้โลหิตกระตุ้นมันก็ทำงานแล้ว…”

คำกล่าวของหนิงฝานทำให้มันตกตะลึง

เจตจำนงค์อสูร! คำนี้มาใช้ในสมับโบราณ นอกจากเผ่าอสูรโบราณแล้วก็ไม่มีผู้ใดรู้จักคำนี้… เหตุใดเด็กเช่นหนิงฝานถึงรู้ได้!

นอกจากนี้ หนิงฝานยังมองออกว่าตัวอักษรบนหน้าผากนางคือเจตจำนงค์อสูรระดับ 9!

มนุษย์จะมีเจตจำนงค์เทพ อสูรจะมีเจตจำนงค์อสูร!

เจตจำนงค์เทพมีการแบ่งระดับ เจตจำนงค์อสูรก็มีการแบ่งระดับเช่นกัน

ส่วนใหญ่แล้วเจตจำนงค์เทพจะไม่มีการสืบทอดไปยังบุคคลอื่น แม้จะมีโอกาสเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นบ้าง แต่ต่อให้สืบทอดและบรรลุขอบเขตแก่นทองคำ ก็ยังไม่เจตจำนงค์เทพที่สืบทอดมาได้อยู่ดี

เจตจำนงค์อสูรระดับ 9 เป็นสิ่งที่ขุนพลอสูรผู้เป็นนาย สลักให้กับปีศาจบุบผาแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ควบคุม สมบัติ และเป็นสิ่งช่วยชีวิต

อักษรที่แฝงเจตจำนงค์อสูรเปรียบเหมือนยันต์ ที่สามารถกระตุ้นและสร้างเป็นพลังจู่โจมในขอบเขตตัดวิญญาณออกมาได้

หากมันกระตุ้นอักษรบนหน้าผาก หนิงฝานคงหนีไม่พ้นความตาย

“เจ้าคิดลอบจู่โจมข้า แต่น่าเสียดายที่ข้ามองออก… แต่วิชาของข้า เจ้าคงนึกไม่ถึงว่ามันร้ายแรงขนาดไหน… สิ่งที่ช้าใช้กับเจ้าคือดรรชนีคลายหยิน ไม่สามารถใช้ปราณขับออกได้ หากยิ่งฝืนขับ อานุภาพของมันจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น… เจ้าแพ้ข้าแล้ว นับจากวันนี้ไป เจ้าจะเป็นกระถางขัดเกลาของข้า ส่วนเรื่องอักษรบนหน้าผากของเจ้า ข้าก็มีวิธีจัดการเช่นกัน”

เมื่อหนิงฝานกล่าวจบ เขาก็โคจรดรรชนีคลายหยินเต็มกำลัง แล้วชี้นิ้วไปที่หน้าผากของมัน

ดรรชนีคลายหยินแล่นเข้าสู่ร่าง สมองและจิตใจตกอยู่ในการควบคุม กระทั่งมันสัมผัสได้ว่า มันเสียการควบคุมตัวอักษรบนหน้าไป!

“บัดซบ… บัดซบ… มนุษย์ไร้ยางอาจ คิดจะนำข้าเป็นกระถางขัดเกลา...”

ปีศาจบุบผาแดงรู้สึกอัปยศอย่างที่สุด แม้ยามนี้ร่างกายของมันจะอ่อนแอไร้กำลัง แต่หนิงฝานยังไม่เข้าใกล้มัน

แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนจริงจัง ตัวอักษรบนหน้าผากของมันเปล่งประกาย

ตัวอักษรเหล่านั้นแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงสีแดงโลหิต แยกออกจากหน้าผากของมัน ก่อเป็นร่างของชายชราผมสีแดงโลหิต

“มนุษย์เอ๋ย… เจ้าทำให้ข้าหนึ่งในสิบสองขุนพลต้องเสียชื่อเสียง แค้นนี้ต้องชำระ!”

“ฮึ่ม! เจ้าไม่มีโอกาสหรอก! เจตจำนงค์อสูรแค่นี้คิดว่าข้ากลัวหรือไง ถึงเจตจำนงค์อสูรระดับ 9 ของเจ้าจะไม่มีวิชาใดทำลายได้ แต่ข้ามีเจตจำนงค์เทพ!”

ดวงตาหนิงฝานเป็นประกาย เมฆดำทมิฬปกคลุม พิรุณโปรยปราณ

เมื่อพิรุณปรากฏ ชายชราคนนั้นก็เผยสีหน้าตกตะลึง เพราะร่างของมันกำลังถูกละลายอย่างช้าๆ

“นี่มัน… เจตจำนงค์เทพพิรุณ! เจตจำนงค์เทพระดับ 8!”

เจตจำนงค์เทพระดับ 8 สูงกว่าเจตจำนงค์อสูรระดับ 9 มาก หากเทียบ สมควรแตกต่างราวกับพิภพและสวรรค์!...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด