ตอนที่แล้วตอนที่ 44 : เพื่อนเคยได้ยินเรื่องชื่อเสียงกันบ้างมั้ย?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 46 : คุณเคยเห็นเงาดำเต้นมั้ย?

ตอนที่ 45 : ยอมแพ้ซะเถอะ!(อ่านฟรี)


ฟาฉียังเล่าต่อให้หลันยันฟังอีกว่ามันเป็นเพียงเศษส่วนเล็กๆ ของเรื่อง The King’s Avatar ซึ่งเริ่มต้นบทหนึ่งด้วย : ศึกของเทพเจ้า และจบลงด้วยเยซิ่วได้สังหารเป็นคนแรกและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของร่ม Myriad Manifestation

 

ซึ่งแน่นอนว่า ฟางฉีเปลี่ยนพล็อตเรื่อง

 

นาหลันหมิงสื่อดูตื่นเต้นตามเนื้อเรื่องและฉากต่างๆที่หลันยันบรรยาย ฟังดูแล้วไม่พบช่องโหว่ใดๆ มันดูฟังเหมือนโลกที่มีอยู่จริง แต่มันไม่ใช่อาณาจักรดาจิน

 

ฟาฉีทำให้เนื้อเรื่องเพี้ยนไปจากเดิม ทำให้เรื่องที่ได้ฟังดูมีความแตกต่างออกไปจากสิ่งที่เคยได้ยินในความจริงเขาอิงเรื่องราวจากเกมเป็นหลัก  ซึ่งเกมแบบนี้แปลกใหม่และไม่เหมือนใครอาจเป็นสิ่งที่พวกเขาชอบ!

 

“ใช่มั้ยละ เยซิ่วแข็งแกร่งจริงๆ!” หลันยันเล่าอย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นว่านาหลันหมิงสื่อเริ่มยอมรับฟังและเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

 

เธอพยักหน้าเบาๆ

 

“ฉันอยากฟังต่อ แต่เจ้าของหยุดเล่าแล้วก็หันกลับไปเล่นเกมของเขาต่อ!” หลันยันบ่นอุบ “ฉันรู้สึกแย่แทนอาจารย์เยซิ่ว เขาถูกทรยศโดยพรรคพวกของเขา เขาช่างโดดเดี่ยวฉันสงสัยว่าเขาอาจจะกลับมาในตอนท้าย”

 

 

“ฮัดชิ้ว!” ฟางฉีจามขณะที่เขากำลังเล่นเกม เขามองไปรอบห้องพึมพำกับตัวเอง “มีใครกำลังพูดถึงฉันหรือเปล่านะ”

 

“ฉันอารมณ์ดีเลยเล่าเรื่อง The King’s Avatar ไปนิดหน่อย ผู้หญิงคนนั้นดูสนใจเรื่องนี้จริงๆ”

 

 

ณ ห้องโถง ทั้งห้องเงียบลงหลังจากได้ฟังเรื่องที่นาหลันยิงเล่า ความเงียบน่ากลัวรา่วกับว่าเป็นความสงบก่อนจะเกิดพายุ

 

“นายคิดว่าสิ่งที่นายพูดน่าเชื่อถือมากแค่ไหน?” นาหลันฮงวูถามขณะที่กำลังระงับความโกรธของตัวเอง

 

นาหลันฮงวูคิดในหัว หากว่านาหลันยิงไม่ได้ทำงานให้เขามานาน ถ้าป็นคนอื่นชายผู้นี้คงกำลังพยายามปั่นหัวของเขาทำให้สติเสีย!

 

“นั่นคือ.. สิ่งที่ข้าคิดเช่นกัน ฉันคิดว่าสิ่งที่เจ้าของพูดส่วนใหญ่ถูกแต่งขึ้น” นาหลันยิงเหงือตก เขารู้ว่าชายชราน่ากลัวแค่ไหนเมื่อเขาโกรธ!

 

ตอนนี้ชายชรากำลังจะระเบิดโทสะ!

 

เขารู้สึกเหมือนชะตากำลังจะขาดอย่างไร้ความปราณีใดๆ เหมือนกำลังจะถูกโยนให้สัตว์ร้ายกินในเร็วๆนี้ เขาจึงรีบอธิบายต่อว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อได้ลองเล่นเกม Diablo II ในคาเฟ่ของฟางฉี

 

ในตอนนี้นาหลันฮงวูนั่งไม่ติดแล้ว แววตาของเขาดุดันยากที่จะอ่านออก เขาอ้าปากเอ่ยน้ำเสียงอันแหบห้าว “นายคิดว่าฉันแก่เกิน .. ที่จะติดต่อกับโลกภายนอก?”

 

“...” นาหลันยิงปิดปากเงียบ เขาก้มหัวลงไม่รู้จะตอบคำถามยังไง

 

หลังจากได้ยินคำอธิบายของนาหลันยิง เขาพูดต่อ “เอาคอมพิวเตอร์มาให้ฉัน!”

 

สิ่งที่เขาฟังทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความคาดหมาย “ฉันมีชีวิตอยู่มาตั้งนาน แต่นี่เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน ฉันรู้สึกถึงสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณที่เต็มไปด้วยมนต์ขลัง!”

 

แม้ว่าเขาจะผ่านช่วงชีวิตมานาน แต่เขาไม่เคยได้ยินสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณที่พิเศษเช่นนี้

 

“ครับท่าน!”

 

“เรียกเงาดำได้เลยหากจำเป็น” ชายชราเอื้อนเอ่ยอย่างแผ่วเบา

(ผู้แปล : เงาดำของนาหลันฮงวูคือ Shadow Guard เป็นผู้คุ้มกัน)

 

นาหลันยิงสั่นไปทั้งตัว “ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!”

 

 

ณ ลานกว้างที่ถูกตกแต่งไปด้วยเสาแกะสลักมีสระบัวขนาดกลางพร้อมชายวัยกลางคนนั่งอยู่ในศาลาที่ดูสง่า ชายวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมสีทอง ที่เข้ารูปลับกับใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา เขากำลังนั่งหมุนถ้วยแก้วเล็กๆ ที่ถูกตกแต่งมีลักษณะพิเศษเฉพาะ ใส่ของเหลวสีเหลืองอ้อนสะท้อนแสงอยู่ภายใน

 

เขามองเข้าไปในเงาสะท้อนของถ้วย “ครั้งนี้แกทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ”

 

ชายคนหนึ่งใส่ชุดคลุมสีดำยืนอยู่ขอบศาลา เขาไว้เคราแพะสั้นๆ เขากำลังเผชิญหน้ากับชายในชุดคลุมสีทองมือของเขาจับราวบินไดหินแน่นราวกับว่าอยากให้มันทรุดลงไปซะตรงนี้!

 

“เมื่อคืนนั้นมันเป็นเพียงอุบัติเหตุ ข้าสั่งให้คนของข้าตรวจสอบเจ้าของร้านนั้นผู้ซึ่งแทรกแซงภารกิจของเราแล้ว”

 

ชายชุดคลุมสีทองดื่มไวน์ในถ้วยของเขาเอ่ยขึ้นเบาๆ “ศิษย์น้องนาหลันนายนั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากได้ยิน ฉันอยากได้ยินผลลัพท์ที่ฉันจะต้องไปอธิบายกับท่านพ่อ” เขายืนขึ้นตบไหล่นาหลันเจเบาๆก่อนเดินออกไป

 

นาหลันเจยืนนิ่งบีบราวบันไดราวกับอยากให้มันแตกเป็นชิ้นๆด้วยอารมณ์ขุนเคือง

 

 

นาหลันยิงกลับมาที่คาเฟ่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาแต่งตัวแตกต่างจากคราวก่อน ใบหน้าสี่เหลี่ยมของเขากับท่าทางมองโดยรวมดูเป็นคนมีเชิงและเด็ดเดี่ยว ข้างหลังเขาเป็นนายทหารอายุวัยกลางคน

 

“ท่านยิง..” นายทหารปฏิบัติต่อนาหลันยิงด้วยความเคารพ “เรามาทำอะไรกันที่นี่?”

 

“เรากำลังจะซื้อบางอย่าง” นาหลันยิงตอบ

 

“ซื้ออะไรบางอย่าง?” นายทหารทวนคำพูด เขาอึ้งไปพังหนึ่งตรอกซอยแบบนี้มีอะไรให้หาซื้อด้วยหรือ

 

“ที่นี่?”

 

เขามองไปรอบๆ เห็นป้ายเหนือหัวเขียนว่า ‘ต้นกำเนิดอินเตอร์เน็ตคาเฟ่’

 

“ต้นกำเนิดอินเตอร์เน็ตคาเฟ่” เขาอ่านออกเสียง

 

“นายรู้จักที่นี่หรือ?” นาหลันยิงเอ่ยถาม

 

“ไม่” นายทหารส่ายหัวและยิ้ม “ข้าเคยได้ยิน คนของข้าเคยรายงานว่าในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาอาจารย์หนุ่มสองคนพลาดช่วงเคอร์ฟิวเนื่องจากพวกเขาอยู่ในร้านนี้ คนส่วนมากที่มาร้านนี้มีสถานะสูงดังนั้นข้าจึงไม่กล้าแม้แต่จะมองเข้าไป”

 

นาหลันยิงพยักหน้าและเดินเข้าไปในร้าน

 

ฟางฉีเห็นนาหลันยิง เขารู้สึกเหมือนเคยเห็นชายคนนี้มาก่อน แต่ไม่แน่ใจว่าเคยเจอที่ใด

 

เขาเกิดความสงสัยจึงเดินเขาไปทักถาม “ท่านสองคนสนใจสิ่งใดในร้านหรือ?”

 

นาหลันยิงยิ้มมุมปาก “เรามาที่นี่เพื่อมาทำธุรกิจ”

 

“ธุรกิจ” ฟางฉีพูดทวนซ้ำ เขาเดินไปกระดานและผายมือออก “นี่คือสิ่งที่ฉันทำธุรกิจอยู่ตอนนี้ ฉันไม่ธุรกิจอื่นนอกเหนื่อ”

 

“พูดอีกทีสิเจ้าเด็กน้อย!” นายทหารวัยกลางคนแทรก “ฉันจะปิดร้านซะพรุ่งนี้เลยก็ยังได้!”

 

นาหลันยิงยิ้ม “นี่คือกงฮี รองผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ฉันต้องการซื้อคอมพิวเตอร์จากนาย ฉันคิดว่านายคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วอีกอย่างเรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหาเท่าไรก็ว่ามา”

 

กางฉียิ้มเยาะ “ฉันจะบอกนายให้ฟังนะนายควรรู้ตัวเองนะว่าตัวเองได้รับเกียรติ ที่ท่านยิงสนใจบางอย่างที่นี่”

 

สีหน้าของฟางฉีสังเกตได้ชัดว่าเขาดูเซงเป็ด “นี่พวกคุณขู่ฉัน?”

 

“เราเปล่า” นาหลัยยิงยิ้มมุมปาก เขาดึงแขนเสื้อขึ้น “ฉันแข็งแกร่งและมีพลังมากกว่าที่นายคิด ยอมแพ้ซะเถอะ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด